วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

Short fiction: รักนาย...นายตัวร้าย

Short fiction:  รักนาย...นายตัวร้าย
Pairing :  Taeckhun

Author :Z-rowink

Contact  me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย  หรือทวงถามฟิคได้ ^^)











         ร่างโปร่งบางที่ยืนรีรออยู่ตรงด้านหน้าของโรงอาหารรวมของมหาวิทยาลัยเจวายพีเรียกความสนใจจากผู้คนมากมาย  แต่ท่ามกลางผู้คนมากมายเหล่านั้น  กลับไม่ได้เป็นที่สนใจจากคนที่ได้รับฉายา เจ้าชายน้อย เลยสักนิดเพราะตอนนี้มีเพียงใครบางคนเท่านั้นที่ร่างโปร่งบางรอคอยอยู่ 
 


         ช่วงครึ่งปีหลังมานี้มันแทบเป็นการเคยชิน...กับการรอคอยอ๊คแทคยอน
 



         ~RR~~RR~
 


         “ขอโทษนะ  เที่ยงนี้คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้ไว้เลิกเรียนแล้วค่อยไปหาไรกินด้วยนะครับ เจ้าชายน้อย  จุ๊บพันครั้ง ^()^
 


         มือเรียวที่กดสไลด์หน้าจอสั่นเล็กน้อยก่อนที่กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว  ก่อนที่หันหลังเดินออกจากไปส่วนของโรงอาหารกลาง  เพราะตอนนี้น้ำตามันรื้นขึ้นมาเต็มสองตาของนิชคุณแล้ว



         “อ้าวคุณ  เฮ้ยรอฉันด้วย” อีจุนโฮที่เพิ่งเดินตามมาถึงโรงอาหารร้องเรียกตามหลังเพื่อนสนิทด้วยงวยงง



         “...”



         “อ้าว...เฮ้ย ...” แล้วก็ต้องเงียบเมื่อจู่ ๆ เพื่อนสนิทที่เดินนำลิ่ว ๆ หยุดกะทันหันก่อนจะหันมากอดเอวเขาไว้พร้อมกับซบใบหน้าใสลงที่หน้าอกที่ตอน นี้เสื้อนักศึกษาสีขาวเริ่มชื้นด้วยน้ำตาของ “เจ้าชายน้อย”



         หลัง จากหายตกใจจุนโฮก็ลากข้อมือของเพื่อนสนิทให้มานั่งยังม้านั่งหินอ่อนหลังคณะ เพื่อหลบสายตาของนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่มองมาอย่างใคร่รู้เมื่อเห็นคนดังของมหาวิทยาลัย



         “เกิดอะไรขึ้นกับนาย” จุนโฮเอ่ยถามด้วยเสียงหวาด ๆ เมื่อเห็นสีหน้านิชคุณที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว




         ไม่เหลือแล้วความเศร้า



       เพราะชายหนุ่มร่างโปร่งบางที่อยู่ตรงหน้าอีจุนโฮกลายเป็นใครอีกคนที่ไม่ได้เห็นมานานแล้วนานจนเกือบลืม
        



         “ก็แค่แมวไม่รักดี  ที่ริจะหันไปกินปลาย่างตัวใหม่ก็เท่านั้น”




       เมื่อรักมากก็เจ็บมาก



       เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังปันใจไปให้กับผู้หญิงอีกคน
 




         “อาจเข้าใจผิดก็ได้  ยังไงก็ถามแทคมันก่อนพวกนายครบมาเจ็ดปีแล้วนะ..ใจเย็น ๆ ก่อนนะนิชคุณ”



         นิชคุณตวัดสายตาคมมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ก้มหน้าหลบสายตาทันที




         “เพราะว่าคบมานานไง  ฉันถึงได้รู้ทุกอย่างที่แทคยอนกำลังซ่อนไว้”



         อีจุนโฮสะดุ้งโหยงกับน้ำเสียงเรียบ ๆ ที่ภายใต้ความราบเรียบเหมือนปกติมันซ่อนลาวาที่พร้อมจะประทุขึ้นได้ทุกเมื่อ



         “ฉันเหนื่อยจังเลย”




         “ค่อย ๆ คิดนะ  ยังไงฉันก็อยู่ข้างนายเสมอนะ” ตอนนี้จุนโฮเลยได้แต่โน้มตัวเพื่อนสนิทให้มาซบบ่าเพื่อถ่ายเทความเจ็บปวด  แม้จะไม่เคยมีความรักแบบชู้สาวกับใครแต่ก็รับรู้ความเจ็บปวดของเพื่อนได้ดี



         “ขอฉันอ่อนแอเป็นวันสุดท้ายนะ”



         แล้วน้ำตาของนิชคุณยิ่งไหลมากขึ้นเมื่อได้รับคลิปล่าสุดจากโรงอาหารของคณะสถาปัตย์




         “นูนา  ลองทานนี่ดูนะครับ  ร้านนี้ทำไม่เผ็ดมากต้องชอบแน่”  น้ำเสียงทุ้มและกิริยาที่เอาอกเอาใจที่เคยมีให้กันแต่ตอนนี้แทคยอนกำลังใช้กับผู้หญิงคน




         ตอนนี้หัวใจมันเจ็บจนชา



         เพราะ นูนาคนนั้นคือ ชเวจีน่า“เจ้าหญิงของคณะสถาปัตย์”  ดาวคณะสี่ปีซ้อน



         กลายเป็นจุนโฮที่ทนไม่ไหวแย่งไอโฟนในมือของนิชคุณเอามากดปิดคลิปแทน  และหลังจากปิดไม่นานก่อนเป็นรูปถ่ายในช่วงเวลาต่าง ๆ ของช่วงเช้าวันนี้  ที่ส่งมาโดยเบอร์มือถือของฮวังซานซอง  เฟรชชี่ปีหนึ่งที่เป็นเจ้าของเพจในเฟซบุคไอเลิฟคุณ




         8.30 น. ทั้งคู่ไปกินนมปั่น
         9.45 น. แทคยอนเดินไปส่งนูนาที่ห้องบรรยาของภาคภูมิทัศน์
         11.40 น. ทั้งคู่นั่งรถออกไปกินข้าวที่ร้านพาราไซด์
 



         “เฮ้ย  คุณอย่าอย่าเสียน้ำตาให้กับผู้ชายที่ไม่รักดีเลยว่ะ” จุนโฮเอ่ยบอกด้วยเสียงสั่น ๆ เพราะตอนนี้สงสารนิชคุณจนแทบจะร้องไห้ตามอยู่แล้ว


         “...”



         “อ้าว  ไอ้เด็กเวรนี้ยังไม่เลิกส่งรูปมาอีก  เดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกให้เลิกส่งมา”



         “ไม่ต้องจุนโฮ  ปล่อยไว้ยังนั้นล่ะ  รู้เค้ารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”



         ตอนนี้เขาอยากจะแย้งเพื่อนสนิทใจจะขาด  ยิ่งรู้ยิ่งเจ็บปวดซะมากกว่าละมั้ง -_-;;



         “ไป  กลับกันเถอะวันนี้  คืนนี้ฉันมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ” ก่อนจะหยิบกระเป๋าและข้าวของเดินนำไปยังลานจอดรถ



         “อ้าว....แล้วบ่ายนี้ไม่เรียนเหรอคุณ....” จุนโฮถอนหายใจเพราะคงห้ามอะไรคงไม่ทันแล้วนอกจากรีบเดินไปให้ทันกับนิชคุณ
 



         “หลับฝันดีครับนูนา” แทคยอนบอกหญิงสาวที่กำลังจะเปิดประตูรถลงไป



         “ขอบคุณนะแทคยอนสำหรับหนังวันนี้และมื้อคำแสนวิเศษ” จีน่าบอกด้วยเสียงหวานก่อนจะโน้มคอของหลานรหัสลงมาจุมพิตเบา ๆ ที่ริมฝีปากหยัก   แล้วส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะลงจากรถเดินเข้าบ้านที่ตอนนี้มีคนรับใช้ยืนเปิดประตูรออยู่



         แทคยอนยังคงนั่งรออยู่ในรถยนต์คันหรูของตัวเองจนกระทั่งไฟในห้องนอนของหญิงสาวเปิดจึงได้สตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกไป   ก่อนจะเหยียบเบรกกะทันหันแล้วถอยรถกลับมายังร้านขายเค้ก...ร้านเจ้าประจำของนิชคุณคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนอย่างเป็นทางการของเขา




         “รับอะไรดีค่ะคุณ  อ้าวคุณนั่นเอง  วันนี้มาคนเดียวเหรอคะ”



         เขายิ้มน้อยๆ ให้พนักงานที่จำหน้าได้แล้วเพราะเมื่อก่อนต้องมานั่งทานเค้กร้านนี้ก่อนทางกลับบ้านของนิชคุณแทบจะวันเว้นวัน




         “เอาสตอร์เบอร์รี่ชีสเค้กกับช็อกโกแกตอัลมอนด์อย่างละชิ้นครับ”




         แทคยอนยืนอยู่หน้าห้องของนิชคุณด้วยอาการลังเล  ก่อนจะตัดสินใจกดออดหน้าห้องเบา ๆ ไม่ถึงสองนาทีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนข้างในประตู




         “แทค” เสียงใสเอ่ยด้วยความดีใจ



         “แวะมาส่งเค้กแสนอร่อยให้กับคนน่ารักครับ” นิชคุณยิ้มรับกับกล่องเค้กที่มีโลโก้คุ้นตา



         “น่ารักแล้วรักไหมเล่า  เจ้าแมวยักษ์”



         “รักสิครับ  ไม่รักนิชคุณแล้วอ๊คแทคยอนคนนี้จะไปรับใครที่ไหน” บอกพร้อมกับดึงร่างโปร่งบางเข้ามากอด ๆ



         ตอนนี้น้ำตาของนิชคุณได้แต่ไหลอยู่ในอกเพราะน้ำหอมของผู้หญิงที่มันฉุนติดเสื้อของแทคยอนมา



         คำว่า “รัก” ที่บอกให้กันฟังทุกวันนี้คงเป็นเพียงหน้าที่..ที่บอกเท่านั่นเอง



         “ไม่กวนแล้วนะครับ  เจ้าชายน้อยไปอ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอมต่อเถอะ”



         “จะกลับแล้วเหรอ  คืนนี้ไม่ค้างด้วยกันเหรอ” เอ่ยปากชวนด้วยใจเต้นระส่ำ



         “ไม่ละครับ  มีงานโมเดลบ้านที่ต้องรีบเผาไฟส่งพรุ่งนี้  แล้วเจอไว้เจอกันครับ” เอ่ยตัดบทพร้อมส่งยิ้มให้ร่างโปร่งบางก่อนจะหมุนตัวกลับ



         นิชคุณมองตามหลังร่างสูงที่หายลับเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะก้มลงมองกล่องเค้กในมือ  อย่างน้อยแทคยอนยังจำได้ว่าตัวเขาชอบทานอะไร



         ตอนนี้เขาไม่ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นหลามของจีน่า  ที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนได้ใกล้ชิดก็คงอดหวั่นไหวไม่ได้  ไหนจะความสดใสแบบนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัยแล้วยังพ่วงด้วยงานอดิเรกนางแบบให้แก่ห้องเสื้อต่าง ๆ อีก



       แต่ไม่ว่ายังไง...อ๊คแทคยอนก็ไม่มีวันที่จะทิ้งนิชคุณ  และไม่วันที่คนอย่างผู้หญิงคนนั้นจะแย่งไปได้



         มือบางกดสายหาเพื่อนสนิททันทีหลังจากเก็บเค้กเข้าตู้เย็นแล้ว



         “มารับฉันภายในยี่สิบนาที  เรา จะร้านฟ็อกกี้กัน” ก่อนจะกดตัดสายและเดินเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นเสื้อกล้ามเข้ารูป สีขาวพร้อมกับสกินนี่สีดำที่ขาดเป็นริ้วโชว์ขาเรียวขาว  มือบางหยิบแป้งพับมาทาเพียงบางเบาจากนั้นหยิบดินสอเขียนขอบตามาเขียนเน้นหางตากลมให้ดูเฉี่ยวขึ้น  พร้อมกับหยิบลิปกลอสสีแดงสดทาริมฝีปากด้านในก่อนจะใช้มันวาวทาทับลงไปอีกรอบ





         ใบ หน้าใส ๆ ที่ตอนนี้ดูเปรี้ยงเฉี่ยวมากกว่าเดิมมองนิ่ง ๆ ไปยังกระจกก่อนจะใช้มือที่ขย้ำเจลใส่ผมไว้เล็กน้อยเอาขึ้นมาเสยผมสีน้ำตาล อ่อนที่ตอนนี้เริ่มยาวให้เข้าที่  และสุดท้ายหยิบสร้อยคอห้อยจี้รูปดาวสีทองมาสวมเป็นจังหวะเดียวกับที่ออดหน้าห้องของร่างโปร่งบางดังพอดี





         “คุณ.....” จุนโฮที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์พอดีตัวตกตะลึงกับการแต่งตัวของเพื่อนสนิท



         “ไปกันเถอะ  คืนนี้ยังอีกยาวไกล”




         “ถามจริง ๆ เถอะ  นาย นัดใครกันแน่ นี่ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้วนะ” บ่นงุบงิบแต่ก็จำใจเป็นสารถีขับมาส่งเพื่อนสนิทยังสถานบันเทิงที่คนอย่างอี จุนโฮไม่เคยพิศสมัย



         “พี่จินฮุน”



         เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด




         โชคดีที่ร่างโปร่งบางคาดเข็มขัดนิรภัยไว้  เมื่อจุนโฮเหยียบเบรกกะทันหัน



         “นายจะบ้ารึไงคุณ  ไม่เลยกลับคอนโด  ฉันไม่ยอมให้นายเล่นกับไฟโดนเอาตัวเข้าแลกแบบ”




         นิชคุณอดจะหัวเราะเสียไม่ได้  ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มเพื่อนสนิทเบา ๆ




         “มันไม่ใช่แบบที่นายคิดหรอกน้า  ฉันไม่ได้จะคบกับใครเพื่อประชดแทคยอนหรอกนะ  แค่อยากได้ใครสักคนที่น่าดึงดูดใจพอๆ กับอ๊คแทคยอน  ถ้าในมหาลัยเรา  ก็คงมีแค่พี่จินฮุน อัจฉริยะประจำคณะวิศวะเท่านั้นจะช่วยกันได้  แค่คุยไม่มีไรมากหรอก  นายแค่ดูอยู่ห่าง ๆ ไม่เกินสิบนาทีฉันก็กลับออกมาแล้ว”




         จุน โฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วไปนั่งที่เคาน์บาร์ตรงที่มองเห็นโซนวีไอพีที่เพื่อนสนิทเดินนวยนาดมาด นางพญาเข้าไปเสือผู้หญิงที่ฟันผู้หญิงและผู้ชายไม่เลือกหน้าอย่าง จองจินฮุนด้วยความเป็นห่วง




         ลองนิชคุณลงทุนทำอะไรมากมายขนาดนี้ไม่รู้ว่าชเวจีน่ากับอ๊คแทคยอนจะเจออะไรบ้าง  ถึงว่าคนหลังจะเป็นคนที่ร่างโปร่งบางรักมากก็เถอะ




         “พี่ครับ  ขอมะนาวโซดาครับ”
 






         ร่างสูงของแทคยอนที่ก้าวเท้าออกจากห้องน้ำพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เพิ่งสระเสร็จหมาด ๆ
ก่อนจะกดรับสายเพื่อนร่วมเมเจอร์




         [ทำไมรับช้าจังวะมึง  อยู่กับคุณรึไง  เห็นนะเว้ยที่เดินถือถุงเค้กไปให้เค้า] คิมจุนซูยังเอ่ยแซวผ่านสายตา




         “เพิ่งอาบน้ำเสร็จวะ  แล้ว นี่ก็ก็อยู่บ้านกูด้วย” แม้ปากจะคุยกับเพื่อนแต่ในใจของชายหนุ่มกลับคิดถึงใบหน้าหวาน ๆ ของหญิงสาวที่เป็นย่ารหัสที่เพิ่งมีโอกาสได้ใกล้ชิดในเวลาไม่นาน




         แม้ว่าความรู้สึกผิดกับนิชคุณ  เพราะการที่รู้สึกดีกับใครอีกคน...ตอนนี้แทคยอนไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่ได้นอกใจแฟนของตัวเอง



         “ว่าแต่มึงโทรมาดึก ๆ แบบนี้ไรวะ  พรุ่งนี้กูต้องโมเดลแต่เช้าไม่ออกไปดริ้งค์กะหลีสาวด้วยนะ” บอกอย่างรู้ทันนิสัยเพื่อนเพราะต่างรู้นิสัยกันดีอยู่




         [แค่จะโทรบอกมึงว่า  คืนนี้กูเจอคนหน้าตาคล้ายคุณแต่คนนี้เปรี้ยวกว่าเฉี่ยวกว่าที่ฟ็อกกี้]



         “ถ้าเมาก็กลับบ้านนอนไปมึงจุนซู  คุณนะเข้านอนเป็นเวลาตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งแล้วโว้ย  ตารางชีวิตเค้ากูจำได้”




         [เหอ ทำมาเป็นจำได้  นานแค่ไหนแล้วเถอะที่กูเห้นมึงตัวติดกับย่ารหัส]



         แทคยอนจนด้วยคำพูด



         “...”



         [มึงทำตัวให้ชัดเจนได้แล้วนะเว้ยจะเลือกใคร   กูไม่อยากให้คนดี ๆ แบบเจ้าชายน้อยมาเจ็บเพราะมึง]



         “อ้าว  แล้วนูนาละ”



         [ฮา ๆ สำหรับคนที่กล้าเอาตัวมาเป็นมือที่สามทั้งที่รู้ว่าผู้ชายเค้ามีแฟนเป็นตัวเป็นตน  กูไม่สงสารวะ  เตือนด้วยความหวังดีนะเว้ย  ว่าความโลเลหรือความหวั่นไหวชั่วครั้งชั่วคราวจะทำให้มึงเสียเพชรในมือไปได้ง่าย] พูดจบจุนซูก็วางสายไปทันทีแบบไม่รอให้เขาได้ตอบกลับ




         ผ่านมาเกือบเดือนที่สถานการณ์ระหว่างนิชคุณกับแทคยอนยังคงสงบราบเรียบ  มุมมองของคนภายนอกทั้งคู่ยังเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันทุกด้าน  รวมถึงตำนานความรักที่คบกันมาตั้งแต่มอปลายจนถึงมหาวิทยาลัยด้วยแล้วยิ่งทำให้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก



         “ฮัลโหล  ครับ..ได้ครับไม่เกินสิบนาทีครับ”  ใบหน้าใสเงยหน้าขึ้นมาจากกองงานวิจัยของเศรษฐศาสตร์จุลภาค




         “แทคไปก่อนนะครับคุณ  พอดีมีธุระด่วนไว้วันหลังจะไปส่งนะครับ”



         มือบางกำปากกาจนขึ้นข้อขาวโดนมองตามหลังร่างสูงที่เดินจากไปอย่างอารมณ์หลังรับสายใครบางคน



         “พี่จินฮุนเหรอครับ  รบกวนด้วยนะครับ”




         มันหมดเวลามีความสุขของนายแล้วแทคยอน 
         มันสมควรได้รับบทเรียนอย่างสาสมแล้ว
 




         ร่างสูงที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังลานจอดรถเพื่อจะขับรถไปรับหญิงสาวที่โทรมาเมื่อสิบนาที
ที่ผ่านมาต้องหยุดนิ่ง  เมื่อเห็นหญิงกำลังคืนอยู่ข้างเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงที่มีเพียงคนเดียวที่ใช้ในมหาวิทยาลัยนี่คือ จองจินฮุน






         ไวเท่าความคิดมือแกร่งต่อกดสายโทรออกทันที
         หญิงสาวที่กำลังยิ้มและคุยอย่างสนุกสนานกับจินฮุนถึงกับชะงัก  ก่อนจะกดสายทิ้งไม่ยอมรับสาย





         “รับสายเถอะครับจีน่า  เผื่อมีธุระด่วน” บอกด้วยน้ำเสียงนุ่มชวนฝันขณะเปิดประตูให้หญิงสาว  ก่อนจะเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับและเปิดประตูเข้าไปนั่งพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ราวกับเป็นสัญญาณเร่งในตัว




         จีน่ามองโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะหันไปสบตาของจินฮุนที่ส่งยิ้มกระชากให้  เพราะระยะเดือนกว่าที่ชายหนุ่มร่างสูงพาตัวเองเข้ามาแนะนำตัวและแสดงอย่างตัวเปิดเผยในการอยากคบเธอในฐานะคนรัก  แต่อีกคนแม้จะรู้สึกหวั่นไหวในความใกล้ชิดแต่ยังมีห่วงผูกคอเป็นแฟนตัวเป็นตนอยู่




         เปลือกตาบางลืมขึ้นก่อนกดสายหาหลานรหัส



         “ฮัลโหล  แทคยอน  นูนาจะโทรมาบอกจะกลับกับเพื่อนนะ  และต่อไปก็เลิกไปรับไปส่งได้แล้วแค่นี้นะ” ก่อนวางสายทันที



         “จีน่า  นอกจากจะสวยแล้วยังเด็ดขาดด้วยนะครับ” จินฮุนบอกยิ้มเพราะจากหางตาเห็นแทคยอนยืนพิงกำแพงอีกด้านของลานจอดรถอยู่



         “บางทีเราก็ไม่ควรให้ความหวังกับคนที่ไม่สมควรได้รับนะคะ  น้องเค้ามาตื้อทั้งที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว  น่าเบื่อมาก ๆ เลย” เพราะความรีบร้อนทำให้จีน่าไม่ได้สังเกตหน้าจอขอไอโฟนในมือที่ตัวเองกดวางสายมันวางสนิทหรือเปล่า




         “งั้นแบบนี้ คนสวย ๆ แบบจีน่าจะรับไว้พิจารณาสักคนไหมครับ” จินฮุนบอกด้วยน้ำเสียงเจ้าชู้ก่อนจะชะโงกหน้าหญิงสาว



         “มันอยู่ที่คุณแล้วจะ  ว่าอยากจะขอคบฉันไหม”



         ทุกถ้อยคำที่ได้ยินผ่านสายมันทำให้แทคยอนถึงกับขาอ่อนทรุดตัวนั่งลงพิงกำแพงแบบไม่ใส่ใจว่าเสื้อนักศึกษาของตัวเอง



         แบบนี้ใช่ไหมความเจ็บปวดของการถูกหักหลัง...แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าความรู้สึกที่มีให้หญิงสาวมันเรียกว่ารักไหม?  แต่ความก็ต้องยอมรับว่าในหัวใจของแทคยอนรู้สึกดี ๆ กับจีน่า




         แต่ความรู้สึกที่ตีขึ้นมาตอนนี้คือความรู้สึกผิดต่อร่างโปร่งบางอีกคน
 



         ~RRrr~~RRrr~



         เสียงเข้าเฉพาะที่มาพร้อมกับรูปยิ้มน่ารักของเจ้าของมันทำให้แทคยอนกดรับสายด้วยอาการมือสั่น



         “แทค  เจ้าแมวยักษ์จอมขี้ลืม  กุญแจรถอยู่กับคุณ  แล้วจะขับรถยังไง” เสียงใสยังส่งเสียงมาอย่างร่าเริง




         “คุณ...” เสียงทุ้มที่เริ่มสะอื้น




         “แทคเกิดอะไรขึ้น  ตอน นี้อยู่ที่ไหนบอกคุณมาเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเสียงร้อนรนของนิชคุณมันบีบคั้นหัวใจของแทคยอนมันสะท้อนให้เข้ากลางใจว่า ที่ผ่านมานานแค่ไหนที่ตัวเขาละเลยใครบางคนที่รักและหวังกับเขาแค่ไหน
 


         แทคไม่ต้องเครียดนะ  ถ้าเอนท์เข้าสถาปัตย์มอรัฐไม่ได้  เดี๋ยวนี้มอเอกชนที่มีคุณภาพก็มีเยอะแยะนะ ๆ ถึงจะไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่คุณจะมาหาแทคบ่อย ๆ นะ



         อ่านหนังสืออย่าหักโหมนะคุณแมวยักษ์  ยังไงเกียรตินิยมอันดับหนึ่งก็ไม่หนีไปไหน  น้า....น้า  พาเด็กน้อยคนนี้ไปเที่ยวหน่อยเดี๋ยวให้จุ๊บ ๆ พันครั้งเลย



         รู้ว่า คออ่อนยังไม่กินกับจุนซูทำไมก็ไม่รู้  ปวดหัวไหมอะ  ทานยาแก้ปวดหัวก่อนนะ  เดี๋ยวคุณไปทำซุปแก้แฮงค์ให้กินนะ



         สุขสันต์วันเกิดน้า  คุณไม่มีจะให้แทคเลย  แต่คุณจะรักแทคให้มากขึ้นทุก ๆ วันนะ




         รู้ไหมของขวัญวันเกิดที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตคุณ  คือวันที่แทคขอคุณเป็นแฟน  นอกจากครอบครัวแล้วก็มีแทคนะที่คุณรักมากที่สุด




         ถึงแค่จะผ่าตัดไส้ติ่งนอนโรงบาลสองคืนก็ออก  แต่คุณอยากเฝ้าแทคนะ  คุณอยากให้แน่ใจว่าแทคจะไม่เป็นไรจริง ๆ




         แทคไม่ว่างอีกแล้วเหรอ  ไม่เป็นไรไว้คราวหน้าเราค่อยไปเที่ยวกันก็ได้
 


         “คุณ  ขอโทษ  แทคขอโทษนะ  ฮือ” บอกผ่านสายกับร่างโปร่งบางด้วยความรู้ผิดที่มาจากใจจริงๆ



         “บอกมานะ...ใครทำอะไรแมวยักษ์ของคุณ  คุณจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย” เสียงใสที่มาพร้อมกับอ้อมกอดที่พยายามดึงร่างสูงใหญ่ให้เข้ามาในกอดของตัวเองพร้อมกับลูบหลังเบา ๆ





         นานแค่ไหนแล้วที่ เรา สองคนไม่ได้กอดกันแบบนี้
         นานแค่ไหนแล้วที่เรา สองคนไม่ได้ใกล้ขนาดนี้
         นานแค่ไหนแล้วที่เขา ผู้ชายโง่ ๆ คนนี้ละเลยต่อคนที่เคยสัญญาว่าจะรักและดูแลอย่างดี
         นานแค่ไหนแล้วที่เขา ผู้ชายโง่ ๆ คนนี้ที่ละเลยต่อความห่วงใยที่ร่างโปร่งบางมีให้
         แม้แต่ตอนนี้ คำว่าขอโทษ พันครั้งยังไม่เพียงพอ




         “โอ๋ ๆ หยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ  ตอนนี้คุณจะร้องไห้ตามแทคแล้วนะ” บอกพร้อมเสียงสูดน้ำมูกและแรงสะอื้นที่เริ่มมี



         “...” แทคยอนไม่ตอบอะไรนอกจากเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดที่นั่งลงบนลานปูนแบบไม่กลัวเปื้อนเพื่อกอดปลอบเขา




         “บอกได้รึยัง  เกิดอะไรขึ้น” มือบางที่กำลังตั้งอกตั้งใจใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองเช็ดน้ำตาให้แทคยอน




         “แทคแค่เสียใจ  ที่ชิ้นงานที่ตั้งใจโดนอาจารย์ขว้างทิ้งถังขยะ” บอกอย่างตะกุกตะกัก...ขอแค่ครั้งนี้ที่ขอโกหกเพื่อรักษาร่างโปร่งบางให้อยู่เคียงข้าง



         “ฮา ๆ จุ๊บพันครั้งเลย  เรื่องแค่นี้เอง  ชิ้นงานไม่ผ่านก็ทำใหม่ก็สิ้นเรื่อง” นิชคุณบอกพร้อมทั้งยิ้มให้อย่างสดใสก่อนจะจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากหยักของแทคยอน




         “ขอโทษนะ  ที่ผ่านมาแทคละเลยคุณไปมาก  แทคขอโทษจริง ๆ”




         “นี่  คุณจะโกรธแล้วก็จะทิ้งแทคจริง ๆ แล้วนะถ้ายังจะขอโทษอีก  บอกกี่ครั้งแล้วว่าเข้าใจว่าช่วงนี้เรียนหนักกันทั้งนั้น”



         แค่คำว่า ทิ้ง กลับทำให้แทคยอนแทบผวา



         “แทคขอ....โอ้ย  ไม่พูดแล้วแต่คุณอย่าทิ้งแทคนะ  แทคอยู่ไม่ได้นะถ้าขาดคุณ”



         “คุณนะรักผู้ชายที่ชื่ออ๊คแทคยอนมาตลอดและจะรักตลอด”




         นิชคุณบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่เกิดขึ้นทั้งปากและดวงตาเมื่อรับรู้ว่าแรงกอดของร่างสูงรัดเขาแน่นขึ้น



         “ขอบคุณนะคุณ  ที่รักกัน”





         เพราะรักนายไง  อ๊คแทคยอน...ฉันถึงทำทุกอย่าง  วางแผนทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมาสู่อ้อมกอดของฉันและไม่มีทางไหนที่นายจะทิ้งฉัน..นิชคุณคนนี้ไปได้

 









         ร่างโปร่งบางของนิชคุณที่ตอนนี้มีผ้าปิดตาไว้กำลังก้าวขาเดินตามแทคยอนไปด้วยความตื่นเต้น




         “แทค  เปิดตาได้รึยัง” เสียงใสเอ่ยถามเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบ




         “แกะผ้าออกได้แล้วครับคุณ”




         “ฮะ..ฮึ่ก...ฮะ...ฮึ่ก  แทค” มือบางยกขึ้นปิดปากไว้พลางกันสะอื้นเมื่อเห็นร่างสูงถือเค้กวันเกิดที่ตบ แต่งด้วยครีมสีขาวและสตอร์เบอร์รี่ลูกโตที่ดูแล้วก็เบี้ยวหน้าเบี้ยวหลัง  บ่งบอกว่าคนแต่งหน้าเค้กยังไม่มีความชำนาญมากพอ




         “สุขสันต์วันเกิดครับคุณ  และสุขสันต์วันครบรอบ8ปีของเราสองคน  อธิฐานและเป่าเทียนเลยคนเก่ง”




         นิชคุณหลับตาชั่วครู่ก่อนจะก้มลงเป่าเทียนจนดับหมดทุกเล่ม   ก่อนจะอมยิ้มทันทีที่เปิดไฟในคอนโดของตัวสว่างเพราะตอนนี้ภายในห้องรับแขกต่างตบแต่งด้วยกุหลาบขาวจำนวนมากมากที่ไร้หนาม  บ่งบอกว่าคนจัดใส่ใจขนาดไหน  ทั้งที่ตอนแรกแอบงอนกึ่งน้อยใจที่ร่างสูงทำเฉยจนนึกว่าลืมวันสำคัญไปซะแล้ว




         “ขอบคุณนะแทค  คุณรักแทคนะ  รักมากอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน”




         “แทคก็รักคุณนะครับ  และไม่ว่าตอนไหนก็ไม่มีใครรักและหวังดีกับแทคเท่ากับคุณอีกแล้ว” ร่างสูงบอกก่อนจะดึงเอาร่างบางเข้ามากอดไว้  ปลายจมูกของทั้งคู่ชนกัน




         “สัญญานะ  จะรักแค่คุณคนเดียว...”นิชคุณกระซิบเสียงพร่าก่อนจะเป็นฝ่ายจูบแทคยอนเบา ๆ  ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ต่างลืมเค้กก้อนสีขาวที่ตั้งทิ้งไว้ยังโต๊ะกลางห้องรับแขกแล้ว




         ริมฝีปากที่บดเบียดกันอย่างเชื่องช้า หากทว่าเร่าร้อนเมื่ออีกมือของแทคยอนเลื่อนไปสัมผัสส่วนนั้นของนิชคุณผ่านเนื้อผ้า



         “ทำไมใจร้อนจัง” เสียงใสกระซิบทั้งที่ริมฝีปากยังคลอเคลียนัวเนียกันอยู่  แต่แทคยอนไม่ได้สนใจ  เขาปลดซิปกางเกงขาสั้นสีขาวของนิชคุณรูดลงแล้ว แล้วถอยหลังเดินเข้าห้องนอนก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เตียงและฉุดร่างบางนั่งลงบนตักแกร่ง




         แทคยอนสอดมือหนาผ่านชายเสื้อเชิร์ตสีขาวไปสะกิดติ่งไตหวานของแผ่นอก  ในขณะที่นิชคุณก็สอดมือเข้าไปในกางเกงของแทคยอนแล้วลูบไล้ปลุกอารมณ์ของอีกฝ่ายแบบไม่ยอมแพ้  ก่อนที่นิชคุณจะเป็นฝ่ายละใบหน้าออกจากจูบร้อนแรงที่ยาวนาน  แต่ว่ามือบางยังกระทำที่ส่วนนั้นของแทคยอนที่มันเริ่มแข็งตัวและขยายเข้ากับมือเขา




         “ทะ..แทค  เอามือออกก่อน  ฉันอยากทำให้นายนะ” นิชคุณบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน  แต่แทคยอนกลับคว้าเอวบางให้มานั่งคร่อมบนหน้าท้องของเขาโดยหันหน้าไปทางปลายเท้า  ก่อนเขาจะเอามือไปจับสะโพกขาวยกขึ้นมันทำให้นิชคุณล้มลงจนต้องใช้ศอกยันที่นอนหนานุ่มไว้  ซึ่งร่างโปร่งบางรู้แล้วว่าร่างสูงต้องการจะทำอะไรเพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในท่าหกเก้า




         ร่างโปร่งบางมองไปยังเป้ากางเกงของแทคยอนที่ปูดโปนแสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน  มือบางเลื่อนไปแกะซิป ก่อนจะแทบผละงะเมื่อส่วนนั้นของร่างสูงเด้งออกมาแทบจะชนแก้มขาว  จากนั้นก้มลงไล้เลียตั้งแต่ส่วนโคนจรดปลาย  แล้วริมฝีปากบางก็จูบลงไปที่รูที่ขังแน่นไปด้วยน้ำใสที่ปริ่มออกมาจากส่วนปลายพร้อมกับใช้ลิ้นเรียวเล็กดุนดันอย่างยั่วเย้าแทคยอน




         “อา...คุณณณ” ร่างสูงครางออกมาก่อนจะจัดการให้ร่างโปร่งบางเช่นกัน  มือ แกร่งจับเนื้อแน่นที่บั้นท้ายแบะออกจากกันเผยให้เห็นช่องทางสีหวานที่ปิด สนิทก่อนเขาจะส่งลิ้นเข้าไปตวัดเลียและสอดนิ้วเข้าไปแหวกช่องทางคับแคบให้ เปิดออก




         “~~แทค~~ อึก...” นิชคุณอดครางไม่ได้เมื่อความรู้สึกเสียวซ่านเข้าครอบครองจนสติกระเจิง เพราะทั้งนิ้วและลิ้นที่ทั้งชักเข้าชักออกทำให้เขาเผลอใช้ฟันขูดที่ส่วนปลาย ของแทคยอน  จนร่างสูงอดส่งเสียงครางออกมาไม่แพ้กัน



         “ฉะ..ฉันไม่ไหวแล้ว  ฉันอยากให้นายเข้ามาในตัวฉัน” ร่างโปร่งบางผละออกมาแล้วเอี้ยวตัวส่งสายตายั่วยวนกึ่งอ้อนให้ร่างสูง




         แทค ยอนไม่รอช้าจับร่างโปร่งบางพลิกตัวกลับมาอยู่ด้านล่างพร้อมยกขาเรียวพาดบ่า แล้วจ่อแกนกายของตนเข้ากับส่วนที่คับแคบ จากนั้นค่อย ๆ แทรกแกนกายเข้าไปอย่างช้า ๆ ผ่านความคับแน่นและความอุ่นที่ตอดรัด  ในขณะที่นิชคุณปรือตาเมื่อมองเห้นความใหญ่โตของแทคยอนที่แหวกเข้ามาจนมิด



         “ฉันรักนายแทคยอน” บอกพร้อมกับเอื้อมแขนไปกอดคอของร่างสูงเอาไว้




         “ฉันก็รักนาย  เจ้า ชายน้อยของฉัน” แทคยอนประทับจูบอย่างอ่อนโยนแล้วเริ่มขยับตัวอย่างช้า ๆ แล้วค่อยเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนปลายของแทคยอนก็กระแทกเน้นย้ำในจุดรัญจวนครั้งแล้วครั้งเล่า  ร่างโปร่งบางกัดหัวไหล่ของแทคยอนเพื่อระบายความเสียวซ่านจนแทบจะระเบิด  เสียงเตียงเอียดอาดและเสียงครางกระเส่าด้วยความสุขสมของทั้งคู่ดังขึ้นไม่แพ้เสียงเนื้อกระทบเนื้อ




         แล้วแทคยอนก็ค่อย ๆ จับร่างโปร่งบางพลิกคว่ำหน้าลงโดยไม่ถอนแกนกายจากนั้นยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านมากขึ้น  บั้นท้ายอิ่มถูกแทรกเข้าออกไม่ได้หยุด   นิชคุณยิ่งส่งเสียงครางมากขึ้น  เขาพยายามแยกขาออกเพื่อให้แทคยอนได้เข้ามาอย่างสะดวก 



         “มะ..ไม่ไหวแล้วแทค~~ยอน” นิชคุณบอกเสียงสั่น  นั่นยิ่งทำให้แทคยอนกระแทกกระทั้นด้วยจังหวะที่ถี่กระชั้นขึ้น  เนื้อนุ่มตอดรัดอย่างรุนแรงขณะที่แทรกกายเข้ามาลึกสุด




         “อะ... ~~อ้า” เสียงครางของทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกับความรู้สึกสูงสุดที่ถูกกระชากลงมาอย่างรวดเร็ว  ของเหลวอุ่นขุ่นข้นฉีดพุ่งเข้าสู่ช่องทางที่ตอดรัด พร้อม ๆ กับที่นิชคุณปลดปล่อยออกมาเช่นกัน



         แทคยอนถอนแกนกายออกมาแล้วกอดนิชคุณไว้



         “เหนื่อยไหม?” เสียงใสของคนในอ้อมกอดเอ่ยขึ้นมาก่อน



         “ไม่นะ อีกสองรอบยังไหว” เอ่ยเย้าจนที่ช้อนตาขึ้นมามอง  จนอดใจไม่ไหวต้องกดจูบลงริมฝีปากบางลงไปหนัก ๆ




         “งั้นขอลอง  ออนท็อปดูบ้างได้ไหม” เสียงใสที่ตอนนี้แทบจะกระซิบบอกอยู่แล้วเอ่ยบอกด้วยเสียงสั่น ๆ พร้อมกับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีจัดมากกว่าเดิม




         “รับบัญชาครับผม  เจ้าชายน้อย” รับคำพร้อมกับพลิกตัวให้ร่างโปร่งบางขึ้นมาอยู่บนตัวของตัวเอง
        
 









         ดะ.....เดี๋ยวก่อนคิดว่าแค่นี้จะจบเหรอ?
       สำหรับคนที่กล้าแย่ง “ของรัก” ของนิชคุณ
       มันต้องเจ็บกว่าร้อยเท่าพันเท่า  และน้ำตาจะต้องเสียมากกว่าที่เขาเคยเสียไป
 






         ร่างโปร่งบางลืมตาขึ้นทันที  เมื่อเห็นแทคยอนลุกจากเตียงและเดินออกไปจากห้องนอนก่อนที่จะได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องครัว




         มือเรียวบางคว้ามือถือของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดหมายเลขโทรหาเพื่อนสนิท





         [ฮัลโหล...นี่คือบริการฝากข้อความของอีจุนโฮหลังได้ยินเสียงสัญญาณกรุณาฝากข้อความไว้  สติมาแล้วจะโทรกลับ ตู๊ดดดดดด]






         “ตื่นได้แล้วน้า  ถ้านายไม่อยากพลาดตอนจบของละครเรื่องนี้ก็รีบไปที่โรงอาหารกลางให้ทันช่วงเที่ยงนะ” เสียงใสบอกเพื่อนอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกดวางสาย  และ นอนกลิ้งไปมาบนเตียงของแทคยอนอย่างมีความสุขโดยไม่สนใจจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวเตรียมไปเรียนภาคบ่ายที่จะเริ่มในหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า  เพราะมั่นใจไม่เกินสิบนาทีข้างหน้าคนที่ลุกออกไปก่อนจะมาปลุกและช่วยอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนแน่ ๆ
 




         12.30 น.
         จุนโฮสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนสนิทที่เพิ่งส่งข้อความมาบอกว่ามาถึงโรงอาหารกลางแล้ว  ก่อนจะเห็นมือขาว ๆ ที่โบกเรียกอยู่อีกฝากฝั่งของโรงอาหาร  ทำให้เขาต้องเดินฝ่าฝูงคนนักศึกษานานาคณะที่คลาคล่ำเต็มโรงอาหารไปหาก่อนที่จะต้องหยุดชะงัก





         “ฉัน ไม่เข้าใจ” เสียงเครือของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าหญิงของคณะสถาปัตย์” เอ่ยขึ้นพร้อมกับที่แขนบางยื้อแขนแกร่งของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เอาไว้




         จองจินฮุน เงยหน้าขึ้นมองเพดานพร้อมกับถอนหายใจด้วยอาการเบื่อหน่าย  ก่อนจะพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจ




         “ง่าย ๆ ฉันขอเลิกกับเธอจีน่า  ระหว่างเราให้จบแค่นี้” บอกแบบไร้เยื่อใยและสะบัดแขนออกจากหญิงสาวที่ตอนนี้น้ำตาไหลเต็มสองข้างแก้ม




         “ทะ..ทำไม” จีน่าเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยทั้งที่ผ่านมาเกือบสามเดือนความสัมพันธ์ของ ทั้งคู่ก็ดำเนินไปด้วยดีไม่มีวี่แววของการเลิกราเลยสักนิด




         “ฉันเบื่อ  อย่างที่เคยบอกไว้  ถ้า คบกับฉันต้องเผื่อใจไว้บ้างเพราะฉันไม่เคยจริงจังกับใคร” จินฮุนยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะก้มลงมองหญิงสาวที่ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นโรง อาหารกลางแบบไม่สนใจต่อคนรอบข้าง  หันหลังเดินออกมาจนมาเห็นจุนโฮที่ยืนทำสีหน้าอีหลักอีเหลื่ออยู่จนอดหยอกเสียไม่ได้




         “ขอโทษนะครับน้องโฮ  ที่พี่ชายมาช้า” ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่มพร้อมกับเข้าไปกอดไหล่คนร่างโปร่งบางอย่างฉวยโอกาส




         ในขณะที่จุนโฮเห็นสายตาของนิชคุณที่ส่งความนัยมาให้รับมุข



         “สายบ้างนิดหน่อยไม่เป็นไรครับ” บอกพร้อมกับพยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดที่ชักเหนียวเป็นมือตุ๊กแก  ซึ่งตอนนี้อีจุนโฮรู้แล้วว่าเพื่อนสนิทต้องการปิดฉากละครที่ลงมือกำกับเองมาตั้งแต่ต้นด้วยวิธีไหน




         อะไรมันจะเจ็บปวดไปกว่าการโดนคนที่เรารักบอกเลิกกลางที่สาธารณะและท่ามกลางผู้คนเป็นฝูงแบบนี้
 



         จีน่าที่ได้แต่มองร่างสูงโอบไหล่ของชายหนุ่มอีกคนออกไปจากโรงอาหารด้วยสายตาเจ็บปวด  เจ็บมากจนแม้แต่ไม่มีแรงที่ยืนขึ้น



         “อย่าร้องไห้เลยนะครับนูนา” เสียงใสที่ดังขึ้นเบื้องหน้าพร้อมกับมือขาว ๆ ที่ส่งผ้าเช็ดหน้าสีเขียวอ่อนให้



         “...”



         “น้ำตา  ต่อ ให้คนอย่างเธอร้องจนเป็นสายเลือดก็ไม่ทางได้เค้าคืนกลับมาหรอกนะ” ร่างโปร่งบางกระซิบบอกเบา ๆ อย่างเจตนาที่ให้คู่กรณีได้ยินเพียงคนเดียว





         “นะ..นาย” จีน่าเอ่ยเสียงสั่นเมื่อเห็นแววตากร้าวของนิชคุณ




         “เจ็บไหมกับการที่เป็นคนโดนทิ้ง  นี่ฉันยังเมตตาเธอนะ...เห็นชอบชวนแฟนชาวบ้านมาตบมือกัน  แต่อย่างว่าของพรรณนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง”



         “แก...” หญิงสาวตัวสั่นเมื่อเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ร่างโปร่งบางพูด




         “จำไว้  อย่าริมายุ่งกับของ..ของฉัน” บอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเปลี่ยนเสียงใสให้สมฉายา เจ้าชายน้อย




         “โอ้ ย...ถ้านูนาไม่อยากให้ช่วยก็ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนะ” ว่าแล้วล้มลงไปยังพื้นโรงอาหารทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่ตอนนี้กลายเป็นเป้าสายตา มากกว่าเดิม
        


         “เฮ้ยแก  ดูสิว่ะ  คนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจยังปัดมือทิ้ง”
         “สวยซะเปล่า  แต่ทำไมทำพฤติกรรมแบบนี้”
         “หรือ ว่าสวยแต่รูป แต่นิสัยจริง ๆ โคตรแย่ว่ะ พี่จินฮุนถึงบอกเลิกแบบไร้เยื่อใย ปกติถึงพี่แกเพลย์บอยก็ไม่เคยบอกเลิกใครแบบไม่แคร์แบบนี้เลยนะ”
         “........”
         จีน่าน้ำตาหยดเผาะ...ก่อนจะคว้ากระเป๋าและสมุดหนังสือวิ่งออกไปจากโรงอาหารอย่างรวดเร็วเพราะไม่อาจทนสายตาของทุกคนได้  และสิ่งที่เธอต้องจำฝังใจไปอีกนานคือความเจ็บปวดที่ไปยุ่งกับของรักของเจ้าชายน้อย
          




         แทคยอนที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำมามองจีน่าที่วิ่งสวนออกไปด้วยอาการงง ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นนิชคุณนั่งอยู่ที่พื้นโรงอาหาร



         “เกิดอะไรขึ้น” ถามขึ้นในขณะช่วยพยุงร่างโปร่งบางที่มีแผลทะลอกที่ข้อเข่าจากการล้มลงแล้วโดนมุมโต๊ะเฉี่ยวให้ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้


         “ไม่มีอะไรหรอก  เราแค่ซุ่มซ่ามสะดุดล้มนะ” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มสดใดให้ร่างสูงที่ตอนนี้นั่งคุกเข่าใช้ผ้าเช็ดสีขาวค่อย ๆ เศษดินออกจากรอบ ๆ แผล



         มินจีกับเจียที่นั่งทานข้าวเที่ยงอยู่โต๊ะถัดไปได้ยินสิ่งที่ร่างโปร่งบางบอกแทคยอนก็อดไม่ได้



         “ใครว่าซุ่มซ่ามละเฮีย  โน้นย่ารหัสเฮีย  เค้าผลักพี่คุณล้ม  นี่คาตาหนูสองคนเลยนะ  เค้าเสียใจที่พี่จินฮุนบอกเลิกนางก็เลยเหวี่ยงใส่ซะ...”




         และถ้อยคำบอกเล่าเหตุการณ์มากมายที่คนในเหตุการณ์ต่างบอกเล่าให้
         แทคยอนมองสบตากลมใสของนิชคุณตรงหน้าด้วยความเสียใจ



         “ขอโทษนะ เพราะผมที่ทำให้คุณต้องเจ็บอีกแล้ว”




         “อะไรกัน  ไม่ใช่ความผิดของแทคสักหน่อย  อย่าหงอยเป็นแมวป่วยสิ  คนหล่อ..คนใจดีของคุณ  ช่วยพาไปส่งห้องพยาบาลทีนะ” พูดด้วยเสียงอ้อน ๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานกระชากใจให้ร่างสูง



         “ขี่หลังนะ”


         แทคยอนพยักหน้ารับก่อนจะหันหลังให้ร่างโปร่งบางขึ้นหลังเพื่อแบกไปห้องพยาบาลบนตึก



         “เดียวกระเป๋าคุณกับของนาย  ฉันจะหิ้วไปให้เอง” จุนโฮรีบบอกก่อนจะอาศัยจังหวะที่จินฮุนเผลอสะบัดตัวจากอ้อมกอดแกร่งได้ 



         นิชคุณหันมามองเพื่อนรักก่อนจะขยับปากแบบไร้เสียงว่า




         “ขอบคุณนะเพื่อนรักที่ช่วย  ฉันจบงานนี้”




         ได้แต่โบกมือให้นี่ไงตัวตนจริง ๆ ของ เจ้าชายน้อย ที่ไม่ได้มีแค่ความสดใสและใสซื่อ  แต่ภายใต้หน้ากากแห่งสดใสและใสซื่อมันซ่อนความร้ายกาจของพ่อมดไว้




         “เฮ้ย...” จุนโฮสะดุ้งตกใจจนกระเป๋าและข้าวของร่วงจากมือหมดเมื่อกำลังจะเดินขึ้นบันได้ไปยังห้องพยาบาล




         ดวงตาเรียวเล็กมองชายหนุ่มที่กักขังเขาไว้ในอ้อมแขนด้วยสายตางงปนหวาดกลัว





         “พะ...พี่จินฮุน”




         “รู้ไหมครับ  ทำไม พี่ถึงช่วยคุณ” ได้โปรดเตรียมดทรเรียกรถพยาบาลได้เลยเพราะอีจุนโฮกำลังจะเป็นลมเพราะความ ใกล้ชิดถ้าขยับปากต้องสัมผัสกับริมฝีปากได้รูปของร่างสูงกว่าที่แทบจะแนบชิด อยู่แล้ว



         “ผะ...ผมไม่อยากรู้  พี่ ปล่อยผมเถอะ” เอียงหน้าหนีทำให้กลายเป็นแก้มเนียนที่สัมผัสกับริมฝีปากของจินฮุนไปเต็ม ๆ และด้วยอารามตกใจจุนโฮหันกลับมาอีกครั้งทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน



         “แทค กับ คุณ คงรอนานแล้ว ละ..แล้วผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” บอกเสียงสั่นก่อนจะรวบรวมแรงผลักคนตรงหน้าออกแลละวิ่งขึ้นบันไดตรงไปห้อง พยาบาลอย่างรวดเร็วจนลืมแม้กระทั่งกระเป๋าของตัวเองและเพื่อนสนิท




         “ฮา ๆ เจ้าเด็กนี่น่าสนใจจริง ๆ ให้ตายสิอีจุนโฮ”



         ดวง ตาคมมองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นบันไดไปด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความรักความ เอ็นดูอย่างชัดเจนก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าและข้าวของตามขึ้นไปที่ห้องพยาบาล




         จองจินฮุนไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดที่วันนั้นตกปากรับคำช่วยเหลือน้องชายข้างบ้านที่เห็นมาตั้งแต่เด็กอย่างนิชคุณ  ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ถึงความสัมพันธ์ฉันญาติระหว่างพวกเค้า




         นายยังจะคบกับมันอยู่เหรอคุณ  มันทำนายขนาดนี้  เลิกแล้วไปหาแฟนใหม่  หาคนที่ดีกว่านี้ไม่ดีรึไง คำถามที่เคยถามขึ้นที่ผับคืนนั้น




         ผมรักแทค  แต่การที่ผมยื้อเค้าไว้  ผมต้องการอ๊คแทคยอนคนใหม่...คนที่รักได้เพียงนิชคุณคนเดียวเท่านั้นและเค้าต้องรู้ว่ามีแค่ผมคนเดียวในโลกที่รักและจริงใจกับเค้า




         เหอ...เปลืองตัวแบบนี้  นายจะมีอะไรตอบแทนพี่   เจ้าน้องชาย ชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบที่ริมหูเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของน้อยชายที่หันมามองจนตาแทบจะถลนออกจากเบ้า




         อิ...อิ  ถ้าพี่ช่วย  ผมจะช่วยให้พี่ได้อีจุนโฮมาทั้งตัวและหัวใจ ไม่น้อยหน้าตอนนี้นิชคุณแทบจะเกยตัวบนตักของจินฮุน




         นายไม่กลัวว่าพี่จะทำให้เพื่อนรักนายเสียใจรึไง ย้อนคืนพร้อมกับยกมือหนาเกลี่ยแก้มใสเบา ๆ




         นั่นมันตัวพี่  ที่จะต้องเลือกเองว่าอยากจะทำให้ที่ตัวเองรักจริง ๆ ต้องเสียน้ำตาเพราะพี่ไหม




         วินาทีนั้นจองจินฮุนได้แต่หัวเราะกับอาการสังเกตของน้องชาย  ที่อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยพลาดจากดวงตากลมที่ไม่ได้มีแต่ความใสซื่อ




         ตกลง  พี่จะช่วยนาย






END  of  รักนาย...นายตัวร้าย
 

talk-------  ที่จริงเรื่องนี้รวมอยู่ในฟิครวมสั้นของแทคคุณ ALWAYS  LOVE  WITH  TAECKHUN   Vol.I  ที่ กำลังจะรวมเล่ม  แต่ตัวคนแต่งไม่สามารถส่งไฟล์เข้าโรงพิมพ์ได้ทันงานฟิคเลยเอามาลงในอ่านเล่น ๆ ก่อน  สนุกหรือไม่สนุกยังไงเม้นบอกกันน่ะ
ที่หายไปนานไม่ใช่ทิ้งฟิคที่เปิดไว้นะ
แต่เพิ่งลาออกจากงาน  ย้ายบ้าน  ไปชาร์ตแบตให้ตัวเองมา


เจอกันเรื่องหน้า
.......^^
อ่านแล้วฝากกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ http://writer.dek-d.com/angle67000/story/view.php?id=861077