วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [7]

Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [7]

PG-13[Medium Fiction ขนาด 14 ตอนจบ]

Author :Z-rowink

Contact  me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย  หรือทวงถามฟิคได้ ^^)

 


เหมือนสติของนิชคุณจะยังไม่เข้าทีดีถึงได้ก้าวตามคนที่จูงมืออยู่ด้านหน้าเข้ามาในลิฟท์ก่อนจะสอดคีย์การ์ดแล้วกดรหัสสี่หลักแล้วโผล่มาชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมแห่งนี้  หรือจะเรียกชั้นเพ้นเฮาส์ดีก็พอประตูลิฟท์เปิดก็เจอห้องรับแขกสไตล์โมเดิร์นสีดำตัดขาวทันที

หันไปมองคนพามากับเพ้นเฮาส์นี้  เอาตรงๆ คือไม่คิดว่าเจ้าของค็อฟฟี่ช็อปจะรวยขนาดนี้หรืออาชีพขายกาแฟขายขนมเค้กมันสร้างรายได้ขนาดนี้   รู้งี้ไม่น่าเรียนหมอเลยให้ตายสิ

“ไม่เข้ามาละ  ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ทำให้ท้องอิ่มหรอกนะ”

“ไม่ไปร้านล่ะ”

ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะจูงมือคุณหมอให้มายืนตรงหน้าประตูครัวที่แสนทันสมัย

“จะตีหนึ่งแล้ว  ใครจะเปิดร้านขายกัน  อย่าคิดจะพึ่งพาแต่อาหารกึ่งสำเร็จ  คุณหมอเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่ามันมีสารอาหารที่ไหน?”

คราวนี้ทั้งเหตุและผลที่คนเป็นหมอเองจนคำพูดจะยกมาเถียงด้วย  ยิ่งสายตานิ่งๆ ที่มองมาทำให้แก้มเนียนรู้สึกร้อนผ่าว

“ทำอาหารเป็นไหมครับ?  คุนนี่”  นั้นไงมาอีกแล้วถามแต่ไม่รอคำตอบ  กลับหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวมาผูกให้เสร็จสรรพ



แบบนี้ล่ะนิชคุณอยากจะย้อนนัก  ถามทำไม?  สั่งให้ทำเลยดีกว่าไหม?

แล้วที่ชวนให้โมโหเจ้าของที่ตอนนี้กำลังไปนั่งดูทีวีอย่างสบายใจ  ในขณะที่เขาคนที่รู้สึกหิวจนแสบไส้ต้องมานั่งมองกองของสดที่อีกฝ่ายขนมาวางให้บนโต๊ะเสียมากมาย  ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งหรือเจตนามีดคมๆ ที่ใช้หั่นผักเลยบาดนิ้วเข้าให้    สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวต้องไล่ให้ไปทำแผล

“เอาอันที่ทำง่ายที่สุดแล้วกัน”

แทคยอนมองร่างโปร่งบางที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่ในห้องครัวผ่านกระจกเงาบานใหญ่นานเท่าไหร่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้  รู้แค่เพียงไม่เบื่อเลยกับการมองใครบางคนกำลังทำอะไรอยู่

ถอนหายใจก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ราวกับเบอร์โทรตัวเอง

“ว่างไง.....น้องชาย” ปลายสายทักอย่างอารมณ์ดี

“พี่ครับ  ผมคงแพ้พนันพี่จริง ๆ” 

พูดเบาๆ ก่อนจะก้มมองผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่คุณหมอใช้ช่วยซับเลือดที่นิ้วให้ก่อนจะไล่ให้ออกมาทำแผลเองเพียงเพราะที่นี่เป็นบ้านเค้าย่อมรู้ดีว่าอะไรมันอยู่ตรงไหน

“ฮ่าๆ  ตกลงกันเรียบร้อยเมื่อไหร่นายค่อยพามาฉันแล้วกัน  แค่นี้ก่อนนะอังอังน้อยของฉันมาแล้ว”



++++++++++++



ลมหนาวที่สัมผัสผิวอยู่เป็นระลอกๆ  ไม่ทำให้นิชคุณยี่หระสักเท่าไหร่จากหางตาเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนกำลังตั้งอกตั้งใจเก็บล้างจานอยู่ทั้งที่เขาพยายามจะทำเองแต่โดนเจ้าบ้านดันหลังออกมาพร้อมประโยคที่ว่า

“นายอุตส่าห์ตั้งใจทำกับข้าวให้ฉันกินแล้ว   แค่นี้ฉันจัดการเองไปนั่งเล่นเถอะ”  แล้วไหนคำพูดที่อีกฝ่ายบอกตอนที่ชิมอาหารที่เขาทำนั้นอีก


“อร่อยนะ”  คำสั้นๆ ที่คนยิ้มแล้วเหมือนแมวหน้าย่นบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่เหมือนกับคนที่นั่งตรงข้ามยิ้มให้เขาทั้งตัว

มันทำให้หัวใจนิชคุณทำงานหนักมากขึ้น  เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวที่คืนนี้เหมือนแข่งกันทอแสงเป็นประกายนานทีที่จะมีโอกาสได้สังเกตเห็นท้องฟ้าที่มีดาวประดับไปทั่วแบบนี้  บรรยากาศสบายๆ ลมเย็น แล้วเสียงเพลงคลาสสิคที่คาดว่าเจ้าห้องคงเป็นฝ่ายเปิดคลอเบาๆ เข้ากับบรรยายแบบนี้มันชวนให้ง่วงเสียจริง


ฉับพลันคุณหมอหนุ่มก็อดสะดุ้งกับสัมผัสเย็นเฉียบที่แนบแก้มเสียไม่ได้

“ดื่มด้วยกันไหม?” มองกระป๋องสีเขียวสัญชาติเยอรมันกับใบหน้าคนที่ยื่นให้

“คิดจะมอมกันรึไง” ถึงปากจะบอกแบบนั้นแต่ก็รับมาเปิดขึ้นจิบๆ อย่างสบายใจ   ทั้งที่เห็นชายหนุ่มหยิบเบียร์ออกมามายหลายกระป๋อง

“ทำไมถึงกล้าที่ดื่ม?  ทั้งที่จะควรจะเลี่ยงเสียด้วยซ้ำไป”

นัยน์ตาคมมองสบตาคุณหมอที่กุมกระป๋องในมือไว้แน่น  ก่อนจะส่งยิ้มพรายเมื่อเห็นนิชคุณเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มต่อเป็นกระป๋องที่สาม

“พอแล้วคุนนี่”

แทคยอนมองใบหน้าขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์   ดวงตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้เริ่มเชื่อมหวานจนคนมองแอบใจเต้นตึกตัก

“กอดฉันหน่อยได้ไหม? แทค......แทคยอน”

ไม่ใช่ว่าไม่มีสติ....

แต่ร่างโปร่งบางเลือกใช้ของมึนเมาย้อมความกล้าของตัวเอง  ให้กล้าพอที่เอ่ยอะไรที่น่าอายแบบนี้  ไม่ใช่ไม่อยากรับรู้หรอกนะว่าส่วนลึกๆ ในใจของตัวเองมันรู้สึกอะไรอยู่

แค่อยากให้แน่ใจเท่านั้น

แทคยอนใช้สายตาคมกริบมองคนที่นั่งข้างอย่างตกใจ   ไม่คาดคิดมาก่อนว่านิชคุณจะเป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาก่อน  พอมาถึงตรงนี้เขากลับไม่แน่ใจว่าจะตอบคนข้างกายว่าอะไรดี  รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ล้อเล่นเพราะบางอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลนั้นทำให้เขาตัดสินใจรั้งท้ายทอยของคนเสนอให้มาแนบชิดมากขึ้น

“ถ้าอยากจะหยุด  ต้องบอกให้หยุดตั้งแต่จูบนี้”

ริมฝีปากหยักค่อยๆ แนบลงสัมผัสริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา เรียวลิ้นอุ่นที่ค่อยๆไล้เลียริมฝีปากนิ่มคล้ายรอให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิเสธการสัมผัส

“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ  คุนนี่” ร่างแกร่งผละออกมาสบตากับคนที่แทบจะเอนซบลงมาทั้งตัว

“หรือนายไม่อยากจะกอดฉันแล้ว  แทคยอน...อา” 

เสียงหวานพร่าเอ่ยชิดริมหู  ลมร้อนเป่ารดซอกคอให้ชายหนุ่มรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นคอหนี 

แทคยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือให้คุณหมอจับที่อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่วางมือบางลงมา


“กริ๊ก”

ปิดท้ายเมื่อประตูห้องนอนบานใหญ่ได้ปิดลง 

แทคยอนสวมกอดร่างที่สั่นอยู่น้อยๆ   นิชคุณหลับตาลงรับสัมผัสจากอ้อมกอดที่เร่าร้อนแต่อบอุ่น  จูบที่อีกฝ่ายมอบให้รุนแรงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน  ที่กำลังจะทำให้ร่างโปร่งบางกำลังจะละลาย

น้ำตารื้นที่หางตา    เมื่อคนด้านบนยั่วเย้ากึ่งกลั่นแกล้งให้นิชคุณต้องส่งเสียงวอนขออย่างน่าอาย  นั้นยิ่งทำให้ร่างแกร่งแทบอยากจะกระชากร่างโปร่งบางให้จมในความสุขสมที่พร้อมมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบไม่รู้เบื่อ  เสื้อผ้าหลุดหายออกไปตามแรงอารมณ์ที่มากขึ้นของทั้งคู่จนเหลือแต่ตัวเปล่า

มือแกร่งไล้ลงไปตามแนวสีข้างเรื่อยมายังเอวบาง  ริมฝีปากหยักร้อนตามลงมาพร้อมขบเม้มทิ้งรอยไปทุกที่ที่ผ่าน  ปลายจมูกโด่งกดแนบซ้ำลงที่หน้าท้องเนียนแล้วไล่ลงไปครอบครองด้วยริมฝีปากและปลายลิ้นร้อน

“ทะ....แทค..ยอน..อ.....า  ได้โปรด”

เสียงหวานสั่นๆ ยามที่ปลายลิ้นอุ่นๆ สัมผัสแก่นกายไม่หยุด  แถมนิ้วแกร่งยังรุกรานเบื้องล่างไปพร้อมๆ กัน   
นิชคุณรู้สึกราวกับจะขาดใจตาย  ยิ่งปลายนิ้วขยับ  ริมฝีปากร้อนยิ่งแกล้งร่างกายของเขารัวเร็วไปด้วย  อยากผละกายออกแต่อีกฝ่ายยังรั้งร่างผอมบางบิดเร่าเมื่อใกล้ถึงความรู้สึกจะกำลังจะล้นทะลัก


“ฮื้ออออออ  แทค~~~ยอน”  ริมฝีปากอิ่มเผยอหอบหายใจร้องเรียกคนอยู่ด้านบนอย่างอ่อนหวาน

“ครับ  คุนนี่?”

ริมฝีปากหยักปล่อยร่างกายของนิชคุณเป็นอิสระ   ก่อนจะจูบให้คนที่นอนแทบหมดแรงอยู่ให้ได้รับสัมผัสรสชาติของตัวเองผ่านลิ้นอุ่น   นิ้วแกร่งที่ตอนนี้ถูกตอดรัดจากช่องทางสีหวานจนไม่อาจขยับได้ 

เขาหยุดนิ่งรอจนอีกฝ่ายผ่อนคลายจึงค่อยถอนนิ้วออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วส่งสิ่งที่ร้อนและใหญ่กว่าเข้าไปแทนที่อย่างเนิบช้า  รุกเร้าอย่างอ่อนโยนหากแต่ร้อนแรงไปในคราวเดียวกัน

นิชคุณปรือตาขึ้นมองใบหน้าคมหวาน  นัยน์ตาคมหวานที่ก้มลงมาสบส่งผ่านความรู้สึกที่อยากจะปฏิเสธให้ออกไปไกลๆ มาอย่างเปิดเผย  หัวใจร่างโปร่งบางเต้นแรงจนแทบคลั่งเพราะตอนนี้แน่ใจแล้วว่าตัวเองรู้สึกแบบไหนกันแน่

“คุนนี่~อา  ถ้าไม่ไหวก็กัดลงมาเลยนะ~

“จะ...เจ็บ  ช้าหน่อย  อ้า”

มือแกร่งสอดประสานกับมือบางให้แนบชิดกับที่นอนหนานุ่ม  กอดกระชับแล้วเคลื่อนกายเป็นร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่มากขึ้นพร้อมกับร่างกายที่ปวดหนึบ  ยิ่งคนด้านบนขยับเร็วมากขึ้นเท่าไหร่นิชคุณขบริมฝีปากอิ่มกลั้นเสียง

เส้นผมสีม็อคคาที่สะบัดไปตามใบหน้าหวานที่ถูกรุกราน  ความรู้สึกพลุ่งพล่านร้อนแข็งแกร่งที่เน้นตรงไปจุดเดียวซ้ำ  บีบรัดกายแกร่งไว้จนจะถึงที่สุดแล้ว  แทคยอนยิ้มเจ้าเล่ห์ ปลายนิ้วไปเลื่อนกอบกุมปิดกั้นไว้

“ฮื้ออออออ  แทค~~~ยอน  ได้โปรด”

“ทนหน่อยนะ  คุนนี่~อา”

“อึก!!!!!!

ขยับกายแกร่งอีกครั้งแล้วถาโถมนักแน่น  เรียวขาบางถูกยกพาดบ่ากว้างเพื่อให้รุกล้ำได้ลึกยิ่งขึ้น  รุกเร้าร้อนแรงและเอาแต่ใจของคนข้างบน 

แทคยอนยังแกล้งไม่เลิกปลายนิ้วยังกดสกัดกั้นเอาไว้ ขยับสะโพกเพรียวเข้าหาร่างโปร่งบางก่อนจะรูดรั้งสิ่งที่อยู่ในมือให้ปลดปล่อยอย่างรุนแรงออกมาพร้อมๆ กัน

แผ่นอกบอบบางที่มีรอยขบเม้มมากมายสะท้อนหอบ       รองรับศีรษะได้รูปสวยของคนด้านบนที่ซบลงมา  
ริมฝีปากหยักยังจูบแผ่วเบา   นัยน์ตาสองคู่ที่มองสบกันอย่างมีความหมายแม้จะยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาต่างรับรู้กันด้วยใจว่ารู้สึกอย่างไร


“คุนนี่  อ่ะ” แทคยอนเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อนเมื่อเห็นนิชคุณหันหน้าหนีไปทางอื่น  กดจูบลงบนฝ่ามือบางที่ยกมากันริมฝีปากอิ่ม

“เอาออกไปได้ไหม”


ใจจริงร่างสูงอยากจะแกล้งคนที่นอนอยู่ด้านล่างนี้อีกรอบสองรอบแต่ดูจากสภาพอิดโรยของคุณหมอคนเก่งแล้วจำใจต้องถอนกายออกมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะรั้งตัวผอมบางๆ มาอยู่ในอ้อมกอด


ลมหายใจที่หายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่านิชคุณเข้าสู่ภวังค์ของการหลับพักผ่อนแล้วในขณะที่ร่างสูงยังนอนมองใบหน้าเนียนที่หลับตาพริ้มอยู่โดยไร้ความง่วงงุนทั้งใกล้เวลาห้านาฬิกาของเช้าวันใหม่



I’m gonna be ok (Gonna be ok)
I’ll be ok (Gonna be ok)
baby without you, baby without you



เสียงเรียกเข้าที่ดังจากกระเป๋ากางเกงนิชคุณที่ตกอยู่ข้างเตียง  ทำให้ร่างสูงต้องค่อยๆ ผละอ้อมกอดที่ใช้กอดคุณหมอที่กำลังหลับสนิทออกมา  หยิบไอโฟนสีดำที่กำลังส่งเสียงร้องดังขึ้นเป็นรอบที่สองสายเรียกเข้า

คุณหมอจองฮุน

ปลายนิ้วแกร่งสไลด์รับสายทันที

“ฮัลโหล  นิชคุณ  คุณรีบมาที่โรงบาลเดียวนี้เลยนะ  น้องหนูอาการกำเริบ”

“ครับ  จะรีบไปเร็วที่สุด”

“เอ๊ะ   คุณ.......” ไม่ต้องรอให้ปลายสายถามให้มากความ

“ผมอ๊คแทคยอนครับ...คุณหมอจองฮุน  อีกไม่เกิน 20 นาที คุณหมอนิชคุณไปถึงแน่นอน  ฝากด้วยนะครับ”


มองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างสงสาร  ทั้งที่เสียงโทรศัพท์ออกจะดังแต่ร่างผอมบางยังคงหลับสนิท  
แม้จะอยากให้พักผ่อนแค่ไหนแต่เรื่องของน้องหนูก็สำคัญสำหรับคนที่นอนหลับตาพริ้มนั้นเป็นอันดับหนึ่งของชีวิตอยู่แล้ว   คนอย่างอ๊คแทคยอนไม่ได้อิจฉานะ  แค่อยากได้รับการสนใจแบบนั้นบ้าง


“คุนนี่  ตื่นเถอะครับ”

“.........................”

“นิชคุณ  ตื่นเถอะนะ” นอกจากจะใช้เสียงปลุก  ยังกดจูบลงไปยังริมฝีปากอิ่มที่บวมเปล่งลงไปแรงๆ

“ฮื้อ  อะไรเหล่าคนจะนอน” เสียงหวานเอ่ยก่อนจะหันหน้าหนีจากเสียงรบกวน


“คุณหมอจองฮุนโทรมาเรื่องน้องหนู”

“น้องหนู”

จากที่กำลังงัวเงีย...มันทำให้คุณหมอหนุ่มหายง่วงไปทันที   ยังไม่ทันได้ถามอะไรก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเข้าไปอาบน้ำแถมแต่งตัวให้ด้วยชุดใหม่  ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในสิบนาทีก่อนที่นิชคุณจะนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเอสยูวีกึ่งสปอร์ตที่วิ่งด้วยความเร็วสูงไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปเพียงสี่บล็อกอย่างรวดเร็ว  ทั้งที่ตอนขามาเจ้าของรถจะพาขับอ้อมไปเสียไกลทั้งคอนโดกับโรงพยาบาลอยู่ใกล้กันขนาดเดินมาไม่เหนื่อย

“น้องหนูเป็นไงบ้าง”

จองฮุนกับโจควอน  หันไปมองคนที่อยู่เบื้องหลังของเพื่อนสนิทเสียมากกว่าจะสนใจคนที่กำลังเกาะกระจกห้องไอซียูมองน้องสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่  ผิวของเด็กหญิงที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวซีดมากกว่าเดิมไหนจะมีรอยจ้ำห้อเลือดมากขึ้นอยู่

“พยาบาลเข้าไปเช็ค  ก่อนฉันลงตรวจวอร์ดกลางดึก  เลือดกำเดาน้องหนูไหลไม่หลุดแถมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น”  โจควอนเอื้อมมือไปกุมมือนิชคุณที่ตอนนี้มันเย็นเฉียบไปหมดแล้ว

น้ำตาค่อยๆ ไหลลงแก้มเนียนที่ซีดเซียวลงมาเป็นทาง   แทคยอนดึงร่างโปร่งบางให้มาซุกในอ้อมกอดยิ่งกอดแน่นมากแค่ไหนคนในกอดก็ยิ่งสะอื้นมากขึ้นเท่านั้น

“คุณ  นิชคุณ” เขาเรียกเสียงสั่นเมื่อรู้สึกถึงการทิ้งตัวลงของคนในอ้อมกอด

“คงเป็นลมเพราะพักผ่อนน้อยนะ”  โจควอนเอ่ยบอกพร้อมเดินนำหน้าชายหนุ่มที่อุ้มจุนอยองตามมายังห้องพักแพทย์ที่มีเตียงนอนอยู่

แทคยอนวางนิชคุณลงบนเตียงของเจ้าตัว  พร้อมถอดรองเท้าและเสื้อโค้ทตัวหนา  แถมห่มผ้าห่มให้เสร็จสรรพ

“เราออกไปคุยกันข้างนอกไหมคุณอ๊คแทคยอน”

ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรนอกจากเดินนำหน้าคุณหมอโจควอนออกมานอกห้องพักแพทย์เพราะดูท่าเรื่องที่จะคุยมันต้องและยาว  แถมอาจจะเสียงจนรบกวนคนที่กำลังต้องการพักผ่อน

“คุณจริงจังกับเพื่อนผมไหม?” โจควอนเอ่ยถามตรงๆ ตามนิสัย

“เพื่อนผมไม่ใช่คนที่เข้มแข็งอะไร  ถ้าคุณคิดหาของเล่นฆ่าเวลาเหมือนกับคนอื่นๆ ของคุณ  เลิกยุ่งกับเพื่อนผมซะเถอะ  หยุดตั้งแต่ตอนนี้”

แทคยอนที่ยืนลวงกระเป๋ากางเกงอยู่ริมระเบียงทางเดินข้างห้องพักแพทย์หันกับมามองคุณหมอที่ยืนอยู่ข้างกายก่อนจะหันออกไปมองนอกระเบียงที่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว

“ถ้าผมไม่หยุดล่ะ”

โจควอนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยเรียบๆ

“งั้นก็ยืนอยู่เคียงข้างเค้าซะสิ  เพราะไม่แน่ในอนาคตเค้าอาจทนอยู่บนโลกนี้ไม่ไหวหากต้องสูญเสียอีกครั้ง”

“ไม่มีทางรักษาน้องหนูเลยเหรอ  ต้องใช้เงินมากขนาดไหนถึงจะรักษาได้?”

โจควอนอดจะขำไม่ได้ก่อนเสียงใสจะเอ่ยขึ้น

“ถึงมีเงินแค่ไหนใช่ว่าจะยื้อชีวิตของคนป่วยได้ทุกคนหรอกนะคุณชายเล็กตระกูลคิม”

“คุณรู้?” ร่างสูงย้อนถาม

“ผมไม่ใช่มีชีวิตแค่โรงพยาบาลแล้วก็บ้านอุปถัมภ์เหมือนนิชคุณนะ  ข่าวสารแวดวงไฮโซก็พอรู้บ้าง”

ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่คนฟังได้ฟังแล้วมันบาดไปถึงหัวใจ

“น้องหนูเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเฉียบพลัน   เป็นเพราะยังเด็กอยู่ทำให้....ให้ยาหรือคีโมไม่ได้ทางเดียวที่จะรักษาได้คือรอผู้บริจาคไขกระดูกสันหลัง   เพื่อปลูกถ่าย”

“แล้วยังไง  ไม่มีคนบริจาครึไง  หรืออาจจะมีคนขาย?” แทคยอนถามทั้งที่มองไปยังประตูห้องพักแพทย์

“กรุ๊ปเลือดเอบีปกติก็หายากอยู่เป็นทุนเดิม   แล้วยิ่งเอบีเน็คกาทีฟใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ นะ”

“ถ้าไม่ได้ปลูกถ่าย  น้องหนูจะเป็นยังไง?”

“สองเดือนมากที่สุดแค่นั้น”



นี่ขนาดตัวเค้าเองเพิ่งรู้จักกับเด็กหญิงน่ารักที่ชื่อฮยอนอามาไม่นานยังรู้สึกเศร้าขนาดนี้แล้วคนในห้องนั้นล่ะ  ที่แทบครึ่งชีวิตที่ผูกพันกับน้องสาวบุญธรรมมาตลอดจะเป็นยังไง


++++tbc++++