Lost
[Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [7]
PG-13[Medium Fiction ขนาด 14 ตอนจบ]
Author
:Z-rowink
Contact me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย หรือทวงถามฟิคได้ ^^)
เหมือนสติของนิชคุณจะยังไม่เข้าทีดีถึงได้ก้าวตามคนที่จูงมืออยู่ด้านหน้าเข้ามาในลิฟท์ก่อนจะสอดคีย์การ์ดแล้วกดรหัสสี่หลักแล้วโผล่มาชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมแห่งนี้
หรือจะเรียกชั้นเพ้นเฮาส์ดีก็พอประตูลิฟท์เปิดก็เจอห้องรับแขกสไตล์โมเดิร์นสีดำตัดขาวทันที
หันไปมองคนพามากับเพ้นเฮาส์นี้ เอาตรงๆ คือไม่คิดว่าเจ้าของค็อฟฟี่ช็อปจะรวยขนาดนี้หรืออาชีพขายกาแฟขายขนมเค้กมันสร้างรายได้ขนาดนี้ รู้งี้ไม่น่าเรียนหมอเลยให้ตายสิ
“ไม่เข้ามาละ
ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ทำให้ท้องอิ่มหรอกนะ”
“ไม่ไปร้านล่ะ”
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะจูงมือคุณหมอให้มายืนตรงหน้าประตูครัวที่แสนทันสมัย
“จะตีหนึ่งแล้ว
ใครจะเปิดร้านขายกัน อย่าคิดจะพึ่งพาแต่อาหารกึ่งสำเร็จ
คุณหมอเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่ามันมีสารอาหารที่ไหน?”
คราวนี้ทั้งเหตุและผลที่คนเป็นหมอเองจนคำพูดจะยกมาเถียงด้วย ยิ่งสายตานิ่งๆ
ที่มองมาทำให้แก้มเนียนรู้สึกร้อนผ่าว
“ทำอาหารเป็นไหมครับ? คุนนี่”
นั้นไงมาอีกแล้วถามแต่ไม่รอคำตอบ
กลับหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวมาผูกให้เสร็จสรรพ
แบบนี้ล่ะนิชคุณอยากจะย้อนนัก ถามทำไม?
สั่งให้ทำเลยดีกว่าไหม?
แล้วที่ชวนให้โมโหเจ้าของที่ตอนนี้กำลังไปนั่งดูทีวีอย่างสบายใจ
ในขณะที่เขาคนที่รู้สึกหิวจนแสบไส้ต้องมานั่งมองกองของสดที่อีกฝ่ายขนมาวางให้บนโต๊ะเสียมากมาย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งหรือเจตนามีดคมๆ
ที่ใช้หั่นผักเลยบาดนิ้วเข้าให้
สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวต้องไล่ให้ไปทำแผล
“เอาอันที่ทำง่ายที่สุดแล้วกัน”
แทคยอนมองร่างโปร่งบางที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่ในห้องครัวผ่านกระจกเงาบานใหญ่นานเท่าไหร่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้
รู้แค่เพียงไม่เบื่อเลยกับการมองใครบางคนกำลังทำอะไรอยู่
ถอนหายใจก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ราวกับเบอร์โทรตัวเอง
“ว่างไง.....น้องชาย” ปลายสายทักอย่างอารมณ์ดี
“พี่ครับ
ผมคงแพ้พนันพี่จริง ๆ”
พูดเบาๆ ก่อนจะก้มมองผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่คุณหมอใช้ช่วยซับเลือดที่นิ้วให้ก่อนจะไล่ให้ออกมาทำแผลเองเพียงเพราะที่นี่เป็นบ้านเค้าย่อมรู้ดีว่าอะไรมันอยู่ตรงไหน
“ฮ่าๆ
ตกลงกันเรียบร้อยเมื่อไหร่นายค่อยพามาฉันแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะอังอังน้อยของฉันมาแล้ว”
++++++++++++
ลมหนาวที่สัมผัสผิวอยู่เป็นระลอกๆ ไม่ทำให้นิชคุณยี่หระสักเท่าไหร่จากหางตาเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนกำลังตั้งอกตั้งใจเก็บล้างจานอยู่ทั้งที่เขาพยายามจะทำเองแต่โดนเจ้าบ้านดันหลังออกมาพร้อมประโยคที่ว่า
“นายอุตส่าห์ตั้งใจทำกับข้าวให้ฉันกินแล้ว แค่นี้ฉันจัดการเองไปนั่งเล่นเถอะ”
แล้วไหนคำพูดที่อีกฝ่ายบอกตอนที่ชิมอาหารที่เขาทำนั้นอีก
“อร่อยนะ” คำสั้นๆ ที่คนยิ้มแล้วเหมือนแมวหน้าย่นบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่เหมือนกับคนที่นั่งตรงข้ามยิ้มให้เขาทั้งตัว
มันทำให้หัวใจนิชคุณทำงานหนักมากขึ้น เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวที่คืนนี้เหมือนแข่งกันทอแสงเป็นประกายนานทีที่จะมีโอกาสได้สังเกตเห็นท้องฟ้าที่มีดาวประดับไปทั่วแบบนี้ บรรยากาศสบายๆ ลมเย็น
แล้วเสียงเพลงคลาสสิคที่คาดว่าเจ้าห้องคงเป็นฝ่ายเปิดคลอเบาๆ เข้ากับบรรยายแบบนี้มันชวนให้ง่วงเสียจริง
ฉับพลันคุณหมอหนุ่มก็อดสะดุ้งกับสัมผัสเย็นเฉียบที่แนบแก้มเสียไม่ได้
“ดื่มด้วยกันไหม?”
มองกระป๋องสีเขียวสัญชาติเยอรมันกับใบหน้าคนที่ยื่นให้
“คิดจะมอมกันรึไง”
ถึงปากจะบอกแบบนั้นแต่ก็รับมาเปิดขึ้นจิบๆ อย่างสบายใจ
ทั้งที่เห็นชายหนุ่มหยิบเบียร์ออกมามายหลายกระป๋อง
“ทำไมถึงกล้าที่ดื่ม? ทั้งที่จะควรจะเลี่ยงเสียด้วยซ้ำไป”
นัยน์ตาคมมองสบตาคุณหมอที่กุมกระป๋องในมือไว้แน่น ก่อนจะส่งยิ้มพรายเมื่อเห็นนิชคุณเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มต่อเป็นกระป๋องที่สาม
“พอแล้วคุนนี่”
แทคยอนมองใบหน้าขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้เริ่มเชื่อมหวานจนคนมองแอบใจเต้นตึกตัก
“กอดฉันหน่อยได้ไหม? แทค......แทคยอน”
ไม่ใช่ว่าไม่มีสติ....
แต่ร่างโปร่งบางเลือกใช้ของมึนเมาย้อมความกล้าของตัวเอง ให้กล้าพอที่เอ่ยอะไรที่น่าอายแบบนี้ ไม่ใช่ไม่อยากรับรู้หรอกนะว่าส่วนลึกๆ ในใจของตัวเองมันรู้สึกอะไรอยู่
แค่อยากให้แน่ใจเท่านั้น…
แทคยอนใช้สายตาคมกริบมองคนที่นั่งข้างอย่างตกใจ ไม่คาดคิดมาก่อนว่านิชคุณจะเป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาก่อน
พอมาถึงตรงนี้เขากลับไม่แน่ใจว่าจะตอบคนข้างกายว่าอะไรดี
รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ล้อเล่นเพราะบางอย่างที่สะท้อนออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลนั้นทำให้เขาตัดสินใจรั้งท้ายทอยของคนเสนอให้มาแนบชิดมากขึ้น
“ถ้าอยากจะหยุด
ต้องบอกให้หยุดตั้งแต่จูบนี้”
ริมฝีปากหยักค่อยๆ
แนบลงสัมผัสริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา
เรียวลิ้นอุ่นที่ค่อยๆไล้เลียริมฝีปากนิ่มคล้ายรอให้อีกฝ่ายหนึ่งปฏิเสธการสัมผัส
“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ คุนนี่”
ร่างแกร่งผละออกมาสบตากับคนที่แทบจะเอนซบลงมาทั้งตัว
“หรือนายไม่อยากจะกอดฉันแล้ว แทคยอน...อา”
เสียงหวานพร่าเอ่ยชิดริมหู ลมร้อนเป่ารดซอกคอให้ชายหนุ่มรู้สึกจั๊กจี้จนต้องย่นคอหนี
แทคยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งมือให้คุณหมอจับที่อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่วางมือบางลงมา
“กริ๊ก”
ปิดท้ายเมื่อประตูห้องนอนบานใหญ่ได้ปิดลง
แทคยอนสวมกอดร่างที่สั่นอยู่น้อยๆ
นิชคุณหลับตาลงรับสัมผัสจากอ้อมกอดที่เร่าร้อนแต่อบอุ่น
จูบที่อีกฝ่ายมอบให้รุนแรงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ที่กำลังจะทำให้ร่างโปร่งบางกำลังจะละลาย
น้ำตารื้นที่หางตา เมื่อคนด้านบนยั่วเย้ากึ่งกลั่นแกล้งให้นิชคุณต้องส่งเสียงวอนขออย่างน่าอาย นั้นยิ่งทำให้ร่างแกร่งแทบอยากจะกระชากร่างโปร่งบางให้จมในความสุขสมที่พร้อมมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบไม่รู้เบื่อ เสื้อผ้าหลุดหายออกไปตามแรงอารมณ์ที่มากขึ้นของทั้งคู่จนเหลือแต่ตัวเปล่า
มือแกร่งไล้ลงไปตามแนวสีข้างเรื่อยมายังเอวบาง ริมฝีปากหยักร้อนตามลงมาพร้อมขบเม้มทิ้งรอยไปทุกที่ที่ผ่าน
ปลายจมูกโด่งกดแนบซ้ำลงที่หน้าท้องเนียนแล้วไล่ลงไปครอบครองด้วยริมฝีปากและปลายลิ้นร้อน
“ทะ....แทค..ยอน..อ.....า ได้โปรด”
เสียงหวานสั่นๆ ยามที่ปลายลิ้นอุ่นๆ
สัมผัสแก่นกายไม่หยุด แถมนิ้วแกร่งยังรุกรานเบื้องล่างไปพร้อมๆ
กัน
นิชคุณรู้สึกราวกับจะขาดใจตาย ยิ่งปลายนิ้วขยับ
ริมฝีปากร้อนยิ่งแกล้งร่างกายของเขารัวเร็วไปด้วย อยากผละกายออกแต่อีกฝ่ายยังรั้งร่างผอมบางบิดเร่าเมื่อใกล้ถึงความรู้สึกจะกำลังจะล้นทะลัก
“ฮื้ออออออ
แทค~~~ยอน”
ริมฝีปากอิ่มเผยอหอบหายใจร้องเรียกคนอยู่ด้านบนอย่างอ่อนหวาน
“ครับ คุนนี่?”
ริมฝีปากหยักปล่อยร่างกายของนิชคุณเป็นอิสระ
ก่อนจะจูบให้คนที่นอนแทบหมดแรงอยู่ให้ได้รับสัมผัสรสชาติของตัวเองผ่านลิ้นอุ่น
นิ้วแกร่งที่ตอนนี้ถูกตอดรัดจากช่องทางสีหวานจนไม่อาจขยับได้
เขาหยุดนิ่งรอจนอีกฝ่ายผ่อนคลายจึงค่อยถอนนิ้วออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วส่งสิ่งที่ร้อนและใหญ่กว่าเข้าไปแทนที่อย่างเนิบช้า
รุกเร้าอย่างอ่อนโยนหากแต่ร้อนแรงไปในคราวเดียวกัน
นิชคุณปรือตาขึ้นมองใบหน้าคมหวาน
นัยน์ตาคมหวานที่ก้มลงมาสบส่งผ่านความรู้สึกที่อยากจะปฏิเสธให้ออกไปไกลๆ
มาอย่างเปิดเผย หัวใจร่างโปร่งบางเต้นแรงจนแทบคลั่งเพราะตอนนี้แน่ใจแล้วว่าตัวเองรู้สึกแบบไหนกันแน่
“คุนนี่~อา ถ้าไม่ไหวก็กัดลงมาเลยนะ~”
“จะ...เจ็บ
ช้าหน่อย อ้า”
มือแกร่งสอดประสานกับมือบางให้แนบชิดกับที่นอนหนานุ่ม
กอดกระชับแล้วเคลื่อนกายเป็นร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่มากขึ้นพร้อมกับร่างกายที่ปวดหนึบ ยิ่งคนด้านบนขยับเร็วมากขึ้นเท่าไหร่นิชคุณขบริมฝีปากอิ่มกลั้นเสียง
เส้นผมสีม็อคคาที่สะบัดไปตามใบหน้าหวานที่ถูกรุกราน
ความรู้สึกพลุ่งพล่านร้อนแข็งแกร่งที่เน้นตรงไปจุดเดียวซ้ำ บีบรัดกายแกร่งไว้จนจะถึงที่สุดแล้ว แทคยอนยิ้มเจ้าเล่ห์
ปลายนิ้วไปเลื่อนกอบกุมปิดกั้นไว้
“ฮื้ออออออ
แทค~~~ยอน ได้โปรด”
“ทนหน่อยนะ
คุนนี่~อา”
“อึก!!!!!!”
ขยับกายแกร่งอีกครั้งแล้วถาโถมนักแน่น
เรียวขาบางถูกยกพาดบ่ากว้างเพื่อให้รุกล้ำได้ลึกยิ่งขึ้น รุกเร้าร้อนแรงและเอาแต่ใจของคนข้างบน
แทคยอนยังแกล้งไม่เลิกปลายนิ้วยังกดสกัดกั้นเอาไว้
ขยับสะโพกเพรียวเข้าหาร่างโปร่งบางก่อนจะรูดรั้งสิ่งที่อยู่ในมือให้ปลดปล่อยอย่างรุนแรงออกมาพร้อมๆ
กัน
แผ่นอกบอบบางที่มีรอยขบเม้มมากมายสะท้อนหอบ รองรับศีรษะได้รูปสวยของคนด้านบนที่ซบลงมา
ริมฝีปากหยักยังจูบแผ่วเบา
นัยน์ตาสองคู่ที่มองสบกันอย่างมีความหมายแม้จะยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาต่างรับรู้กันด้วยใจว่ารู้สึกอย่างไร
“คุนนี่
อ่ะ” แทคยอนเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อนเมื่อเห็นนิชคุณหันหน้าหนีไปทางอื่น กดจูบลงบนฝ่ามือบางที่ยกมากันริมฝีปากอิ่ม
“เอาออกไปได้ไหม”
ใจจริงร่างสูงอยากจะแกล้งคนที่นอนอยู่ด้านล่างนี้อีกรอบสองรอบแต่ดูจากสภาพอิดโรยของคุณหมอคนเก่งแล้วจำใจต้องถอนกายออกมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะรั้งตัวผอมบางๆ
มาอยู่ในอ้อมกอด
ลมหายใจที่หายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่านิชคุณเข้าสู่ภวังค์ของการหลับพักผ่อนแล้วในขณะที่ร่างสูงยังนอนมองใบหน้าเนียนที่หลับตาพริ้มอยู่โดยไร้ความง่วงงุนทั้งใกล้เวลาห้านาฬิกาของเช้าวันใหม่
I’m gonna be ok (Gonna be ok)
I’ll be ok (Gonna be ok)
baby without you, baby without you
เสียงเรียกเข้าที่ดังจากกระเป๋ากางเกงนิชคุณที่ตกอยู่ข้างเตียง ทำให้ร่างสูงต้องค่อยๆ
ผละอ้อมกอดที่ใช้กอดคุณหมอที่กำลังหลับสนิทออกมา
หยิบไอโฟนสีดำที่กำลังส่งเสียงร้องดังขึ้นเป็นรอบที่สองสายเรียกเข้า
‘คุณหมอจองฮุน’
ปลายนิ้วแกร่งสไลด์รับสายทันที
“ฮัลโหล นิชคุณ คุณรีบมาที่โรง’บาลเดียวนี้เลยนะ น้องหนูอาการกำเริบ”
“ครับ จะรีบไปเร็วที่สุด”
“เอ๊ะ คุณ.......” ไม่ต้องรอให้ปลายสายถามให้มากความ
“ผมอ๊คแทคยอนครับ...คุณหมอจองฮุน
อีกไม่เกิน 20 นาที คุณหมอนิชคุณไปถึงแน่นอน ฝากด้วยนะครับ”
มองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างสงสาร
ทั้งที่เสียงโทรศัพท์ออกจะดังแต่ร่างผอมบางยังคงหลับสนิท
แม้จะอยากให้พักผ่อนแค่ไหนแต่เรื่องของน้องหนูก็สำคัญสำหรับคนที่นอนหลับตาพริ้มนั้นเป็นอันดับหนึ่งของชีวิตอยู่แล้ว คนอย่างอ๊คแทคยอนไม่ได้อิจฉานะ แค่อยากได้รับการสนใจแบบนั้นบ้าง
“คุนนี่ ตื่นเถอะครับ”
“.........................”
“นิชคุณ ตื่นเถอะนะ”
นอกจากจะใช้เสียงปลุก ยังกดจูบลงไปยังริมฝีปากอิ่มที่บวมเปล่งลงไปแรงๆ
“ฮื้อ อะไรเหล่าคนจะนอน”
เสียงหวานเอ่ยก่อนจะหันหน้าหนีจากเสียงรบกวน
“คุณหมอจองฮุนโทรมาเรื่องน้องหนู”
“น้องหนู”
จากที่กำลังงัวเงีย...มันทำให้คุณหมอหนุ่มหายง่วงไปทันที ยังไม่ทันได้ถามอะไรก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเข้าไปอาบน้ำแถมแต่งตัวให้ด้วยชุดใหม่ ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในสิบนาทีก่อนที่นิชคุณจะนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเอสยูวีกึ่งสปอร์ตที่วิ่งด้วยความเร็วสูงไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปเพียงสี่บล็อกอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่ตอนขามาเจ้าของรถจะพาขับอ้อมไปเสียไกลทั้งคอนโดกับโรงพยาบาลอยู่ใกล้กันขนาดเดินมาไม่เหนื่อย
“น้องหนูเป็นไงบ้าง”
จองฮุนกับโจควอน
หันไปมองคนที่อยู่เบื้องหลังของเพื่อนสนิทเสียมากกว่าจะสนใจคนที่กำลังเกาะกระจกห้องไอซียูมองน้องสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่
ผิวของเด็กหญิงที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวซีดมากกว่าเดิมไหนจะมีรอยจ้ำห้อเลือดมากขึ้นอยู่
“พยาบาลเข้าไปเช็ค
ก่อนฉันลงตรวจวอร์ดกลางดึก
เลือดกำเดาน้องหนูไหลไม่หลุดแถมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น”
โจควอนเอื้อมมือไปกุมมือนิชคุณที่ตอนนี้มันเย็นเฉียบไปหมดแล้ว
น้ำตาค่อยๆ ไหลลงแก้มเนียนที่ซีดเซียวลงมาเป็นทาง แทคยอนดึงร่างโปร่งบางให้มาซุกในอ้อมกอดยิ่งกอดแน่นมากแค่ไหนคนในกอดก็ยิ่งสะอื้นมากขึ้นเท่านั้น
“คุณ นิชคุณ” เขาเรียกเสียงสั่นเมื่อรู้สึกถึงการทิ้งตัวลงของคนในอ้อมกอด
“คงเป็นลมเพราะพักผ่อนน้อยนะ” โจควอนเอ่ยบอกพร้อมเดินนำหน้าชายหนุ่มที่อุ้มจุนอยองตามมายังห้องพักแพทย์ที่มีเตียงนอนอยู่
แทคยอนวางนิชคุณลงบนเตียงของเจ้าตัว
พร้อมถอดรองเท้าและเสื้อโค้ทตัวหนา
แถมห่มผ้าห่มให้เสร็จสรรพ
“เราออกไปคุยกันข้างนอกไหมคุณอ๊คแทคยอน”
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรนอกจากเดินนำหน้าคุณหมอโจควอนออกมานอกห้องพักแพทย์เพราะดูท่าเรื่องที่จะคุยมันต้องและยาว
แถมอาจจะเสียงจนรบกวนคนที่กำลังต้องการพักผ่อน
“คุณจริงจังกับเพื่อนผมไหม?” โจควอนเอ่ยถามตรงๆ ตามนิสัย
“เพื่อนผมไม่ใช่คนที่เข้มแข็งอะไร
ถ้าคุณคิดหาของเล่นฆ่าเวลาเหมือนกับคนอื่นๆ ของคุณ เลิกยุ่งกับเพื่อนผมซะเถอะ หยุดตั้งแต่ตอนนี้”
แทคยอนที่ยืนลวงกระเป๋ากางเกงอยู่ริมระเบียงทางเดินข้างห้องพักแพทย์หันกับมามองคุณหมอที่ยืนอยู่ข้างกายก่อนจะหันออกไปมองนอกระเบียงที่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว
“ถ้าผมไม่หยุดล่ะ”
โจควอนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยเรียบๆ
“งั้นก็ยืนอยู่เคียงข้างเค้าซะสิ
เพราะไม่แน่ในอนาคตเค้าอาจทนอยู่บนโลกนี้ไม่ไหวหากต้องสูญเสียอีกครั้ง”
“ไม่มีทางรักษาน้องหนูเลยเหรอ
ต้องใช้เงินมากขนาดไหนถึงจะรักษาได้?”
โจควอนอดจะขำไม่ได้ก่อนเสียงใสจะเอ่ยขึ้น
“ถึงมีเงินแค่ไหนใช่ว่าจะยื้อชีวิตของคนป่วยได้ทุกคนหรอกนะคุณชายเล็กตระกูลคิม”
“คุณรู้?” ร่างสูงย้อนถาม
“ผมไม่ใช่มีชีวิตแค่โรงพยาบาลแล้วก็บ้านอุปถัมภ์เหมือนนิชคุณนะ ข่าวสารแวดวงไฮโซก็พอรู้บ้าง”
ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่คนฟังได้ฟังแล้วมันบาดไปถึงหัวใจ
“น้องหนูเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเฉียบพลัน เป็นเพราะยังเด็กอยู่ทำให้....ให้ยาหรือคีโมไม่ได้ทางเดียวที่จะรักษาได้คือรอผู้บริจาคไขกระดูกสันหลัง เพื่อปลูกถ่าย”
“แล้วยังไง
ไม่มีคนบริจาครึไง
หรืออาจจะมีคนขาย?” แทคยอนถามทั้งที่มองไปยังประตูห้องพักแพทย์
“กรุ๊ปเลือดเอบีปกติก็หายากอยู่เป็นทุนเดิม แล้วยิ่งเอบีเน็คกาทีฟใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ นะ”
“ถ้าไม่ได้ปลูกถ่าย
น้องหนูจะเป็นยังไง?”
“สองเดือนมากที่สุดแค่นั้น”
นี่ขนาดตัวเค้าเองเพิ่งรู้จักกับเด็กหญิงน่ารักที่ชื่อฮยอนอามาไม่นานยังรู้สึกเศร้าขนาดนี้แล้วคนในห้องนั้นล่ะ
ที่แทบครึ่งชีวิตที่ผูกพันกับน้องสาวบุญธรรมมาตลอดจะเป็นยังไง
++++tbc++++