วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Love_Match[KrisYeol]18



Love_Match[1]
Pairing :   KrisYeol
By  winata

~18~


ริมฝีปากได้รูปคู่นั้นฉกเข้ามาจูบผมโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร แน่นอนว่าตอนนี้สติของผมยังคงกลับมาไม่เต็มร้อยนักแต่ผมก็สนองจูบที่ป้อนมานั้น รสชาติหวานลิ้นที่ซ่านอยู่ภายในทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะตอบรับมันโดยที่ไม่รู้ตัว


เรียวลิ้นอุ่นลากไล้ตามเนื้อนิ่มของริมฝีปากผมก่อนที่มันจะลากเข้ามาในโพรงปากของผม เรียวลิ้นนั้นต้อนลิ้นของผมก่อนที่จะเกี่ยวพันกัน ผมไม่รู้ตัวว่าสองมือของผมนั้นเอื้อมไปโอบไหล่ของคนที่โน้มตามลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่


ฝ่ามืออุ่นค่อยๆสอดเข้ามาใต้เสื้อยืดของผม สัมผัสกับผิวเนื้อของผมแล้วลากไล้วนฝ่ามือกับสีข้างของผม ไม่รู้ว่ามือของคริสร้อนหรือตัวผมนั้นร้อนรุ่มกันแน่ ผมรู้สึกว่าภายในร่างของตัวเองเหมือนมีภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุอยู่ทุกขณะ 


คริสเลื่อนปลายนิ้วลากไล้ขึ้นมาสัมผัสที่ยอดอกของผม ผมเบี่ยงหน้าหนีจากจูบหวาน ๆ นั่นแล้ว ใช้สองมือดันร่างใหญ่ที่ทาบทับให้ออกห่าง


“ยะ... อย่านะ ไม่เอานะ.. พะ.. พี่ป่วยอยู่” คริสก้มลงมากระซิบชิดใบหูของผมพร้อมกับลมร้อน ๆ ที่สัมผัสแถวๆซอกคอ คริสงับซอกคอผมเบาๆก่อนที่จะไล้ปลายลิ้นลากไล้จนมาถึงติ่งหูแล้วงับมันเบา ๆ


“ก็ถ่ายไข้ไงครับ” ฝ่ามืออีกข้างค่อย ๆ ลากไล้ตัวผมก่อนที่มันทั้งสองจะขยี้บดปลายยอดอกของผม 


“ถึงจะบอกว่าให้หยุด...ผมก็ไม่ยอมหยุดหรอกนะ” เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับสองมือที่เริ่มทำหน้าที่ ความรู้สึกเสี่ยวซ่านเริ่มปะทุขึ้น ผมบิดตัวไปมาเมื่อรู้สึกถึงหัวเข่าของคริสกำลังไล้สีข้างของผมอยู่


เสื้อยืดที่ผมใส่ถูกถลกขึ้นไปกองไว้ที่คอ ริมฝีปากอุ่นคู่นั้นไล่จูบและฝากรอยไว้ทั่วทั้งหน้าอกของผม เมื่อยอดอกข้างหนึ่งของผมถูกริมฝีปากคู่นั้นครอบครอง มือที่ว่างก็สอดเข้าใต้ร่างผมแล้วลูบไล้แผ่นหลังผม 


ผมผวาตัวเข้าหาริมฝีปากนั้นที่คอยไล้เลียยอดอกของผมเป็นจังหวะ ผมใคร่อยากถามว่าเห็นผมเป็นไอศกรีมหรืออย่างไร? แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์ได้อ้าปากถามอะไรไปมากกว่าร้องครางเสียงหวานให้คนที่พยายามแกล้งผมนี่ได้ยิน


เมื่อเล่นข้างหนึ่งจนพอใจแล้วคริสก็ย้ายไปอีกข้างเพื่อเล่นกับมัน หรือหมายจะแกล้งให้ผมหวีดร้องอีกก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกว่าจังหวะที่กลีบปากคู่สวยนั้นลงจังหวะลงมามันช่างแรงและหนักกว่าทีแรกหนัก ผมได้แต่บิดตัวเร่า ๆ อยู่ใต้ร่างของคนชอบแกล้ง 


เสื้อที่กองอยู่ที่คอผมมันช่างทำให้ผมขยับลำบากเหลือเกิน  คริสช่วยผมถอดเสื้อนี้ออกเหมือนเขาจะรู้ว่าผมรำคาญมัน  เสื้อฮู้ดสีดำของคริสก็ถูกผมถอดออกเช่นกัน  เมื่อร่างกายมัดกล้ามสมส่วนนั่นอยู่ในสายตาของผม กลับเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายคว้าคออีกคนเข้ามาป้อนจูบให้


ผมไม่รู้ว่าผมหรือคริสที่กำลังนำเกมจูบนี้   แต่พอมารู้ตัวอีกทีผมก็ลงนอนที่เตียงเหมือนเดิมและกางเกงของผมก็ถูกปลดเสียแล้ว กางเกงขาสามส่วนค่อยๆถูกเลื่อนลงไปที่ปลายขาทั้ง ๆ ที่คริสยังคงจูบผมอยู่ ผมสอดมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมสั้นของคริสไว้เพื่อระบายความวาบวามนี้


คริสถอนจูบออกแล้วยืดตัวขึ้นใช้ฝ่ามือของเขาแนบเข้าที่แก้มของผมแล้วมองผมด้วยสายตาที่มันบอกทุกอย่างว่าเขารักผมมากแค่ไหน ดวงตาสวยคมคู่นั้นมองมาที่ผมอย่างรักใคร่ ผมเอียงหน้าจูบที่ฝ่ามือของเขาเพื่อย้ำบอกว่าเรื่องที่เราทะเลาะกันเมื่อครู่นี้ผมให้อภัยแล้ว


สองมือของผมถูกคริสรวบแล้วกดจูบที่หลังฝ่ามือเบา ๆ ก่อนที่คริสจะโน้มตัวลงมาทับผมไว้ทั้งตัว จนส่วนนั้นของเราสัมผัสกันและรู้สึกว่ามันขยายไปขนาดไหนแล้ว แก้มของผมคงร้อนและแดงมากแน่ ๆ ผมรู้สึกว่าหน้าผมกำลังจะระเบิด สายตาวิบวับที่คนตัวสูงกว่าส่งมาให้นั้นอีก ผมเลยได้แต่เบี่ยงหน้าหนีสายตาที่รุกต้อนผม 


คริสก้มหน้าลงเป่าลมร้อน ๆ รดใส่ซอกคอของผม ยามที่ส่วนนั้นของเราสัมผัสเสียดกันผมก็เผลอร้องครางฮือออกมา  น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นกระซิบแผ่วเบาชิดใบหูของผม  หลังจากจบประโยคนั้นคริสก็ขบเม้มที่ปลายติ่งหูของผมเบา ๆ


คริสรักผม... คริสรักผมคนเดียว... และเด็กนี่เป็นของผม 


ริมฝีปากร้าย ๆ นั้น  ขยับจูบเม้มที่ซอกคอแล้วลากลงมาที่หน้าอกของผม ส่วนสองมือนั้นก็ลากไล้ที่สีข้างของผม ลากสัมผัสลงต่ำเรื่อย ๆ ผ่านเอวลงมาและมาหยุดที่ขอบชั้นในของผม ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่นั้นจะได้ถอดมันออกผมก็คว้าจับสองมือนั้นออก


“ปิดไฟดีไหมคริส” คริสมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นถาม 


“ปิดทำไมครับ เห็นนายชัดดีออก” 


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ถึงจะแรดแต่พี่ชานยอลก็อายเป็นนะเว๊ย!!


“ปิดเดี๋ยวนี้เลยคริส” แต่เด็กตรงหน้ายังคงลอยหน้าลอยตา 


“ถ้าไม่ปิดก็จบแค่นี้นะ”


“ปิดก็ได้ ๆ โหดจังนะตัวแค่เนี้ยะ~” 


คริสลุกจากเตียงของผมไปปิดไฟ ผมก็เลยเปิดโคมไฟที่หัวเตียงไว้ แสงสลัว ๆ กับร่างของคริสที่ก้าวขึ้นมาคร่อมทับผมไว้เหมือนเดิม  มันทำให้ผมไม่อยากหยุดอะไรแล้วล่ะ


“งั้นก็ต่อเลยไหมล่ะ” ก็ยังไม่วายรั่วอีกนะ ผมไม่ตอบแต่ก็พยักหน้ารับไปเบา ๆ


คริสโน้มตัวลงจูบผมอีกครั้งพร้อมกับสองมือที่ค่อย ๆ ถอดกางเกงสามส่วนของผมให้หลุดออกไปและเกี่ยวเอาชั้นในตัวบางออกไปด้วย 


เมื่อร่างของผมเปลือยเปล่า   คริสก็ถอยร่นไปทางปลายเท้าของผม ส่วนนั้นของผมสัมผัสได้ถึงปลายลิ้นอุ่นที่ลากสัมผัสตรงส่วนปลายก่อนที่โพรงปากอุ่นนั้นจะครอบครองทั้งหมดแล้วสัมผัสมัน


ปลายนิ้วที่แตะไล้ตามความยาวก็สัมผัสแผ่วจนผมเสียวซ่าน มือของผมจิกลงกับผ้าปูที่นอนเพื่อระบาย
ความวาบวาม ปลายเท้าเกร็งจิกพื้นเตียงไว้เช่นกัน


“อื้อ...” ยิ่งผมหลุดครางเสียงหวานเท่าไหร่  คริสก็ยิ่งดูดรั้งส่วนปลายของผมอย่างแรงเพื่อให้ผมหลุดร้องครางออกมา ผมบิดกายไปมาอยู่ใต้อาณัติของคนตัวสูงกว่านี้


“ยะ.... อย่าแกล้งกันสิ” ผมบิดตัวเร้าเมื่อคริสยังคงย้ำเน้นจังหวะที่ปลายนั้นหนัก ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คริสจะทำสีหน้า
ยังไง แต่ตอนนี้ใบหน้าของผมคงจะเห่อแดงและร้อนจนแทบระเบิด


คริสเร่งเร้าจังหวะให้แรงและหนักหน่วงขึ้นจนร่างของผมหยัดเกร็ง ทั้งมือและเท้าจิกกับที่นอนไว้ ผมแอ่นกายขึ้นตามจังหวะที่ถูกชักนำ  คริสถอนริมฝีปากออกก่อนที่จะใช้มือขยับจังหวะให้รัวเร็วกว่าเดิม ไม่นานธารน้ำอุ่นก็ไหลทะลักออกมา ผมค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเพื่อที่จะลดอาการเกร็งนั้น


หยดน้ำเหนียวนั้นค่อย ๆ ไหลย้อยลงมาตามส่วนนั้นของผม เพียงเสียวนาทีผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้ามาในร่างของผม  กดเน้นย้ำซ้ำ ๆ กับด้านในของผม น้ำอุ่นนั้นช่วยเป็นตัวหล่อลื่นได้ดี ยังไม่ทันได้หวีดร้องหรือทำสิ่งใดเลย นิ้วที่สองก็สอดเข้ามา


“อ๊า...” ผมบิดกายเร่าแต่คริสกลับขยับขึ้นมากดจูบผมเสียก่อน ผมลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่มองจ้องสบตากับผม ดวงตาคู่คมนั้นฉายภาพผมอยู่เต็มทั้งสองนัยน์ตา แววประกายวูบวาบในนั้นยิ่งปลุกเร้าความต้องการในตัวผมให้มากยิ่งขึ้น


“ขะ.. เข้ามาเลยได้ไหม” คริสถอนจูบออกแล้วยิ้มมุมปากก่อนที่จะกดจูบหนัก ๆ ลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง กายใหญ่นั้นผละออกไปเพื่อถอดกางเกงแล้วโยนมันทิ้ง ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันถูกโยนไปทางไหน และผมก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก


คริสโน้มกายมาทาบทับผมอีกครั้ง  ปลายจมูกโด่งไล้ซุกไซร้ที่ซอกคอของผมพร้อมกับฟันคมที่ขบตามผิวเนื้อผม มันไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่ผมก็รู้ว่ามันจะต้องเป็นรอยแน่ ๆ 


ส่วนนั้นของคริสค่อย ๆ แทรกผ่านเข้ามา แม้ว่าคริสจะยังสาละวนกับซอกคอของผมอยู่ก็ตาม ผมค่อย ๆแยกขาออกให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะรับส่วนนั้นเข้ามา  อาจจะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเสียซิงก็ได้มั้ง  มันถึงทำให้ส่วนนั้นสอดแทรกเข้ามาจนสุดได้ในคราวเดียว


“เก่งมากครับ” คริสกระซิบเสียงทุ้มพร่าและกดปลายจมูกที่หลังหูของผม  
 ผมร้องครางฮือเมื่อรู้สึกว่าคริสขยับตัวเบา ๆ แต่แล้วเจ้าตัวก็หยุดนิ่งแล้วสอดมือเข้าประสานกับมือของผมแล้วกดลงกับพื้นเตียง คริสไล้วกจูบขึ้นมาที่ปากของผม  สอดลิ้นเข้ามาพันเกี่ยวกันแต่ส่วนที่เชื่อมกันต่อนั้นก็ยังไม่ขยับต่อสักที  ผมเบี่ยงหน้าหนีจูบนั้นก่อนที่จะมองคนที่ยิ้มกริ่มด้วยสายตาเว้าวอน


“ขยับสิ” สิ้นคำบอกคริสก็ค่อย ๆ ขยับส่วนนั้นเบา ๆ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาแล้วกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างแรงและหนักหน่วง ผมผวาขึ้นโอบรอบลำคอของคริสที่ซุกหน้าลงกับคอของผม ผมจิกเล็บที่ไหล่กว้างคู่นั้นอย่างแรงเมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นสอดเข้ามาลึกและแรงขึ้น สองขาของผมถูกมือของคริสแยกออกให้กว้างอีก


“อื้อ... อ๊ะ... คริส” ผมได้ยินเสียหอบหายใจและเสียงทุ้มชิดริมหู ผมรู้ว่าคริสเองก้ต้องการผม และผมก็ต้องการเขาเช่นกัน   คริสเงยหน้าจากซอกคอของผมแล้วจับล็อคเอวของผมไว้แล้วสอดส่วนนั้นเข้ามาอย่างแรงจนผมรู้สึกจุก


วันนี้คริสดูร้อนแรงและเร่าร้อนเป็นพิเศษ  และผมก็ไม่ปฏิเสธว่าผมชอบมัน  เอวของผมถูกยกขึ้นสูงเพื่อที่เขาจะได้แนบชิดกับผมมากยิ่งขึ้น  ผมสะบัดหน้าไปมาหลุดครางเสียงดังและจิกมือกับพื้นเตียงแน่น คริสยิ้มพอใจที่เห็นผมกำลังทุรนทุรายกับสัมผัสของเขา


แล้วจังหวะนั้นก็ค่อย ๆ ผ่อนลงเป็นช้าเนิบนาบเสียจนผมรู้สึกขัดใจ หัวคิ้วของผมขมวดมุ่นแล้วมองหน้าที่ยกยิ้มอย่างไม่เข้าใจ  สองขาของผมถูกยกขึ้นพาดไหล่แข็งแรงนั้นทั้งสองข้าง  คริสโน้มตัวลงมาใกล้ ใกล้ชิดเพียงแค่ลมหายใจกั้น


“ห้ามรัดคอผมอีกนะครับที่รัก” 


คริสกระตุกยิ้มแล้วเริ่มเร่งจังหวะจนผมหวีดร้องขึ้นมาอีก  ผมพยายามที่จะไม่เลื่อนขาไปเกี่ยวคอของเขานะแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สมองของผมจะขาวโพลนไปหมดแล้ว ยิ่งอยู่ในท่านี้ส่วนนั้นก็ยิ่งสอดได้เข้ามาลึกกว่าเดิมเสียอีก 


แรงกระแทกที่สวนเข้ามานั้นทำเอาตัวของผมสั่นคลอนไปพร้อมกับเตียงหลังนี้ ผมได้ยินเสียงทุ้มแหบพร่าครางอือในลำคอ ขาทั้งสองข้างเกือบแนบชิดติดอกของผม คริสโน้มตัวโถมแรงเข้ามาอีกและผมก็ไม่รู้ตัวอะไรอีกเลย


“ชานยอลครับ บอกแล้วไงว่าห้ามรัดคอน่ะ” ผมหันกลับมามองก็เห็นว่าผมเกี่ยวขาไขว้รอบลำคอของเด็กตรงหน้าอยู่จริง ๆ จึงละขาข้างหนึ่งออกจากการพาดไหล่กว้างนั้นมาเกี่ยวเอวสอบนั่นแทน คริสก้มหน้าลงมาที่ต้นคอของผม ผมก็เลยกัดเข้าที่ไหล่กว้างเพื่อระบายความเสียวซ่านที่มวลท้องอยู่นี้


ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมสอดมือเข้าขยุ้มเส้นผมสีเข้มนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ริมฝีปากบางคู่บางป้อนจูบหวาน ๆ มาให้พร้อมกับแรงกระแทกที่เร่งเร้าและวามไหว 


“รักนะครับ ... รักชานยอลมากนะ”


“อะ.. อื้อ...” ผมไม่รู้แล้วว่าเสียงไหนคือคำตอบและสิ่งไหนคือเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของผมตอนนี้ คำว่ารักอีกหลายครั้งที่คริสกระซิบบอกผมมันยิ่งทำให้ผมล่องลอยคล้ายกับอยู่ในอากาศ สิ่งที่เชื่อมเราไว้นั้นยังคงส่งแรงกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนผมเผยอยกเอวตอบรับจังหวะนั้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้


ธารน้ำอุ่นค่อย ๆ ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง แต่คนด้านบนยังคงขยับต่อเป็นจังหวะอีกสักแปบก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรอุ่น ๆ ในกาย ร่างที่หยัดเกร็งของผมค่อยๆผ่อนคลายลง 


คริสขยับเพื่อให้ธารนั้นฝากไว้ในร่างของผมทุกหยาดหยดก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ถอนสิ่งนั้นออกแล้วลงนอนเคียงข้างผม ผมพลิกร่างเข้าหาคริสและจ้องมองใบหน้าที่งดงามตรงหน้า ลูบไล้เบา ๆ ตามแก้มเนียน คริสส่งยิ้มหวานให้กับผม เรายิ้มให้กันและกันก่อนที่ผมจะยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากบางคู่นั้นอย่างหลงใหล


คริสตอบรับจูบของผม ปลายลิ้นของเรากระหวัดพันกันอย่างรวดเร็ว ร่างกายขยับเบียดแนบชิดจนผมเทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนอกของคริส 


รักชานยอลมากนะ รักมากที่สุด รักๆๆ .. รักมากนะครับ” คริสกระซิบบอกคำรักไม่รู้กี่พันครั้ง ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ 


พี่ก็... รักคริสมากนะคริสกระชับอ้อมกอดแล้วดึงผ้านวมที่ไม่รู้ว่าหล่นไปอยู่ข้างเตียงได้ยังไงขึ้นมาห่มร่างของเราทั้งสองคนเอาไว้ 


พักเอาแรงก่อนนะครับ ...คืนนี้ยังอีกยาวไกล” 


ทะลึ่ง ไอ้เด็กบ้านี่!” ผมต่อว่าไม่จริงจังกับคำพูดนั้นของคริส เพราะถึงจริงจังไปก็ลดความหื่นของไอ้เด็กบ้านี่ไม่ได้อยู่ดี 


แต่เลือดที่สูบฉีดได้ดีเยี่ยมตรงหน้านี่สิเล่นเอาผมเกือบคิดว่ามีภูเขาไฟมาวางแปะเลย ร้อนไปหมดเลย


อ๊ะ... ทะลึ่งเหรอ? แล้วชานยอลไม่อยากทำอีกหรือไงครับ หื้ม? บอกสิว่าไม่เดี๋ยวจะได้กลับเดี๋ยวนี้เลย” 


ดูมันพู๊ดดดเซ๊ะะะะะะะ โว๊ย!!!


ใครจะกล้าตอบว่าไม่ล่ะกันล่ะฟร๊ะ!! อ้อมแขนของผมก็ทำอย่างที่จิตใต้สำนึกต้องการไส้เต็มเปี่ยม นั่นก็คือกอดร่างของคริสไว้แน่น ๆ แน่นอนว่าไม่ให้เด็กนี่กลับได้หรอก 


ตกลงว่าไงครับที่รักคริสถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ หนอยๆๆๆ ทำเสียงเป็นต่อเชียวนะเว้ยมึงไอ้เด็กบ้า


พักก่อนก็ได้อ่า... ผมเปล่าทะลึ่งนะ แหะ ๆ แล้วเด็กนี่ก็ไม่ว่าอะไรให้ผมอายอีกนอกจากยิ้มกว้าง กว้างเสียจนปากจะถึงรูหูอยู่แล้วไอ้บ้า!!! อ้อมแขนยาวนั้นตวัดโอบกอดกระชับผมไว้แล้วก็นอนนิ่ง ๆ... อย่างนั้น... 


แต่คริสก็ไม่ได้นอนกอดผมนิ่ง ๆ ทั้งคืนหรอกนะ อิอิ  

 ไม่บอกหรอกว่าผมโดนเด็กนี่กินไปกี่รอบ อิอิ
ก็อย่างว่าคืนนี้ยังอีกยาวไกลจริงๆ All Night long มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


>>>>รักกันจริงรบกวนกลับไปเม้นที่ เด็กดี นะคะ <<<<<



วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Love_Match[KrisYeol]13




Love_Match[1]
Pairing :   KrisYeol
By  winata

~13~
 





ปลายจมูกโด่งของคริสแตะไล่ตั้งแต่แก้มของผมจนมาถึงริมฝีปาก   ซึ่งผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีแล้วแต่ก็ไม่รอดพ้น    ริมฝีปากบางได้รูปนั่นแนบลงมากับกลีบปากของผม  เพียงแค่คริสขยับสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้งผมก็อ่อนโอนผ่อนตามไปเสียแล้ว   มือที่เคยดันไหล่กว้างของคริสให้ถอยห่างก็เปลี่ยนเป็นยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งนั้นแล้วเหนี่ยวรั้งร่างสูงยาวนี่ให้แนบชิด   เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาไล่ต้อนลิ้นของผมและตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ และสมองก็กำลังจะขาวโพลนอีกครั้ง 


ผมหายใจติดขัดเมื่อฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งของคริสค่อย ๆ ดึงเอาชายเสื้อนักศึกษาของผมออกก่อนที่จะสอดมือเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังเบา ๆ จน  ผมหวามไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์ ปลายนิ้วไล้สัมผัสมันแผ่วเบาเพื่อปล่อยให้ผมผ่อนตาม


ผมได้แต่ครางฮือในลำคอเพราะถูกปิดปากเอาไว้  ซ้ำเรียวลิ้นอุ่นจนร้อนจัดนั้นยังคงไล่ต้อนและเกี่ยวกระหวัดตามไล่ผมไม่ห่าง ตอนนี้สมองของผมขาวโพลนไปหมดแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออก ตอนนี้ร่างกายของผมนึกถึงและคิดถึงสัมผัสของคริสเท่านั้น  ปลายนิ้วอีกข้างค่อย ๆ ปลดกระดุมที่เสื้อของผมออกโดยที่ผมไม่รู้ตัว มารู้สึกเอาก็ตอนที่ตุ่มเล็ก ๆ ของทั้งสองนิ้วบดขยี้ไปเสียแล้ว 


ดะ... เดี๋ยวก่อน” 

ผมถอนจูบและดันไหล่ของคริสไว้ พยายามขืนตัวออกเต็มที่ แต่ทว่าก็ออกห่างเด็กนี่ได้ไม่ถึงคืบด้วยซ้ำเพราะคริสเอือมมือโอบผมไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงนั่น 


ชานยอล” คริสกระซิบเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่า ดวงตาคู่คมฉายแววอ้อนวอนให้ผมยอมความ ริมฝีปากบางได้รูปคู่นั้นคอยเฝ้าไล้จูบตามแนวคางของผม 


นะครับคนดีเสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาชิดใบหู พร้อมกับฝ่ามืออุ่นลากไล้ที่แผ่นหลังและสีข้างของผม
ตะ... แต่... แต่... พี่... พี่ไม่... เคยนะ” ผมตอบกลับเสียงแผ่วพลิ้ว คริสยิ้มกว้างทั้งตาและปากทำเอาผมใจอ่อนวาบ ร่างของผมถูกอ้อมแขนนั้นโอบกอดไว้แนบชิด


นั่นไม่ใช่ปัญหา” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี


แต่...” ผมยังคงค้านแต่น้ำเสียงของผมเบาหวิวยิ่งนัก ยิ่งเรียวปากได้รูปพรมจูบไปทั่วแก้มและไล้เลยขึ้นไปยังใบหู และขบเม้มที่ปลายติ่งเบาๆ เรี่ยวแรงและคำเอ่ยค้านก็หายวับไปหมด



นะครับคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วที่ข้างหู ลมเบาๆที่เป่าเข้าหูผมทำเอาสั่นสะท้านไปทั่วร้าง และเพียงเท่านี้ ผมก็ไม่ขัดขืนอีกต่อไป 


ไม่มีคำอนุญาตจากผม   แต่สองมือที่เอื้อมขึ้นไปโอบรอบต้นคอของคริสอีกครั้งนั้นก็มากพอที่จะเป็นคำอนุญาตได้แล้ว  กลีบปากคู่นั้นยามนี้ช่างร้อนจัดเสียจนผมรู้สึกถึงมันทุกครั้งยามที่ลากไล้ผ่านผิวเนื้อของผม 


ทุกครั้งยามที่เรียวปากคู่นั้นสัมผัสที่ผิวกายของผม  อุณหภูมิในร่างกายก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นดั่งเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำและร้อนแรงยิ่งขึ้น  หัวใจที่เคยสั่นเพราะกลัวของผมตอนนี้มันก็เต้นรัวอย่างวามใจ

 
ฝ่ามือใหญ่ที่ลากไล้ผ่านลำคอลงมาที่หน้าอกของผมนั้น ค่อยๆไล้ปัดผ่านยอดอกของผมไปราวกับหยอกเล่น ไล้วนลงไปถึงหน้าท้องของผมก่อนที่จะค่อย ๆ วกขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่จูบซับไล้ตามมา 


ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกของผม   ส่วนอีกข้างก็โดนปลายลิ้นอุ่นไล้สัมผัส ทั้งขบและกัดเบา ๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวซ่าน  จนผมเผลอเกร็งจิกมือเข้ากับเส้นผมของคนที่แทบจะคร่อมผมไว้  เสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอ มันช่างน่าอายยิ่งนัก 


ยิ่งเสียงน่าอายนั้นครางถี่ขึ้น  คริสก็ยิ่งพยายามที่จะทำให้ผมร้องดังขึ้นอีกด้วยการครอบครองยอดอกแล้วผมแล้วไล้เลียดูดมันให้แรงขึ้นอีก ผมบิดกายไปมาอย่างวามไหว แบบนี้ใครจะทานทนได้กันล่ะ 


คะ.. คริสร่างสูงนั่นเงยสายตาขึ้นมามองผม   ก่อนที่จะก้มหน้าลงจัดการกับยอดอกอีกข้างของผม ฝ่ามืออุ่นข้างที่ว่างก็ลูบไล้ตามแนวสีข้างขึ้นลงแผ่วเบา   จนผมก็ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้สติของผมอยู่ที่ไหน ผมเผลอหลุดครางเสียงแผ่วนั้นออกมาอีกครั้ง  คริสยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะกดจูบฝากรอยไว้ที่หน้าอกและลำคอของผม 


ฝ่ามือใหญ่ไล้สัมผัสจากหัวไหล่ลงมายังแขน   และลูบไล้สีข้างของผมก่อนที่มันจะค่อยๆปลดแก้เข็มขัดนักศึกษาของผมออก ริมฝีปากคู่นั้นยังคงจูบซับทำรอยที่มันลากไล้ รอยจ้ำสีอ่อนค่อย ๆ ผุดตามที่กลีบปากคู่นั้นลากผ่าน 


คริสยังคงสาละวนกับซอกคอของผม  เขายังคงจูบซับทำรอยอยู่ ฝ่ามืออุ่นค่อย ๆ ดันร่างของผมให้ลงนอนกับพื้นเตียงนิ่ม  พอแผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงความนิ่มของเตียงแล้วนั้น  ริมฝีปากคู่นั้นก็ตามมาสัมผัสป้อนรสหวานให้อีกครา  มันช่างดูดดื่ม  เร่าร้อนและเร่งเร้าให้สติของผมพร่าเลือนเสียเหลือเกิน 


แผ่นอกของผมหยัดขึ้น    เมื่อริมฝีปากคู่นั้นก้มลงต่ำไปสัมผัสมันอีกครั้ง ครั้งนี้คริสยิ่งไล้สัมผัสมันหนักหน่วงกว่าเมื่อครู่ยิ่งนัก    จนเผลอตัวยกหน้าอกเข้าใกล้ริมฝีปากคู่นั้นเสียเอง มุมปากของคนทาบทับผมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ  ปลายเรียวนิ้วแข็งค่อย ๆ ลากผ่านแนวสีข้างออกผมลงไปแล้วเลยล้วงเข้าไปในกางเกงของผมจนไล้วนสัมผัสกับช่วงเอวขอดของผม   และไม่นานกางเกงนักศึกษาที่ถูกระเบียบของผมก็ค่อย ๆ  รูดลงไปโดนที่ผมไม่รู้ตัว ก่อนที่ริมฝีปากคู่นั่นจะปล่อยยอดอกของผม ผมก็เอ่ยเรียกเขาไว้ด้วยเสียงสั่นพร่าของผม

 
อ๊า... คริส... เดี๋ยว” เสียงสั่นของผม หยุดชะงักของเขาที่กำลังก้มลงไปด้านล่าง คริสเงยหน้าผมมองด้วยสายตาที่ทอแววว่าตอนนี้กำลังต้องการผมอย่างมาก หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ผมได้ยินเสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าปกติ 


ทำไมไม่มีร่องรอยความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น   เขาเพียงแค่ถามด้วยความสงสัยเท่านั้น


มัน... สว่างไป... พี่... พี่อาย” 


ผมบอกเสียงแผ่วก่อนที่จะดึงสาบเสื้อนักศึกษา   ที่แหวกออกจนเห็นร่างของผมมาปิดตัวเองไว้ก่อน ใบหน้าที่แดงจัดของผมเบี่ยงหันหนีไป  คริสยิ้มบาง ๆ  ก่อนที่จะหันไปรูดม่านปิดเตียงเราเอาไว้
ดวงตาคู่คมที่ทอดมองผมในยามนี้นั้นช่างอ่อนหวาน ต้องการและอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ มันทำให้ผมหลงเด็กตรงหน้านี้แทบจะโงหัวไม่ขึ้น


เมื่อม่านถูกรูดปิดกลั้นเตียงไว้หมดแล้วก็ยังคงเห็นเป็นแสงสลัว ๆ แต่ก็ไม่ถึงกลับมืด ผมยังคงคงเห็นคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้และเขาก็คงเห็นเรือนร่างของผมเช่นกัน    ใบหน้าคมที่ทอดมองผมอยู่นั้น แค่ผมมองก็รู้แล้วว่าเขารักและต้องการผมมากแค่ไหน  และนั่นทำให้ผมยอมเขาโดยที่ไม่คิดที่จะห้ามอะไรอีกต่อไป 


ปลายนิ้วยาวเอื้อมมาไล้สัมผัสที่แก้มร้อนจัดของผม  และผมคิดว่าเขาคงรับรู้   รอยยิ้มที่วาดขึ้นตอนสัมผัสมันนั้นกำลังเอ่ยล้อผม  ปลายเรียวนิ้วไล้เบา ๆ ทั้งแก้มผม หลังใบหูและต้นคอของผม ขยับไล้สร้างความวามแก่ผมจนผมหลับตาลงรับสัมผัสนั้นและเอียงใบหน้าเข้าหามือนั้นเสียเอง



ถ้าไม่แน่ใจก็บอกให้ผมหยุดเสียตอนนี้” เป็นคำพูดที่สุภาพบุรุษที่สุดเลยแฟนผมน่ะ อึ๊ยๆๆ เขินตัวจะแตก


 
“แต่ฉันไม่อยากหยุดแล้วล่ะ” แล้วก่อนหน้านั้นจะพูดเพื่อ



เป็นของฉันเถอะนะชานยอลก่อนที่ฉันจะคลั่งไปมากกว่านี้” ผมพูดไม่ออกและแต่มองสบตาคู่นั้น
ฉัน...ต้องการนายมากนะ” เสียงแผ่วเบาของคริสนั้น   กระตุ้นอารมณ์ในกายของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มันทำให้ความกลัวทั้งหลายของผมหายไปหมด    ด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบที่พูดว่าต้องการผม เพียงแค่นั้นผมก็พร้อมยอมเป็นของคริสแล้ว


ผมเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้เสี้ยวหน้าของคริส    ริมฝีปากได้รูปนั้นหันมาจูบที่ฝ่ามือของผม คริสหันหน้ากลับมาสบตาของผมอีกครั้ง 



ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรให้มากมายไปมากกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือไง   ก็ในเมื่อในหัวใจและทุกความรู้สึกของผมมีแต่เด็กบ้าคนนี้ครอบครองและสายตาที่มองกลับมานั้นก็บอกผมหมดทุกอย่างอยู่แล้วว่า ใครกันที่เป็นคนครอบครองหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้ และ.. มันอาจจะตลอดไป

 
ถ้าไม่ใช่ผม แล้วจะเป็นใครล่ะ



ผมค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นเข้าหาคริสแล้วแตะริมฝีปากของผมเข้ากับริมฝีปากของคริส และเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อนแม้ว่าจะดูเก้ ๆ กัง ๆ   แต่คริสก็จูบตอบและค่อย ๆ นำผมไป เรี่ยวแรงของผมไม่เหลืออีกแล้วเมื่อจูบหวาน ๆ นั้นป้อนมาให้คำโต   ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพร้อม ๆ กับร่างใหญ่กว่านั้นที่ตามทับลงมา 



ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาไล้เกี่ยวกับสิ้นของผมที่ตอนนี้ตอบรับกระหวัดกันอย่างไม่เขินอาย ตอนนี้อารมณ์ต้องการของผมก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่



เสื้อนักศึกษาที่ยังคงคาไว้ที่ไหล่ของผมค่อยๆถูกคริสถอดมันออก ผมขยับกายลุกขึ้นอีกนิดเพื่อที่ให้คริสดึงเสื้อนั้นออกไปให้พ้นทาง ทั้งๆที่เรายังคงจูบกันไม่ห่างแต่มือของคริสกลับทำหน้าที่ของมันได้ดีเหลือเกิน ดีเกินไปจนผมแทบคลั่งทุกครั้งที่ปลายนิ้วนั้นไล้ผ่านผิวเนื้อของผม 



เมื่อไร้สิ่งดั้นขวางใด ๆ  คริสก็ก้มลงสัมผัสจูบตามแนวซอกคอของผม สิ่งเดียวที่ผมทำได้เพื่อระบายความวามไหวก็คือเสียงครางของผมที่ดังแผ่ว  คริสค่อย ๆ เคลื่อนกายลงทาบทับผมลงมาชิดกว่าเดิม 



ลมหายใจร้อนที่เป่ารดและไล้ไปทั่วยามที่กลีบปากคู่นั้น   ไล้ขมเม้มทำรอยทำเอาสติผมกระเจิง  ผมบิดตัวไปมา  สองขายาวที่คร่อมตัวผมไว้ก็ถูไล้แนวสีข้างผมเบา ๆ  คริสรุกผมทุกทางจนผมไม่มีทางรอดการโลมเล้านี้เลย   ผมตกบ่วงแห่งความต้องการเขาไปจนปีนกลับขึ้นมาไม่ได้เสียแล้ว



คริสยังคงแทะเล็มซอกคอของผม   สองมือก็ยังคงสาละวนกับการลูบไล้ผม ไล้ลงสีข้าจนไปถึงเอวขอดแล้ววนกลับขึ้นมาทีเดิม ลูบไล้ซ้ำ ๆจ นสมองของผมแทบหยุดสั่งงาน  



“อ๊ะ..” ผมเผลอหลุดครางเสียงดังเมื่อฝ่ามืออุ่นไล้วนมาที่หน้าท้องของผม 



ผมเผลอหยุดขาขึ้น  และมันก็ชนเข้ากับอะไรบางสิ่งที่กำลังพองอยู่ใต้กางเกงนักศึกษาของอีกฝ่าย และมันยิ่งทำให้ผมแก้มร้อนมากเข้าไปอีก 



คริสวกริมฝีปากกลับมาป้อนจูบให้ผมอีกครั้ง  และสองมือก็ค่อย ๆ  ลากไล้ลงไปยังกางเกงของผมที่ถูกปลดตะขอไว้แล้ว  มันเกาะสะโพกของผมอย่างหมิ่นเหม่เพียแค่สองมือนั่นลากเข้าไปในกางมันก็ค่อย ๆ รูดลงทันที กางเกงของผมถูกรั้งลงไปเรื่อย ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง   ส่วนอีกข้างก็เฝ้าวนไล้ที่หน้าท้องของผมและริมฝีปากได้รูปที่คอยเฝ้าป้อนจูบไม่ห่าง



ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว   ผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป   สองมือของผมเอื่อมขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งแล้วรั้งให้คริสเข้ามาใกล้และมอบสัมผัสให้ผมมากยิ่งขึ้น..ผมต้องการมากกว่านี้.. มากกว่านี้.. และเร่าร้อนกว่านี้



ผมจิกเล็บลงที่ไหล่ของคริส   เมื่อเจ้าตัวใช้สองมือปัดผ่านสิ่งอ่อนไหวของผมที่กำลังค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เสียงครางอื้อในลำคอ   เรียกให้คริสยิ่งแกล้งผมโดยการวนผ่านไปมา  มืออีกข้างที่วนหน้าท้องอยู่ก็ค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ท้องน้อยใกล้กับส่วนนั้น     แต่ฝ่ามืออุ่นก็วกกลับขึ้นมาที่เดิมอีกคราจนผมเผลอคราออกไปด้วยความไม่พอใจ  คนด้านบนกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าของผม 




ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนออกไป รู้แค่เพียงในดวงตาคมนั้นฉายแววพึงพอใจเสียเหลือเกิน



คริสค่อย ๆ ผละจากผมแล้วค่อย ๆ ถดตัวกลับไปด้านล่างเพื่อที่จะถอดกางเกงของผมให้หลุดออกจากร่างแต่ผมก็ผวาทันทีเมื่อเห็นว่าร่างใหญ่นี่ถอยออกไป  สองมือของผมจับที่ไหล่คริส



“ดะ... เดี๋ยวก่อน”



“ทำไมครับที่รัก” เสียงงทุ้มเอ่ยกลับมาด้วยถ้อยคำหวาน ทำเอาผมลืมไปชั่วขณะว่าเอ่ยรั้งทำไมกันทั้ง ๆ ที่ผมก็ต้องการมันเช่นกัน



“คะ... คือห้ามขำเด็ดขาดนะ” แม้จะทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่คริสก็พยักหน้ารับ




กางเกงสแล็คสีดำที่ถูกต้องตามกฎระเบียบมหาวิทยาลัยค่อย ๆ ถูกดึงออกและเผยสิ่งที่น่าอับอายของผม คริสมองมันแล้วก็ยิ้มกริ่ม  ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผม  ส่วนผมก็ได้แต่เบือนหน้าหนีสายตาร้อนรุ่มนั้น




กางเกงซับในลูกไม้สีขาวที่ผมสวมนั้น  ไม่ได้ช่วยให้มันปกปิดอะไรเลยสักนิด คริสขยับตัวขึ้นมากระซิบเสียงแหบข้างหูผม




“นายเซ็กซี่เป็นบ้าเลยชานยอล” ผมเม้มปากไม่ตอบแล้วก็ได้แต่เบือนหน้าหนีอยู่แบบนั้น 
คริสกดปลายจมูกลงกับแก้มของผมก่อนที่จะถอยตัวลงไปที่เดิม
ฝ่ามืออุ่นไล้ที่หน้าขาของผมเบา ๆ  จะไล้ผ่านปลายขาของกางเกงซับในขาบานของผม ยิ่งปลายนิ้วนั่นไล้ขึ้นสูงเท่าไหร่   อาการวูบหน่วงในท้องก็ยิ่งเกร็งตาม มืออีกข้างก็ไล้วนที่ต้นขาด้านใน  ปลายลิ้นอุ่นไล้วนที่รอบสะดือของผม  สร้างความเสียวซ่านจนผมเผลอหยัดกายขึ้นรับสัมผัสเหล่านั้น




“อ่า... คริส” ผมครางเรียกชื่อร่างสูงเสียงสั่นเครือ เสียงที่ผมได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันช่างแหบพร่าและเซ็กซี่แบบที่คริสบอกนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมก็คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว



ส่วนนั้นของผมค่อย ๆ พองออกจนแทบจนล้นออกมาจากชั้นในตัวบางนั้น   คริสค่อย ๆ  ดึงชั้นในของผมลงต่ำจนมันกองอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งแล้วก็จัดการกับส่วนที่แข็งขืน  ปลายนิ้วไล้ตรงท่อนลำนั้นเบา ๆ ก่อนที่โพรงปากอุ่นจะเข้าครองครองมัน



“อ๊า...” ผมหยัดสองขาขึ้นจิกพื้นเตียงไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนไล้วนส่วนปลายให้วาบวาม  เมื่อคริสเริ่มขยับผมก็เริ่มหวีดร้องอีกครั้งและยิ่งจิกพื้นเตียงเพื่อระบายความเสียวซ่านนั้น



ร่างของผมส่ายรับจังหวะนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวและมันคงทำให้คริสแทบคลั่งแน่ ๆ เพราะเจ้าตัวดูสนุกเหลือเกินกับการที่ได้เล่นสนุกกับร่างของผม  สองมือของผมกำผ้าปูเตียงของคริสแน่น ขย้ำจนมันแทบจะขาดติดมือมาอยู่แล้ว ยิ่งคริสเร่งเร้าจังหวะผมก็ยิ่งหวีดร้องและผวาตอบรับจังหวะนั้น 



อาการวามในใจยิ่งพุ่งสูง   จนผมเลื่อนมือไปสอดไล้เข้าใต้เส้นผมสีเข้มของคริสแล้วขยุ้มเส้นผมนั้นแทน จังหวะที่เร่งเร้าก็ค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้น  จนผมเกร็งไปทั้งร่างและปลดปล่อยสายธารนั้นออกมา มันไหลย้อยจากส่วนปลายลงไปด้านล่าง หลังจากปลดปล่อยจนหมดผมก็ผวาลุกขึ้นทันที




“ขอโทษนะ”  ผมช่วยเช็ดมุมปากของคริสที่เปื้อนน้ำสายนั้นของผมด้วยทีท่าตกใจ   แต่คริสกลับยิ้มขำแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบผม รสชาติเค็มแปลก ๆ ที่ผมสัมผัสได้ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด



“น่ารักจังนะ” แล้วคริสก็ได้กำปั้นทุบอกเป็นของตอบแทน



“ถอดเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงเขินอายแช่งด่าไอ้เด็กบ้านี่กลับไปแล้ว 



แต่ตอนนี้มันต่างออกไปผมได้แต่ยื่นมือสั่น ๆ ออกไปค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อให้ผิวกายขาวที่มีมัดกล้ามเผยต่อสายตาผมทำเอาแก้มของผมร้อนหนักกว่าเดิม   ผมไม่กล้าที่จะขยับทำอะไรอีกแต่เสียงกระเส่าที่ชิดริมหูผมนี่สิ



“ถอดกางเกงให้ผมด้วยสิครับที่รัก” สองมือของผมที่วางอยู่บนแผงอกมัดกล้ามนั้นค่อย ๆ ไล้ลงต่ำไปที่หัวเข็มขัด  ผมได้ยินเสียงทุ้มครางแผ่วยามที่ผมลากมือผ่านลงไปด้วย   หลังจากปลดเข็มขัดได้ผมก็ปลดกระดุมกางเกงออก  เพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ตื่นตัวเต็มที่แล้วอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีดำนั้น



คริสช้อนใบหน้าผมแล้วคร่อมทับผมอีกครั้ง  ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้งโดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับไม่ห่างและจูบของเราก็ไม่ยอมห่างเช่นกัน



“ไม่ต้องเกร็งนะครับ” เสียงแหบที่กระซิบข้างหูเรียกให้ผมพยักหน้ารับตาม 



คริสละจูบออกไปแล้วเพียงไม่นาน   ผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สัมผัสที่ส่วนปลายของผมปาดเช็ดคราบน้ำเหนียวนั้นและชโลมมันที่ช่องทางด้านหลัง   เมื่อโดนกระตุ้นสองขาของผมก็หยัดขึ้นและแยกออกโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ผมจะผวาเฮือกเมื่อสัมผัสถึงปลายนิ้วนั้นที่ลำแหละเข้ามา



“อ๊า... คริสฉันเจ็บ” ผมหลับตาแน่นแล้วเบือนหน้าหนี  คริสตามมาประกบจูบผมแล้วจูบซับมุมปากของผม



“อย่าเกร็งนะ” ผมพยักหน้าอีกรอบก่อนที่จะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ คริสยังคงสาละวนกับการจูบซับซอกคอผมอยู่   เมื่อผมหายใจได้เป็นปกติเรียวนิ้วนั้นก็ขยับเป็นจังหวะ มันยิ่งสร้างความรัญจวนใจแก่ผมยิ่งนัก เสียงครางหวานหูสำหรับคริสก็ดังขึ้นอีก



คริสขยับปลายนิ้วเบา ๆ ก่อนที่จะเร่งจังหวะที่หนักหน่วงและเร็วขึ้น   แล้วนิ้วที่สองก็ตามแทรกเข้ามาผมหยัดกายขึ้นสูงอย่างวามไหวแล้วหอบหายใจแรง  คริสก็คอยจูบซับผม มืออีกข้างก็คอยลูบเนื้อตัวผมให้ผ่อนคลาย ขยับแทรกจังหวะสอดประสานไปกับผมที่ตอบรับจังหวะนั้น 



แล้วจู่ ๆ ปลายนิ้วนั้นก็ถอนออกไปเล่นเอาผมผวาตัวตาม  จนคริสส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ ผมยกกำปั้นขึ้นทุบที่อกเขาเบาๆ เพราะผมแทบจะไม่เหลือแรงแล้ว 



ร่างใหญ่ที่ทาบทับนั้นผละออกเพื่อถอดสิ่งกีดขวางของเขาออก  ผมเหลือบตามองก็เห็นส่วนนั้นที่มันขยายเสียเต็มที่และพร้อมที่จะออกรบแล้ว    มันใหญ่กว่าของผมมากนักแล้วทฤษฎีที่ผมเคยอ่านเจอในเน็ตก็แล่นเข้าหัวทันทีว่าการที่โดนยิงโกลด์นั้นเหมือนกันเราเอานิ้วมือยัดรูจมูกนั่นแหละ   ถึงจะรูไม่เท่ากัน ขนาดไม่เท่ากัน



แต่ความเจ็บ พอๆกัน! ใจของผมฝ่อไปเสียแล้ว แล้วคริสคงจะรู้เลยจัดการป้ายน้ำเหนียวที่ผมทำเลอะไว้ที่ส่วนปลายของเขาแล้วค่อย ๆ แทรกผ่านเข้ามาในร่างของผม



“อ๊ะ! คริส!!” ผมผวาขึ้นกอดเขาทันทีที่ความเจ็บแล่นเข้ามา คริสลูบหลังและจูบขมับปลอบผมแต่ผมกลับนึกกลัวเสียแล้ว 


ก็ไอ้นั่นมันเล็กซะเมื่อไหร่เล่า!!



“ถ้าเจ็บหรือทนไม่ไหวก็ข่วนหลังหรือจะกัดไหล่ก็ได้นะ” เมื่อสิ่งนั้นค่อย ๆ แทรกเข้ามาผมก็ผวาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั้นเพื่อระบายความเจ็บ  เมื่อผมไม่ไหวคริสก็ยังคงคาไว้แบบนั้นเพื่อรอให้ผมปรับจังหวะลมหายใจ   ริมฝีปากคู่นั้นก้มลงมามอบจูบหวาน ๆ ให้ผมอีกครั้ง  สองแขนที่เท้าค้ำไว้ก็ค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วมาประคองสองแก้มของผม   ปลายนิ้วที่คลึงเบา ๆ เรียกให้ผมสงบขึ้นเยอะ หลังจากที่ผ่อนลมหายใจได้เป็นปกติความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการจนผมยกเอวขึ้นตอบรับสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว




สิ่งนั้นค่อย ๆ ขยับผ่านร่างของผมเข้ามา ผมที่กำลังหลังมัวเมากับรสจูบที่ป้อนมานี้ก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามันแทรกเข้ามาจนสุดความยาวของมันแล้ว คริสยังคงนิ่งไว้แล้วป้อนจูบให้หนักหน่วงขึ้นก่อนที่เขาจะเริ่มขยับ



จังหวะช้าเนิบนาบที่ส่งมาเรียกเสียงครางฮือจากผมได้  ผมเบี่ยงหน้าหนีรสจูบนั้นแล้วจิกมือเข้ากับแผ่นหลังขาว คิดว่าคงได้เลือดซิบกันล่ะแต่ใครล่ะจะสนก็ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังสนใจกับอะไรตอนนี้อยู่ต่างหาก



คริสผละออกเพื่อใช้มือค้ำร่างไว้แล้วเร่งจังหวะสอดแทรกเข้ามา   ผมก็แยกขาออกกว้าง ผมรู้สึกว่ามันสอดเข้ามาได้ลึกกว่าปกติ    เสียงครางของผมสอดรับกับจังหวะที่ตอบรับจังหวะแทรกเข้ามา    เสียงหายใจของคริสสลับกับเสียงครางฮือในลำคอยิ่งทำให้ผมไร้ซึ่งสติ    ผมเอื้อมมือออกไปเกี่ยวรั้งคอคริสให้ก้มลงมาจูบ แม้ว่าเราจะจูบกันอยู่แต่ด้านล่างก็ยังคงสอดจังหวะเข้ามาหนักหน่วงจนผมทนไม่ไหว อยากได้มากกว่านี้



“อ๊า.. คริส ฉัน...” เสียงของผมขาดหายเมื่อคริสหยุดกายแล้วค่อย ๆ โน้มตัวลงมาพร้อมกับที่ยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดไหล่ของเขา ฝ่ามือใหญ่สอดประสานกับมือของผมแล้วกดมือผมลงกับพื้นเตียง



“พร้อมนะ” ผมพยักหน้าตอบรับ แล้วจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงนั้นก็กลับมาอีกครั้งและยิ่งทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีก    ผมเงยหน้าขึ้นครางเสียงหวานก่อนที่จะงับไหล่ของคนตรงหน้าไว้   เมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นมันเข้าไปลึกเกินไป  ขาของผมที่พาดไหล่แข็งแรงไว้ก็เกร็งเพราะความเสียวซ่านและหาที่จิกไม่ได้ ส่วนอีกข้างก็จิกพื้นเตียงไว้ สองมือก็จิกเล็บลงบนหลังมือของคนคร่อมทับ



“อ๊า... ดะ... เดี๋ยวก่อนคริส.. หยุดก่อน!” คริสหันมองหน้าผมแต่ก็ไม่ยอมหยุดจังหวะนั้นลง จนเสียงผมขาดๆหายๆ



“ยะ..หยุดก่อน พักก่อน”



“ทำไมครับ” เสียงทุ้มยิ่งแหบพร่าเมื่อกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการอย่างถึงที่สุด  ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาแล้วหันมองเขาด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเป็นสาย



“ตะ... ตะคริวกินขาอ่ะ” แล้วจังหวะนั้นก็หยุดลง 



คริสมองหน้าผมก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ถอยตัวออกไป   เพื่อที่จะดูขาข้างที่ผมพาดไว้กับไหล่เขา สองมือของคริสจับนวดขาข้างนั้นให้ผม   ซึ่งตอนนี้ผมโคตรจะอายเลยอ่ะ  ที่อยู่ ๆ ก็ตะคริวแดกตอนที่กำลังโดนเขาแดก



เนี่ย!!! แม่มมมมมมม รู้ถึงไหนอีชานยอลอายถึงนั่น!!!



“หายหรือยังครับ” ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหล่เมื่อมันเจ็บจี๊ด ๆ ส่วนล่างที่เชื่อมกันอยู่ก็ยังไม่ยอมลดระยะทางและขนาดลงเลย ทั้งเสียวซ่าน ทั้งเจ็บแปล่บผสมกันทำเอาสนุกดีพิลึก!



“ไม่ต้องเกร็งมากขนาดนั้นนะ ถ้าหาที่ลงไม่ได้ก็กัดไหล่ผมไว้นะ” ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง หลังจากที่คริสนวดขาผมให้หายจากอาการตะคริวกิน



“งั้นมาต่อเลยนะ” คริสกระซิบเบา ๆ อีกครั้ง เมื่อผมพยักหน้าตอบจังหวะช้า ๆ ก็เริ่มบรรเลงขึ้นก่อนที่จะทบทวีจนหนักหน่วงตามเดิม   ผมเลือกที่จะกัดไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้าไว้เพื่อคลายความเสี่ยวซ่านแทนที่จะเกร็งขา กลัวตะคริวจะแดกอีกรอบ



คริสโน้มตัวลงมาใกล้และจูบผมจนตอนนี้ผมเลือกรู้สึกดีไม่ถูกแล้วว่า  สิ่งไหนที่ทำให้ผมล่องลอยแบบนี้ จังหวะที่รุนแรงนั้นค่อย ๆ ผ่อนแรงเลง และกลับมาแทรกหนักหน่วงอีกครั้ง จังหวะที่คริสบรรเลงนั้นช่างวาบวามและเสียวซ่านจนผมเผลอร้องครางเสียงดังอีกรอบ มือทั้งสองข้างก็จิกเล็กแน่นเมื่อคริสกัดที่ซอกคอผมเบา ๆ



“ชานยอล บอกให้กัดไหล่ไม่ใช่เอาขามารัดคอ” ผมลืมตามองขาของผมที่พาดอยู่บนไหล่กว้างนั้นและมันกำลังรัดคอคริสอยู่จริง ๆ นั่นล่ะ แต่คริสก็ยังคงไม่ลดจังหวะลงแม้แต่น้อย


“อ๊ะ.. ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ” 



ผมขยับขาออกจากคอของคริสออกไปจนเกือบจะสุดปลายไหล่ และนั้นยิ่งทำให้คนบนร่างผมสอดเข้ามาได้ลึกสุด ๆ คริสขยับรุนแรงและส่งส่วนนั้นเข้ามาลึกจนสุด  ผมรู้สึกว่าร่างของผมกระตุกและหยัดเอวขึ้นสูงเพื่อตอบรับส่วนนั้น 



“อ๊า.. ชานยอล นายนี่สุดยอดจริง ๆ ” เสียงทุ้มกระซิบที่หูของผมแต่ผมกลับไม่ได้ยินว่าเสียงนั้นพูดอะไร เสียงครางเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยพร้อมกับน้ำอุ่น ๆ ที่ฉีดพุ่งเข้ามา  ผมได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อย 



คริสก้มหน้าลงซุกที่ซอกคอของผมอีกครั้งแล้วขบเม้มแรงขึ้น ส่วนล่างก็ค่อย ๆ สอดเข้ามาเพื่อปล่อยสายน้ำอุ่นนั้นไว้ในร่างของผมให้หมด



“อื้อ...” ผมครางเสียงแผ่วก่อนที่จะกัดไหล่แข็งนั้นแรง ๆ เพื่อเตือนให้คริสหยุดขยับได้แล้วไม่อย่างนั้นคงจะได้มีอีกรอบแน่ๆ




กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีนะ