Love_Match[1]
Pairing : KrisYeol
By
winata
~18~
ริมฝีปากได้รูปคู่นั้นฉกเข้ามาจูบผมโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร
แน่นอนว่าตอนนี้สติของผมยังคงกลับมาไม่เต็มร้อยนักแต่ผมก็สนองจูบที่ป้อนมานั้น รสชาติหวานลิ้นที่ซ่านอยู่ภายในทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะตอบรับมันโดยที่ไม่รู้ตัว
เรียวลิ้นอุ่นลากไล้ตามเนื้อนิ่มของริมฝีปากผมก่อนที่มันจะลากเข้ามาในโพรงปากของผม
เรียวลิ้นนั้นต้อนลิ้นของผมก่อนที่จะเกี่ยวพันกัน
ผมไม่รู้ตัวว่าสองมือของผมนั้นเอื้อมไปโอบไหล่ของคนที่โน้มตามลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ฝ่ามืออุ่นค่อยๆสอดเข้ามาใต้เสื้อยืดของผม
สัมผัสกับผิวเนื้อของผมแล้วลากไล้วนฝ่ามือกับสีข้างของผม
ไม่รู้ว่ามือของคริสร้อนหรือตัวผมนั้นร้อนรุ่มกันแน่
ผมรู้สึกว่าภายในร่างของตัวเองเหมือนมีภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุอยู่ทุกขณะ
คริสเลื่อนปลายนิ้วลากไล้ขึ้นมาสัมผัสที่ยอดอกของผม
ผมเบี่ยงหน้าหนีจากจูบหวาน ๆ นั่นแล้ว ใช้สองมือดันร่างใหญ่ที่ทาบทับให้ออกห่าง
“ยะ... อย่านะ ไม่เอานะ.. พะ..
พี่ป่วยอยู่” คริสก้มลงมากระซิบชิดใบหูของผมพร้อมกับลมร้อน ๆ ที่สัมผัสแถวๆซอกคอ
คริสงับซอกคอผมเบาๆก่อนที่จะไล้ปลายลิ้นลากไล้จนมาถึงติ่งหูแล้วงับมันเบา ๆ
“ก็ถ่ายไข้ไงครับ”
ฝ่ามืออีกข้างค่อย ๆ ลากไล้ตัวผมก่อนที่มันทั้งสองจะขยี้บดปลายยอดอกของผม
“ถึงจะบอกว่าให้หยุด...ผมก็ไม่ยอมหยุดหรอกนะ”
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับสองมือที่เริ่มทำหน้าที่ ความรู้สึกเสี่ยวซ่านเริ่มปะทุขึ้น
ผมบิดตัวไปมาเมื่อรู้สึกถึงหัวเข่าของคริสกำลังไล้สีข้างของผมอยู่
เสื้อยืดที่ผมใส่ถูกถลกขึ้นไปกองไว้ที่คอ
ริมฝีปากอุ่นคู่นั้นไล่จูบและฝากรอยไว้ทั่วทั้งหน้าอกของผม
เมื่อยอดอกข้างหนึ่งของผมถูกริมฝีปากคู่นั้นครอบครอง มือที่ว่างก็สอดเข้าใต้ร่างผมแล้วลูบไล้แผ่นหลังผม
ผมผวาตัวเข้าหาริมฝีปากนั้นที่คอยไล้เลียยอดอกของผมเป็นจังหวะ
ผมใคร่อยากถามว่าเห็นผมเป็นไอศกรีมหรืออย่างไร?
แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์ได้อ้าปากถามอะไรไปมากกว่าร้องครางเสียงหวานให้คนที่พยายามแกล้งผมนี่ได้ยิน
เมื่อเล่นข้างหนึ่งจนพอใจแล้วคริสก็ย้ายไปอีกข้างเพื่อเล่นกับมัน
หรือหมายจะแกล้งให้ผมหวีดร้องอีกก็ไม่รู้
แต่ผมรู้สึกว่าจังหวะที่กลีบปากคู่สวยนั้นลงจังหวะลงมามันช่างแรงและหนักกว่าทีแรกหนัก
ผมได้แต่บิดตัวเร่า ๆ อยู่ใต้ร่างของคนชอบแกล้ง
เสื้อที่กองอยู่ที่คอผมมันช่างทำให้ผมขยับลำบากเหลือเกิน
คริสช่วยผมถอดเสื้อนี้ออกเหมือนเขาจะรู้ว่าผมรำคาญมัน
เสื้อฮู้ดสีดำของคริสก็ถูกผมถอดออกเช่นกัน
เมื่อร่างกายมัดกล้ามสมส่วนนั่นอยู่ในสายตาของผม
กลับเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายคว้าคออีกคนเข้ามาป้อนจูบให้
ผมไม่รู้ว่าผมหรือคริสที่กำลังนำเกมจูบนี้ แต่พอมารู้ตัวอีกทีผมก็ลงนอนที่เตียงเหมือนเดิมและกางเกงของผมก็ถูกปลดเสียแล้ว
กางเกงขาสามส่วนค่อยๆถูกเลื่อนลงไปที่ปลายขาทั้ง ๆ ที่คริสยังคงจูบผมอยู่
ผมสอดมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมสั้นของคริสไว้เพื่อระบายความวาบวามนี้
คริสถอนจูบออกแล้วยืดตัวขึ้นใช้ฝ่ามือของเขาแนบเข้าที่แก้มของผมแล้วมองผมด้วยสายตาที่มันบอกทุกอย่างว่าเขารักผมมากแค่ไหน
ดวงตาสวยคมคู่นั้นมองมาที่ผมอย่างรักใคร่
ผมเอียงหน้าจูบที่ฝ่ามือของเขาเพื่อย้ำบอกว่าเรื่องที่เราทะเลาะกันเมื่อครู่นี้ผมให้อภัยแล้ว
สองมือของผมถูกคริสรวบแล้วกดจูบที่หลังฝ่ามือเบา
ๆ ก่อนที่คริสจะโน้มตัวลงมาทับผมไว้ทั้งตัว
จนส่วนนั้นของเราสัมผัสกันและรู้สึกว่ามันขยายไปขนาดไหนแล้ว แก้มของผมคงร้อนและแดงมากแน่
ๆ ผมรู้สึกว่าหน้าผมกำลังจะระเบิด สายตาวิบวับที่คนตัวสูงกว่าส่งมาให้นั้นอีก
ผมเลยได้แต่เบี่ยงหน้าหนีสายตาที่รุกต้อนผม
คริสก้มหน้าลงเป่าลมร้อน ๆ รดใส่ซอกคอของผม
ยามที่ส่วนนั้นของเราสัมผัสเสียดกันผมก็เผลอร้องครางฮือออกมา น้ำเสียงนุ่มทุ้มนั้นกระซิบแผ่วเบาชิดใบหูของผม หลังจากจบประโยคนั้นคริสก็ขบเม้มที่ปลายติ่งหูของผมเบา
ๆ
คริสรักผม... คริสรักผมคนเดียว... และเด็กนี่เป็นของผม
ริมฝีปากร้าย ๆ นั้น ขยับจูบเม้มที่ซอกคอแล้วลากลงมาที่หน้าอกของผม
ส่วนสองมือนั้นก็ลากไล้ที่สีข้างของผม ลากสัมผัสลงต่ำเรื่อย ๆ ผ่านเอวลงมาและมาหยุดที่ขอบชั้นในของผม
ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่นั้นจะได้ถอดมันออกผมก็คว้าจับสองมือนั้นออก
“ปิดไฟดีไหมคริส” คริสมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นถาม
“ปิดทำไมครับ เห็นนายชัดดีออก”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
ถึงจะแรดแต่พี่ชานยอลก็อายเป็นนะเว๊ย!!
“ปิดเดี๋ยวนี้เลยคริส”
แต่เด็กตรงหน้ายังคงลอยหน้าลอยตา
“ถ้าไม่ปิดก็จบแค่นี้นะ”
“ปิดก็ได้ ๆ โหดจังนะตัวแค่เนี้ยะ~”
คริสลุกจากเตียงของผมไปปิดไฟ ผมก็เลยเปิดโคมไฟที่หัวเตียงไว้
แสงสลัว ๆ กับร่างของคริสที่ก้าวขึ้นมาคร่อมทับผมไว้เหมือนเดิม มันทำให้ผมไม่อยากหยุดอะไรแล้วล่ะ
“งั้นก็ต่อเลยไหมล่ะ”
ก็ยังไม่วายรั่วอีกนะ ผมไม่ตอบแต่ก็พยักหน้ารับไปเบา ๆ
คริสโน้มตัวลงจูบผมอีกครั้งพร้อมกับสองมือที่ค่อย
ๆ ถอดกางเกงสามส่วนของผมให้หลุดออกไปและเกี่ยวเอาชั้นในตัวบางออกไปด้วย
เมื่อร่างของผมเปลือยเปล่า คริสก็ถอยร่นไปทางปลายเท้าของผม ส่วนนั้นของผมสัมผัสได้ถึงปลายลิ้นอุ่นที่ลากสัมผัสตรงส่วนปลายก่อนที่โพรงปากอุ่นนั้นจะครอบครองทั้งหมดแล้วสัมผัสมัน
ปลายนิ้วที่แตะไล้ตามความยาวก็สัมผัสแผ่วจนผมเสียวซ่าน
มือของผมจิกลงกับผ้าปูที่นอนเพื่อระบาย
ความวาบวาม
ปลายเท้าเกร็งจิกพื้นเตียงไว้เช่นกัน
“อื้อ...”
ยิ่งผมหลุดครางเสียงหวานเท่าไหร่ คริสก็ยิ่งดูดรั้งส่วนปลายของผมอย่างแรงเพื่อให้ผมหลุดร้องครางออกมา
ผมบิดกายไปมาอยู่ใต้อาณัติของคนตัวสูงกว่านี้
“ยะ.... อย่าแกล้งกันสิ”
ผมบิดตัวเร้าเมื่อคริสยังคงย้ำเน้นจังหวะที่ปลายนั้นหนัก
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คริสจะทำสีหน้า
ยังไง แต่ตอนนี้ใบหน้าของผมคงจะเห่อแดงและร้อนจนแทบระเบิด
คริสเร่งเร้าจังหวะให้แรงและหนักหน่วงขึ้นจนร่างของผมหยัดเกร็ง
ทั้งมือและเท้าจิกกับที่นอนไว้ ผมแอ่นกายขึ้นตามจังหวะที่ถูกชักนำ คริสถอนริมฝีปากออกก่อนที่จะใช้มือขยับจังหวะให้รัวเร็วกว่าเดิม
ไม่นานธารน้ำอุ่นก็ไหลทะลักออกมา ผมค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเพื่อที่จะลดอาการเกร็งนั้น
หยดน้ำเหนียวนั้นค่อย ๆ ไหลย้อยลงมาตามส่วนนั้นของผม
เพียงเสียวนาทีผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้ามาในร่างของผม กดเน้นย้ำซ้ำ ๆ กับด้านในของผม
น้ำอุ่นนั้นช่วยเป็นตัวหล่อลื่นได้ดี ยังไม่ทันได้หวีดร้องหรือทำสิ่งใดเลย
นิ้วที่สองก็สอดเข้ามา
“อ๊า...”
ผมบิดกายเร่าแต่คริสกลับขยับขึ้นมากดจูบผมเสียก่อน ผมลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่มองจ้องสบตากับผม
ดวงตาคู่คมนั้นฉายภาพผมอยู่เต็มทั้งสองนัยน์ตา
แววประกายวูบวาบในนั้นยิ่งปลุกเร้าความต้องการในตัวผมให้มากยิ่งขึ้น
“ขะ.. เข้ามาเลยได้ไหม”
คริสถอนจูบออกแล้วยิ้มมุมปากก่อนที่จะกดจูบหนัก ๆ ลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง
กายใหญ่นั้นผละออกไปเพื่อถอดกางเกงแล้วโยนมันทิ้ง
ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันถูกโยนไปทางไหน และผมก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
คริสโน้มกายมาทาบทับผมอีกครั้ง ปลายจมูกโด่งไล้ซุกไซร้ที่ซอกคอของผมพร้อมกับฟันคมที่ขบตามผิวเนื้อผม
มันไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่ผมก็รู้ว่ามันจะต้องเป็นรอยแน่ ๆ
ส่วนนั้นของคริสค่อย ๆ แทรกผ่านเข้ามา
แม้ว่าคริสจะยังสาละวนกับซอกคอของผมอยู่ก็ตาม ผมค่อย ๆแยกขาออกให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะรับส่วนนั้นเข้ามา
อาจจะเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเสียซิงก็ได้มั้ง
มันถึงทำให้ส่วนนั้นสอดแทรกเข้ามาจนสุดได้ในคราวเดียว
“เก่งมากครับ” คริสกระซิบเสียงทุ้มพร่าและกดปลายจมูกที่หลังหูของผม
ผมร้องครางฮือเมื่อรู้สึกว่าคริสขยับตัวเบา
ๆ แต่แล้วเจ้าตัวก็หยุดนิ่งแล้วสอดมือเข้าประสานกับมือของผมแล้วกดลงกับพื้นเตียง
คริสไล้วกจูบขึ้นมาที่ปากของผม สอดลิ้นเข้ามาพันเกี่ยวกันแต่ส่วนที่เชื่อมกันต่อนั้นก็ยังไม่ขยับต่อสักที
ผมเบี่ยงหน้าหนีจูบนั้นก่อนที่จะมองคนที่ยิ้มกริ่มด้วยสายตาเว้าวอน
“ขยับสิ” สิ้นคำบอกคริสก็ค่อย ๆ ขยับส่วนนั้นเบา
ๆ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาแล้วกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างแรงและหนักหน่วง ผมผวาขึ้นโอบรอบลำคอของคริสที่ซุกหน้าลงกับคอของผม
ผมจิกเล็บที่ไหล่กว้างคู่นั้นอย่างแรงเมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นสอดเข้ามาลึกและแรงขึ้น
สองขาของผมถูกมือของคริสแยกออกให้กว้างอีก
“อื้อ... อ๊ะ... คริส”
ผมได้ยินเสียหอบหายใจและเสียงทุ้มชิดริมหู ผมรู้ว่าคริสเองก้ต้องการผม
และผมก็ต้องการเขาเช่นกัน คริสเงยหน้าจากซอกคอของผมแล้วจับล็อคเอวของผมไว้แล้วสอดส่วนนั้นเข้ามาอย่างแรงจนผมรู้สึกจุก
วันนี้คริสดูร้อนแรงและเร่าร้อนเป็นพิเศษ และผมก็ไม่ปฏิเสธว่าผมชอบมัน เอวของผมถูกยกขึ้นสูงเพื่อที่เขาจะได้แนบชิดกับผมมากยิ่งขึ้น
ผมสะบัดหน้าไปมาหลุดครางเสียงดังและจิกมือกับพื้นเตียงแน่น
คริสยิ้มพอใจที่เห็นผมกำลังทุรนทุรายกับสัมผัสของเขา
แล้วจังหวะนั้นก็ค่อย ๆ ผ่อนลงเป็นช้าเนิบนาบเสียจนผมรู้สึกขัดใจ
หัวคิ้วของผมขมวดมุ่นแล้วมองหน้าที่ยกยิ้มอย่างไม่เข้าใจ สองขาของผมถูกยกขึ้นพาดไหล่แข็งแรงนั้นทั้งสองข้าง
คริสโน้มตัวลงมาใกล้
ใกล้ชิดเพียงแค่ลมหายใจกั้น
“ห้ามรัดคอผมอีกนะครับที่รัก”
คริสกระตุกยิ้มแล้วเริ่มเร่งจังหวะจนผมหวีดร้องขึ้นมาอีก
ผมพยายามที่จะไม่เลื่อนขาไปเกี่ยวคอของเขานะแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สมองของผมจะขาวโพลนไปหมดแล้ว
ยิ่งอยู่ในท่านี้ส่วนนั้นก็ยิ่งสอดได้เข้ามาลึกกว่าเดิมเสียอีก
แรงกระแทกที่สวนเข้ามานั้นทำเอาตัวของผมสั่นคลอนไปพร้อมกับเตียงหลังนี้
ผมได้ยินเสียงทุ้มแหบพร่าครางอือในลำคอ ขาทั้งสองข้างเกือบแนบชิดติดอกของผม
คริสโน้มตัวโถมแรงเข้ามาอีกและผมก็ไม่รู้ตัวอะไรอีกเลย
“ชานยอลครับ
บอกแล้วไงว่าห้ามรัดคอน่ะ”
ผมหันกลับมามองก็เห็นว่าผมเกี่ยวขาไขว้รอบลำคอของเด็กตรงหน้าอยู่จริง ๆ จึงละขาข้างหนึ่งออกจากการพาดไหล่กว้างนั้นมาเกี่ยวเอวสอบนั่นแทน
คริสก้มหน้าลงมาที่ต้นคอของผม
ผมก็เลยกัดเข้าที่ไหล่กว้างเพื่อระบายความเสียวซ่านที่มวลท้องอยู่นี้
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมสอดมือเข้าขยุ้มเส้นผมสีเข้มนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่
ริมฝีปากบางคู่บางป้อนจูบหวาน ๆ มาให้พร้อมกับแรงกระแทกที่เร่งเร้าและวามไหว
“รักนะครับ ... รักชานยอลมากนะ”
“อะ.. อื้อ...”
ผมไม่รู้แล้วว่าเสียงไหนคือคำตอบและสิ่งไหนคือเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของผมตอนนี้
คำว่ารักอีกหลายครั้งที่คริสกระซิบบอกผมมันยิ่งทำให้ผมล่องลอยคล้ายกับอยู่ในอากาศ
สิ่งที่เชื่อมเราไว้นั้นยังคงส่งแรงกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนผมเผยอยกเอวตอบรับจังหวะนั้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ธารน้ำอุ่นค่อย ๆ ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง
แต่คนด้านบนยังคงขยับต่อเป็นจังหวะอีกสักแปบก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรอุ่น ๆ ในกาย
ร่างที่หยัดเกร็งของผมค่อยๆผ่อนคลายลง
คริสขยับเพื่อให้ธารนั้นฝากไว้ในร่างของผมทุกหยาดหยดก่อนที่เขาจะค่อย
ๆ ถอนสิ่งนั้นออกแล้วลงนอนเคียงข้างผม ผมพลิกร่างเข้าหาคริสและจ้องมองใบหน้าที่งดงามตรงหน้า
ลูบไล้เบา ๆ ตามแก้มเนียน คริสส่งยิ้มหวานให้กับผม เรายิ้มให้กันและกันก่อนที่ผมจะยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากบางคู่นั้นอย่างหลงใหล
คริสตอบรับจูบของผม ปลายลิ้นของเรากระหวัดพันกันอย่างรวดเร็ว
ร่างกายขยับเบียดแนบชิดจนผมเทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนอกของคริส
“รักชานยอลมากนะ
รักมากที่สุด รักๆๆ .. รักมากนะครับ” คริสกระซิบบอกคำรักไม่รู้กี่พันครั้ง ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“พี่ก็... รักคริสมากนะ”
คริสกระชับอ้อมกอดแล้วดึงผ้านวมที่ไม่รู้ว่าหล่นไปอยู่ข้างเตียงได้ยังไงขึ้นมาห่มร่างของเราทั้งสองคนเอาไว้
“พักเอาแรงก่อนนะครับ
...คืนนี้ยังอีกยาวไกล”
“ทะลึ่ง ไอ้เด็กบ้านี่!”
ผมต่อว่าไม่จริงจังกับคำพูดนั้นของคริส
เพราะถึงจริงจังไปก็ลดความหื่นของไอ้เด็กบ้านี่ไม่ได้อยู่ดี
แต่เลือดที่สูบฉีดได้ดีเยี่ยมตรงหน้านี่สิเล่นเอาผมเกือบคิดว่ามีภูเขาไฟมาวางแปะเลย
ร้อนไปหมดเลย
“อ๊ะ... ทะลึ่งเหรอ? แล้วชานยอลไม่อยากทำอีกหรือไงครับ หื้ม?
บอกสิว่าไม่เดี๋ยวจะได้กลับเดี๋ยวนี้เลย”
ดูมันพู๊ดดดเซ๊ะะะะะะะ โว๊ย!!!
ใครจะกล้าตอบว่าไม่ล่ะกันล่ะฟร๊ะ!! อ้อมแขนของผมก็ทำอย่างที่จิตใต้สำนึกต้องการไส้เต็มเปี่ยม
นั่นก็คือกอดร่างของคริสไว้แน่น ๆ แน่นอนว่าไม่ให้เด็กนี่กลับได้หรอก
“ตกลงว่าไงครับที่รัก”
คริสถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ หนอยๆๆๆ
ทำเสียงเป็นต่อเชียวนะเว้ยมึงไอ้เด็กบ้า!
“พักก่อนก็ได้”
อ่า... ผมเปล่าทะลึ่งนะ แหะ ๆ แล้วเด็กนี่ก็ไม่ว่าอะไรให้ผมอายอีกนอกจากยิ้มกว้าง
กว้างเสียจนปากจะถึงรูหูอยู่แล้วไอ้บ้า!!!
อ้อมแขนยาวนั้นตวัดโอบกอดกระชับผมไว้แล้วก็นอนนิ่ง ๆ... อย่างนั้น...
แต่คริสก็ไม่ได้นอนกอดผมนิ่ง ๆ ทั้งคืนหรอกนะ
อิอิ
ไม่บอกหรอกว่าผมโดนเด็กนี่กินไปกี่รอบ
อิอิ
ก็อย่างว่าคืนนี้ยังอีกยาวไกลจริงๆ All Night long มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก