Love_Match[1]
Pairing :
KrisYeol
By winata
~13~
ปลายจมูกโด่งของคริสแตะไล่ตั้งแต่แก้มของผมจนมาถึงริมฝีปาก
ซึ่งผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีแล้วแต่ก็ไม่รอดพ้น
ริมฝีปากบางได้รูปนั่นแนบลงมากับกลีบปากของผม
เพียงแค่คริสขยับสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้งผมก็อ่อนโอนผ่อนตามไปเสียแล้ว
มือที่เคยดันไหล่กว้างของคริสให้ถอยห่างก็เปลี่ยนเป็นยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งนั้นแล้วเหนี่ยวรั้งร่างสูงยาวนี่ให้แนบชิด
เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาไล่ต้อนลิ้นของผมและตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ
และสมองก็กำลังจะขาวโพลนอีกครั้ง
ผมหายใจติดขัดเมื่อฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งของคริสค่อย
ๆ ดึงเอาชายเสื้อนักศึกษาของผมออกก่อนที่จะสอดมือเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังเบา ๆ จน ผมหวามไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์ ปลายนิ้วไล้สัมผัสมันแผ่วเบาเพื่อปล่อยให้ผมผ่อนตาม
ผมได้แต่ครางฮือในลำคอเพราะถูกปิดปากเอาไว้
ซ้ำเรียวลิ้นอุ่นจนร้อนจัดนั้นยังคงไล่ต้อนและเกี่ยวกระหวัดตามไล่ผมไม่ห่าง
ตอนนี้สมองของผมขาวโพลนไปหมดแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ร่างกายของผมนึกถึงและคิดถึงสัมผัสของคริสเท่านั้น ปลายนิ้วอีกข้างค่อย ๆ ปลดกระดุมที่เสื้อของผมออกโดยที่ผมไม่รู้ตัว
มารู้สึกเอาก็ตอนที่ตุ่มเล็ก ๆ ของทั้งสองนิ้วบดขยี้ไปเสียแล้ว
“ดะ... เดี๋ยวก่อน”
ผมถอนจูบและดันไหล่ของคริสไว้ พยายามขืนตัวออกเต็มที่
แต่ทว่าก็ออกห่างเด็กนี่ได้ไม่ถึงคืบด้วยซ้ำเพราะคริสเอือมมือโอบผมไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงนั่น
“ชานยอล” คริสกระซิบเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่า
ดวงตาคู่คมฉายแววอ้อนวอนให้ผมยอมความ
ริมฝีปากบางได้รูปคู่นั้นคอยเฝ้าไล้จูบตามแนวคางของผม
“นะครับคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาชิดใบหู
พร้อมกับฝ่ามืออุ่นลากไล้ที่แผ่นหลังและสีข้างของผม
“ตะ... แต่... แต่... พี่... พี่ไม่... เคยนะ” ผมตอบกลับเสียงแผ่วพลิ้ว คริสยิ้มกว้างทั้งตาและปากทำเอาผมใจอ่อนวาบ
ร่างของผมถูกอ้อมแขนนั้นโอบกอดไว้แนบชิด
“นั่นไม่ใช่ปัญหา” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ
แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี
“แต่...” ผมยังคงค้านแต่น้ำเสียงของผมเบาหวิวยิ่งนัก
ยิ่งเรียวปากได้รูปพรมจูบไปทั่วแก้มและไล้เลยขึ้นไปยังใบหู
และขบเม้มที่ปลายติ่งเบาๆ เรี่ยวแรงและคำเอ่ยค้านก็หายวับไปหมด
“นะครับคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วที่ข้างหู
ลมเบาๆที่เป่าเข้าหูผมทำเอาสั่นสะท้านไปทั่วร้าง และเพียงเท่านี้
ผมก็ไม่ขัดขืนอีกต่อไป
ไม่มีคำอนุญาตจากผม แต่สองมือที่เอื้อมขึ้นไปโอบรอบต้นคอของคริสอีกครั้งนั้นก็มากพอที่จะเป็นคำอนุญาตได้แล้ว
กลีบปากคู่นั้นยามนี้ช่างร้อนจัดเสียจนผมรู้สึกถึงมันทุกครั้งยามที่ลากไล้ผ่านผิวเนื้อของผม
ทุกครั้งยามที่เรียวปากคู่นั้นสัมผัสที่ผิวกายของผม
อุณหภูมิในร่างกายก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นดั่งเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำและร้อนแรงยิ่งขึ้น
หัวใจที่เคยสั่นเพราะกลัวของผมตอนนี้มันก็เต้นรัวอย่างวามใจ
ฝ่ามือใหญ่ที่ลากไล้ผ่านลำคอลงมาที่หน้าอกของผมนั้น
ค่อยๆไล้ปัดผ่านยอดอกของผมไปราวกับหยอกเล่น
ไล้วนลงไปถึงหน้าท้องของผมก่อนที่จะค่อย ๆ วกขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่จูบซับไล้ตามมา
ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกของผม ส่วนอีกข้างก็โดนปลายลิ้นอุ่นไล้สัมผัส
ทั้งขบและกัดเบา ๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวซ่าน จนผมเผลอเกร็งจิกมือเข้ากับเส้นผมของคนที่แทบจะคร่อมผมไว้
เสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอ
มันช่างน่าอายยิ่งนัก
ยิ่งเสียงน่าอายนั้นครางถี่ขึ้น คริสก็ยิ่งพยายามที่จะทำให้ผมร้องดังขึ้นอีกด้วยการครอบครองยอดอกแล้วผมแล้วไล้เลียดูดมันให้แรงขึ้นอีก
ผมบิดกายไปมาอย่างวามไหว แบบนี้ใครจะทานทนได้กันล่ะ
“คะ.. คริส”
ร่างสูงนั่นเงยสายตาขึ้นมามองผม
ก่อนที่จะก้มหน้าลงจัดการกับยอดอกอีกข้างของผม
ฝ่ามืออุ่นข้างที่ว่างก็ลูบไล้ตามแนวสีข้างขึ้นลงแผ่วเบา จนผมก็ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้สติของผมอยู่ที่ไหน
ผมเผลอหลุดครางเสียงแผ่วนั้นออกมาอีกครั้ง คริสยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะกดจูบฝากรอยไว้ที่หน้าอกและลำคอของผม
ฝ่ามือใหญ่ไล้สัมผัสจากหัวไหล่ลงมายังแขน และลูบไล้สีข้างของผมก่อนที่มันจะค่อยๆปลดแก้เข็มขัดนักศึกษาของผมออก
ริมฝีปากคู่นั้นยังคงจูบซับทำรอยที่มันลากไล้ รอยจ้ำสีอ่อนค่อย ๆ ผุดตามที่กลีบปากคู่นั้นลากผ่าน
คริสยังคงสาละวนกับซอกคอของผม เขายังคงจูบซับทำรอยอยู่ ฝ่ามืออุ่นค่อย ๆ ดันร่างของผมให้ลงนอนกับพื้นเตียงนิ่ม
พอแผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงความนิ่มของเตียงแล้วนั้น ริมฝีปากคู่นั้นก็ตามมาสัมผัสป้อนรสหวานให้อีกครา
มันช่างดูดดื่ม เร่าร้อนและเร่งเร้าให้สติของผมพร่าเลือนเสียเหลือเกิน
แผ่นอกของผมหยัดขึ้น เมื่อริมฝีปากคู่นั้นก้มลงต่ำไปสัมผัสมันอีกครั้ง
ครั้งนี้คริสยิ่งไล้สัมผัสมันหนักหน่วงกว่าเมื่อครู่ยิ่งนัก จนเผลอตัวยกหน้าอกเข้าใกล้ริมฝีปากคู่นั้นเสียเอง
มุมปากของคนทาบทับผมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ปลายเรียวนิ้วแข็งค่อย
ๆ ลากผ่านแนวสีข้างออกผมลงไปแล้วเลยล้วงเข้าไปในกางเกงของผมจนไล้วนสัมผัสกับช่วงเอวขอดของผม
และไม่นานกางเกงนักศึกษาที่ถูกระเบียบของผมก็ค่อย
ๆ รูดลงไปโดนที่ผมไม่รู้ตัว ก่อนที่ริมฝีปากคู่นั่นจะปล่อยยอดอกของผม
ผมก็เอ่ยเรียกเขาไว้ด้วยเสียงสั่นพร่าของผม
“อ๊า... คริส... เดี๋ยว” เสียงสั่นของผม หยุดชะงักของเขาที่กำลังก้มลงไปด้านล่าง
คริสเงยหน้าผมมองด้วยสายตาที่ทอแววว่าตอนนี้กำลังต้องการผมอย่างมาก
หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ผมได้ยินเสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าปกติ
“ทำไม” ไม่มีร่องรอยความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น
เขาเพียงแค่ถามด้วยความสงสัยเท่านั้น
“มัน... สว่างไป...
พี่... พี่อาย”
ผมบอกเสียงแผ่วก่อนที่จะดึงสาบเสื้อนักศึกษา ที่แหวกออกจนเห็นร่างของผมมาปิดตัวเองไว้ก่อน
ใบหน้าที่แดงจัดของผมเบี่ยงหันหนีไป คริสยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะหันไปรูดม่านปิดเตียงเราเอาไว้
ดวงตาคู่คมที่ทอดมองผมในยามนี้นั้นช่างอ่อนหวาน
ต้องการและอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ มันทำให้ผมหลงเด็กตรงหน้านี้แทบจะโงหัวไม่ขึ้น
เมื่อม่านถูกรูดปิดกลั้นเตียงไว้หมดแล้วก็ยังคงเห็นเป็นแสงสลัว
ๆ แต่ก็ไม่ถึงกลับมืด
ผมยังคงคงเห็นคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้และเขาก็คงเห็นเรือนร่างของผมเช่นกัน ใบหน้าคมที่ทอดมองผมอยู่นั้น
แค่ผมมองก็รู้แล้วว่าเขารักและต้องการผมมากแค่ไหน และนั่นทำให้ผมยอมเขาโดยที่ไม่คิดที่จะห้ามอะไรอีกต่อไป
ปลายนิ้วยาวเอื้อมมาไล้สัมผัสที่แก้มร้อนจัดของผม และผมคิดว่าเขาคงรับรู้ รอยยิ้มที่วาดขึ้นตอนสัมผัสมันนั้นกำลังเอ่ยล้อผม
ปลายเรียวนิ้วไล้เบา ๆ ทั้งแก้มผม
หลังใบหูและต้นคอของผม
ขยับไล้สร้างความวามแก่ผมจนผมหลับตาลงรับสัมผัสนั้นและเอียงใบหน้าเข้าหามือนั้นเสียเอง
“ถ้าไม่แน่ใจก็บอกให้ผมหยุดเสียตอนนี้”
เป็นคำพูดที่สุภาพบุรุษที่สุดเลยแฟนผมน่ะ อึ๊ยๆๆ เขินตัวจะแตก
“แต่ฉันไม่อยากหยุดแล้วล่ะ”
แล้วก่อนหน้านั้นจะพูดเพื่อ?
“เป็นของฉันเถอะนะชานยอลก่อนที่ฉันจะคลั่งไปมากกว่านี้”
ผมพูดไม่ออกและแต่มองสบตาคู่นั้น
“ฉัน...ต้องการนายมากนะ”
เสียงแผ่วเบาของคริสนั้น กระตุ้นอารมณ์ในกายของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
มันทำให้ความกลัวทั้งหลายของผมหายไปหมด ด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบที่พูดว่าต้องการผม
เพียงแค่นั้นผมก็พร้อมยอมเป็นของคริสแล้ว
ผมเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้เสี้ยวหน้าของคริส
ริมฝีปากได้รูปนั้นหันมาจูบที่ฝ่ามือของผม
คริสหันหน้ากลับมาสบตาของผมอีกครั้ง
ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรให้มากมายไปมากกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือไง
ก็ในเมื่อในหัวใจและทุกความรู้สึกของผมมีแต่เด็กบ้าคนนี้ครอบครองและสายตาที่มองกลับมานั้นก็บอกผมหมดทุกอย่างอยู่แล้วว่า
ใครกันที่เป็นคนครอบครองหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้ และ.. มันอาจจะตลอดไป
ถ้าไม่ใช่ผม แล้วจะเป็นใครล่ะ
ผมค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นเข้าหาคริสแล้วแตะริมฝีปากของผมเข้ากับริมฝีปากของคริส
และเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อนแม้ว่าจะดูเก้ ๆ กัง ๆ
แต่คริสก็จูบตอบและค่อย ๆ นำผมไป
เรี่ยวแรงของผมไม่เหลืออีกแล้วเมื่อจูบหวาน ๆ นั้นป้อนมาให้คำโต ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพร้อม ๆ กับร่างใหญ่กว่านั้นที่ตามทับลงมา
ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาไล้เกี่ยวกับสิ้นของผมที่ตอนนี้ตอบรับกระหวัดกันอย่างไม่เขินอาย
ตอนนี้อารมณ์ต้องการของผมก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
เสื้อนักศึกษาที่ยังคงคาไว้ที่ไหล่ของผมค่อยๆถูกคริสถอดมันออก
ผมขยับกายลุกขึ้นอีกนิดเพื่อที่ให้คริสดึงเสื้อนั้นออกไปให้พ้นทาง
ทั้งๆที่เรายังคงจูบกันไม่ห่างแต่มือของคริสกลับทำหน้าที่ของมันได้ดีเหลือเกิน
ดีเกินไปจนผมแทบคลั่งทุกครั้งที่ปลายนิ้วนั้นไล้ผ่านผิวเนื้อของผม
เมื่อไร้สิ่งดั้นขวางใด ๆ คริสก็ก้มลงสัมผัสจูบตามแนวซอกคอของผม
สิ่งเดียวที่ผมทำได้เพื่อระบายความวามไหวก็คือเสียงครางของผมที่ดังแผ่ว คริสค่อย ๆ เคลื่อนกายลงทาบทับผมลงมาชิดกว่าเดิม
ลมหายใจร้อนที่เป่ารดและไล้ไปทั่วยามที่กลีบปากคู่นั้น ไล้ขมเม้มทำรอยทำเอาสติผมกระเจิง ผมบิดตัวไปมา สองขายาวที่คร่อมตัวผมไว้ก็ถูไล้แนวสีข้างผมเบา ๆ
คริสรุกผมทุกทางจนผมไม่มีทางรอดการโลมเล้านี้เลย
ผมตกบ่วงแห่งความต้องการเขาไปจนปีนกลับขึ้นมาไม่ได้เสียแล้ว
คริสยังคงแทะเล็มซอกคอของผม สองมือก็ยังคงสาละวนกับการลูบไล้ผม
ไล้ลงสีข้าจนไปถึงเอวขอดแล้ววนกลับขึ้นมาทีเดิม ลูบไล้ซ้ำ ๆจ นสมองของผมแทบหยุดสั่งงาน
“อ๊ะ..”
ผมเผลอหลุดครางเสียงดังเมื่อฝ่ามืออุ่นไล้วนมาที่หน้าท้องของผม
ผมเผลอหยุดขาขึ้น และมันก็ชนเข้ากับอะไรบางสิ่งที่กำลังพองอยู่ใต้กางเกงนักศึกษาของอีกฝ่าย
และมันยิ่งทำให้ผมแก้มร้อนมากเข้าไปอีก
คริสวกริมฝีปากกลับมาป้อนจูบให้ผมอีกครั้ง
และสองมือก็ค่อย ๆ ลากไล้ลงไปยังกางเกงของผมที่ถูกปลดตะขอไว้แล้ว มันเกาะสะโพกของผมอย่างหมิ่นเหม่เพียแค่สองมือนั่นลากเข้าไปในกางมันก็ค่อย
ๆ รูดลงทันที กางเกงของผมถูกรั้งลงไปเรื่อย ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็เฝ้าวนไล้ที่หน้าท้องของผมและริมฝีปากได้รูปที่คอยเฝ้าป้อนจูบไม่ห่าง
ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป สองมือของผมเอื่อมขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งแล้วรั้งให้คริสเข้ามาใกล้และมอบสัมผัสให้ผมมากยิ่งขึ้น..ผมต้องการมากกว่านี้..
มากกว่านี้.. และเร่าร้อนกว่านี้
ผมจิกเล็บลงที่ไหล่ของคริส เมื่อเจ้าตัวใช้สองมือปัดผ่านสิ่งอ่อนไหวของผมที่กำลังค่อย
ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เสียงครางอื้อในลำคอ เรียกให้คริสยิ่งแกล้งผมโดยการวนผ่านไปมา
มืออีกข้างที่วนหน้าท้องอยู่ก็ค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ท้องน้อยใกล้กับส่วนนั้น แต่ฝ่ามืออุ่นก็วกกลับขึ้นมาที่เดิมอีกคราจนผมเผลอคราออกไปด้วยความไม่พอใจ
คนด้านบนกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าของผม
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนออกไป
รู้แค่เพียงในดวงตาคมนั้นฉายแววพึงพอใจเสียเหลือเกิน
คริสค่อย ๆ ผละจากผมแล้วค่อย ๆ ถดตัวกลับไปด้านล่างเพื่อที่จะถอดกางเกงของผมให้หลุดออกจากร่างแต่ผมก็ผวาทันทีเมื่อเห็นว่าร่างใหญ่นี่ถอยออกไป
สองมือของผมจับที่ไหล่คริส
“ดะ... เดี๋ยวก่อน”
“ทำไมครับที่รัก”
เสียงงทุ้มเอ่ยกลับมาด้วยถ้อยคำหวาน ทำเอาผมลืมไปชั่วขณะว่าเอ่ยรั้งทำไมกันทั้ง ๆ ที่ผมก็ต้องการมันเช่นกัน
“คะ... คือห้ามขำเด็ดขาดนะ”
แม้จะทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่คริสก็พยักหน้ารับ
กางเกงสแล็คสีดำที่ถูกต้องตามกฎระเบียบมหาวิทยาลัยค่อย
ๆ ถูกดึงออกและเผยสิ่งที่น่าอับอายของผม คริสมองมันแล้วก็ยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผม ส่วนผมก็ได้แต่เบือนหน้าหนีสายตาร้อนรุ่มนั้น
กางเกงซับในลูกไม้สีขาวที่ผมสวมนั้น ไม่ได้ช่วยให้มันปกปิดอะไรเลยสักนิด
คริสขยับตัวขึ้นมากระซิบเสียงแหบข้างหูผม
“นายเซ็กซี่เป็นบ้าเลยชานยอล”
ผมเม้มปากไม่ตอบแล้วก็ได้แต่เบือนหน้าหนีอยู่แบบนั้น
คริสกดปลายจมูกลงกับแก้มของผมก่อนที่จะถอยตัวลงไปที่เดิม
ฝ่ามืออุ่นไล้ที่หน้าขาของผมเบา ๆ จะไล้ผ่านปลายขาของกางเกงซับในขาบานของผม ยิ่งปลายนิ้วนั่นไล้ขึ้นสูงเท่าไหร่
อาการวูบหน่วงในท้องก็ยิ่งเกร็งตาม
มืออีกข้างก็ไล้วนที่ต้นขาด้านใน ปลายลิ้นอุ่นไล้วนที่รอบสะดือของผม
สร้างความเสียวซ่านจนผมเผลอหยัดกายขึ้นรับสัมผัสเหล่านั้น
“อ่า... คริส”
ผมครางเรียกชื่อร่างสูงเสียงสั่นเครือ เสียงที่ผมได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันช่างแหบพร่าและเซ็กซี่แบบที่คริสบอกนั่นแหละ
แต่ตอนนี้ผมก็คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
ส่วนนั้นของผมค่อย ๆ พองออกจนแทบจนล้นออกมาจากชั้นในตัวบางนั้น คริสค่อย ๆ
ดึงชั้นในของผมลงต่ำจนมันกองอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งแล้วก็จัดการกับส่วนที่แข็งขืน
ปลายนิ้วไล้ตรงท่อนลำนั้นเบา ๆ ก่อนที่โพรงปากอุ่นจะเข้าครองครองมัน
“อ๊า...”
ผมหยัดสองขาขึ้นจิกพื้นเตียงไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนไล้วนส่วนปลายให้วาบวาม เมื่อคริสเริ่มขยับผมก็เริ่มหวีดร้องอีกครั้งและยิ่งจิกพื้นเตียงเพื่อระบายความเสียวซ่านนั้น
ร่างของผมส่ายรับจังหวะนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวและมันคงทำให้คริสแทบคลั่งแน่
ๆ เพราะเจ้าตัวดูสนุกเหลือเกินกับการที่ได้เล่นสนุกกับร่างของผม สองมือของผมกำผ้าปูเตียงของคริสแน่น
ขย้ำจนมันแทบจะขาดติดมือมาอยู่แล้ว
ยิ่งคริสเร่งเร้าจังหวะผมก็ยิ่งหวีดร้องและผวาตอบรับจังหวะนั้น
อาการวามในใจยิ่งพุ่งสูง จนผมเลื่อนมือไปสอดไล้เข้าใต้เส้นผมสีเข้มของคริสแล้วขยุ้มเส้นผมนั้นแทน
จังหวะที่เร่งเร้าก็ค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้น จนผมเกร็งไปทั้งร่างและปลดปล่อยสายธารนั้นออกมา
มันไหลย้อยจากส่วนปลายลงไปด้านล่าง หลังจากปลดปล่อยจนหมดผมก็ผวาลุกขึ้นทันที
“ขอโทษนะ” ผมช่วยเช็ดมุมปากของคริสที่เปื้อนน้ำสายนั้นของผมด้วยทีท่าตกใจ แต่คริสกลับยิ้มขำแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบผม
รสชาติเค็มแปลก ๆ ที่ผมสัมผัสได้ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด
“น่ารักจังนะ”
แล้วคริสก็ได้กำปั้นทุบอกเป็นของตอบแทน
“ถอดเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงเขินอายแช่งด่าไอ้เด็กบ้านี่กลับไปแล้ว
แต่ตอนนี้มันต่างออกไปผมได้แต่ยื่นมือสั่น
ๆ ออกไปค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อให้ผิวกายขาวที่มีมัดกล้ามเผยต่อสายตาผมทำเอาแก้มของผมร้อนหนักกว่าเดิม
ผมไม่กล้าที่จะขยับทำอะไรอีกแต่เสียงกระเส่าที่ชิดริมหูผมนี่สิ
“ถอดกางเกงให้ผมด้วยสิครับที่รัก”
สองมือของผมที่วางอยู่บนแผงอกมัดกล้ามนั้นค่อย ๆ ไล้ลงต่ำไปที่หัวเข็มขัด ผมได้ยินเสียงทุ้มครางแผ่วยามที่ผมลากมือผ่านลงไปด้วย
หลังจากปลดเข็มขัดได้ผมก็ปลดกระดุมกางเกงออก
เพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ตื่นตัวเต็มที่แล้วอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีดำนั้น
คริสช้อนใบหน้าผมแล้วคร่อมทับผมอีกครั้ง
ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้งโดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับไม่ห่างและจูบของเราก็ไม่ยอมห่างเช่นกัน
“ไม่ต้องเกร็งนะครับ”
เสียงแหบที่กระซิบข้างหูเรียกให้ผมพยักหน้ารับตาม
คริสละจูบออกไปแล้วเพียงไม่นาน ผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สัมผัสที่ส่วนปลายของผมปาดเช็ดคราบน้ำเหนียวนั้นและชโลมมันที่ช่องทางด้านหลัง
เมื่อโดนกระตุ้นสองขาของผมก็หยัดขึ้นและแยกออกโดยอัตโนมัติ
ก่อนที่ผมจะผวาเฮือกเมื่อสัมผัสถึงปลายนิ้วนั้นที่ลำแหละเข้ามา
“อ๊า... คริสฉันเจ็บ”
ผมหลับตาแน่นแล้วเบือนหน้าหนี คริสตามมาประกบจูบผมแล้วจูบซับมุมปากของผม
“อย่าเกร็งนะ”
ผมพยักหน้าอีกรอบก่อนที่จะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ คริสยังคงสาละวนกับการจูบซับซอกคอผมอยู่
เมื่อผมหายใจได้เป็นปกติเรียวนิ้วนั้นก็ขยับเป็นจังหวะ
มันยิ่งสร้างความรัญจวนใจแก่ผมยิ่งนัก เสียงครางหวานหูสำหรับคริสก็ดังขึ้นอีก
คริสขยับปลายนิ้วเบา ๆ ก่อนที่จะเร่งจังหวะที่หนักหน่วงและเร็วขึ้น
แล้วนิ้วที่สองก็ตามแทรกเข้ามาผมหยัดกายขึ้นสูงอย่างวามไหวแล้วหอบหายใจแรง
คริสก็คอยจูบซับผม
มืออีกข้างก็คอยลูบเนื้อตัวผมให้ผ่อนคลาย ขยับแทรกจังหวะสอดประสานไปกับผมที่ตอบรับจังหวะนั้น
แล้วจู่ ๆ ปลายนิ้วนั้นก็ถอนออกไปเล่นเอาผมผวาตัวตาม จนคริสส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ
ผมยกกำปั้นขึ้นทุบที่อกเขาเบาๆ เพราะผมแทบจะไม่เหลือแรงแล้ว
ร่างใหญ่ที่ทาบทับนั้นผละออกเพื่อถอดสิ่งกีดขวางของเขาออก
ผมเหลือบตามองก็เห็นส่วนนั้นที่มันขยายเสียเต็มที่และพร้อมที่จะออกรบแล้ว
มันใหญ่กว่าของผมมากนักแล้วทฤษฎีที่ผมเคยอ่านเจอในเน็ตก็แล่นเข้าหัวทันทีว่าการที่โดนยิงโกลด์นั้นเหมือนกันเราเอานิ้วมือยัดรูจมูกนั่นแหละ
ถึงจะรูไม่เท่ากัน ขนาดไม่เท่ากัน
แต่ความเจ็บ พอๆกัน! ใจของผมฝ่อไปเสียแล้ว
แล้วคริสคงจะรู้เลยจัดการป้ายน้ำเหนียวที่ผมทำเลอะไว้ที่ส่วนปลายของเขาแล้วค่อย ๆ แทรกผ่านเข้ามาในร่างของผม
“อ๊ะ! คริส!!” ผมผวาขึ้นกอดเขาทันทีที่ความเจ็บแล่นเข้ามา คริสลูบหลังและจูบขมับปลอบผมแต่ผมกลับนึกกลัวเสียแล้ว
ก็ไอ้นั่นมันเล็กซะเมื่อไหร่เล่า!!
“ถ้าเจ็บหรือทนไม่ไหวก็ข่วนหลังหรือจะกัดไหล่ก็ได้นะ”
เมื่อสิ่งนั้นค่อย ๆ แทรกเข้ามาผมก็ผวาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั้นเพื่อระบายความเจ็บ
เมื่อผมไม่ไหวคริสก็ยังคงคาไว้แบบนั้นเพื่อรอให้ผมปรับจังหวะลมหายใจ
ริมฝีปากคู่นั้นก้มลงมามอบจูบหวาน ๆ ให้ผมอีกครั้ง
สองแขนที่เท้าค้ำไว้ก็ค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วมาประคองสองแก้มของผม
ปลายนิ้วที่คลึงเบา ๆ เรียกให้ผมสงบขึ้นเยอะ
หลังจากที่ผ่อนลมหายใจได้เป็นปกติความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการจนผมยกเอวขึ้นตอบรับสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว
สิ่งนั้นค่อย ๆ ขยับผ่านร่างของผมเข้ามา
ผมที่กำลังหลังมัวเมากับรสจูบที่ป้อนมานี้ก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามันแทรกเข้ามาจนสุดความยาวของมันแล้ว
คริสยังคงนิ่งไว้แล้วป้อนจูบให้หนักหน่วงขึ้นก่อนที่เขาจะเริ่มขยับ
จังหวะช้าเนิบนาบที่ส่งมาเรียกเสียงครางฮือจากผมได้
ผมเบี่ยงหน้าหนีรสจูบนั้นแล้วจิกมือเข้ากับแผ่นหลังขาว
คิดว่าคงได้เลือดซิบกันล่ะแต่ใครล่ะจะสนก็ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังสนใจกับอะไรตอนนี้อยู่ต่างหาก
คริสผละออกเพื่อใช้มือค้ำร่างไว้แล้วเร่งจังหวะสอดแทรกเข้ามา
ผมก็แยกขาออกกว้าง
ผมรู้สึกว่ามันสอดเข้ามาได้ลึกกว่าปกติ เสียงครางของผมสอดรับกับจังหวะที่ตอบรับจังหวะแทรกเข้ามา เสียงหายใจของคริสสลับกับเสียงครางฮือในลำคอยิ่งทำให้ผมไร้ซึ่งสติ
ผมเอื้อมมือออกไปเกี่ยวรั้งคอคริสให้ก้มลงมาจูบ
แม้ว่าเราจะจูบกันอยู่แต่ด้านล่างก็ยังคงสอดจังหวะเข้ามาหนักหน่วงจนผมทนไม่ไหว
อยากได้มากกว่านี้
“อ๊า.. คริส ฉัน...” เสียงของผมขาดหายเมื่อคริสหยุดกายแล้วค่อย
ๆ โน้มตัวลงมาพร้อมกับที่ยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดไหล่ของเขา
ฝ่ามือใหญ่สอดประสานกับมือของผมแล้วกดมือผมลงกับพื้นเตียง
“พร้อมนะ” ผมพยักหน้าตอบรับ
แล้วจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงนั้นก็กลับมาอีกครั้งและยิ่งทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีก
ผมเงยหน้าขึ้นครางเสียงหวานก่อนที่จะงับไหล่ของคนตรงหน้าไว้ เมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นมันเข้าไปลึกเกินไป ขาของผมที่พาดไหล่แข็งแรงไว้ก็เกร็งเพราะความเสียวซ่านและหาที่จิกไม่ได้
ส่วนอีกข้างก็จิกพื้นเตียงไว้ สองมือก็จิกเล็บลงบนหลังมือของคนคร่อมทับ
“อ๊า... ดะ... เดี๋ยวก่อนคริส..
หยุดก่อน!” คริสหันมองหน้าผมแต่ก็ไม่ยอมหยุดจังหวะนั้นลง จนเสียงผมขาดๆหายๆ
“ยะ..หยุดก่อน พักก่อน”
“ทำไมครับ”
เสียงทุ้มยิ่งแหบพร่าเมื่อกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการอย่างถึงที่สุด ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาแล้วหันมองเขาด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเป็นสาย
“ตะ... ตะคริวกินขาอ่ะ”
แล้วจังหวะนั้นก็หยุดลง
คริสมองหน้าผมก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ
แล้วค่อย ๆ ถอยตัวออกไป เพื่อที่จะดูขาข้างที่ผมพาดไว้กับไหล่เขา
สองมือของคริสจับนวดขาข้างนั้นให้ผม ซึ่งตอนนี้ผมโคตรจะอายเลยอ่ะ
ที่อยู่ ๆ ก็ตะคริวแดกตอนที่กำลังโดนเขาแดก
เนี่ย!!! แม่มมมมมมม รู้ถึงไหนอีชานยอลอายถึงนั่น!!!
“หายหรือยังครับ”
ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหล่เมื่อมันเจ็บจี๊ด ๆ
ส่วนล่างที่เชื่อมกันอยู่ก็ยังไม่ยอมลดระยะทางและขนาดลงเลย ทั้งเสียวซ่าน
ทั้งเจ็บแปล่บผสมกันทำเอาสนุกดีพิลึก!
“ไม่ต้องเกร็งมากขนาดนั้นนะ
ถ้าหาที่ลงไม่ได้ก็กัดไหล่ผมไว้นะ” ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง
หลังจากที่คริสนวดขาผมให้หายจากอาการตะคริวกิน
“งั้นมาต่อเลยนะ” คริสกระซิบเบา ๆ อีกครั้ง
เมื่อผมพยักหน้าตอบจังหวะช้า ๆ ก็เริ่มบรรเลงขึ้นก่อนที่จะทบทวีจนหนักหน่วงตามเดิม
ผมเลือกที่จะกัดไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้าไว้เพื่อคลายความเสี่ยวซ่านแทนที่จะเกร็งขา
กลัวตะคริวจะแดกอีกรอบ
คริสโน้มตัวลงมาใกล้และจูบผมจนตอนนี้ผมเลือกรู้สึกดีไม่ถูกแล้วว่า
สิ่งไหนที่ทำให้ผมล่องลอยแบบนี้
จังหวะที่รุนแรงนั้นค่อย ๆ ผ่อนแรงเลง และกลับมาแทรกหนักหน่วงอีกครั้ง จังหวะที่คริสบรรเลงนั้นช่างวาบวามและเสียวซ่านจนผมเผลอร้องครางเสียงดังอีกรอบ
มือทั้งสองข้างก็จิกเล็กแน่นเมื่อคริสกัดที่ซอกคอผมเบา ๆ
“ชานยอล
บอกให้กัดไหล่ไม่ใช่เอาขามารัดคอ” ผมลืมตามองขาของผมที่พาดอยู่บนไหล่กว้างนั้นและมันกำลังรัดคอคริสอยู่จริง
ๆ นั่นล่ะ แต่คริสก็ยังคงไม่ลดจังหวะลงแม้แต่น้อย
“อ๊ะ.. ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ”
ผมขยับขาออกจากคอของคริสออกไปจนเกือบจะสุดปลายไหล่
และนั้นยิ่งทำให้คนบนร่างผมสอดเข้ามาได้ลึกสุด ๆ
คริสขยับรุนแรงและส่งส่วนนั้นเข้ามาลึกจนสุด ผมรู้สึกว่าร่างของผมกระตุกและหยัดเอวขึ้นสูงเพื่อตอบรับส่วนนั้น
“อ๊า.. ชานยอล นายนี่สุดยอดจริง ๆ ”
เสียงทุ้มกระซิบที่หูของผมแต่ผมกลับไม่ได้ยินว่าเสียงนั้นพูดอะไร
เสียงครางเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยพร้อมกับน้ำอุ่น ๆ ที่ฉีดพุ่งเข้ามา ผมได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อย
คริสก้มหน้าลงซุกที่ซอกคอของผมอีกครั้งแล้วขบเม้มแรงขึ้น
ส่วนล่างก็ค่อย ๆ สอดเข้ามาเพื่อปล่อยสายน้ำอุ่นนั้นไว้ในร่างของผมให้หมด
“อื้อ...”
ผมครางเสียงแผ่วก่อนที่จะกัดไหล่แข็งนั้นแรง ๆ เพื่อเตือนให้คริสหยุดขยับได้แล้วไม่อย่างนั้นคงจะได้มีอีกรอบแน่ๆ
กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น