วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Love_Match[KrisYeol]13




Love_Match[1]
Pairing :   KrisYeol
By  winata

~13~
 





ปลายจมูกโด่งของคริสแตะไล่ตั้งแต่แก้มของผมจนมาถึงริมฝีปาก   ซึ่งผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีแล้วแต่ก็ไม่รอดพ้น    ริมฝีปากบางได้รูปนั่นแนบลงมากับกลีบปากของผม  เพียงแค่คริสขยับสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้งผมก็อ่อนโอนผ่อนตามไปเสียแล้ว   มือที่เคยดันไหล่กว้างของคริสให้ถอยห่างก็เปลี่ยนเป็นยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งนั้นแล้วเหนี่ยวรั้งร่างสูงยาวนี่ให้แนบชิด   เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาไล่ต้อนลิ้นของผมและตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ และสมองก็กำลังจะขาวโพลนอีกครั้ง 


ผมหายใจติดขัดเมื่อฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งของคริสค่อย ๆ ดึงเอาชายเสื้อนักศึกษาของผมออกก่อนที่จะสอดมือเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังเบา ๆ จน  ผมหวามไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์ ปลายนิ้วไล้สัมผัสมันแผ่วเบาเพื่อปล่อยให้ผมผ่อนตาม


ผมได้แต่ครางฮือในลำคอเพราะถูกปิดปากเอาไว้  ซ้ำเรียวลิ้นอุ่นจนร้อนจัดนั้นยังคงไล่ต้อนและเกี่ยวกระหวัดตามไล่ผมไม่ห่าง ตอนนี้สมองของผมขาวโพลนไปหมดแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออก ตอนนี้ร่างกายของผมนึกถึงและคิดถึงสัมผัสของคริสเท่านั้น  ปลายนิ้วอีกข้างค่อย ๆ ปลดกระดุมที่เสื้อของผมออกโดยที่ผมไม่รู้ตัว มารู้สึกเอาก็ตอนที่ตุ่มเล็ก ๆ ของทั้งสองนิ้วบดขยี้ไปเสียแล้ว 


ดะ... เดี๋ยวก่อน” 

ผมถอนจูบและดันไหล่ของคริสไว้ พยายามขืนตัวออกเต็มที่ แต่ทว่าก็ออกห่างเด็กนี่ได้ไม่ถึงคืบด้วยซ้ำเพราะคริสเอือมมือโอบผมไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงนั่น 


ชานยอล” คริสกระซิบเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่า ดวงตาคู่คมฉายแววอ้อนวอนให้ผมยอมความ ริมฝีปากบางได้รูปคู่นั้นคอยเฝ้าไล้จูบตามแนวคางของผม 


นะครับคนดีเสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาชิดใบหู พร้อมกับฝ่ามืออุ่นลากไล้ที่แผ่นหลังและสีข้างของผม
ตะ... แต่... แต่... พี่... พี่ไม่... เคยนะ” ผมตอบกลับเสียงแผ่วพลิ้ว คริสยิ้มกว้างทั้งตาและปากทำเอาผมใจอ่อนวาบ ร่างของผมถูกอ้อมแขนนั้นโอบกอดไว้แนบชิด


นั่นไม่ใช่ปัญหา” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี


แต่...” ผมยังคงค้านแต่น้ำเสียงของผมเบาหวิวยิ่งนัก ยิ่งเรียวปากได้รูปพรมจูบไปทั่วแก้มและไล้เลยขึ้นไปยังใบหู และขบเม้มที่ปลายติ่งเบาๆ เรี่ยวแรงและคำเอ่ยค้านก็หายวับไปหมด



นะครับคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วที่ข้างหู ลมเบาๆที่เป่าเข้าหูผมทำเอาสั่นสะท้านไปทั่วร้าง และเพียงเท่านี้ ผมก็ไม่ขัดขืนอีกต่อไป 


ไม่มีคำอนุญาตจากผม   แต่สองมือที่เอื้อมขึ้นไปโอบรอบต้นคอของคริสอีกครั้งนั้นก็มากพอที่จะเป็นคำอนุญาตได้แล้ว  กลีบปากคู่นั้นยามนี้ช่างร้อนจัดเสียจนผมรู้สึกถึงมันทุกครั้งยามที่ลากไล้ผ่านผิวเนื้อของผม 


ทุกครั้งยามที่เรียวปากคู่นั้นสัมผัสที่ผิวกายของผม  อุณหภูมิในร่างกายก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นดั่งเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำและร้อนแรงยิ่งขึ้น  หัวใจที่เคยสั่นเพราะกลัวของผมตอนนี้มันก็เต้นรัวอย่างวามใจ

 
ฝ่ามือใหญ่ที่ลากไล้ผ่านลำคอลงมาที่หน้าอกของผมนั้น ค่อยๆไล้ปัดผ่านยอดอกของผมไปราวกับหยอกเล่น ไล้วนลงไปถึงหน้าท้องของผมก่อนที่จะค่อย ๆ วกขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่จูบซับไล้ตามมา 


ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกของผม   ส่วนอีกข้างก็โดนปลายลิ้นอุ่นไล้สัมผัส ทั้งขบและกัดเบา ๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวซ่าน  จนผมเผลอเกร็งจิกมือเข้ากับเส้นผมของคนที่แทบจะคร่อมผมไว้  เสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอ มันช่างน่าอายยิ่งนัก 


ยิ่งเสียงน่าอายนั้นครางถี่ขึ้น  คริสก็ยิ่งพยายามที่จะทำให้ผมร้องดังขึ้นอีกด้วยการครอบครองยอดอกแล้วผมแล้วไล้เลียดูดมันให้แรงขึ้นอีก ผมบิดกายไปมาอย่างวามไหว แบบนี้ใครจะทานทนได้กันล่ะ 


คะ.. คริสร่างสูงนั่นเงยสายตาขึ้นมามองผม   ก่อนที่จะก้มหน้าลงจัดการกับยอดอกอีกข้างของผม ฝ่ามืออุ่นข้างที่ว่างก็ลูบไล้ตามแนวสีข้างขึ้นลงแผ่วเบา   จนผมก็ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้สติของผมอยู่ที่ไหน ผมเผลอหลุดครางเสียงแผ่วนั้นออกมาอีกครั้ง  คริสยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะกดจูบฝากรอยไว้ที่หน้าอกและลำคอของผม 


ฝ่ามือใหญ่ไล้สัมผัสจากหัวไหล่ลงมายังแขน   และลูบไล้สีข้างของผมก่อนที่มันจะค่อยๆปลดแก้เข็มขัดนักศึกษาของผมออก ริมฝีปากคู่นั้นยังคงจูบซับทำรอยที่มันลากไล้ รอยจ้ำสีอ่อนค่อย ๆ ผุดตามที่กลีบปากคู่นั้นลากผ่าน 


คริสยังคงสาละวนกับซอกคอของผม  เขายังคงจูบซับทำรอยอยู่ ฝ่ามืออุ่นค่อย ๆ ดันร่างของผมให้ลงนอนกับพื้นเตียงนิ่ม  พอแผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงความนิ่มของเตียงแล้วนั้น  ริมฝีปากคู่นั้นก็ตามมาสัมผัสป้อนรสหวานให้อีกครา  มันช่างดูดดื่ม  เร่าร้อนและเร่งเร้าให้สติของผมพร่าเลือนเสียเหลือเกิน 


แผ่นอกของผมหยัดขึ้น    เมื่อริมฝีปากคู่นั้นก้มลงต่ำไปสัมผัสมันอีกครั้ง ครั้งนี้คริสยิ่งไล้สัมผัสมันหนักหน่วงกว่าเมื่อครู่ยิ่งนัก    จนเผลอตัวยกหน้าอกเข้าใกล้ริมฝีปากคู่นั้นเสียเอง มุมปากของคนทาบทับผมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ  ปลายเรียวนิ้วแข็งค่อย ๆ ลากผ่านแนวสีข้างออกผมลงไปแล้วเลยล้วงเข้าไปในกางเกงของผมจนไล้วนสัมผัสกับช่วงเอวขอดของผม   และไม่นานกางเกงนักศึกษาที่ถูกระเบียบของผมก็ค่อย ๆ  รูดลงไปโดนที่ผมไม่รู้ตัว ก่อนที่ริมฝีปากคู่นั่นจะปล่อยยอดอกของผม ผมก็เอ่ยเรียกเขาไว้ด้วยเสียงสั่นพร่าของผม

 
อ๊า... คริส... เดี๋ยว” เสียงสั่นของผม หยุดชะงักของเขาที่กำลังก้มลงไปด้านล่าง คริสเงยหน้าผมมองด้วยสายตาที่ทอแววว่าตอนนี้กำลังต้องการผมอย่างมาก หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ผมได้ยินเสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าปกติ 


ทำไมไม่มีร่องรอยความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น   เขาเพียงแค่ถามด้วยความสงสัยเท่านั้น


มัน... สว่างไป... พี่... พี่อาย” 


ผมบอกเสียงแผ่วก่อนที่จะดึงสาบเสื้อนักศึกษา   ที่แหวกออกจนเห็นร่างของผมมาปิดตัวเองไว้ก่อน ใบหน้าที่แดงจัดของผมเบี่ยงหันหนีไป  คริสยิ้มบาง ๆ  ก่อนที่จะหันไปรูดม่านปิดเตียงเราเอาไว้
ดวงตาคู่คมที่ทอดมองผมในยามนี้นั้นช่างอ่อนหวาน ต้องการและอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ มันทำให้ผมหลงเด็กตรงหน้านี้แทบจะโงหัวไม่ขึ้น


เมื่อม่านถูกรูดปิดกลั้นเตียงไว้หมดแล้วก็ยังคงเห็นเป็นแสงสลัว ๆ แต่ก็ไม่ถึงกลับมืด ผมยังคงคงเห็นคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้และเขาก็คงเห็นเรือนร่างของผมเช่นกัน    ใบหน้าคมที่ทอดมองผมอยู่นั้น แค่ผมมองก็รู้แล้วว่าเขารักและต้องการผมมากแค่ไหน  และนั่นทำให้ผมยอมเขาโดยที่ไม่คิดที่จะห้ามอะไรอีกต่อไป 


ปลายนิ้วยาวเอื้อมมาไล้สัมผัสที่แก้มร้อนจัดของผม  และผมคิดว่าเขาคงรับรู้   รอยยิ้มที่วาดขึ้นตอนสัมผัสมันนั้นกำลังเอ่ยล้อผม  ปลายเรียวนิ้วไล้เบา ๆ ทั้งแก้มผม หลังใบหูและต้นคอของผม ขยับไล้สร้างความวามแก่ผมจนผมหลับตาลงรับสัมผัสนั้นและเอียงใบหน้าเข้าหามือนั้นเสียเอง



ถ้าไม่แน่ใจก็บอกให้ผมหยุดเสียตอนนี้” เป็นคำพูดที่สุภาพบุรุษที่สุดเลยแฟนผมน่ะ อึ๊ยๆๆ เขินตัวจะแตก


 
“แต่ฉันไม่อยากหยุดแล้วล่ะ” แล้วก่อนหน้านั้นจะพูดเพื่อ



เป็นของฉันเถอะนะชานยอลก่อนที่ฉันจะคลั่งไปมากกว่านี้” ผมพูดไม่ออกและแต่มองสบตาคู่นั้น
ฉัน...ต้องการนายมากนะ” เสียงแผ่วเบาของคริสนั้น   กระตุ้นอารมณ์ในกายของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มันทำให้ความกลัวทั้งหลายของผมหายไปหมด    ด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบที่พูดว่าต้องการผม เพียงแค่นั้นผมก็พร้อมยอมเป็นของคริสแล้ว


ผมเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้เสี้ยวหน้าของคริส    ริมฝีปากได้รูปนั้นหันมาจูบที่ฝ่ามือของผม คริสหันหน้ากลับมาสบตาของผมอีกครั้ง 



ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรให้มากมายไปมากกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือไง   ก็ในเมื่อในหัวใจและทุกความรู้สึกของผมมีแต่เด็กบ้าคนนี้ครอบครองและสายตาที่มองกลับมานั้นก็บอกผมหมดทุกอย่างอยู่แล้วว่า ใครกันที่เป็นคนครอบครองหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้ และ.. มันอาจจะตลอดไป

 
ถ้าไม่ใช่ผม แล้วจะเป็นใครล่ะ



ผมค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นเข้าหาคริสแล้วแตะริมฝีปากของผมเข้ากับริมฝีปากของคริส และเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อนแม้ว่าจะดูเก้ ๆ กัง ๆ   แต่คริสก็จูบตอบและค่อย ๆ นำผมไป เรี่ยวแรงของผมไม่เหลืออีกแล้วเมื่อจูบหวาน ๆ นั้นป้อนมาให้คำโต   ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพร้อม ๆ กับร่างใหญ่กว่านั้นที่ตามทับลงมา 



ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาไล้เกี่ยวกับสิ้นของผมที่ตอนนี้ตอบรับกระหวัดกันอย่างไม่เขินอาย ตอนนี้อารมณ์ต้องการของผมก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่



เสื้อนักศึกษาที่ยังคงคาไว้ที่ไหล่ของผมค่อยๆถูกคริสถอดมันออก ผมขยับกายลุกขึ้นอีกนิดเพื่อที่ให้คริสดึงเสื้อนั้นออกไปให้พ้นทาง ทั้งๆที่เรายังคงจูบกันไม่ห่างแต่มือของคริสกลับทำหน้าที่ของมันได้ดีเหลือเกิน ดีเกินไปจนผมแทบคลั่งทุกครั้งที่ปลายนิ้วนั้นไล้ผ่านผิวเนื้อของผม 



เมื่อไร้สิ่งดั้นขวางใด ๆ  คริสก็ก้มลงสัมผัสจูบตามแนวซอกคอของผม สิ่งเดียวที่ผมทำได้เพื่อระบายความวามไหวก็คือเสียงครางของผมที่ดังแผ่ว  คริสค่อย ๆ เคลื่อนกายลงทาบทับผมลงมาชิดกว่าเดิม 



ลมหายใจร้อนที่เป่ารดและไล้ไปทั่วยามที่กลีบปากคู่นั้น   ไล้ขมเม้มทำรอยทำเอาสติผมกระเจิง  ผมบิดตัวไปมา  สองขายาวที่คร่อมตัวผมไว้ก็ถูไล้แนวสีข้างผมเบา ๆ  คริสรุกผมทุกทางจนผมไม่มีทางรอดการโลมเล้านี้เลย   ผมตกบ่วงแห่งความต้องการเขาไปจนปีนกลับขึ้นมาไม่ได้เสียแล้ว



คริสยังคงแทะเล็มซอกคอของผม   สองมือก็ยังคงสาละวนกับการลูบไล้ผม ไล้ลงสีข้าจนไปถึงเอวขอดแล้ววนกลับขึ้นมาทีเดิม ลูบไล้ซ้ำ ๆจ นสมองของผมแทบหยุดสั่งงาน  



“อ๊ะ..” ผมเผลอหลุดครางเสียงดังเมื่อฝ่ามืออุ่นไล้วนมาที่หน้าท้องของผม 



ผมเผลอหยุดขาขึ้น  และมันก็ชนเข้ากับอะไรบางสิ่งที่กำลังพองอยู่ใต้กางเกงนักศึกษาของอีกฝ่าย และมันยิ่งทำให้ผมแก้มร้อนมากเข้าไปอีก 



คริสวกริมฝีปากกลับมาป้อนจูบให้ผมอีกครั้ง  และสองมือก็ค่อย ๆ  ลากไล้ลงไปยังกางเกงของผมที่ถูกปลดตะขอไว้แล้ว  มันเกาะสะโพกของผมอย่างหมิ่นเหม่เพียแค่สองมือนั่นลากเข้าไปในกางมันก็ค่อย ๆ รูดลงทันที กางเกงของผมถูกรั้งลงไปเรื่อย ๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง   ส่วนอีกข้างก็เฝ้าวนไล้ที่หน้าท้องของผมและริมฝีปากได้รูปที่คอยเฝ้าป้อนจูบไม่ห่าง



ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว   ผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป   สองมือของผมเอื่อมขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งแล้วรั้งให้คริสเข้ามาใกล้และมอบสัมผัสให้ผมมากยิ่งขึ้น..ผมต้องการมากกว่านี้.. มากกว่านี้.. และเร่าร้อนกว่านี้



ผมจิกเล็บลงที่ไหล่ของคริส   เมื่อเจ้าตัวใช้สองมือปัดผ่านสิ่งอ่อนไหวของผมที่กำลังค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เสียงครางอื้อในลำคอ   เรียกให้คริสยิ่งแกล้งผมโดยการวนผ่านไปมา  มืออีกข้างที่วนหน้าท้องอยู่ก็ค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ท้องน้อยใกล้กับส่วนนั้น     แต่ฝ่ามืออุ่นก็วกกลับขึ้นมาที่เดิมอีกคราจนผมเผลอคราออกไปด้วยความไม่พอใจ  คนด้านบนกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าของผม 




ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนออกไป รู้แค่เพียงในดวงตาคมนั้นฉายแววพึงพอใจเสียเหลือเกิน



คริสค่อย ๆ ผละจากผมแล้วค่อย ๆ ถดตัวกลับไปด้านล่างเพื่อที่จะถอดกางเกงของผมให้หลุดออกจากร่างแต่ผมก็ผวาทันทีเมื่อเห็นว่าร่างใหญ่นี่ถอยออกไป  สองมือของผมจับที่ไหล่คริส



“ดะ... เดี๋ยวก่อน”



“ทำไมครับที่รัก” เสียงงทุ้มเอ่ยกลับมาด้วยถ้อยคำหวาน ทำเอาผมลืมไปชั่วขณะว่าเอ่ยรั้งทำไมกันทั้ง ๆ ที่ผมก็ต้องการมันเช่นกัน



“คะ... คือห้ามขำเด็ดขาดนะ” แม้จะทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่คริสก็พยักหน้ารับ




กางเกงสแล็คสีดำที่ถูกต้องตามกฎระเบียบมหาวิทยาลัยค่อย ๆ ถูกดึงออกและเผยสิ่งที่น่าอับอายของผม คริสมองมันแล้วก็ยิ้มกริ่ม  ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผม  ส่วนผมก็ได้แต่เบือนหน้าหนีสายตาร้อนรุ่มนั้น




กางเกงซับในลูกไม้สีขาวที่ผมสวมนั้น  ไม่ได้ช่วยให้มันปกปิดอะไรเลยสักนิด คริสขยับตัวขึ้นมากระซิบเสียงแหบข้างหูผม




“นายเซ็กซี่เป็นบ้าเลยชานยอล” ผมเม้มปากไม่ตอบแล้วก็ได้แต่เบือนหน้าหนีอยู่แบบนั้น 
คริสกดปลายจมูกลงกับแก้มของผมก่อนที่จะถอยตัวลงไปที่เดิม
ฝ่ามืออุ่นไล้ที่หน้าขาของผมเบา ๆ  จะไล้ผ่านปลายขาของกางเกงซับในขาบานของผม ยิ่งปลายนิ้วนั่นไล้ขึ้นสูงเท่าไหร่   อาการวูบหน่วงในท้องก็ยิ่งเกร็งตาม มืออีกข้างก็ไล้วนที่ต้นขาด้านใน  ปลายลิ้นอุ่นไล้วนที่รอบสะดือของผม  สร้างความเสียวซ่านจนผมเผลอหยัดกายขึ้นรับสัมผัสเหล่านั้น




“อ่า... คริส” ผมครางเรียกชื่อร่างสูงเสียงสั่นเครือ เสียงที่ผมได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันช่างแหบพร่าและเซ็กซี่แบบที่คริสบอกนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมก็คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว



ส่วนนั้นของผมค่อย ๆ พองออกจนแทบจนล้นออกมาจากชั้นในตัวบางนั้น   คริสค่อย ๆ  ดึงชั้นในของผมลงต่ำจนมันกองอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งแล้วก็จัดการกับส่วนที่แข็งขืน  ปลายนิ้วไล้ตรงท่อนลำนั้นเบา ๆ ก่อนที่โพรงปากอุ่นจะเข้าครองครองมัน



“อ๊า...” ผมหยัดสองขาขึ้นจิกพื้นเตียงไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนไล้วนส่วนปลายให้วาบวาม  เมื่อคริสเริ่มขยับผมก็เริ่มหวีดร้องอีกครั้งและยิ่งจิกพื้นเตียงเพื่อระบายความเสียวซ่านนั้น



ร่างของผมส่ายรับจังหวะนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวและมันคงทำให้คริสแทบคลั่งแน่ ๆ เพราะเจ้าตัวดูสนุกเหลือเกินกับการที่ได้เล่นสนุกกับร่างของผม  สองมือของผมกำผ้าปูเตียงของคริสแน่น ขย้ำจนมันแทบจะขาดติดมือมาอยู่แล้ว ยิ่งคริสเร่งเร้าจังหวะผมก็ยิ่งหวีดร้องและผวาตอบรับจังหวะนั้น 



อาการวามในใจยิ่งพุ่งสูง   จนผมเลื่อนมือไปสอดไล้เข้าใต้เส้นผมสีเข้มของคริสแล้วขยุ้มเส้นผมนั้นแทน จังหวะที่เร่งเร้าก็ค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้น  จนผมเกร็งไปทั้งร่างและปลดปล่อยสายธารนั้นออกมา มันไหลย้อยจากส่วนปลายลงไปด้านล่าง หลังจากปลดปล่อยจนหมดผมก็ผวาลุกขึ้นทันที




“ขอโทษนะ”  ผมช่วยเช็ดมุมปากของคริสที่เปื้อนน้ำสายนั้นของผมด้วยทีท่าตกใจ   แต่คริสกลับยิ้มขำแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบผม รสชาติเค็มแปลก ๆ ที่ผมสัมผัสได้ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด



“น่ารักจังนะ” แล้วคริสก็ได้กำปั้นทุบอกเป็นของตอบแทน



“ถอดเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงเขินอายแช่งด่าไอ้เด็กบ้านี่กลับไปแล้ว 



แต่ตอนนี้มันต่างออกไปผมได้แต่ยื่นมือสั่น ๆ ออกไปค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อให้ผิวกายขาวที่มีมัดกล้ามเผยต่อสายตาผมทำเอาแก้มของผมร้อนหนักกว่าเดิม   ผมไม่กล้าที่จะขยับทำอะไรอีกแต่เสียงกระเส่าที่ชิดริมหูผมนี่สิ



“ถอดกางเกงให้ผมด้วยสิครับที่รัก” สองมือของผมที่วางอยู่บนแผงอกมัดกล้ามนั้นค่อย ๆ ไล้ลงต่ำไปที่หัวเข็มขัด  ผมได้ยินเสียงทุ้มครางแผ่วยามที่ผมลากมือผ่านลงไปด้วย   หลังจากปลดเข็มขัดได้ผมก็ปลดกระดุมกางเกงออก  เพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ตื่นตัวเต็มที่แล้วอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีดำนั้น



คริสช้อนใบหน้าผมแล้วคร่อมทับผมอีกครั้ง  ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้งโดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับไม่ห่างและจูบของเราก็ไม่ยอมห่างเช่นกัน



“ไม่ต้องเกร็งนะครับ” เสียงแหบที่กระซิบข้างหูเรียกให้ผมพยักหน้ารับตาม 



คริสละจูบออกไปแล้วเพียงไม่นาน   ผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สัมผัสที่ส่วนปลายของผมปาดเช็ดคราบน้ำเหนียวนั้นและชโลมมันที่ช่องทางด้านหลัง   เมื่อโดนกระตุ้นสองขาของผมก็หยัดขึ้นและแยกออกโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ผมจะผวาเฮือกเมื่อสัมผัสถึงปลายนิ้วนั้นที่ลำแหละเข้ามา



“อ๊า... คริสฉันเจ็บ” ผมหลับตาแน่นแล้วเบือนหน้าหนี  คริสตามมาประกบจูบผมแล้วจูบซับมุมปากของผม



“อย่าเกร็งนะ” ผมพยักหน้าอีกรอบก่อนที่จะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ คริสยังคงสาละวนกับการจูบซับซอกคอผมอยู่   เมื่อผมหายใจได้เป็นปกติเรียวนิ้วนั้นก็ขยับเป็นจังหวะ มันยิ่งสร้างความรัญจวนใจแก่ผมยิ่งนัก เสียงครางหวานหูสำหรับคริสก็ดังขึ้นอีก



คริสขยับปลายนิ้วเบา ๆ ก่อนที่จะเร่งจังหวะที่หนักหน่วงและเร็วขึ้น   แล้วนิ้วที่สองก็ตามแทรกเข้ามาผมหยัดกายขึ้นสูงอย่างวามไหวแล้วหอบหายใจแรง  คริสก็คอยจูบซับผม มืออีกข้างก็คอยลูบเนื้อตัวผมให้ผ่อนคลาย ขยับแทรกจังหวะสอดประสานไปกับผมที่ตอบรับจังหวะนั้น 



แล้วจู่ ๆ ปลายนิ้วนั้นก็ถอนออกไปเล่นเอาผมผวาตัวตาม  จนคริสส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ ผมยกกำปั้นขึ้นทุบที่อกเขาเบาๆ เพราะผมแทบจะไม่เหลือแรงแล้ว 



ร่างใหญ่ที่ทาบทับนั้นผละออกเพื่อถอดสิ่งกีดขวางของเขาออก  ผมเหลือบตามองก็เห็นส่วนนั้นที่มันขยายเสียเต็มที่และพร้อมที่จะออกรบแล้ว    มันใหญ่กว่าของผมมากนักแล้วทฤษฎีที่ผมเคยอ่านเจอในเน็ตก็แล่นเข้าหัวทันทีว่าการที่โดนยิงโกลด์นั้นเหมือนกันเราเอานิ้วมือยัดรูจมูกนั่นแหละ   ถึงจะรูไม่เท่ากัน ขนาดไม่เท่ากัน



แต่ความเจ็บ พอๆกัน! ใจของผมฝ่อไปเสียแล้ว แล้วคริสคงจะรู้เลยจัดการป้ายน้ำเหนียวที่ผมทำเลอะไว้ที่ส่วนปลายของเขาแล้วค่อย ๆ แทรกผ่านเข้ามาในร่างของผม



“อ๊ะ! คริส!!” ผมผวาขึ้นกอดเขาทันทีที่ความเจ็บแล่นเข้ามา คริสลูบหลังและจูบขมับปลอบผมแต่ผมกลับนึกกลัวเสียแล้ว 


ก็ไอ้นั่นมันเล็กซะเมื่อไหร่เล่า!!



“ถ้าเจ็บหรือทนไม่ไหวก็ข่วนหลังหรือจะกัดไหล่ก็ได้นะ” เมื่อสิ่งนั้นค่อย ๆ แทรกเข้ามาผมก็ผวาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั้นเพื่อระบายความเจ็บ  เมื่อผมไม่ไหวคริสก็ยังคงคาไว้แบบนั้นเพื่อรอให้ผมปรับจังหวะลมหายใจ   ริมฝีปากคู่นั้นก้มลงมามอบจูบหวาน ๆ ให้ผมอีกครั้ง  สองแขนที่เท้าค้ำไว้ก็ค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วมาประคองสองแก้มของผม   ปลายนิ้วที่คลึงเบา ๆ เรียกให้ผมสงบขึ้นเยอะ หลังจากที่ผ่อนลมหายใจได้เป็นปกติความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการจนผมยกเอวขึ้นตอบรับสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว




สิ่งนั้นค่อย ๆ ขยับผ่านร่างของผมเข้ามา ผมที่กำลังหลังมัวเมากับรสจูบที่ป้อนมานี้ก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามันแทรกเข้ามาจนสุดความยาวของมันแล้ว คริสยังคงนิ่งไว้แล้วป้อนจูบให้หนักหน่วงขึ้นก่อนที่เขาจะเริ่มขยับ



จังหวะช้าเนิบนาบที่ส่งมาเรียกเสียงครางฮือจากผมได้  ผมเบี่ยงหน้าหนีรสจูบนั้นแล้วจิกมือเข้ากับแผ่นหลังขาว คิดว่าคงได้เลือดซิบกันล่ะแต่ใครล่ะจะสนก็ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังสนใจกับอะไรตอนนี้อยู่ต่างหาก



คริสผละออกเพื่อใช้มือค้ำร่างไว้แล้วเร่งจังหวะสอดแทรกเข้ามา   ผมก็แยกขาออกกว้าง ผมรู้สึกว่ามันสอดเข้ามาได้ลึกกว่าปกติ    เสียงครางของผมสอดรับกับจังหวะที่ตอบรับจังหวะแทรกเข้ามา    เสียงหายใจของคริสสลับกับเสียงครางฮือในลำคอยิ่งทำให้ผมไร้ซึ่งสติ    ผมเอื้อมมือออกไปเกี่ยวรั้งคอคริสให้ก้มลงมาจูบ แม้ว่าเราจะจูบกันอยู่แต่ด้านล่างก็ยังคงสอดจังหวะเข้ามาหนักหน่วงจนผมทนไม่ไหว อยากได้มากกว่านี้



“อ๊า.. คริส ฉัน...” เสียงของผมขาดหายเมื่อคริสหยุดกายแล้วค่อย ๆ โน้มตัวลงมาพร้อมกับที่ยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดไหล่ของเขา ฝ่ามือใหญ่สอดประสานกับมือของผมแล้วกดมือผมลงกับพื้นเตียง



“พร้อมนะ” ผมพยักหน้าตอบรับ แล้วจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงนั้นก็กลับมาอีกครั้งและยิ่งทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีก    ผมเงยหน้าขึ้นครางเสียงหวานก่อนที่จะงับไหล่ของคนตรงหน้าไว้   เมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นมันเข้าไปลึกเกินไป  ขาของผมที่พาดไหล่แข็งแรงไว้ก็เกร็งเพราะความเสียวซ่านและหาที่จิกไม่ได้ ส่วนอีกข้างก็จิกพื้นเตียงไว้ สองมือก็จิกเล็บลงบนหลังมือของคนคร่อมทับ



“อ๊า... ดะ... เดี๋ยวก่อนคริส.. หยุดก่อน!” คริสหันมองหน้าผมแต่ก็ไม่ยอมหยุดจังหวะนั้นลง จนเสียงผมขาดๆหายๆ



“ยะ..หยุดก่อน พักก่อน”



“ทำไมครับ” เสียงทุ้มยิ่งแหบพร่าเมื่อกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการอย่างถึงที่สุด  ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาแล้วหันมองเขาด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเป็นสาย



“ตะ... ตะคริวกินขาอ่ะ” แล้วจังหวะนั้นก็หยุดลง 



คริสมองหน้าผมก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ถอยตัวออกไป   เพื่อที่จะดูขาข้างที่ผมพาดไว้กับไหล่เขา สองมือของคริสจับนวดขาข้างนั้นให้ผม   ซึ่งตอนนี้ผมโคตรจะอายเลยอ่ะ  ที่อยู่ ๆ ก็ตะคริวแดกตอนที่กำลังโดนเขาแดก



เนี่ย!!! แม่มมมมมมม รู้ถึงไหนอีชานยอลอายถึงนั่น!!!



“หายหรือยังครับ” ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหล่เมื่อมันเจ็บจี๊ด ๆ ส่วนล่างที่เชื่อมกันอยู่ก็ยังไม่ยอมลดระยะทางและขนาดลงเลย ทั้งเสียวซ่าน ทั้งเจ็บแปล่บผสมกันทำเอาสนุกดีพิลึก!



“ไม่ต้องเกร็งมากขนาดนั้นนะ ถ้าหาที่ลงไม่ได้ก็กัดไหล่ผมไว้นะ” ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง หลังจากที่คริสนวดขาผมให้หายจากอาการตะคริวกิน



“งั้นมาต่อเลยนะ” คริสกระซิบเบา ๆ อีกครั้ง เมื่อผมพยักหน้าตอบจังหวะช้า ๆ ก็เริ่มบรรเลงขึ้นก่อนที่จะทบทวีจนหนักหน่วงตามเดิม   ผมเลือกที่จะกัดไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้าไว้เพื่อคลายความเสี่ยวซ่านแทนที่จะเกร็งขา กลัวตะคริวจะแดกอีกรอบ



คริสโน้มตัวลงมาใกล้และจูบผมจนตอนนี้ผมเลือกรู้สึกดีไม่ถูกแล้วว่า  สิ่งไหนที่ทำให้ผมล่องลอยแบบนี้ จังหวะที่รุนแรงนั้นค่อย ๆ ผ่อนแรงเลง และกลับมาแทรกหนักหน่วงอีกครั้ง จังหวะที่คริสบรรเลงนั้นช่างวาบวามและเสียวซ่านจนผมเผลอร้องครางเสียงดังอีกรอบ มือทั้งสองข้างก็จิกเล็กแน่นเมื่อคริสกัดที่ซอกคอผมเบา ๆ



“ชานยอล บอกให้กัดไหล่ไม่ใช่เอาขามารัดคอ” ผมลืมตามองขาของผมที่พาดอยู่บนไหล่กว้างนั้นและมันกำลังรัดคอคริสอยู่จริง ๆ นั่นล่ะ แต่คริสก็ยังคงไม่ลดจังหวะลงแม้แต่น้อย


“อ๊ะ.. ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ” 



ผมขยับขาออกจากคอของคริสออกไปจนเกือบจะสุดปลายไหล่ และนั้นยิ่งทำให้คนบนร่างผมสอดเข้ามาได้ลึกสุด ๆ คริสขยับรุนแรงและส่งส่วนนั้นเข้ามาลึกจนสุด  ผมรู้สึกว่าร่างของผมกระตุกและหยัดเอวขึ้นสูงเพื่อตอบรับส่วนนั้น 



“อ๊า.. ชานยอล นายนี่สุดยอดจริง ๆ ” เสียงทุ้มกระซิบที่หูของผมแต่ผมกลับไม่ได้ยินว่าเสียงนั้นพูดอะไร เสียงครางเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยพร้อมกับน้ำอุ่น ๆ ที่ฉีดพุ่งเข้ามา  ผมได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อย 



คริสก้มหน้าลงซุกที่ซอกคอของผมอีกครั้งแล้วขบเม้มแรงขึ้น ส่วนล่างก็ค่อย ๆ สอดเข้ามาเพื่อปล่อยสายน้ำอุ่นนั้นไว้ในร่างของผมให้หมด



“อื้อ...” ผมครางเสียงแผ่วก่อนที่จะกัดไหล่แข็งนั้นแรง ๆ เพื่อเตือนให้คริสหยุดขยับได้แล้วไม่อย่างนั้นคงจะได้มีอีกรอบแน่ๆ




กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีนะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น