วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [4]

Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [4]

PG-13[Medium Fiction ขนาด 14 ตอนจบ]

Author :Z-rowink

Contact  me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย  หรือทวงถามฟิคได้ ^^)




เรื่องโชคชะตา...พรหมลิขิต   เป็นเรื่องขบขันเพราะทุกสิ่งล้วนมาจากอำนาจน้ำเงินทั้งนั้นเรื่องนี้อ๊คแทคยอนรับรองได้เลย   อดจะยิ้มไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสองชั่วโมงกว่าที่เกิดขึ้นที่นี่ในร้านคอฟฟี่ช็อปในเครือโรงแรมพาราไดซ์ที่มาตั้งให้บริการในโรงพยาบาลเอกชน


อย่าคิดว่าคำตอบของใครอีกคนที่รับปากส่งๆ ที่หนีเอาตัวรอดเมื่อวานนี้จะทำให้เขาใจอ่อนไม่เล่นเกมนี้ 



ยิ่งเจอของถูกใจที่ได้มายาก  นั้นยิ่งท้าทายให้ลงเล่นเกมนี้อย่างอารมณ์ดีจนต้องถึงขั้นต้องมาดูแลคอฟฟี่ช็อปเล็กๆ แห่งนี้โดยทิ้งหน้าที่เชฟใหญ่ของภัตตาคารใหญ่ไปให้ลูกน้องดูแลแล้วตนเองจะเข้าไปดูเฉพาะคืนวันเสาร์เท่านั้นเพียงเพราะอยากจับเจ้าชายน้อย


“พี่ชายไม่ลองชิมเค้กสตอร์เบอร์รี่เหรอคะ  พี่แทคยอนบอกว่ามันอร่อยที่สุดเลยนะน้า  ดูสิสตอร์เบอร์รี่ลูกโตโต้”


เสียงแจ๋วๆ ของเด็กหญิงที่พยายามโน้มน้าวให้พี่ชายลองชิมเค้กชิ้นเล็กที่ถูกตักออกมาเตรียมป้อน



“น้องหนูทานเถอะค่ะ  เรารีบทานรีบเสร็จเดี๋ยวใกล้เวลาคุณหมอไปตรวจตอนบ่ายแล้วนะ” นิชคุณว่าก่อนจะใช้ทิชชูเช็ดครีมที่มุมปากอย่างแผ่วเบา


“ถ้าน้องหนู  อยากทานอะไรเพิ่มบอกพี่ได้เลย”  สายตาคมตวัดฉับใส่คนที่กำลังยิ้มพรายอยู่ตรงหน้า


“พอแล้ว  วันนี้น้องหนูก็ทานไปสองชิ้นแล้ว  เดี๋ยวจะทานข้าวเย็นไม่ได้” 


เด็กหญิงไม่ได้สนใจกับการพูดคุยเบาๆกึ่งกระซิบของผู้ใหญ่ทั้งสองคน  นอกจากเค้กในจานของตัวเองกับนมอุ่นๆ ในแก้วที่ตอนนี้ทั้งสองอย่างกำลังจะหมดลงแล้ว


ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังทำสงครามทางสายตา  เป็นแทคยอนที่สังเกตเห็นความผิดปกติก่อน


“ระวังครับ  น้องหนู”


แต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปเพราะเด็กหญิงฮยอนอาตกจากกระดานสไลด์จากสนามเด็กเล่นที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะที่เคยนั่งทานขนมเค้กอยู่


“น้องหนู...!!!” นิชคุณได้แต่อุทานแต่ยังช้ากว่าชายหนุ่มที่เคยนั่งข้างกันที่ตอนนี้ไปถึงตัวของฮยอนอาแล้ว



“ไงครับ  คนเก่งจับตรงไหนไหม”  แทคยอนช่วยเด็กหญิงยืนขึ้นก่อนจะช่วยปัดเศษดินออกจากชุดผู้ป่วย  พร้อมมองหาร่องรอยบาดแผล



“ไม่เจ็บคะ  แค่จับกบไป 2-3 ตัวเอง” ชายหนุ่มอดจะขำกับเด็กหญิงตรงหน้าไปไม่รู้รอบเท่าไรของวัน



นิชคุณที่กำลังมองชายหนุ่มที่คุกเข่าลงพื้นดินของสนามเด็กเล่นแบบไม่กลัวชุดเปื้อนช่วยพยุงฮยอนอาและตอนนี้กำลังช่วยรวบผมให้หลังจากที่ริบบิ้นมัดผมของฮยอนอาคลายออก  อ่อนโยนแบบนี้จริงๆ  รึเปล่า ตัวตนที่แท้จริงของนายอ๊คแทคยอน


“กลับห้องเถอะค่ะน้องหนู” เอื้อมมือไปจูงเด็กหญิงก้าวเดินกลับเข้าไปยังอาคารโดยที่ไม่เอ่ยแม้กล่าวลาใครอีกคน


“ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ นิชคุณ”


“พี่ครับ  จะให้ผมปิดร้านเลยไหม?”  เสียงเรียกของพนักงานในร้านที่มาทำงานประจำในกะบ่ายเรียกสติแทคยอนกลับมายังเวลาปัจจุบัน


“ปิดร้านได้เลยอูยอง  ส่วนเค้กที่เหลือวันนี้เราแบ่งได้กล่องไปทานบ้านได้เลยนะ”


อะ...ครับ ทราบแล้วครับ


“เดียวก่อนอุยอง   ถ้าเราเหนื่อยนักก็พักๆ งานช่วงกลางคืนซะมั้งเถอะ  นี่เทอมสุดท้ายแล้ว”


“ขอบคุณครับพี่ถ้าผมไม่ไหวจะบอก” 


แทคยอนส่ายหน้ากับการรั้นของหนุ่มรุ่นน้องที่มาทำงานในกะกลางวันของร้าน  จางอูยองเป็นอีกคนที่เขาให้ความเอ็นดูในความขยันที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่สมัยมอปลาย   แรงสั่นสะเทือนจากไอโฟนที่อยู่ในมือทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที...กำลังนึกถึงใบหน้าคนช่างโมโหอยู่ซะด้วย โทรมาขัดซะได้!!


ว่าไงดูจุน? ” กรอกเสียงทุ้มเข้มลงไปอย่างเคยชินจนคนปลายสายรู้ตัวว่า...โทรมาผิดจังหวะแน่ๆ...


“รู้แล้วครับ  วันนี้เจ้าชายน้อยจะไปไหน”


ที่ไหน?  …ขอบใจมากที่รายงาน


“คุณหนูเล็กครับ  สนใจหรือแค่หลง?”


“........”


ไม่ตอบปลายสายนอกจากกดปุ่มสีแดงเป็นอันว่าจบการสนทนากับปลายสาย 



แทคยอนกระตุกยิ้มมุมปาก     ก่อนจะเบนสายตาไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าของกรุงโซลอย่างอารมณ์บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันทำไม  ต้องสนใจกับคุณหมอหนุ่มที่ออกจะเย็นชาและไม่ใส่ใจกับสิ่งต่างๆ รอบข้างขนาดนี้ทั้งที่จะขีดเส้นความสัมพันธ์ให้เป็นเหมือนคนอื่นๆ ก็ได้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป


“สนใจหรือแค่หลง   ถามได้ดีนะดูจุน”




+++++++++++++++++++




สนใจหรือแค่หลง


ที่เลขาคนสนิทถามไปเมื่อหลายวันก่อนยังวนเวียนอยู่ในหัว    สลัดยังไงก็ไม่หลุด



จนต้องออกมาหาอะไรทำในยามค่ำคืน  แม้จะรู้สึกอิ่มเอมใจกับบทรักเร่าร้อนกับนายแบบหนุ่มหน้าหวานที่มีร่างกายบอบบางที่เผอิญเจอกันในคืนนี้  ก็ไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกได้เท่ากับใครคนหนึ่งที่ตอนนี้ชักโผล่บ่อยๆ



ทุกครั้งที่หลับตา  ใบหน้าเรียวคมสวยที่ยิ้มพราวยังคงตราตรึงจนนึกหงุดหงิดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน   หงุดหงิดเสียจน.......จนอยากจะ??  อยากจะทำอะไรต่อไปก็ยังบอกตัวเองไม่ได้เลย



“...บ้าชะมัด!!!สบถเบาๆเมื่อนึกถึงใครอีกคนทั้งๆที่ข้างกายมีนายแบบหนุ่มหน้าหวานหลับตาพริ้มอยู่ 



ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสื้อผ้าที่ถูกถอดกระจายอยู่ทั่วพื้นห้องถูกนำมาสวมใส่อีกครั้ง  เงินก้อนหนึ่งถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง     ก็แค่เศษเงินที่ใช้ซื้อความสุขทางกาย  เดินมาดนิ่งออกมาจากห้องนั้นอย่างไม่ใส่ใจนัก นัยน์ตาคมที่ใครๆ เคยชื่นชมตอนนี้เหลือเพียงสายตาคมกริบฉายแววกร้าวอย่างคนกักเก็บอารมณ์ขุ่นมัวไว้ภายใน


ให้มันได้อย่างนี้สิ!!  
อ๊คแทคยอนหงุดหงิดใจเพราะนิชคุณ  



ก็แค่คนเพียงคนเดียวที่เจอกันไม่กี่ครั้งเท่านั้น ความสัมผัสทางกายแม้มันจะอ่อนหวานตราตรึง  แล้วมันต่างกับคนอื่นที่ผ่านมาตรงไหน?  ก็แค่ผิวขาวนุ่มๆของผู้ชายคนหนึ่งที่มันหอมหวานเหมือนเนยสด...ทั้งหอมทั้งหวานจนน่าลิ้มลองอีกครั้งเท่านั้นจริงๆ



บ้าชะมัด!!! นี่เขาคงไม่ได้เป็นแบบพี่จุนซูหรอกนะ...ที่โหยหาสัมผัสของอังอังน้อย...จนพร่ำเพ้อไม่เป็นอันทำงานทำการ...เวลาที่อังอังน้อยหนีหายไปจากอุ้งมือ

เพราะมัวแต่ใจลอยจนเกือบไม่ได้สังเกตชายหนุ่มใบหน้าคมหวานคุ้นตาที่ชื่อนิชคุณที่วิ่งสวนออกมาจากลิฟต์   ทำให้ร่างสูงหยุดเดินทันที   




ไม่ผิดแน่...นั้นนิชคุณแต่มาทำอะไรที่นี่?!!!




ในโรงแรมระดับหรูห้าดาวแบบนี้ได้ในเวลาตีสามกว่าๆ  เร็วเท่าความคิดไม่สิเร็วเท่าฝีเท้าของนิชคุณเพราะตอนนี้แทคยอนมาหยุด อยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง  ห้องที่ร่างบางพึ่งวิ่งเข้าไป



อารมณ์ตอนนี้ของแทคยอนเหมือนภูเขาไฟจะระเบิดที่พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างที่ขว้างหน้า   เขาเป็นคนเอาแต่ใจอยู่แล้วจึงได้ถือวิสาสะเปิดประตูที่ปิดไม่สนิทเข้าไป แต่ภาพภายในห้องทำให้อดจะแปลกใจไม่น้อย     

เด็กหญิงหน้าตาน่ารักน่าจะอายุราวๆ 5 ขวบ แต่ดูท่าทางกำลังจะทรมานไม่ใช่น้อยปรายตามองไปนิชคุณที่ตอนนี้ในโหมดหมอเต็มตัว

ไม่มีไข้นี่น้า  พี่จีน่าแล้วจู่ๆ กายูนชักได้ยังไง  ชักมากี่ครั้งแล้ว?

เอ่ยถามขึ้นเมื่อสำรวจตามร่างกายอย่างคร่าวๆ...อาการเกร็งทั้งตัว  ไหนน้ำลายฟูมปากที่มีสีแดงจางของเลือดผสมออกมาอีก    หวังว่าคงไม่ใช่...

ครั้งที่2 แล้ว ครั้งแรกเมื่อหลายวันก่อนแต่ตอนนั้นมีไข้ธรรมดา   แต่ครั้งนี้จู่ๆก็ชัก”  จีน่าตอบชายหนุ่มรุ่นน้องด้วยเสียงเครือ


เวรแล้วไง  ถ้าเป็นแบบนี้อาจมีสิทธิ์เป็นลมชักได้

เรียกรถพยาบาล  เดี๋ยวนี้เลยพี่จีน่านิชคุณบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน

ไม่ต้องหรอกร่างบางหันไปทางต้นเสียงทันที

กำลังจะอ้าปากเถียงถ้าเกิด...ความคิดของเขาขาดหายไปเมื่อเจ้าของน้ำเสียงอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบตัวทันที

ไปรถฉันเนี้ยแหล่ะ   เร็วสิลุกขึ้น

นาย...


แทคยอนไม่เอ่ยซ้ำแต่สาวเท้าอย่างเร็วเมื่ออุ้มเด็กน้อยได้ถนัดแล้ว     กลายเป็นจีน่าจะคว้ามือร่างบางเดินตามไปเร็วโดยรี่รอสักนิด   


ชายหนุ่มอุ้มเด็กหญิงมาไว้เบาะหลังให้นอนราบหนุนตักผู้เป็นแม่ ส่วนนิชคุณมานั่งเบาะหน้าข้างคนขับด้วยสีหน้าเป็นกังวล    นั้นทำให้แทคยอนเหยียบรถเต็มพิกัดจนร่างบางต้องโว้ยขึ้นมา

ขับช้าหน่อยก็ได้ 

เดี๋ยวก็ตายหมดทั้งคันกันพอดี...แต่ประโยคนั้นได้แต่พูดต่อในใจตนเองเท่านั้น

ถ้านายเห็นสีหน้าตัวเองตอนนี้ก็ต้องทำแบบฉันนี่ล่ะ

“จิ๊.......”

นิชคุณเสหน้าหนี  ก่อนจะบ่นในใจต่อ..คนบ้าอะไรกวนโมโหอีกแล้ว...แต่ขับเร็วขนาดนี้ใครจะไม่กลัวนี่เหยียบจะเกินสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่แล้ว

ช้าหน่อยก็ได้

รู้แล้วล่ะน่า!!  พูดมากจริงวันนี้คุนนี่เสียงทุ้มห้วนตอบกลับพร้อมลดความเร็วลงแต่ก็ไม่มากนัก


ในขณะหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังได้แต่มองด้วยความสงสัย  เพราะปกตินิชคุณไม่เคยใช้สำเนียงที่ออกแนวเกรี้ยวกราดกับใครเลย   หรือแม้กระทั่งขึ้นเสียง  ออกจะน้ำเสียงโทนเดียวตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำไหนจะอาการช้อนตาค้อนนั้นอีก


+++++++


ร่างสูงยืนพิงกำแพงนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่เด็กน้อยน่ารักกายูนถูกเข็นเข้าไป

ไม่เข้าใจ???

เหมือนกันว่าทำไมต้องมายืนรอแบบนี้ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ได้สนใจอาการของเด็กนั่นมากมายเท่าไร...แต่ที่ติดใจคงเป็นใบหน้าเรียวคมที่ขมวดคิ้วยุ่งอย่างเป็นกังวลมาตลอดทางและที่สำคัญกว่า  

นิชคุณกับผู้หญิงที่นั่งกุมมือสวดมนต์ต่อพระเจ้าที่นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นอะไรกัน  มันคาใจจนรู้สึกหงุดหงิด

เป็นไงบ้าง?”

ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นเมื่อนิชคุณเดินออกมาตามหลังบุรุษพยาบาลที่เข็นเด็กหญิงไปยังห้องพักผู้ป่วยโดยมีผู้เป็นแม่เดินตามไปแล้ว

ไม่เป็นไรมากแล้ว  วันนี้ให้ยาตามอาการก่อน  เดี๋ยวต้องเช็คอีกทีตอนนี้ยังระบุโรคไม่ได้นิชคุณเอ่ยกลับด้วยสีหน้าซีดเซียว   จนชายหนุ่มนึกในใจเสียไม่ได้......ห่วงแต่คนป่วยจนไม่สนใจตัวเองเลย

ระบุโรคไม่ได้?” แทคยอนถามกลับก็แค่ชวนคุยเท่านั้น

อืม ฉันก็หวังว่าจะไม่ใช่โรคลมชักนะ  ถ้าใช่ขึ้นมาถ้าอาการกำเริบชักซ้ำ ๆ ติดกันนานเป็นชั่วโมงและอาจมีไข้สูงเรียกว่า สเตตัสเอพิเล็ปติคัส  อาจจะทำให้ถึงตายได้

ครั้งแรกที่แทคยอนฟังคนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มชวนฟังไม่ใส่อารมณ์โมโหที่เขาขยันชวนให้โมโห

อ่อ  แล้วนี่จะกลับหรือยัง?”

เอ่ยถามราบเรียบพร้อมกับหยิบม้วนสีขาวจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทำท่าจะสูบเหมือนกับไม่รู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน


นายจะบ้าหรือไง!!เร็วเท่าคำพูดมือขาวของจุนอยองคว้ามวนนิโคตินมาเก็บไว้เสียเองก่อนจะขยับเตรียมด่าแต่ก็มีอันชะงักไปเมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อน


หยุดพูดเลย   นายคิดว่าฉันจะสิ้นคิดสูบในโรงพยาบาลรึไงคุณหมอ  ก็แค่คาบไว้แก้เหงาปากเท่านั้นแหล่ะน่า


นิชคุณได้ยินแล้วได้แต่ถลึงตามองคนตรงหน้า   คาบไว้แก้เหงา? เชื่อเขาเลยกับผู้ชายคนนี้อ๊คแทคยอน!!!!


ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีไปอีกทางหนึ่งแต่มีเรียวแขนในเสื้อกาวน์ถูกคว้าไว้ก่อน


“จะไปไหน?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม


“ห้องพักแพทย์”


“ไปทำไม   ไม่กลับบ้านรึไง?  พรุ่งนี้เฮ้ยวันนี้ไม่ต้องเข้าเวรนิ”


นิชคุณถอนหายใจกับกิริยาที่แสนดื้อดึงที่คาดคั้นเอาคำตอบของตรงหน้าจริงๆ   ทั้งที่หน้าตาออกจะดีทำงานร้านกาแฟที่ขายเค้กแสนน่ารัก    แต่ทำไมความรู้สึกที่อยู่ใกล้ทีไรมันบอกว่าคนคนนี้น่ากลัวเหมือนกับกำลังซ่อนอะไรไว้ใต้หน้ากากรอยยิ้มการค้าที่แสนใสซื่อ  


แบบนี้ไงเขาถึงไม่อยากจะอยู่ใกล้เสียงฝีเท้าที่เดินตามมา    ทำให้อดรนทนไม่ไหว...จะเดินตามมาทำไม? ว่างงานหรือไงหรือไม่มีบ้านให้กลับใช่ไหมอ๊คแทคยอน?   ชายหนุ่มยิ้มซื่อตามสไตล์ให้คนใส่เสื้อกาวน์ที่หันกลับมามองหน้า


ขอกาแฟดื่มสักถ้วยนะครับคุณหมอ   หวังว่าคงไม่ใจร้ายเกิดขับรถกลับแล้วง่วงหลับในแล้ว...


เข้าใจแล้วครับ

แก้วกาแฟสองถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะเสียงช้อนกระทบกันดังกังวานควันสีเทาลอยขึ้นมา

นายจะจ้องฉันอีกนานมั้ย?   ไหนว่าอยากกินกาแฟนิชคุณตัดสินใจถามหลังจากเงียบให้นั่งจ้องมานานสองนาน

จนกว่าจะได้ไปส่งนายกลับบ้านมั้ง?”

ตอบทีเล่นทีจริงพร้อมกับสายตาที่ยังอยู่ใบหน้าเรียวคมของคุณหมอที่ตอนนี้เริ่มมีสีสันขึ้นมาบ้างแล้ว

ตอนนี้นิชคุณไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูดกับคนที่กวนโมโหตรงหน้านี้!! ถ้าไม่เห็นถึงความดีที่พาลูกสาวพี่จีน่ามาส่งโรงพยาบาลนะ  จะเหวี่ยงหมัดให้สักเปรี้ยง!! เอาให้ตายเถอะ!!! สาบานจริงๆ นะ

ไอ้คนที่กวนโมโหที่เอาแต่จ้องหน้าเขาโดยไม่จิบกาแฟเลยสักจิบ  ทั้งที่ตัวเองบอกมาขอกาแฟดื่ม!!!!

นิชคุณเดินเรื่อยๆ มาจนถึงป้ายรถเมลล์หน้าโรงพยาบาลก็ต้องพบกันอ๊คแทคยอนที่ยืนพิงรถยนต์เอสยูวีกึ่งสปอร์ตสุดหรูอยู่  คนที่เขาเพิ่งชิ่งหนีออกมาจากห้องพักแพทย์เมื่อตะกี้นี้

ดึกแล้ว  กลับด้วยกัน

เสียงทุ้มพูดห้วนๆ   พร้อมด้วยการลงแรงบีบตรงข้อมือที่แรงขึ้นเรื่อยๆแถมยังลากนิชคุณที่มัวแต่เชื่องช้าและตกใจกับคนตรงหน้าเผลออีกทีก็ถูกดันขึ้นรถพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ

อย่ามาเถียง  กี่โมงกี่ยามรู้บ้างไหม?

ยอมรับตอนนี้ร่างบางเถียงไม่ออก...ไอ้...ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ไอ้รอยยิ้มกวนประสาทแบบนี้เลิกทีได้มั้ย?

บ้านอยู่ไหน?”

เอาอีกล่ะน้ำเสียงห้วนๆ เอาแต่ใจแบบนี้...นิชคุณถอนหายใจเฮือกราวกับยอมรับโชคชะตาของตนเอง

ขับตรงไปแล้ว  แล้วเลี้ยวซ้าย  เดี๋ยวบอกทางให้เอ่ยตอบเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด

แต่สิ่งตอบกลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะขบขันที่ดังอยู่ข้างหูอยู่  ได้แต่นึกในใจมารยาทขั้นพื้นฐานของคนข้างกายคงไม่มีจริงๆ  
เกือบลืม  ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับนาย

จะอยากรู้ไปทำไมนี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันเอ่ยถามกลับแทนคำตอบ

ก่อนจะหันมามองหน้าคนขับรถงงๆ เพราะความเร็วรถดูเหมือนจะชะลอลงและหยุดนิ่งในที่สุด   ยิ่งคนขับที่ตอนนี้ทำหน้าราวกับจะฆ่าคนได้

จอดรถทำไม?”

มันตอบยากนักหรือไงคำถามง่ายๆ แค่นี้

แทคยอนก็พอรู้ดีว่าคงไม่ใช่ภรรยาเป็นแน่เพราะเท่าที่ดูจุนไม่ได้รายงานมานิชคุณยังไม่แต่งงานและไม่ได้คบใคร  เพื่อนสนิทก็มีแค่ไม่กี่คน  อารมณ์หงุดหงิดมันเกิดเพราะคนข้างๆ นี่ล่ะไม่ยอมตอบดีๆ

ฉันอยากตอบเมื่ออยากตอบเท่านั้น

ก็แค่รุ่นพี่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเท่านั้นไม่ได้เป็นมากกว่านี้  แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา

สิทธิ์ของเขาที่จะให้ใครรู้หรือไม่รู้...ไม่ใช่หรือ?

ขอบคุณที่มาส่งถึงตอนนี้   ขอลงได้มั้ย?” ที่ถามเพราะประตูที่มันเปิดไม่ได้ต่างหาก

แต่แล้วริมฝีปากอิ่มก็ถูกจู่โจมอย่างไม่รู้ตัว ลิ้นอุ่นร้อนที่แทรกเข้ามาควานหาความหวานแย่งชิงอากาศจากเขาไปจนหมดสิ้น ฝ่ามือขาวเริ่มประท้วงหนักขึ้นในเมื่อทั้งดันทั้งผลักไม่ได้ผลก็ทุบก็ตีมันเลยแล้วกัน

ริมฝีปากหยักของแทคยอนยอมผละออกแต่ไม่รู้ว่าเพราะแรงมือของเขาหรือเพราะกักเก็บความหวานจนอิ่มใจแล้ว

ทำบ้าอะไรของนาย!!!นิชคุณตวาดลั่น

นายเคยบอกว่าถ้าอยากถามอะไรให้เอ่ยออกมาตรงๆ  เมื่อฉันถามดีๆแล้วนายยังไม่ตอบ แล้วถ้าขอจูบ นายก็คงปฏิเสธ เพราะงั้นไม่ว่าต้องทำวิธีไหน   ฉันก็จะทำ   ถ้ามันทำได้ในสิ่งๆ นั้นมาครอบครอง

“นาย...” พูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องสะดุ้งตกใจกว่าเดิมเมื่อโดนคนร่างสูงใหญ่กว่าดึงไปนั่งบนตักแทคยอน

ดวงตากลมขุ่นมัวอย่างขัดใจที่ทำยังไงก็ไม่หลุดไปจากอ้อมกอดที่กอดรัดไว้จากด้านหลัง

“ถ้ายังไม่รู้นะคุณหมอ  อะไรที่อ๊คแทคยอนอยากได้ก็ต้องได้...” เสียงทุ้มพร่าพร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่ดุนดันสะโพกบางที่ถูกกดลงแนบตัก  ริมฝีปากร้อนจูบแผ่วเบาที่ต้นคอคอก่อนจะออกแรงกัดเบาๆ

“นะ...นายจะทำอะไร..นี่มันบนรถน่ะ” นิชคุณตัวสั่นก่อนจะหาทางพยายามเบี่ยงตัวหลบ

“อ๊ะ....” ร่างโปร่งหลุดเสียงครางออกมาเมื่อเสื้อเชิร์ตสีขาวเริ่มหลุดเลื่อนไปตามแนวลาดไหล่ 


มือบางได้แต่กำแน่น  เมื่อปากร้อนชื้นของคนที่อยู่ด้านหลังรุกล้ำครอบครองผิวเนียนสีน้ำนม  ลำคอแห้งผากแล้วสติที่มีอยู่น้อยนิดของนิชคุณก็ถูกกระชากไป


เมื่อริมฝีปากหยักร้อนกดจูบแผ่วเบาลงบนกลีบปากสีสวย พร้อมกับเสื้อเชิร์ตที่หลุดลอยออกจากร่าง 


ลิ้นร้อนเริ่มเข้าครอบครองจุกสีหวานกลางอกแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนิชคุณถูกดันให้ติดกับคอนโซนหน้ารถ  ยอดอก
สีหวานถูกขบเม้มจนร้อนไปหมด  ขณะที่มือหนาของแทคยอนก็ทำหน้าที่ไปด้วยนวดคลึงต้นขาอวบเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของร่างโปร่ง


“ทะ.....แทคยอน  ได้โปรดหยุดเถอะ”  นิชคุณอ้อนวอน..น้ำตารื้นที่ดวงตากลมสวยเมื่อสัมผัสถึงความเย็นของเครื่องปรับอากาศ  ทันทีเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากร่าง 


เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกเปิดเผยต่อสายตาคมที่จับจ้อง  ดวงตาคมเข้มที่มีแววตาแสดงออกถึงความปรารถนาเอาไว้ไม่มิดก่อนจะไล่สำรวจไปทุกซอกทุกมุมของผิวเนียนนุ่ม  ปลีขาเรียวยาวถูกแยกออกจากกันเมื่อใบหน้าคมฝังลงไปหยอกเอิ้นกับส่วนอ่อนไหวสีชมพู  ฟันซี่เล็กๆ ครูดขึ้นลงเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะจนสะโพกมนขยับตามอย่างรวดเร็ว  ปลายเล็บแหลมจิกทึ้งที่พรมที่วางอยู่หน้ารถ  ไหล่หนาของแทคยอนถูกใช้เป็นที่พักพิงเมื่อน้ำหยดสุดท้ายไหลลงสู่คอร่างสูงที่ดูดกลืนไปจนหมด


ร่างโปร่งบางที่อ่อนปวกเปียกถูกพลิกให้หันหลังก่อนที่ส่วนแข็งขืนจะกดลงไปในโพรงหวานช้าๆ 


นิชคุณไม่มีแม้แต่แรงที่จะผลักคนที่กำลังจะรังแกให้ออกไปได้แต่กัดฟันรอรับความเจ็บปวดที่ไม่ได้มีการเปิดทางไว้ก่อน  เอวบางถูกดึงให้ต่ำลงมาช้าๆ ขณะที่เสียงทุ้มครางออกมาเป็นพักๆ เมื่อร่างกายค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ร่างโปร่งได้เพียงทีละน้อย  แม้ว่าใจจะอยากรัก...ร่างโปร่งบางให้เร็วที่สุด


“อ๊ะ...เจ็บ”

“ทนหน่อยนะ..คุนนี่”   เสียงครางแผ่วเมื่อร่างหนาขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดมากที่สุด  แรงเคลื่อนตัวจากด้านล่างทำให้เรือนกายโปร่งเคลื่อนไหวไปมา  สองเสียงที่ดังประสานกันขึ้นอย่างสุขสมโดยไม่กลัวว่าใครจะผ่านมาได้ยิน

สติของนิชคุณกำลังพร่าเลือนแต่ยังได้ยินเสียงครางอย่างสุขสมจากร่างสูงใหญ่   แม้สมองอยากจะผลักไสแต่ร่างกายกลับตอบสนองการสัมผัสทุกอย่างจากแทคยอน

“คุน...นิชคุณ” แทคยอนเรียกร่างโปร่งบางที่ตอนนี้เหมือนจะหมดสติไปแล้ว

ที่ทำได้ตอนนี้เพียงแค่คว้านหาเสื้อผ้ามาใส่ให้ร่างโปร่งบางให้เรียบร้อยพร้อมกับตัวเอง  เพราะไม่คิดว่าการโมโหเพียงแค่ร่างตรงหน้าไม่ยอมตอบคำถามดีๆ   ตอนแรกกะคิดว่าจะจูบสั่งสอนแต่นี้กลายเป็นว่าเลยเถิดจนจัดเต็ม

“ก็น่ารัก..แบบนี้จะปล่อยหลุดมือไปได้ไง” แทคยอนที่หลังจากหากุญแจบ้านจากกระเป๋าร่างโปร่งบางเจอก็จัดการอุ้มเจ้าของบ้านขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน  โชคดีที่หน้าห้องนอนของนิชคุณมีป้ายติดเอาไว้พูดขึ้นมาหลังจากจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนให้คุณหมอหนุ่ม

“หลับฝันดีครับ” บอกลาก่อนจะจูบลงไปที่หน้าผากเนียนเบาๆ  พร้อมกับห่มผ้าให้

ทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลงเบาๆ  และต่อจากนั้นไม่นานเสียงรถยนต์คันหรูก็แล่นจากไป  ดวงตากลมที่ปิดสนิทก็เปิดขึ้นทันที  พร้อมกับเจ้าของที่รีบลุกไปแง้มผ้าม่านดูว่าชายหนุ่มไปแล้วจริง  ก่อนจะนึกได้รีบไปกดล็อคประตูห้องนอน

“ฉันกลัวนายแล้วนะอ๊คแทคยอน”


แต่สิ่งที่ร่างโปร่งบางที่เริ่มกลัวที่สุดคือ...หัวใจของตัวเอง  ที่เริ่มเต้นแรงทุกครั้งอยู่ใกล้ร่างสูง  นี่ถ้าไม่แกล้งสลบไม่รู้จะเป็นไงบ้าง >////<   โชคดีนะที่คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดและไม่มีคนผ่านไปมาแถวหน้าบ้านของคุณหมอหนุ่ม...ไม่งั้นคงได้แตกตื่นกันแน่ๆ




1 ความคิดเห็น: