Lost
[Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชากับคุณชายมาเฟีย [4]
PG-13[Medium Fiction ขนาด 14 ตอนจบ]
Author
:Z-rowink
Contact me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย หรือทวงถามฟิคได้ ^^)
เรื่องโชคชะตา...พรหมลิขิต เป็นเรื่องขบขันเพราะทุกสิ่งล้วนมาจากอำนาจน้ำเงินทั้งนั้นเรื่องนี้อ๊คแทคยอนรับรองได้เลย
อดจะยิ้มไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสองชั่วโมงกว่าที่เกิดขึ้นที่นี่ในร้านคอฟฟี่ช็อปในเครือโรงแรมพาราไดซ์ที่มาตั้งให้บริการในโรงพยาบาลเอกชน
อย่าคิดว่าคำตอบของใครอีกคนที่รับปากส่งๆ
ที่หนีเอาตัวรอดเมื่อวานนี้จะทำให้เขาใจอ่อนไม่เล่นเกมนี้
ยิ่งเจอของถูกใจที่ได้มายาก
นั้นยิ่งท้าทายให้ลงเล่นเกมนี้อย่างอารมณ์ดีจนต้องถึงขั้นต้องมาดูแลคอฟฟี่ช็อปเล็กๆ
แห่งนี้โดยทิ้งหน้าที่เชฟใหญ่ของภัตตาคารใหญ่ไปให้ลูกน้องดูแลแล้วตนเองจะเข้าไปดูเฉพาะคืนวันเสาร์เท่านั้นเพียงเพราะอยากจับเจ้าชายน้อย
“พี่ชายไม่ลองชิมเค้กสตอร์เบอร์รี่เหรอคะ พี่แทคยอนบอกว่ามันอร่อยที่สุดเลยนะน้า ดูสิสตอร์เบอร์รี่ลูกโตโต้”
เสียงแจ๋วๆ
ของเด็กหญิงที่พยายามโน้มน้าวให้พี่ชายลองชิมเค้กชิ้นเล็กที่ถูกตักออกมาเตรียมป้อน
“น้องหนูทานเถอะค่ะ เรารีบทานรีบเสร็จเดี๋ยวใกล้เวลาคุณหมอไปตรวจตอนบ่ายแล้วนะ”
นิชคุณว่าก่อนจะใช้ทิชชูเช็ดครีมที่มุมปากอย่างแผ่วเบา
“ถ้าน้องหนู อยากทานอะไรเพิ่มบอกพี่ได้เลย”
สายตาคมตวัดฉับใส่คนที่กำลังยิ้มพรายอยู่ตรงหน้า
“พอแล้ว วันนี้น้องหนูก็ทานไปสองชิ้นแล้ว เดี๋ยวจะทานข้าวเย็นไม่ได้”
เด็กหญิงไม่ได้สนใจกับการพูดคุยเบาๆกึ่งกระซิบของผู้ใหญ่ทั้งสองคน นอกจากเค้กในจานของตัวเองกับนมอุ่นๆ
ในแก้วที่ตอนนี้ทั้งสองอย่างกำลังจะหมดลงแล้ว
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังทำสงครามทางสายตา เป็นแทคยอนที่สังเกตเห็นความผิดปกติก่อน
“ระวังครับ น้องหนู”
แต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปเพราะเด็กหญิงฮยอนอาตกจากกระดานสไลด์จากสนามเด็กเล่นที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะที่เคยนั่งทานขนมเค้กอยู่
“น้องหนู...!!!” นิชคุณได้แต่อุทานแต่ยังช้ากว่าชายหนุ่มที่เคยนั่งข้างกันที่ตอนนี้ไปถึงตัวของฮยอนอาแล้ว
“ไงครับ คนเก่งจับตรงไหนไหม”
แทคยอนช่วยเด็กหญิงยืนขึ้นก่อนจะช่วยปัดเศษดินออกจากชุดผู้ป่วย พร้อมมองหาร่องรอยบาดแผล
“ไม่เจ็บคะ แค่จับกบไป 2-3 ตัวเอง” ชายหนุ่มอดจะขำกับเด็กหญิงตรงหน้าไปไม่รู้รอบเท่าไรของวัน
นิชคุณที่กำลังมองชายหนุ่มที่คุกเข่าลงพื้นดินของสนามเด็กเล่นแบบไม่กลัวชุดเปื้อนช่วยพยุงฮยอนอาและตอนนี้กำลังช่วยรวบผมให้หลังจากที่ริบบิ้นมัดผมของฮยอนอาคลายออก
อ่อนโยนแบบนี้จริงๆ
รึเปล่า ตัวตนที่แท้จริงของนายอ๊คแทคยอน
“กลับห้องเถอะค่ะน้องหนู”
เอื้อมมือไปจูงเด็กหญิงก้าวเดินกลับเข้าไปยังอาคารโดยที่ไม่เอ่ยแม้กล่าวลาใครอีกคน
“ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ นิชคุณ”
“พี่ครับ จะให้ผมปิดร้านเลยไหม?”
เสียงเรียกของพนักงานในร้านที่มาทำงานประจำในกะบ่ายเรียกสติแทคยอนกลับมายังเวลาปัจจุบัน
“ปิดร้านได้เลยอูยอง ส่วนเค้กที่เหลือวันนี้เราแบ่งได้กล่องไปทานบ้านได้เลยนะ”
“อะ...ครับ ทราบแล้วครับ”
“เดียวก่อนอุยอง ถ้าเราเหนื่อยนักก็พักๆ
งานช่วงกลางคืนซะมั้งเถอะ
นี่เทอมสุดท้ายแล้ว”
“ขอบคุณครับพี่…ถ้าผมไม่ไหวจะบอก”
แทคยอนส่ายหน้ากับการรั้นของหนุ่มรุ่นน้องที่มาทำงานในกะกลางวันของร้าน จางอูยองเป็นอีกคนที่เขาให้ความเอ็นดูในความขยันที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่สมัยมอปลาย
แรงสั่นสะเทือนจากไอโฟนที่อยู่ในมือทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที...กำลังนึกถึงใบหน้าคนช่างโมโหอยู่ซะด้วย
โทรมาขัดซะได้!!
“ว่าไงดูจุน? ” กรอกเสียงทุ้มเข้มลงไปอย่างเคยชินจนคนปลายสายรู้ตัวว่า...โทรมาผิดจังหวะแน่ๆ...
“รู้แล้วครับ วันนี้เจ้าชายน้อยจะไปไหน”
“ที่ไหน? …ขอบใจมากที่รายงาน”
“คุณหนูเล็กครับ สนใจหรือแค่หลง?”
“........”
ไม่ตอบปลายสายนอกจากกดปุ่มสีแดงเป็นอันว่าจบการสนทนากับปลายสาย
แทคยอนกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเบนสายตาไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าของกรุงโซลอย่างอารมณ์บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันทำไม ต้องสนใจกับคุณหมอหนุ่มที่ออกจะเย็นชาและไม่ใส่ใจกับสิ่งต่างๆ
รอบข้างขนาดนี้ทั้งที่จะขีดเส้นความสัมพันธ์ให้เป็นเหมือนคนอื่นๆ ก็ได้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
“สนใจหรือแค่หลง
ถามได้ดีนะดูจุน”
+++++++++++++++++++
‘สนใจหรือแค่หลง’
ที่เลขาคนสนิทถามไปเมื่อหลายวันก่อนยังวนเวียนอยู่ในหัว สลัดยังไงก็ไม่หลุด
จนต้องออกมาหาอะไรทำในยามค่ำคืน แม้จะรู้สึกอิ่มเอมใจกับบทรักเร่าร้อนกับนายแบบหนุ่มหน้าหวานที่มีร่างกายบอบบางที่เผอิญเจอกันในคืนนี้
ก็ไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกได้เท่ากับใครคนหนึ่งที่ตอนนี้ชักโผล่บ่อยๆ
ทุกครั้งที่หลับตา ใบหน้าเรียวคมสวยที่ยิ้มพราวยังคงตราตรึงจนนึกหงุดหงิดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หงุดหงิดเสียจน.......จนอยากจะ?? อยากจะทำอะไรต่อไปก็ยังบอกตัวเองไม่ได้เลย
“...บ้าชะมัด!!!” สบถเบาๆเมื่อนึกถึงใครอีกคนทั้งๆที่ข้างกายมีนายแบบหนุ่มหน้าหวานหลับตาพริ้มอยู่
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสื้อผ้าที่ถูกถอดกระจายอยู่ทั่วพื้นห้องถูกนำมาสวมใส่อีกครั้ง
เงินก้อนหนึ่งถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก็แค่เศษเงินที่ใช้ซื้อความสุขทางกาย
เดินมาดนิ่งออกมาจากห้องนั้นอย่างไม่ใส่ใจนัก นัยน์ตาคมที่ใครๆ
เคยชื่นชมตอนนี้เหลือเพียงสายตาคมกริบฉายแววกร้าวอย่างคนกักเก็บอารมณ์ขุ่นมัวไว้ภายใน
ให้มันได้อย่างนี้สิ!!
อ๊คแทคยอนหงุดหงิดใจเพราะนิชคุณ
ก็แค่คนเพียงคนเดียวที่เจอกันไม่กี่ครั้งเท่านั้น ความสัมผัสทางกายแม้มันจะอ่อนหวานตราตรึง แล้วมันต่างกับคนอื่นที่ผ่านมาตรงไหน? ก็แค่ผิวขาวนุ่มๆของผู้ชายคนหนึ่งที่มันหอมหวานเหมือนเนยสด...ทั้งหอมทั้งหวานจนน่าลิ้มลองอีกครั้งเท่านั้นจริงๆ
บ้าชะมัด!!! นี่เขาคงไม่ได้เป็นแบบพี่จุนซูหรอกนะ...ที่โหยหาสัมผัสของอังอังน้อย...จนพร่ำเพ้อไม่เป็นอันทำงานทำการ...เวลาที่อังอังน้อยหนีหายไปจากอุ้งมือ
เพราะมัวแต่ใจลอยจนเกือบไม่ได้สังเกตชายหนุ่มใบหน้าคมหวานคุ้นตาที่ชื่อนิชคุณที่วิ่งสวนออกมาจากลิฟต์ ทำให้ร่างสูงหยุดเดินทันที
ไม่ผิดแน่...นั้นนิชคุณแต่มาทำอะไรที่นี่?!!!
ในโรงแรมระดับหรูห้าดาวแบบนี้ได้ในเวลาตีสามกว่าๆ เร็วเท่าความคิดไม่สิเร็วเท่าฝีเท้าของนิชคุณเพราะตอนนี้แทคยอนมาหยุด
อยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง ห้องที่ร่างบางพึ่งวิ่งเข้าไป
อารมณ์ตอนนี้ของแทคยอนเหมือนภูเขาไฟจะระเบิดที่พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างที่ขว้างหน้า เขาเป็นคนเอาแต่ใจอยู่แล้วจึงได้ถือวิสาสะเปิดประตูที่ปิดไม่สนิทเข้าไป
แต่ภาพภายในห้องทำให้อดจะแปลกใจไม่น้อย
เด็กหญิงหน้าตาน่ารักน่าจะอายุราวๆ 5 ขวบ แต่ดูท่าทางกำลังจะทรมานไม่ใช่น้อยปรายตามองไปนิชคุณที่ตอนนี้ในโหมดหมอเต็มตัว
“ไม่มีไข้นี่น้า พี่จีน่าแล้วจู่ๆ
กายูนชักได้ยังไง ชักมากี่ครั้งแล้ว?”
เอ่ยถามขึ้นเมื่อสำรวจตามร่างกายอย่างคร่าวๆ...อาการเกร็งทั้งตัว ไหนน้ำลายฟูมปากที่มีสีแดงจางของเลือดผสมออกมาอีก หวังว่าคงไม่ใช่...
“ครั้งที่2 แล้ว…
ครั้งแรกเมื่อหลายวันก่อนแต่ตอนนั้นมีไข้ธรรมดา
แต่ครั้งนี้จู่ๆก็ชัก” จีน่าตอบชายหนุ่มรุ่นน้องด้วยเสียงเครือ
เวรแล้วไง
ถ้าเป็นแบบนี้อาจมีสิทธิ์เป็นลมชักได้
“เรียกรถพยาบาล เดี๋ยวนี้เลยพี่จีน่า”
นิชคุณบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ไม่ต้องหรอก”
ร่างบางหันไปทางต้นเสียงทันที
กำลังจะอ้าปากเถียงถ้าเกิด...ความคิดของเขาขาดหายไปเมื่อเจ้าของน้ำเสียงอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบตัวทันที
“ไปรถฉันเนี้ยแหล่ะ เร็วสิลุกขึ้น”
“นาย...”
แทคยอนไม่เอ่ยซ้ำแต่สาวเท้าอย่างเร็วเมื่ออุ้มเด็กน้อยได้ถนัดแล้ว กลายเป็นจีน่าจะคว้ามือร่างบางเดินตามไปเร็วโดยรี่รอสักนิด
ชายหนุ่มอุ้มเด็กหญิงมาไว้เบาะหลังให้นอนราบหนุนตักผู้เป็นแม่
ส่วนนิชคุณมานั่งเบาะหน้าข้างคนขับด้วยสีหน้าเป็นกังวล นั้นทำให้แทคยอนเหยียบรถเต็มพิกัดจนร่างบางต้องโว้ยขึ้นมา
“ขับช้าหน่อยก็ได้”
เดี๋ยวก็ตายหมดทั้งคันกันพอดี...แต่ประโยคนั้นได้แต่พูดต่อในใจตนเองเท่านั้น
“ถ้านายเห็นสีหน้าตัวเองตอนนี้ก็ต้องทำแบบฉันนี่ล่ะ”
“จิ๊.......”
นิชคุณเสหน้าหนี ก่อนจะบ่นในใจต่อ..คนบ้าอะไรกวนโมโหอีกแล้ว...แต่ขับเร็วขนาดนี้ใครจะไม่กลัวนี่เหยียบจะเกินสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่แล้ว
“ช้าหน่อยก็ได้”
“รู้แล้วล่ะน่า!! พูดมากจริงวันนี้คุนนี่” เสียงทุ้มห้วนตอบกลับพร้อมลดความเร็วลงแต่ก็ไม่มากนัก
ในขณะหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังได้แต่มองด้วยความสงสัย เพราะปกตินิชคุณไม่เคยใช้สำเนียงที่ออกแนวเกรี้ยวกราดกับใครเลย หรือแม้กระทั่งขึ้นเสียง
ออกจะน้ำเสียงโทนเดียวตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำไหนจะอาการช้อนตาค้อนนั้นอีก
+++++++
ร่างสูงยืนพิงกำแพงนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่เด็กน้อยน่ารักกายูนถูกเข็นเข้าไป
ไม่เข้าใจ???
เหมือนกันว่าทำไมต้องมายืนรอแบบนี้ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่ได้สนใจอาการของเด็กนั่นมากมายเท่าไร...แต่ที่ติดใจคงเป็นใบหน้าเรียวคมที่ขมวดคิ้วยุ่งอย่างเป็นกังวลมาตลอดทางและที่สำคัญกว่า
นิชคุณกับผู้หญิงที่นั่งกุมมือสวดมนต์ต่อพระเจ้าที่นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นอะไรกัน
มันคาใจจนรู้สึกหงุดหงิด
“เป็นไงบ้าง?”
ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นเมื่อนิชคุณเดินออกมาตามหลังบุรุษพยาบาลที่เข็นเด็กหญิงไปยังห้องพักผู้ป่วยโดยมีผู้เป็นแม่เดินตามไปแล้ว
“ไม่เป็นไรมากแล้ว วันนี้ให้ยาตามอาการก่อน เดี๋ยวต้องเช็คอีกทีตอนนี้ยังระบุโรคไม่ได้”
นิชคุณเอ่ยกลับด้วยสีหน้าซีดเซียว
จนชายหนุ่มนึกในใจเสียไม่ได้......ห่วงแต่คนป่วยจนไม่สนใจตัวเองเลย
“ระบุโรคไม่ได้?”
แทคยอนถามกลับก็แค่ชวนคุยเท่านั้น
“อืม ฉันก็หวังว่าจะไม่ใช่โรคลมชักนะ ถ้าใช่ขึ้นมาถ้าอาการกำเริบชักซ้ำ ๆ
ติดกันนานเป็นชั่วโมงและอาจมีไข้สูงเรียกว่า สเตตัสเอพิเล็ปติคัส อาจจะทำให้ถึงตายได้”
ครั้งแรกที่แทคยอนฟังคนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มชวนฟังไม่ใส่อารมณ์โมโหที่เขาขยันชวนให้โมโห
“อ่อ แล้วนี่จะกลับหรือยัง?”
เอ่ยถามราบเรียบพร้อมกับหยิบม้วนสีขาวจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทำท่าจะสูบเหมือนกับไม่รู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน
“นายจะบ้าหรือไง!!” เร็วเท่าคำพูดมือขาวของจุนอยองคว้ามวนนิโคตินมาเก็บไว้เสียเองก่อนจะขยับเตรียมด่าแต่ก็มีอันชะงักไปเมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อน
“หยุดพูดเลย นายคิดว่าฉันจะสิ้นคิดสูบในโรงพยาบาลรึไงคุณหมอ ก็แค่คาบไว้แก้เหงาปากเท่านั้นแหล่ะน่า”
นิชคุณได้ยินแล้วได้แต่ถลึงตามองคนตรงหน้า คาบไว้แก้เหงา? เชื่อเขาเลยกับผู้ชายคนนี้อ๊คแทคยอน!!!!
ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีไปอีกทางหนึ่งแต่มีเรียวแขนในเสื้อกาวน์ถูกคว้าไว้ก่อน
“จะไปไหน?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ห้องพักแพทย์”
“ไปทำไม ไม่กลับบ้านรึไง? พรุ่งนี้เฮ้ยวันนี้ไม่ต้องเข้าเวรนิ”
นิชคุณถอนหายใจกับกิริยาที่แสนดื้อดึงที่คาดคั้นเอาคำตอบของตรงหน้าจริงๆ ทั้งที่หน้าตาออกจะดีทำงานร้านกาแฟที่ขายเค้กแสนน่ารัก
แต่ทำไมความรู้สึกที่อยู่ใกล้ทีไรมันบอกว่าคนคนนี้น่ากลัวเหมือนกับกำลังซ่อนอะไรไว้ใต้หน้ากากรอยยิ้มการค้าที่แสนใสซื่อ
แบบนี้ไงเขาถึงไม่อยากจะอยู่ใกล้เสียงฝีเท้าที่เดินตามมา ทำให้อดรนทนไม่ไหว...จะเดินตามมาทำไม? ว่างงานหรือไงหรือไม่มีบ้านให้กลับใช่ไหมอ๊คแทคยอน? ชายหนุ่มยิ้มซื่อตามสไตล์ให้คนใส่เสื้อกาวน์ที่หันกลับมามองหน้า
“ขอกาแฟดื่มสักถ้วยนะครับคุณหมอ หวังว่าคงไม่ใจร้ายเกิดขับรถกลับแล้วง่วงหลับในแล้ว...”
“เข้าใจแล้วครับ”
แก้วกาแฟสองถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะเสียงช้อนกระทบกันดังกังวานควันสีเทาลอยขึ้นมา
“นายจะจ้องฉันอีกนานมั้ย? ไหนว่าอยากกินกาแฟ” นิชคุณตัดสินใจถามหลังจากเงียบให้นั่งจ้องมานานสองนาน
“จนกว่าจะได้ไปส่งนายกลับบ้านมั้ง?”
ตอบทีเล่นทีจริงพร้อมกับสายตาที่ยังอยู่ใบหน้าเรียวคมของคุณหมอที่ตอนนี้เริ่มมีสีสันขึ้นมาบ้างแล้ว
ตอนนี้นิชคุณไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูดกับคนที่กวนโมโหตรงหน้านี้!!
ถ้าไม่เห็นถึงความดีที่พาลูกสาวพี่จีน่ามาส่งโรงพยาบาลนะ จะเหวี่ยงหมัดให้สักเปรี้ยง!! เอาให้ตายเถอะ!!!
สาบานจริงๆ นะ
ไอ้คนที่กวนโมโหที่เอาแต่จ้องหน้าเขาโดยไม่จิบกาแฟเลยสักจิบ ทั้งที่ตัวเองบอกมาขอกาแฟดื่ม!!!!
นิชคุณเดินเรื่อยๆ
มาจนถึงป้ายรถเมลล์หน้าโรงพยาบาลก็ต้องพบกันอ๊คแทคยอนที่ยืนพิงรถยนต์เอสยูวีกึ่งสปอร์ตสุดหรูอยู่
คนที่เขาเพิ่งชิ่งหนีออกมาจากห้องพักแพทย์เมื่อตะกี้นี้
“ดึกแล้ว กลับด้วยกัน”
เสียงทุ้มพูดห้วนๆ
พร้อมด้วยการลงแรงบีบตรงข้อมือที่แรงขึ้นเรื่อยๆแถมยังลากนิชคุณที่มัวแต่เชื่องช้าและตกใจกับคนตรงหน้าเผลออีกทีก็ถูกดันขึ้นรถพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ
“อย่ามาเถียง กี่โมงกี่ยามรู้บ้างไหม?”
ยอมรับตอนนี้ร่างบางเถียงไม่ออก...ไอ้...ไอ้บ้าเอ๊ย!!!
ไอ้รอยยิ้มกวนประสาทแบบนี้เลิกทีได้มั้ย?
“บ้านอยู่ไหน?”
เอาอีกล่ะน้ำเสียงห้วนๆ
เอาแต่ใจแบบนี้...นิชคุณถอนหายใจเฮือกราวกับยอมรับโชคชะตาของตนเอง
“ขับตรงไปแล้ว แล้วเลี้ยวซ้าย เดี๋ยวบอกทางให้” เอ่ยตอบเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด
แต่สิ่งตอบกลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะขบขันที่ดังอยู่ข้างหูอยู่
ได้แต่นึกในใจมารยาทขั้นพื้นฐานของคนข้างกายคงไม่มีจริงๆ
“เกือบลืม ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับนาย”
“จะอยากรู้ไปทำไม? นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน”
เอ่ยถามกลับแทนคำตอบ
ก่อนจะหันมามองหน้าคนขับรถงงๆ เพราะความเร็วรถดูเหมือนจะชะลอลงและหยุดนิ่งในที่สุด
ยิ่งคนขับที่ตอนนี้ทำหน้าราวกับจะฆ่าคนได้
“จอดรถทำไม?”
“มันตอบยากนักหรือไง? คำถามง่ายๆ แค่นี้ ”
แทคยอนก็พอรู้ดีว่าคงไม่ใช่ภรรยาเป็นแน่เพราะเท่าที่ดูจุนไม่ได้รายงานมานิชคุณยังไม่แต่งงานและไม่ได้คบใคร เพื่อนสนิทก็มีแค่ไม่กี่คน อารมณ์หงุดหงิดมันเกิดเพราะคนข้างๆ
นี่ล่ะไม่ยอมตอบดีๆ
“ฉันอยากตอบเมื่ออยากตอบเท่านั้น”
ก็แค่รุ่นพี่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเท่านั้นไม่ได้เป็นมากกว่านี้
แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
สิทธิ์ของเขาที่จะให้ใครรู้หรือไม่รู้...ไม่ใช่หรือ?
“ขอบคุณที่มาส่งถึงตอนนี้ ขอลงได้มั้ย?” ที่ถามเพราะประตูที่มันเปิดไม่ได้ต่างหาก
แต่แล้วริมฝีปากอิ่มก็ถูกจู่โจมอย่างไม่รู้ตัว
ลิ้นอุ่นร้อนที่แทรกเข้ามาควานหาความหวานแย่งชิงอากาศจากเขาไปจนหมดสิ้น ฝ่ามือขาวเริ่มประท้วงหนักขึ้นในเมื่อทั้งดันทั้งผลักไม่ได้ผลก็ทุบก็ตีมันเลยแล้วกัน
ริมฝีปากหยักของแทคยอนยอมผละออกแต่ไม่รู้ว่าเพราะแรงมือของเขาหรือเพราะกักเก็บความหวานจนอิ่มใจแล้ว
“ทำบ้าอะไรของนาย!!!” นิชคุณตวาดลั่น
“นายเคยบอกว่าถ้าอยากถามอะไรให้เอ่ยออกมาตรงๆ เมื่อฉันถามดีๆแล้วนายยังไม่ตอบ แล้วถ้าขอจูบ
นายก็คงปฏิเสธ เพราะงั้นไม่ว่าต้องทำวิธีไหน
ฉันก็จะทำ ถ้ามันทำได้ในสิ่งๆ
นั้นมาครอบครอง”
“นาย...” พูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องสะดุ้งตกใจกว่าเดิมเมื่อโดนคนร่างสูงใหญ่กว่าดึงไปนั่งบนตักแทคยอน
ดวงตากลมขุ่นมัวอย่างขัดใจที่ทำยังไงก็ไม่หลุดไปจากอ้อมกอดที่กอดรัดไว้จากด้านหลัง
“ถ้ายังไม่รู้นะคุณหมอ อะไรที่อ๊คแทคยอนอยากได้ก็ต้องได้...” เสียงทุ้มพร่าพร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่ดุนดันสะโพกบางที่ถูกกดลงแนบตัก
ริมฝีปากร้อนจูบแผ่วเบาที่ต้นคอคอก่อนจะออกแรงกัดเบาๆ
“นะ...นายจะทำอะไร..นี่มันบนรถน่ะ”
นิชคุณตัวสั่นก่อนจะหาทางพยายามเบี่ยงตัวหลบ
“อ๊ะ....” ร่างโปร่งหลุดเสียงครางออกมาเมื่อเสื้อเชิร์ตสีขาวเริ่มหลุดเลื่อนไปตามแนวลาดไหล่
มือบางได้แต่กำแน่น
เมื่อปากร้อนชื้นของคนที่อยู่ด้านหลังรุกล้ำครอบครองผิวเนียนสีน้ำนม ลำคอแห้งผากแล้วสติที่มีอยู่น้อยนิดของนิชคุณก็ถูกกระชากไป
เมื่อริมฝีปากหยักร้อนกดจูบแผ่วเบาลงบนกลีบปากสีสวย พร้อมกับเสื้อเชิร์ตที่หลุดลอยออกจากร่าง
ลิ้นร้อนเริ่มเข้าครอบครองจุกสีหวานกลางอกแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนิชคุณถูกดันให้ติดกับคอนโซนหน้ารถ ยอดอก
สีหวานถูกขบเม้มจนร้อนไปหมด ขณะที่มือหนาของแทคยอนก็ทำหน้าที่ไปด้วยนวดคลึงต้นขาอวบเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของร่างโปร่ง
“ทะ.....แทคยอน ได้โปรดหยุดเถอะ” นิชคุณอ้อนวอน..น้ำตารื้นที่ดวงตากลมสวยเมื่อสัมผัสถึงความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ทันทีเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากร่าง
เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกเปิดเผยต่อสายตาคมที่จับจ้อง
ดวงตาคมเข้มที่มีแววตาแสดงออกถึงความปรารถนาเอาไว้ไม่มิดก่อนจะไล่สำรวจไปทุกซอกทุกมุมของผิวเนียนนุ่ม
ปลีขาเรียวยาวถูกแยกออกจากกันเมื่อใบหน้าคมฝังลงไปหยอกเอิ้นกับส่วนอ่อนไหวสีชมพู ฟันซี่เล็กๆ
ครูดขึ้นลงเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะจนสะโพกมนขยับตามอย่างรวดเร็ว
ปลายเล็บแหลมจิกทึ้งที่พรมที่วางอยู่หน้ารถ ไหล่หนาของแทคยอนถูกใช้เป็นที่พักพิงเมื่อน้ำหยดสุดท้ายไหลลงสู่คอร่างสูงที่ดูดกลืนไปจนหมด
ร่างโปร่งบางที่อ่อนปวกเปียกถูกพลิกให้หันหลังก่อนที่ส่วนแข็งขืนจะกดลงไปในโพรงหวานช้าๆ
นิชคุณไม่มีแม้แต่แรงที่จะผลักคนที่กำลังจะรังแกให้ออกไปได้แต่กัดฟันรอรับความเจ็บปวดที่ไม่ได้มีการเปิดทางไว้ก่อน เอวบางถูกดึงให้ต่ำลงมาช้าๆ
ขณะที่เสียงทุ้มครางออกมาเป็นพักๆ
เมื่อร่างกายค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ร่างโปร่งได้เพียงทีละน้อย แม้ว่าใจจะอยากรัก...ร่างโปร่งบางให้เร็วที่สุด
“อ๊ะ...เจ็บ”
“ทนหน่อยนะ..คุนนี่” เสียงครางแผ่วเมื่อร่างหนาขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดมากที่สุด
แรงเคลื่อนตัวจากด้านล่างทำให้เรือนกายโปร่งเคลื่อนไหวไปมา
สองเสียงที่ดังประสานกันขึ้นอย่างสุขสมโดยไม่กลัวว่าใครจะผ่านมาได้ยิน
สติของนิชคุณกำลังพร่าเลือนแต่ยังได้ยินเสียงครางอย่างสุขสมจากร่างสูงใหญ่
แม้สมองอยากจะผลักไสแต่ร่างกายกลับตอบสนองการสัมผัสทุกอย่างจากแทคยอน
“คุน...นิชคุณ” แทคยอนเรียกร่างโปร่งบางที่ตอนนี้เหมือนจะหมดสติไปแล้ว
ที่ทำได้ตอนนี้เพียงแค่คว้านหาเสื้อผ้ามาใส่ให้ร่างโปร่งบางให้เรียบร้อยพร้อมกับตัวเอง
เพราะไม่คิดว่าการโมโหเพียงแค่ร่างตรงหน้าไม่ยอมตอบคำถามดีๆ ตอนแรกกะคิดว่าจะจูบสั่งสอนแต่นี้กลายเป็นว่าเลยเถิดจนจัดเต็ม
“ก็น่ารัก..แบบนี้จะปล่อยหลุดมือไปได้ไง”
แทคยอนที่หลังจากหากุญแจบ้านจากกระเป๋าร่างโปร่งบางเจอก็จัดการอุ้มเจ้าของบ้านขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน
โชคดีที่หน้าห้องนอนของนิชคุณมีป้ายติดเอาไว้พูดขึ้นมาหลังจากจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนให้คุณหมอหนุ่ม
“หลับฝันดีครับ” บอกลาก่อนจะจูบลงไปที่หน้าผากเนียนเบาๆ พร้อมกับห่มผ้าให้
ทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลงเบาๆ
และต่อจากนั้นไม่นานเสียงรถยนต์คันหรูก็แล่นจากไป ดวงตากลมที่ปิดสนิทก็เปิดขึ้นทันที พร้อมกับเจ้าของที่รีบลุกไปแง้มผ้าม่านดูว่าชายหนุ่มไปแล้วจริง ก่อนจะนึกได้รีบไปกดล็อคประตูห้องนอน
“ฉันกลัวนายแล้วนะอ๊คแทคยอน”
แต่สิ่งที่ร่างโปร่งบางที่เริ่มกลัวที่สุดคือ...หัวใจของตัวเอง ที่เริ่มเต้นแรงทุกครั้งอยู่ใกล้ร่างสูง นี่ถ้าไม่แกล้งสลบไม่รู้จะเป็นไงบ้าง >////<
โชคดีนะที่คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดและไม่มีคนผ่านไปมาแถวหน้าบ้านของคุณหมอหนุ่ม...ไม่งั้นคงได้แตกตื่นกันแน่ๆ
น่ารัก คุนนีโดนจัดหนัก
ตอบลบ