วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

Matching Love [Taeckhun] Ch13

Matching Love[1]
Pairing :   TK ft.2pm
By  Z-rowink
Note:ฟิคเรื่องนี้ดัดแปลงและใช้เค้าโครงเรื่องเดิมจากฟิคเรื่อง Love Match ของ winata ซึ่งคือเราเองนั่นละ><
และอยากลองอ่านฟิคฮาและเบาสมองในแบบฉบับของแทคคุณบ้าง  
Ch.013/19



ผมกำลังแรดแตก! ไม่ต้องตกใจหรอกนะครับพี่น้องทั้งหลายที่อ่านมาน่ะไม่ผิดหรอกครับ แรดแตกจริงๆ! หมดกันธงเมะของผม ฮืออออออ (หรือจริงๆแล้วมันคงไม่มีตั้งแต่ทีแรก)


วันนี้ผมตื่นแต่เช้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตื่นมาเพื่อทำบุญให้เป็นศิริมงคลแก่ตัวเอง หุหุ  ไม่ยากเลยสักนิดกับการไปให้อาหารปลาที่บ่อข้างหอพักพร้อมอาหารสุนัขจรจัดแถวหน้าหอพักนั่นละ อิอิ เป็นคนหน้าตาดีต้องทำอะไรง่ายๆไม่ยาก

ก่อนจะโทรคุยกับออมม่าตอนสาย ๆ และแต่งสวย เฮ้ยแต่งหล่อ ขอบอกว่าแต่งหล่อจริงๆนั่นแหละ แต่จริงๆก็แค่ชุดนักศึกษาธรรมดานั่นแหละครับ แต่มันพิเศษตรงเน้!!!  อย่าเร่งสิกำลังจะบอกอยู่นี่ไงล่ะ ขอโพสต์ท่าก่อนนะ *หมุนตัวสามรอบครึ่งหน้ากระจก* 

วันนี้นอกจากจะจัดทรงผมดีเป็นพิเศษแล้ว นิชคุณคนนี้ยังทาลิปกรอสสีชมพูอ่อนๆให้มันระเรื่อเบาๆแถมไม่ใช่ยี่ห้อไก่กานะจะบอกให้ ดิออร์เชียวน้า~  นี่แอบไปจิ๊กมาจากไอ้มิเรียมด้วยนะจ๊ะะะะะะ

เอาสิ๊~ ชายใดเห็นนิชคุณคนนี้แล้วจะไม่หลงก็ไม่มีเสียล่ะ!!!! และก็แน่นอนว่าไม่ลืมเจ้าสนีกเกอร์คู่บุพเพอาละวาดของผมกับไอ้เด็กบ้านั่นอีก เอ้า ฮิ้วววววววววววววววว (เล่นเอง ชงเอง ตบเอง)

แรดไม่ไหวจะทานทน แรดไม่ไหวจะเคลียร์!!! แต่ถามว่านิชคุณแคร์ไหม? ก็ไม่นะ อิอิ ก็วันนี้มันวันที่สุดแสนจะดีเลิศประเสริฐศรีผ่องอำไพมหาศาลขนาดเน้!!! ก็เลยอยากทำอะไรให้เจ้าเด็กนั่นอึ้งนิดๆ หน่อยๆก็แค่นั้นเอง โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆ (คว้าผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากหัวเราะ) (หยิบมาจากไหน?)

น้องคะๆ ขอโทษนะพี่ถามทางหน่อย” ผมหันหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามไปหาเสียงสวยๆนั้น และแน่นอนเจ้าของเสียงก็สวยเหมือนเสียง โอ้ววววววว สวยไปไหนครับคุณเธ๊ออออออออออออ

คือคณะเภสัชไปทางไหนคะผมร้องอ๋อในใจ ไม่รู้หรอกว่าคุณคนสวยคนนี้จะไปทำอะไรที่นั่นแต่แค่ได้ยินชื่อคณะผมก็ยิ้มแรด เอ้ย! ยิ้มหวานแล้ว อิอิ

เดินตัดไปทางด้านนั้นครับแล้วพี่ก็เลี้ยว...” ผมบอกทางพี่คนนั้นอย่างละเอียดก่อนที่พี่เขาจะพยักหน้าหงึกหงัก

ไปถูกไหมครับ?” พี่สาวคนสวยหันมายิ้มแห้ง ๆ กับผม ซึ่งผมก็แค่ยิ้มตอบ อิอิ เสร็จโจร!!

งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนะครับพี่”

รบกวนเกินไปหรือเปล่าเนี่ย เผื่อน้องรีบไปเรียน” ถ้าไม่อยากให้ไปส่งคงปฏิเสธแล้วใช่ไหมล่ะ อิอิ พี่สาวคนสวยคิดอะไรไหมนิชคุณไม่รู้ แต่นิชคุณเริ่มจะคิดแล้ว =,,=

ไม่เป็นไรครับผมก็จะไปทางนั้นพอดีเหมือนกัน” ผมว่า เธอก็เลยยิ้มออกซึ่งพอเธอยิ้มโลกก็สว่างไสว โอ๊ยยยยย มีออร่าวิ๊งๆรอบตัวพี่สาวคนสวยของ(?)นิชคุณด้วยล่ะะะะะะะะะ  แต่แว้บเดียวที่ผมเผลอคิดว่ามันคล้ายใครบางคนที่ผมรู้จัก.. สงสัยจะคิดมากไปเอง

ขอบคุณมากนะคะพี่สาวคนสวยยิ้มแป้นเล่นเอาซะโลกสว่างจ้าจนผมแทบตาบอดไปเลยทีเดียว ผมแอบใจเต้นเล็กๆกับรอยยิ้มนั่นด้วย โอ๊ยๆๆๆๆ น้องนิชคุณจะเป็นลม!!!

ไม่เป็นไรครับพี่” แล้วผมก็เดินนำพี่สาวคนสวยไปทางตึกของคณะเภสัช

ระหว่างทางเราคุยกันสารพัดเรื่อง อย่างแรกที่ผมรู้ก็คือพี่สาวคนสวยชื่อยูบิน แหมๆๆๆ แค่ชื่อก็น่าหม่ำๆแล้ว แอร๊ยยยยยยยยยย เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ ไม่ได้ๆ คิดงี้ไม่ได้ ผมมีแฟนแล้ว แถมแฟนยังโหดมากอีกด้วย! คิดจะนอกใจงั้นเหรอฟระไอ้นิชคุณ! อย่าๆๆๆ (อย่าช้า จัดไปอย่าให้เสีย!!)

อย่างที่สอง เธออยู่ญี่ปุ่นแต่มาดูงานที่โซลเลยแว่บมาหาคนพิเศษสักหน่อยเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว อันนี้ผมไม่แน่ใจนักในรายละเอียดเพราะเธอบอกแค่นี้แล้วก็อมยิ้มน่ารักคิกคัก เดาว่าคงเป็นแฟนนั่นแหละครับ ก็น่าจะมีอยู่หรอก คนน่ารัก คนสวยขนาดนี้ นิชคุณก็อกหักเลยอ่ะ แต่ไม่เป็นไรเป็นกิ๊กก็เอานะ อิอิ

น้องนิชคุณมาคณะนี้บ่อยเหรอคะพี่ซอลลี่ถามผมระหว่างที่เราเดินมาเกือบถึงคณะแล้ว ชื่อก็เพราะ เสียงก็หวาน ฮือๆๆๆๆ ชอบผู้ชายเมะๆ เถื่อน(?)ๆแบบนิชคุณไหมฮะพี่จ๋าววววววววววววว

อ๋า~ ก็ไม่เชิงหรอกครับพอดีแฟนเรียนอยู่คณะนี้” อุ้ยตาย... พอพูดประโยคนี้ไปขนลุกซู่เลยคร้าบท่านผู้อ่านนนนน แอร๊ยยยย น้องคุณเขินนนนนนนน

เหรอคะ! แหมๆปีไหนแล้วแฟนนิชคุณน่ะ คนพิเศษของพี่น้องเขาเพิ่งเข้าปีหนึ่งเอง”

โอ๊ะ... แฟนผมก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกันครับ บังเอิญจังเลยอาจจะรู้จักกันก็ได้นะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงระริกระรี้ อะไรจะสมพงษ์กันขนาดนั้น

จริงเหรอๆ บางทีอาจจะเรียนด้วยกันก็ได้นะ คิๆ แล้วแฟนนิชคุณหล่อไหมล่ะดูจากที่เราน่ารักขนาดนี้ แฟนต้องหล่อมากแน่ๆเลยใช่ไหม” แหมๆๆๆๆ ปากหวานอย่างนี้ขอชิมสักทีได้ไหมฮับพี่จ๋าวฮ๊าบบบบบบบบบ

หน้าตาดีมากคครับแต่ก็ปากร้ายที่สุดเหมือนกัน”

พี่ยูบินทำตาโตทำให้ดวงตาที่กลมโตของพี่เขายิ่งโตเข้าไปอีก ก่อนที่พี่เขาจะตีแขนผมเบาๆ ไม่ใช่ปรามหรอกครับเหมือนว่าเห็นด้วย หรืออะไรทำนองนั้นมากกว่า ผมว่านะ..

เหมือนกันเลย น้องเขาก็ปากร้ายมากเลย พูดคำจิกคำเลยล่ะ” ยังมีคนที่ปากเหมือนไอ้เด็กบ้าของผมอีกเหรอเนี่ย? คณะเภสัชช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ ดีแล้วที่ไม่ได้เรียนคณะนี้ โอ้ว สวรรค์แท้ของนิชคุณ

ถึงแล้วครับพี่ยูบิน” ผมบอกเมื่อเดิมมาหยุดที่หน้าคณะเภสัชฯ

ขอบคุณมากนะคะที่พาพี่มาส่ง”

ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับพี่” พี่เขายิ้มสวยให้ผมแต่เธอก็ร้องขัดขึ้นไว้ก่อน


เดี๋ยวก่อนน้องนิชคุณ! นี่เบอร์พี่นะแลกเบอร์คุยกัน ไหนๆแล้วคนของเราก็อยู่คณะนี้เหมือนกันคุยกันไว้ไม่เสียหายหรอกเนอะ” ขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรผมจะปฏิเสธล่ะครับ อิอิ อ้อยเข้าปากช้างมีหรือที่มันจะยอมกลืน เอ๊ะ? หรือคาย? อ่า.. นั่นล่ะครับ

เบอร์ของนิชคุณจดไว้ในนี้ก็ได้ค่ะ” พี่ยูบินส่งสมุดจดเบอร์โทรศัพท์ให้ผมพร้อมปากกาหลังจากยื่นนามบัตรให้ 
ผมจดเบอร์ของตัวเองให้พี่คนสวยอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าตอนบอกเบอร์ไอ้เด็กนั่นเสียอีก อิอิ


นี่ถ้ามันรู้คงหึงกระจุยแต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะก็พี่สาวคนนี้สวยฝุดไรฝุดแถมยังถูกชะตากันขนาดนี้ เรื่องอะไรจะปล่อย
โอกาสงามๆให้หลุดลอยไปได้ล่ะ ขอให้ได้ยินเสียงหวานนั่นนิดๆหน่อยๆพอเป็นกระสัย นิชคุณก็พอใจแล้ววววว

ยังไงเราค่อยคุยกันนะคะ” ผมพยักหน้าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายพี่ยูบิน

ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ” ว่าแล้วผมก็หันหลังเดินกลับมาทางเดิม วันนี้เด็กนั่นไม่มีเรียนแต่มีซ้อมแข่งช่วงบ่าย ผมว่าจะโผล่หน้าหล่อๆ ของผมไปดูสักหน่อยแต่ไม่รู้ว่าพี่ยูบินคนงามจะได้เจอหวานใจหรือเปล่าแต่คิดว่าคงเจอนั่นแหละ เพราะอีก section ยังมีเรียนปกติที่ขาดก็คงเป็นนักกีฬานั่นแหละ

นิชคุณ!”

ขาของผมหยุดกึกหันไปตามเสียงเรียกที่แสนจะคุ้นเคยนั้น แทคยอนในชุดวอร์มของชมรมปั่นจักรยานมาจากทางแยกอีกด้านก่อนจะมาจอดตรงหน้าผม  แล้วใบหน้าหล่อคมๆนั่นก็จ้องหน้าผมนิ่งก่อนที่จะขมวดคิ้วแล้วทำหน้าไม่ค่อยพอใจ

แต่งตัวแบบนี้จะไปยั่วใครที่ไหน ห๊ะ!” ช่างเป็นคำทักทายที่น่าตบปากด้วยรองเท้าจริงๆ ผมก้มลงมองตัวเองก็ไม่ได้แต่งไม่งามจากเดิมเท่าไหร่หรอกนะ แต่วันนี้ผมใส่ชุดถูกระเบียบที่สุดแล้ว คิๆ ไม่นับหน้าที่แต่งกับผมที่จัดทรงมาอย่างดีหรอกนะ

เปล่าหรอกน่านายก็พูดเวอร์ไป ไหนว่ามีซ้อมแข่งไงแล้วมาปั่นจักรยานอะไรแถวนี้” เจ้าเด็กยักษ์ไม่ได้ตอบผมในทันที ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเด็กนั่นมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะมาหยุดที่ใบหน้าของผม  ผมสีดำตัดสั้นของผมวันนี้ถูกเซ็ทตั้งอย่างดี  แว่นที่เคยสวมก็ถอดออกแน่นอนว่าใส่คอนแท็คเลนส์สำหรับสายตาสั้น แล้วก็ปากสีเรื่อๆของผมอีก

นายแต่งอย่างนี้เดี๋ยวผู้ชายที่ไหนก็ได้มาตามจีบอีกหรอก” ไม่คิดจะตอบคำถามของผมเลยใช่ไหมเนี่ย แล้วนั่นๆๆ นั่นอะไรยื่นมือมาทำอะไร!! อย่านะอย่ามาลบกรอสเก๊าะนะไอ้บ้า!!! นี่แน่ะๆ ปัดมือออกซะเลย!

เหมือนนายที่มาจีบพี่นะเหรอ คิๆ บ้าใครจะมาจีบกันเล่ารู้กันหมดทั้งมอแล้วมั้งว่าพี่มีแฟนแล้วว่าแล้วผมก็หัวเราะร่าและไอ้เด็กนี่ก็ไม่ละความพยายามที่จะยื่นมือมาลบกรอสของผม

“ไปส่งที่คณะหน่อยสิถ้าไม่รีบไปไหน” ผมว่า

ขึ้นมา” บอกผมแค่นั้นแหละ ผมเลยเดินไปนั่งซ้อนท้ายจักรยานของแทคยอนซะเลยและตอนนี้ผมก็รู้ซึ้งแล้วว่า ไอ้สนีกเกอร์ที่ใส่มานี่แม่งไม่ถูกกับจักรยาน

พี่ว่าพี่เดินดีกว่าอ่ะ ของเยอะ” เพราะรถจักรยานของแทคยอนไม่มีตะกร้าหรืออะไรเลยน่ะสิแล้ววันนี้ผมก็แบกทั้งกระเป๋ากล้อง ทั้งกระเป๋าแบบวาดอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะที่ต้องเอามาใช้และเอามาคืน

สมน้ำหน้า ใครสั่งใครสอนให้แบกของหนักแล้วไม่บอกให้ไปรับล่ะ” อีกละ คำพูดน่าตบอีกละ แทคยอนจอดจักรยานแล้วหันมาคว้าอะไรที่ตัวเขาสะพายและวางไว้ด้านหน้าได้ไป

“ส่งของมา” ผมค่อยๆส่งกระเป๋าแบบวาดที่ในนั้นมีรายงานของผมไปให้แทคยอนที่ค่อยๆจับมันวางพาดกับแฮนด์หน้ารถก่อนที่จะค่อยๆออกตัวปั่นเบาๆเพื่อไม่ให้ของที่วางพิงไว้หล่นเสียหาย แหมๆ ถึงจะปากร้ายแต่ก็ใจดีนะแฟนผมเนี่ย

น่าร้ากกกกก ชิงๆเบยยยยยยยยยยยยย แบบนี้รักตายเลยอ่ะ!!

ถ้าจะรั่วช่วยรั่วตอนที่ไม่มีลมมากรอกหูนะ ฟังไม่ออก” นั่นแหละที่ต้องการ

ก็ไม่ได้รั่วนี่นา”

เห๊อะ~ แล้วมาทำอะไรแถวนี้ หลงทางอีกหรือไงแฟนผมนี่ช่างแสนรู้เสียจริง อิอิ แต่วันนี้ทายผิดโว้ยยยย

เปล่า มีคนมาถามทางมาคณะเภสัชเลยพาเขามาน่ะ”

หลงทางเก่งขนาดนี้ยังจะกล้าพาใครต่อใครมาเดินอีกนะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย?” จบประโยคแขวะด้วยคำถาม ที่เล่นเอาขนลุกซู่ไปทั้งตัว ก็ถ้าจะทำเสียงโหดขนาดนั้นอะนะ เล่นตัวไม่ตอบดีกว่า อิอิ

ผู้ชาย”

นี่ผมเล่นตัวแล้วเหรอวะ ฮ่าๆๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบความจริงไปหรอกนะ แต่ไอ้ครั้นจะไม่ตอบก็กระไรอยู่นะก็ลองจับรังสีอำมหิตจากน้ำเสียงนั่นแล้วผมไม่ควรจะเล่นตัวให้มากนี่นาไม่งั้นภัยคงมาถึงตัวและแน่นอนรถคงพุ่งเข้าข้างทางตกน้ำตายเป็นโศกนาฏกรรมแทน เดี๋ยวได้กลายเป็นตำนานความรักของมหาลัยระหว่างสองคณะอีกแง่มๆ

ว่าไงนะ!!!” แทคยอนถามกลับมาอย่างรวดเร็วจนผมส่ายหน้าหวือ เอ่อแต่ส่ายหน้าไปไอ้เด็กนี่ก็ไม่เห็นนิหว่า

เปล่าล้อเล่น ผู้หญิงจริง ๆ ทำไมเหรอ  ถ้าเป็นผู้ชายจะทำไมเหรอ

อย่าได้คิดจะโปรยเสน่ห์กับใครนะนิชคุณ  ไม่งั้นฉันเอาตายแน่

จะฆ่าพี่เลยเหรอ? พี่ไม่ได้ขอให้ใครมายุ่งกับพี่สักหน่อย” ผมบ่นทันที แทคยอนก็ยักไหล่ก่อนจะจอดรถที่หน้าคณะของผม ผมก้าวลงจากรถแล้วรับของเหล่านั้นมาสะพายไว้เหมือนเดิม

จะผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ ไบหรืออะไรก็แล้วแต่ สำหรับนายทุกเพศในโลกนี้คนไหนก็ช่างที่ไม่ใช่ฉัน! ฉันก็ไม่เอาไว้แน่  อย่านอกใจฉันนะนิชคุณ!

ก็ไม่ได้นอกใจสักหน่อย นายนี่ก็หึงล่วงหน้าเลยนะ รักพี่มากเลยล่ะสิ~” ผมก็แซวเล่นไปอย่างนั้นแหละนะ ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่คำตอบที่อยู่ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นกลับทำให้หัวใจของผมอ่อนยวบยาบก่อนจะเต้นถี่รัวแรงจนแทบทะลุออกจากอก โว๊ยยยยยยยยยย เขินอ่า~ ไอ้น้ำตาลปี๊บ!!

รู้หรือเปล่าว่าฉันรู้สึกยังไง?” ก็เล่นถามแบบนี้ สายตาที่มองก็...

กะ.. ก็พอรู้... พะ... พี่เข้าเรียนก่อนนะ” แทคยอนแค่พยักหน้ากับผม ขาของผมที่ดูจะสั่นเล็กน้อยตอนที่เดินเข้าตึกแต่ไม่กี่นาทีที่เดินแยกออกมา มือถือของผมก็สั่นเตือน ผมค้นมันออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างเพื่อเปิดอ่านข้อความที่เพิ่งเข้ามา

... น่ารัก”...

สั้นๆ ง่ายๆสมกับนิสัยคนส่งเลยสินะ ผมหันมาทางเด็กตัวสูงโย่งที่ยังคงคร่อมจักรยานอยู่ เจ้าตัวแสบยักคิ้วใส่ผมอย่างกวนๆ รู้จักนิชคุณน้อยไปซะแล้ว อิอิ

ผมทำท่าส่งจูบประหนึ่งตัวเองเซ็กซี่ระดับนางงามระดับโลกซึ่งรับรองผลโดยไอ้มิเรียมและไอ้จินแทคว่ามันฮาสุดๆใส่เด็กนั่น  ซึ่งนั่นก็ได้ผลเด็กนั่นทำหน้าเหวอไปทันทีก่อนที่จะปล่อยก๊ากออกมาและเมื่อผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งหนีเข้าตึกเพราะความอับอายที่ตัวเองก่อไว้ ข้อความก็สั่นเตือนขึ้นมาอีก

..ไม่น่าชมเลย...

ขอบคุณมากนะไอ้เด็กปากสุนัข! ผมเดินเชิดเข้ามาในตึกจะบอกว่าเลิกสนใจเรื่องของเด็กนั่นก็คงไม่ได้หรอก เพราะเมื่อไหร่ที่ผมว่าง ผมก็คิดถึงแต่แทคยอนตลอดนั่นแหละ อ๊ายๆๆ เขินจุงเบยยย ขนาดบางทีไม่ว่างผมก็ยังคิดถึงเลยอ่ะ ฮ่าๆ จะเอาอะไรกับผมล่ะคร้าบบบ คนรั่วๆอย่างผมก็มีแต่เด็กยักษ์อยู่เต็มหัวจึยยยยยยยยย


*โปรยจูบ*


เสียงเฮลั่นโรงยิมเมื่อแทคยอนสอยคู่ต่อสู้ของอีกมหา’ลัยร่วงหมอบลงกับพื้นแต่สภาพก็ยังดูดีกว่าไอ้พี่หมูนรกนั่น อย่างน้อยๆก็ไม่ได้สลบคาเท้าอะนะ

เอ่อ… ถ้ามีใครเข้ามาจีบผม  เจ้าเด็กนี่มันจะสอยร่วงอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะแค่คิดว่าเด็กนี่จะทำมันก็... หึ๊ยยยยยย สยองงงงงงงงงงงงง ร๊าววววววววววว

แฟนแกนี่ตีนหนักขนาดไหนวะ”

อยากรู้ว่าหนักกว่าที่ตาเห็นมากแค่ไหน ยื่นหน้าไปรับสิไอ้จินแทค” ไอ้มิเรียมสวนแทนผมทำเอาไอ้จินแทคสุดหล่อทำปากจิ๊จ๊ะ

นั่นเดินมาโน่นแล้ว” ไอ้มิเรียมพูดอีก

กูคุยโทรศัพท์ก่อนนะ” ไอ้จินแทคขอตัวพร้อมกับที่ไอ้มิเรียมหันไปสนใจการแข่งต่อ ส่วนผมน่ะเหรอ? สายตาก็มีแต่ร่างที่สวมชุดคาราเต้สีขาวคาดสายดำของเด็กยักษ์ที่เดินเข้ามาเท่านั้นแหละ

มานานแล้วเหรอ” ผมส่ายหน้า

มาตอนนายกับคนนั้นเริ่มลงเบาะได้แป๊บนึง” ผมยิ้มให้แต่เด็กนี่กลับทำหน้าเฉยเมยตอบกลับมา

ไปทางโน้น” แทคยอนว่าแล้วก็ดันตัวผมให้ออกไปนอกโรงยิม

เราสองคนยืนอยู่ข้างโรงยิม  ผมมองแทคยอนด้วยสายตางงๆ เด็กนี่ดูหงุดหงิดแบบแปลกๆแต่ก็ไม่ถึงกับโกรธ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่โดนลูกหลงหรอกนะ

กลับไปก่อนได้หรือเปล่าห๊ะ??? อะไรของมันเนี่ย?

ทำไมล่ะ พี่มาเชียร์นะ! นายก็เหลือซ้อมแข่งอีกตั้งรอบหนึ่งนี่หรือว่านายแอบเอากิ๊กมาเชียร์” ผมแทบจะแยกเขี้ยวเมื่อคิดถึงเหตุผลท้ายๆ ถ้าจับได้แม่จะกระชากหนังหัวออกมาเลยคอยดู!!

บ้าไปล่ะแทคยอนว่าผมแต่ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นนิดๆ

มีอะไรหรือเปล่า

ก็...” แทคยอนไม่สบตากับผมแต่เหลือบมองไปทางอื่น หน็อยๆๆๆ มีหลบตา ไอ้เด็กเวรมีพิรุธชัดๆ

ทำไมผมขู่เสียงเขียว

“กิ๊กใช่ไหม? นายมีกิ๊กใช่ไหมวะ คนไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ!! ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!” ผมทุบอั๊กเข้าที่ไหล่ของไอ้เด็กตรงหน้าสักสองสามทีแต่เด็กนี่ก็แค่เบี่ยงตัวหนีแล้วหัวเราะเสียงดัง

รักมากละสิ~ ถึงหึงหน้ามืดอย่างนี้น่ะ” ไอ้เด็กบ้านี่!

เออ!! แล้วไง?” แทคยอนทำตาโตพอได้ยินคำตอบชัดๆจากปากของผม ก่อนที่จะค่อยๆฉีกยิ้มแล้วขยับเท้าเดินเข้ามาประชิดร่างของผม

ฉันก็หึงเหมือนกันนะ พวกผู้ชายอีกฝั่งมองนายตาเป็นมันแถมพวกเพื่อนไอ้ชานซองที่มาเชียร์ยังระริกระรี้จะมาจีบนายอีก” คราวนี้เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายตาโตอ้าปากค้าง ห๊ะ??????

บ้า! พี่ก็เป็นผู้ชายนะเว๊ย!! จะมีผู้ชายอะไรมาจีบกัน” แทคยอนเอานิ้วจิ้มหน้าผากดันผมจนหน้าหงาย

ก็เหมือนแค่ทรงผมละวะ ปกติก็หน้าตาน่ารักอยู่แล้วนะวันนี้ดันแต่งหน้ามาอีก” ผมลูบหน้าผากป้อยๆตรงที่ไอ้เด็กบ้าจิ้มแล้วปากผมก็บู้ใส่มันโดยอัตโนมัติ  เด็กนี่ยืนกอดอกส่งยิ้มหวาน

พวกนั้นมันบ้า มองผู้ชายด้วยกันน่ารักได้ไงวะ”

งั้นฉันก็บ้าด้วยสินะ” แทคยอนว่ายิ้มๆ รอยยิ้มมุมปากกับดวงตาที่ฉายแววขี้เล่นแบบนั้น!!

โอ๊ยยยยยยย หล่อน่าลากขึ้นเตียงงงงงงงงง

ก็มาลากพาขึ้นเตียงเลยสิ” แทคยอนก้มหน้าลงมากระซิบชิดหูของผม ไอ้เด็กบ้า! ขนลุกนะเว๊ย!!

เดี๋ยวก็ลากจริงๆซะหรอกไอ้เด็กบ้า” ผมทำปากเก่งช้อนตาขึ้นสบกับเด็กตัวสูง

อย่ามาน่ารักให้มากนะนิชคุณ   ไม่ปลอดภัยหรอกนะจะบอกให้” ผมหลบสายตาวิบวับที่สื่อความหมายของ
แทคยอนทันที

ไอ้ประโยคที่เด็กนี่พูดนั่นก็อีก โอ้ยยยย นิชคุณจะระเบิด บู้ม!!! และกลายเป็นโกโก้ครั้นท์แล้ววววววว

พี่อยู่เชียร์อีกไม่ได้เหรอ~ นะ.. น้า~”

ก็อยากให้อยู่หรอกนะ แต่ก็ไม่อยากทำให้เสียสมาธิ” แทคยอนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่สายตาที่ผมได้สบอยู่นั้นมันทำเอาวูบวาบไปทั้งตัว

แต่...” ผมอยากอยู่ดูจริงๆน้า

วันนี้อูยองกับซองวานกลับบ้าน” แทคยอนบอกผม หน้าผากของเราแทบจะชนกันอยู่แล้ว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นลอยเด่นอยู่ในดวงตาของผม

ไหน... ไหนว่าจะไปค้างที่ห้องพี่ไง” เจ้าเด็กยักษ์ยิ้มกว้าง

เก็บห้องหรือยังล่ะ?” แทคยอนล้อด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีทำเอาผมตีหน้ายุ่งฉับเลย เดี๊ยะๆๆ แต่จะว่าไปห้องก็รกจริงๆนั่นแหละ วันก่อนเด็กนี่ก็ไม่ได้ช่วยเก็บซะด้วย

พี่นอนเตียงบนนะ ไม่ก็เตียงของซองวานก็ได้” แทคยอนส่ายหน้าช้าๆ

งั้นฉันจะตามไปนอนกับนาย”

โธ่...” ผมแกล้งทำเสียงอ่อนใจไปงั้นแหละ ความจริง... คืนนี้ยังไงผมก็ไม่แยกเตียงกับแทคยอนแน่ๆ

ไปรอที่ห้องฉันก่อนไหม? นี่กุญแจ ฝากจัดโต๊ะตรงหัวเตียงด้วยพอดีมีอะไรจะให้” ผมทำหน้างงงวย แทคยอนยิ้มหวาน... ที่หวานไปทั้งตาและปาก

ง๋อยยยยยยย ไม่ต้องรอคืนนี้ก็ได้นะน้องแทคจ๋า ลากพี่คุณไปขึ้นเตียงตอนนี้และเดี๋ยวนี้เลย!!

มีอะไรจะให้?”

วันเกิดไม่ใช่เหรอไงโว๊ะ~ นายรู้เหรอ?

รู้... รู้ได้ไง พี่ไม่ได้บอกนะ” ผมกะจะเซอร์ไพรส์นะเนี่ย ผมมีของให้แทคยอนด้วยเหมือนกัน

เพราะเป็นสิ่งที่แฟนอย่างฉันต้องรู้ นายเป็นคนสำคัญของฉันนะ สำคัญสำหรับฉันมากที่สุด” 


อ้ายยยยยยยย  นิชคุณขอลาตายยยยยยยยยย


อะ... อืม” ผมพูดอะไรไม่ออก คำพูดหวานๆของเด็กนี่ทำผมหัวใจพองจนลอยเคว้งไปแล้ว โอ๊ย! หลงแทคยอน แถมยังรักเข้าเต็มเปาเลย!

ไปรอก่อนนะแล้วจะรีบกลับ” ผมพยักหน้าช้าๆ สูดกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของแทคยอนเข้าจนเต็มปอดก่อนจะทำใจกล้าส่งสายตาหวานฉ่ำให้กับเจ้าเด็กตรงหน้า

พร้อมนะ” พูดได้แค่นั้นก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก มันเขิน! กร๊าชชช *พ่นไฟใส่เบย*

พร้อม? พร้อมอะไร?” แทคยอนถามอย่างพาซื่อ ผมก็เขินสิคร๊าบบบ นานๆทีจะเห็นไอ้เด็กนี่ไม่ทันสักที แต่จะให้บอกได้ไงว่าผมพร้อมแล้วที่จะเป็นของแทคยอนทั้งหัวใจ... และตัว โอ๊ยเขินตาย! แต่ผมก็พูดมันออกไปแล้ว

ก็... พร้อมแล้วที่... จะเป็นของนาย.. ไง” คำพูดแผ่วๆของผมขาดๆหายๆ แต่ที่มีเพิ่มขึ้นคือรอยยิ้มหวานที่ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาของแทคยอน

โอ้ยยยยยยย ไอ้เด็กนี่กำลังฆ่าผมด้วยรอยยิ้มของมัน!! อ๊คแทคยอนแตะนิ้วกับแขนของผมที่กำสายกระเป๋าสะพายใบเก่งจนแน่นก่อนจะขยับลูบเบาๆ รอยยิ้มที่แต้มอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของแทคยอน  นั้นทำเอาตาเริ่มพร่าและเหมือนสมองกำลังหลั่งสารอะไรสักอย่างที่ทำผมร้อนไปทั้งตัว เมื่อแทคยอนเม้มริมฝีปากล่างของตัวเองส่งสายตามีความหมายมาให้ผมอย่างไม่ปิดบัง ซึ่งผมก็เข้าใจมัน

เป็นอะไรที่... อยากทิ้งทุกอย่างตอนนี้เลยนะรู้หรือเปล่าก็อยากให้ทิ้งเหมือนกันนั่นแหละ แต่มันทำไม่ได้ไง

พะ... พี่ พี่ไปที่หอละกันนะ นายก็กลับเข้าไปเถอะ” ผมพูดเสียงสั่น ทั้งรอยยิ้มสายตาของคนตรงหน้ากำลังทำให้ผมบ้าทำอะไรแบบที่ไม่เคยคิดที่จะทำ

อย่าโปรยเสน่ห์นะนิชคุณ... ฉันหวง” ผมพยักหน้า

พยายามเข้านะ... พี่...จะรอ” สองคำสุดท้ายของผมแผ่วเบาแต่ผมรู้ว่าเจ้าเด็กบ้าได้ยิน ได้ยินชัดเลย! เพราะคำตอบของแทคยอนที่ผมได้ยินชัดแจ๋วทั้งที่อีกฝ่ายก็พูดเบาไม่ต่างกัน

ไม่นานหรอกครับ... รอผมอีกไม่นาน

ผมแรดผมรู้! แต่ลองคุณมีแฟนอย่างไอ้เด็กแทคยอนสิแล้วคุณจะเข้าใจความรู้สึกของผู้ชายอย่างผม แล้วไอ้เมะไร้ประสบการณ์อย่างผมเนี่ยควรจะทำยังไงดีฟระ? กับสถานการณ์ใกล้เสียตัวเต็มแก่เนี่ย ไม่กล้าแล้วยังมีหน้าไปบอกไอ้เด็กบ้าอีกว่าพร้อมแล้ว เชี่ยยยยยย คนเขายิ่งนับวันนับคืน(ที่จะเสียตัว)อยู่

อ๊ากกกกกกกก ประสาทแล้วครับกู!

ผมเดินไปเดินมาในห้องพักของแทคยอน   การแอบเข้ามาไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่  หอแปดก็ไม่ได้ไกลจากโรงยิมเท่าไหร่นัก ห้อง 405 ก็ไม่ได้เหนื่อยนักตอนที่เดินขึ้นมาแต่ไอ้ตอนที่แทคยอนจะมาถึงแล้วนี่สิ แม่งชวนเครียดดีแท้! แต่... มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ อาจจะมีช็อคเอฟเฟ็คหรือ กขค. มาขวางเราสองคน

 ในฟิคมีบ่อยไปใช่ป่ะหล๊าาาาาา ชวนให้คนอ่านค้างคาใจเล่นๆอะไรทำนองนั้นน่ะ อิอิ ไม่ใช่ว่าผมเล่นตัวหรืออะไรหรอกนะครับ แต่ผมจูบก็ไม่เก่ง เล้าโลมใครก็ไม่เป็น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเปิดซิงคนอื่น หรือฟันสาว ฟันหนุ่มที่ไหน ก็ไม่เป็น! คือคำตอบสุดท้าย แล้วกระแดะจะเสียซิงให้แฟน! ผมเป็นเมะ เด็กนั่นก็เป็นเมะ ใครรุกแล้วใครจะรับกันล่ะ? งามไส้แล้วไหมล่ะนิชคุณคนน่ารัก


ก๊อกๆ ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงเคาะประตูนั้นมองมันราวกับเห็นผีตานีมายืนอยู่ เด็กแทคยอนกลับมาแล้วเหรอ? นี่ผมมาอยู่ที่หอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ ผมค่อยๆเดินไปที่ประตู แนบหูกับบานไม้เก่าๆนั้ น ได้ยินเสียงแว่วจากด้านนอก... มันมีมากกว่าหนึ่งคนแน่ๆ

ใครครับผมถามออกไป

ซองวานเองพี่คุณ” เฮ้ออออ~~~ โล่งอก

ครับ รอแปบนึงนะ” ผมตอบด้วยเสียงร่าเริง ใจหนึ่งก็กลัวว่าแทคยอนจะกลับมาเร็วเกิน (ทำใจไม่ทัน) อีกใจก็กลัวหัวหน้าหอมาเจอ  เดี๋ยวเด็กทั้งสามคนในห้องนี้จะเดือดร้อน ผมเปิดประตูออกก่อนที่จะเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้น! ดอกทานตะวันสีเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วนลอยเด่นอยู่ตรงหน้าผมจนมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนถือมาก่อนที่มันจะค่อย ๆ ลดลงจนผมสามารถมองเห็นอูยองและซองวานยืนอยู่

ส่วนแทคยอน... เด็กนี่ไม่เคยแคร์สายตาใครเลยใช่ไหมน่ะ? ผมรีบยกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกเด็กบ้าปล้นหอมไปทันทีที่เจ้าตัวลดดอกไม้ลง ก่อนที่จะแทรกตัวเข้ามาในห้อง ให้ตายเถอะดูสิ อูยองกับซองวานหัวเราะคิกคักเลยอ่ะ บ้าๆๆๆ

สุขสันต์วันเกิดนะ” คำอวยพรสั้นๆของแทคยอน  ทำให้ผมมีความสุขได้ไม่เท่ากับที่น้องอูยองและซองวานที่พูดต่อมาหรอก

มีความสุขมากๆนะครับพี่ เนี่ยแทคตระเวนหาดอกทานตะวันให้พี่แทบจะทั่วโซลเลยมั้งครับเนี่ย คิคิ กว่าจะได้เยอะขนาดนี้”

หะ... หา?” ผมอึ้งๆกับสิ่งที่ซองวานพูดพร้อมกับที่โดนแทคยอนดันตัวผมให้ไปนั่งที่เตียง

แหมก็พอรู้จากพี่มิเรียมวันก่อนว่าวันนี้วันเกิดพี่คุณก็ดี๊ด๊าใหญ่ แถมพอรู้ว่าพี่ชอบดอกทานตะวันเหมือนตัวเองอีกอีกพี่ท่านก็ตระเวนไล่สั่งซื้อตามร้านขายดอกไม้ทั่วโซลเลยนั่นแหละฮะ อิอิ”

แทคยอนยิ้มแฉ่งลงนั่งกับพื้นก่อนที่จะยักคิ้วแล้วซบหน้าลงกับตักของผม

จะ...จริงเหรอ?”

ยิ่งกว่าจริงอีกคร๊าบบบบบ” เสียงสองหนุ่มน้อยประสานกันอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะเดินเอาดอกทานตะวัน   
ในอ้อมกอดไปเสียบในโหลแก้วขนาดใหญ่ที่ผมสงสัยตั้งแต่เข้ามาในห้องว่าเอามาวางไว้ทำไมแถมเอาน้ำมาใส่รอไว้ด้วยนะ

งั้น... เดี๋ยวเราสองคนไปก่อนนะแทค   เดี๋ยวบ่ายสามเจอกันที่ร้าน” ซองวานเป็นคนพูด แทคยอนก็แค่พยักหน้ากับตักของผมในอ้อมกอดยังหอบดอกไม้ไว้อยู่

ขอบใจมากนะที่ช่วยหอบมาให้”

ไม่เป็นไร อิอิ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะ” แทคยอนพยักหน้าอีกรอบแล้วสองหนุ่มน้อยก็วิ่งจู๊ดออกจากห้องไปอย่างไว ไม่รอให้ผมถามอะไรสักคำ

ร้านอะไรเหรอแทค” ผมก้มหน้าลงถามแทคยอนที่เอาแต่สนใจซบอยู่กับตักของผม  สายตาคอที่ทอดมองดอกทานตะวันในมือส่วนมือข้างหนึ่งก็ลูบไล้กลีบดอกสีเหลืองนวลนั้นเบาๆ ช่างเป็นท่าทางที่ยากจะถอนสายตาออกจริงๆ

อ่อ เลี้ยงวันเกิดคุณไง พอดีวันนี้สองคนนั่นจะกลับบ้านก็เลยตกลงกันกับพวกพี่จินแทคว่าจะเลี้ยงกันบ่ายนี้เลย  ตอนกลางคืนจะได้ไม่มีใครเป็นก้างเราอีกไง” แทคยอนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนท่า ผมเลยค้นเอามือถือในกระเป๋าที่วางอยู่ใกล้ๆออกมาแล้วกดถ่ายรูปของเด็กนี่ซะเลย ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกตัวถึงได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วก็ยิ้มหวานใส่กล้องทันที

ไม่ถ่ายไม่ได้แล้วรูปนี้น่ะ!!! น่ารักเกินไปแล้วโว๊ยยยยยยย น้องแทคของพี่คุณ ว่าแต่... เอ็งไม่กลัวกล้องเลยนะพ่อคนหล่อ

ถ่ายคู่กันบ้างสิ” แทคยอนว่า ผมเลยก้มหน้าลงไปใกล้ๆ เอาแก้มแนบกับแก้มของแทคยอนไว้ก่อนจะถ่ายอีกสองสามรูปเอาให้ติดดอกสีเหลืองนี่ด้วย

ไม่กลัวกล้องเลยนะ เห็นคนหล่อส่วนมากจะกลัวกล้องกัน” เด็กนั่นแค่ไหวไหล่อย่างไม่สนใจ

ชอบจะตาย ไม่เชื่อดูมือถือดิถ่ายเก็บไว้เต็มไปหมด”

อะโห้~ ไม่รอช้าหรอกผมรีบเอากระเป๋าของแทคยอนมาค้นเอามือถือมาเปิดดูทันที ระหว่างนั้นแทคยอนก็ลุกแล้วเอาดอกไม้ในมือไปเสียบในโหลแก้วรวมกับก่อนหน้านี้

เยอะมากเลยอ่า~ ทำไมไม่เอาลงแลปท็อปบ้างอะเครื่องอืดหมดแล้ว”

ลืมอะ ไหนจะเรียนไหนจะซ้อมแถมยังมีสอบอีก” แทคยอนว่า ในขณะที่มือก็เสียบดอกไม้ลงทีละดอก.. ทีละดอกอย่างตั้งใจ

นี่ใช่ไหมที่เคยมีคนบอกว่า ...เราจะรู้ว่าคนๆนั้นใส่ใจในสิ่งนั้นมากแค่ไหนให้ดูจากการกระทำ...

แสงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ่ายเองเหรอ”

อืม บางทีอูยองกับซองวานก็ถ่ายให้บ้าง” แทคยอนตอบ

ไว้วันหลังพี่เอากล้องมาถ่ายให้ดีกว่า พี่ชอบถ่ายรูป”

ตามใจสิ” แทคยอนว่าก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม ซบหน้าลงกับตักของผมอีกครั้ง

ขอบใจนะสำหรับดอกไม้” แทคยอนไม่ตอบอะไรแค่ยิ้มเท่านั้น แขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวของผมไว้ก่อนจะขยับขึ้นมานั่งเบียดตัวกับผมบนเตียง

ชนะหรือเปล่า?” แทคยอนพยักหน้าก่อนจะหอมแก้มผมอีกที อ้อมแขนโอบกระชับจนร่างของผมเบียดเข้ามาชิดกับร่างของแทคยอน

เดี๋ยวๆ แล้วอาบน้ำมาหรือยังล่ะเนี่ย” ผมรีบท้วง ความจริงผมชักเริ่มคิดอะไรไม่ออกต่างหาก เพราะดูเหมือนเด็กนี่จะไม่สนใจสิ่งรอบตัวเสียแล้วสิ

เหงื่อไม่ทันออกด้วยซ้ำ” แทคยอนงึมงำก่อนจะซุกหน้าเข้ากับซอกคอของผม “หอมจัง” แต่ผมชอบกลิ่นของเด็กนี่มากกว่าอีกนะ

จะบอกว่าตัวเองเก่งว่างั้นเถอะ ไอ้เด็กขี้โม้เอ๋ย” แทคยอนหัวเราะชอบใจก่อนจะจูบเบาๆที่ต้นคอของผม ทำเอาขนลุกและสะท้านไปทั่วตัว

คนเก่งต้องได้รางวัลใช่ไหม? แถมยังทำตัวเป็นแฟนที่น่ารักเอาดอกไม้มาส่งให้แฟนอีก อืม.. รางวัลสองเท่าเลยนะ” แทคยอนพูด ผมค้อนตาแทบคว่ำเลยทีเดียวแต่ก็อดหน้าแดงไม่ได้เมื่อสบตากับสายตาหวานเชื่อมที่เปลือยความรู้สึกทั้งหมดของแทคยอนออกมา

อย่ามาตู่วะ ไม่มีรางวงรางวัลอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมพูดพร้อมกับหันหน้าหนีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น

แต่จะเอา” แทคยอนพูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่ความหมายนะเอาแต่ใจที่สุดแถมยังทำตามที่พูดด้วย


ปลายจมูกโด่งของแทคยอนแตะไล่ตั้งแต่แก้มของผมจนมาถึงริมฝีปาก ซึ่งผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีแล้วแต่ก็ไม่รอดพ้น ริมฝีปากบางได้รูปนั่นแนบลงมากับกลีบปากของผม  เพียงแค่แทคยอนขยับสัมผัสเพียงไม่กี่ครั้งผมก็อ่อนโอนผ่อนตามไปเสียแล้ว  มือที่เคยดันไหล่กว้างของแทคยอนให้ถอยห่างก็เปลี่ยนเป็นยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งนั้นแล้วเหนี่ยวรั้งร่างสูงยาวนี่ให้แนบชิด เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาไล่ต้อนลิ้นของผมและตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ สมองก็กำลังจะขาวโพลนอีกครั้ง

ผมหายใจติดขัดเมื่อฝ่ามืออุ่นข้างหนึ่งของแทคยอนค่อยๆดึงเอาชายเสื้อนักศึกษาของผมออกก่อนที่จะสอดมือเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังเบาๆจนผมวามไหวไปทั่วทั้งสรรพางค์ ปลายนิ้วไล้สัมผัสมันแผ่วเบาเพื่อปล่อยให้ผมผ่อนตาม

ผมได้แต่ครางฮือในลำคอเพราะถูกปิดปากเอาไว้  ซ้ำเรียวลิ้นอุ่นจนร้อนจัดนั้นยังคงไล่ต้อนและเกี่ยวกระหวัดตามไล่ผมไม่ห่าง ตอนนี้สมองของผมขาวโพลนไปหมดแล้ว ผมคิดอะไรไม่ออก ตอนนี้ร่างกายของผมนึกถึงและคิดถึงสัมผัสของแทคยอนเท่านั้น  ปลายนิ้วอีกข้างค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของผมออกโดยที่ผมไม่รู้ตัว มารู้สึกเอาก็ตอนที่ตุ่มเล็กๆโดนทั้งสองนิ้วบดขยี้ไปเสียแล้ว

ดะ... เดี๋ยวก่อน” ผมถอนจูบและดันไหล่ของแทคยอนไว้ พยายามขืนตัวออกเต็มที่ แต่ทว่าก็ออกห่างเด็กนี่ได้ไม่ถึงคืบด้วยซ้ำเพราะแทคยอนเอือมมือโอบผมไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงนั่น

คุณ...นิชคุณ” แทคยอนกระซิบเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่า ดวงตาคู่คมฉายแววอ้อนวอนให้ผมยอมความ ริมฝีปากบางได้รูปคู่นั้นคอยเฝ้าไล้จูบตามแนวคางของผม

นะครับคนดีเสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาชิดใบหูพร้อมกับฝ่ามืออุ่นลากไล้ที่แผ่นหลังและสีข้างของผม

ตะ... แต่... แต่... พี่... พี่ไม่... เคยนะ” ผมตอบกลับเสียงแผ่วพลิ้ว แทคยอนยิ้มกว้างทั้งตาและปากทำเอาผมใจอ่อนวาบ ร่างของผมถูกอ้อมแขนนั้นโอบกอดไว้แนบชิด

นั่นไม่ใช่ปัญหา” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี

แต่...” ผมยังคงค้านแต่น้ำเสียงของผมเบาหวิวยิ่งนัก ยิ่งเรียวปากได้รูปพรมจูบไปทั่วแก้มและไล้เลยขึ้นไปยังใบหูและขบเม้มที่ปลายติ่งเบาๆ เรี่ยวแรงและคำเอ่ยค้านก็หายวับไปหมด

นะครับคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วที่ข้างหู ลมเบาๆที่เป่าเข้าหูผมทำเอาสั่นสะท้านไปทั่วร้าง และเพียงเท่านี้ผมก็ไม่ขัดขืนอีกต่อไป


ไม่มีคำอนุญาตจากผมแต่สองมือที่เอื้อมขึ้นไปโอบรอบต้นคอของแทคยอนอีกครั้งนั้นก็มากพอที่จะเป็นคำอนุญาตได้แล้ว กลีบปากคู่นั้นยามนี้ช่างร้อนจัดเสียจนผมรู้สึกถึงมันทุกครั้งยามที่ลากไล้ผ่านผิวเนื้อของผม


ทุกครั้งยามที่เรียวปากคู่นั้นสัมผัสที่ผิวกายของผม อุณหภูมิในร่างกายก็ค่อยๆร้อนขึ้นดั่งเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำและร้อนแรงยิ่งขึ้น หัวใจที่เคยสั่นเพราะกลัวของผมตอนนี้มันก็เต้นรัวอย่างวามใจ

ฝ่ามือใหญ่ที่ลากไล้ผ่านลำคอลงมาที่หน้าอกของผมนั้นค่อยๆไล้ปัดผ่าน     ยอดอกของผมไปราวกับหยอกเล่น ไล้วนลงไปถึงหน้าท้องของผมก่อนที่จะค่อยๆวกขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่จูบซับไล้ตามมา

ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกของผม ส่วนอีกข้างก็โดนปลายลิ้นอุ่นไล้สัมผัส ทั้งขบและกัดเบาๆยิ่งทำให้ผมเสียวซ่านจนผมเผลอเกร็งจิกมือเข้ากับเส้นผมของคนที่แทบจะคร่อมผมไว้ เสียงครางแผ่วหลุดออกจากลำคอ มันช่างน่าอายยิ่งนัก

ยิ่งเสียงน่าอายนั้นครางถี่ขึ้น แทคยอนก็ยิ่งพยายามที่จะทำให้ผมร้องดังขึ้นอีกด้วยการครอบครองยอดอกแล้วผมแล้วไล้เลียดูดมันให้แรงขึ้นอีก ผมบิดกายไปมาอย่างวามไหว แบบนี้ใครจะทานทนได้กันล่ะ

ทะ.. แทคร่างสูงนั่นเงยสายตาขึ้นมามองผมก่อนที่จะก้มหน้าลงจัดการกับยอดอกอีกข้างของผม ฝ่ามืออุ่นข้างที่ว่างก็ลูบไล้ตามแนวสีข้างขึ้นลงแผ่วเบาจนผมก็ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้สติของผมอยู่ที่ไหน ผมเผลอหลุดครางเสียงแผ่วนั้นออกมาอีกครั้ง  แทคยอนยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะกดจูบฝากรอยไว้ที่หน้าอกและลำคอของผม

ฝ่ามือใหญ่ไล้สัมผัสจากหัวไหล่ลงมายังแขนและลูบไล้สีข้างของผมก่อนที่จะค่อยๆปลดแก้เข็มขัดนักศึกษาของผมออก ริมฝีปากคู่นั้นยังคงจูบซับทำรอยสีเรื่อไปทั่ว ยามที่ริมฝีปากคู่นั้นลากไล้รอยจ้ำสีอ่อนก็ค่อยๆผุดตามที่กลีบปากคู่นั้นลากผ่าน

แทคยอนยังคงสาละวนกับซอกคอของผม เขายังคงจูบซับทำรอยอยู่ ฝ่ามืออุ่นค่อยๆดันร่างของผมให้ลงนอนกับพื้นเตียงนิ่ม พอแผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงความนิ่มของเตียงแล้วนั้น  ริมฝีปากคู่นั้นก็ตามมาสัมผัสป้อนรสหวานให้อีกครา มันช่างดูดดื่ม  เร่าร้อนและเร่งเร้าให้สติของผมพร่าเลือนเสียเหลือเกิน

แผ่นอกของผมหยัดขึ้นเมื่อริมฝีปากคู่นั้นก้มลงต่ำไปสัมผัสกับมันอีกครั้ง ครั้งนี้แทคยอนยิ่งไล้สัมผัสมันหนักหน่วงกว่าเมื่อครู่ยิ่งนักจนเผลอตัวยกหน้าอกเข้าใกล้ริมฝีปากคู่นั้นเสียเอง มุมปากของคนทาบทับผมกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ปลายเรียวนิ้วแข็งค่อยๆลากผ่านแนวสีข้างออกผมลงไปแล้วล้วงเข้าไปในกางเกงของผมจนได้ ไล้วนสัมผัสกับช่วงเอวขอดของผมและไม่นานกางเกงนักศึกษาที่ถูกระเบียบของผมก็ค่อยๆถูกรูดลงไปโดยที่ผมไม่รู้ตัว ก่อนที่ริมฝีปากคู่นั่นจะปล่อยยอดอกของผม ผมก็เอ่ยเรียกเขาไว้ด้วยเสียงสั่นพร่าของผม

อ๊า... ทะ..แทค... เดี๋ยว” เสียงสั่นของผมหยุดชะงักเขาที่กำลังก้มลงไปด้านล่าง แทคยอนเงยหน้าผมมองด้วยสายตาที่ทอแววว่าตอนนี้กำลังต้องการผมอย่างมาก หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ผมได้ยินเสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าปกติ

ทำไมไม่มีร่องรอยความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น  เขาเพียงแค่ถามด้วยความสงสัยเท่านั้น

มัน... สว่างไป... พี่... พี่อาย” ผมบอกเสียงแผ่วก่อนที่จะดึงสาบเสื้อนักศึกษา   ที่แหวกออกจนเห็นร่างของผมมาปิดตัวเองไว้ก่อน ใบหน้าที่แดงจัดของผมเบี่ยงหันหนีไป แทคยอนยิ้มบางๆก่อนที่จะหันไปรูดม่านปิดเตียงเราเอาไว้

ดวงตาคู่คมที่ทอดมองผมในยามนี้นั้นช่างอ่อนหวาน ต้องการและอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ มันทำให้ผมหลงเด็กตรงหน้านี้แทบจะโงหัวไม่ขึ้น เมื่อม่านถูกรูดปิดกลั้นเตียงไว้หมดแล้วก็ยังคงเห็นเป็นแสงสลัวๆแต่ก็ไม่ถึงกลับมืด ผมยังคงคงเห็นคนตรงหน้าที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้และเขาก็คงเห็นเรือนร่างของผมเช่นกัน ใบหน้าคมที่ทอดมองผมอยู่นั้น แค่ผมมองก็รู้แล้วว่าเขารักและต้องการผมมากแค่ไหน  และนั่นทำให้ผมยอมเขาโดยที่ไม่คิดที่จะห้ามอะไรอีกต่อไป

ปลายนิ้วยาวเอื้อมมาไล้สัมผัสที่แก้มร้อนจัดของผมและผมคิดว่าเขาคงรับรู้ รอยยิ้มที่วาดขึ้นตอนสัมผัสมันนั้นกำลังเอ่ยล้อผม ปลายเรียวนิ้วนั้นไล้เบาๆทั้งแก้ม หลังใบหู และต้นคอของผม ขยับไล้สร้างความวามไหวแก่ผมจนผมหลับตาลงรับสัมผัสนั้นและเอียงใบหน้าเข้าหามือนั้นเสียเอง

ถ้าไม่แน่ใจก็บอกให้ผมหยุดเสียตอนนี้”

เป็นคำพูดที่สุภาพบุรุษที่สุดเลยแฟนผมน่ะ อึ๊ยๆๆ เขินตัวจะแตก

“แต่ฉันไม่อยากหยุดแล้วล่ะ” แล้วก่อนหน้านั้นจะพูดเพื่อ?

เป็นของฉันเถอะนะคุณ...ก่อนที่ฉันจะคลั่งไปมากกว่านี้” ผมพูดไม่ออกเลยได้แต่มองสบตาคู่นั้น

ฉัน... ต้องการนายมากนะ” เสียงแผ่วเบาของแทคยอนนั้นกระตุ้นอารมณ์ในกายของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มันทำให้ความกลัวทั้งหลายของผมหายไปหมด ด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบที่พูดว่าต้องการผม เพียงแค่นั้นผมก็พร้อมยอมเป็นของแทคยอนแล้ว

ผมเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้เสี้ยวหน้าของแทคยอน  ริมฝีปากได้รูปนั้นหันมาจูบที่ฝ่ามือของผม แทคยอนหันหน้ากลับมาสบตาของผมอีกครั้ง ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรให้มากมายไปมากกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือไง ก็ในเมื่อในหัวใจและทุกความรู้สึกของผมมีแต่เด็กบ้าคนนี้เท่านั้นที่ได้ครอบครองและสายตาที่มองกลับมานั้นก็บอกผมหมดทุกอย่างอยู่แล้วว่า ใครกันที่เป็นคนครอบครองหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้ และ.. มันอาจจะตลอดไป

ถ้าไม่ใช่ผมแล้วจะเป็นใครได้ล่ะ ผมค่อยๆยืดตัวขึ้นขยับเข้าหาแทคยอนแล้วแตะริมฝีปากของผมเข้ากับริมฝีปากของแทคยอนและเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อนแม้ว่าจะดูเก้ ๆ กัง ๆ แต่แทคยอนจูบตอบและค่อยๆนำผมไป เรี่ยวแรงของผมไม่เหลืออีกแล้วเมื่อจูบหวาน ๆ นั้น  ถูกป้อนมาให้คำโต ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพร้อม ๆ กับร่างใหญ่กว่านั้นที่ตามทับลงมา

ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาไล้เกี่ยวกับสิ้นของผมที่ตอนนี้ตอบรับกระหวัดกันอย่างไม่เขินอาย ตอนนี้อารมณ์ต้องการของผมก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่

เสื้อนักศึกษาที่ยังคงคาไว้ที่ไหล่ของผมค่อย ๆ ถูกแทคยอนถอดมันออก  ผมขยับกายลุกขึ้นอีกนิดเพื่อที่ให้แทคยอนดึงเสื้อนั้นออกไปให้พ้นทาง ทั้ง ๆ ที่เรายังคงจูบกันไม่ห่างแต่มือของแทคยอนกลับทำหน้าที่ของมันได้ดีเหลือเกิน ดีเกินไปจนผมแทบคลั่งทุกครั้งที่ปลายนิ้วนั้นไล้ผ่านผิวเนื้อของผม

เมื่อไร้สิ่งดั้นขวางใดๆค แทคยอน ก้มลงสัมผัสจูบตามแนวซอกคอของผม สิ่งเดียวที่ผมทำได้เพื่อระบายความวามไหวก็คือเสียงครางของผมที่ดังแผ่ว แทคยอนค่อยๆเคลื่อนกายลงทาบทับผมลงมาชิดกว่าเดิม

ลมหายใจร้อนที่เป่ารดและไล้ไปทั่วยามที่กลีบปากคู่นั้น ไล้ขบเม้มทำรอยทำเอาสติผมกระเจิง ผมบิดตัวไปมา สองขายาวที่คร่อมตัวผมไว้ก็ถูไล้แนวสีข้างผมเบาๆ แทคยอนรุกผมทุกทางจนผมไม่มีทางรอดการโลมเล้านี้เลย ผมตกบ่วงแห่งความต้องการเขาไปจนปีนกลับขึ้นมาไม่ได้เสียแล้ว

แทคยอนยังคงแทะเล็มซอกคอของผม  สองมือก็ยังคงสาละวนกับการลูบไล้ตัวผม ไล้ลงสีข้างจนไปถึงเอวขอดแล้ววนกลับขึ้นมาทีเดิม ลูบไล้ซ้ำๆจนสมองของผมแทบหยุดสั่งงาน 

“อ๊ะ..” ผมเผลอหลุดครางเสียงดังเมื่อฝ่ามืออุ่นไล้วนมาที่หน้าท้องของผม ผมเผลอชันขาขึ้นและมันก็ชนเข้ากับอะไรบางสิ่งที่กำลังพองอยู่ใต้กางเกงนักศึกษาของอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้ผมแก้มร้อนมากเข้าไปอีก

แทคยอนวกริมฝีปากกลับมาป้อนจูบให้ผมอีกครั้งและสองมือก็ค่อยๆลากไล้ลงไปยังกางเกงของผมที่ถูกปลดตะขอไว้แล้ว  มันเกาะสะโพกของผมอย่างหมิ่นเหม่เพียงแค่สองมือนั่นลากเข้าไปในกางมันก็ค่อยๆรูดลงทันที กางเกงของผมถูกรั้งลงไปเรื่อยๆด้วยมือข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างก็เฝ้าวนไล้ที่หน้าท้องของผมและริมฝีปากได้รูปที่คอยเฝ้าป้อนจูบไม่ห่าง

ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ผมไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป สองมือของผมเอื้อมขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งแล้วรั้งให้แทคยอนเข้ามาใกล้และมอบสัมผัสให้ผมมากยิ่งขึ้น.. ผมต้องการมากกว่านี้.. มากกว่านี้.. และเร่าร้อนกว่านี้

ผมจิกเล็บลงที่ไหล่ของแทคยอน เมื่อเจ้าตัวใช้สองมือปัดผ่านสิ่งอ่อนไหวของผมที่กำลังค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น เสียงครางอื้อในลำคอเรียกให้แทคยอนยิ่งแกล้งผมโดยการวนผ่านไปมา  มืออีกข้างที่วนหน้าท้องอยู่ก็ค่อยๆเลื่อนต่ำลงมาที่ท้องน้อยใกล้กับส่วนนั้นแต่ฝ่ามืออุ่นก็วกกลับขึ้นมาที่เดิมอีกคราจนผมเผลอครางออกไปด้วยความไม่พอใจ คนด้านบนกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าของผม

ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมทำสีหน้าแบบไหนออกไป     รู้แค่เพียงในดวงตาคมนั้นฉายแววพึงพอใจเสียเหลือเกิน แทคยอนค่อย ๆ ผละจากผมแล้วค่อย ๆ ถดตัวกลับไปด้านล่างเพื่อที่จะถอดกางเกงของผมให้หลุดออกจากร่างแต่ผมก็ผวาทันทีเมื่อเห็นว่าร่างใหญ่นี่ถอยออกไป สองมือของผมจับที่ไหล่แทคยอน

“ดะ... เดี๋ยวก่อน”

“ทำไมครับที่รัก” เสียงทุ้มเอ่ยกลับมาด้วยถ้อยคำหวาน ทำเอาผมลืมไปชั่วขณะว่าเอ่ยรั้งทำไมกัน ทั้งๆที่ผมก็ต้องการมันเช่นกัน

“คะ... คือห้ามขำเด็ดขาดนะ” แม้จะทำสีหน้าไม่เข้าใจแต่แทคยอนก็พยักหน้ารับ

กางเกงสแล็คสีดำที่ถูกต้องตามกฎระเบียบมหาวิทยาลัยค่อยๆถูกดึงออกและเผยสิ่งที่น่าอับอายของผม  แทคยอนมองมันแล้วก็ยิ้มกริ่มก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผม  ส่วนผมก็ได้แต่เบือนหน้าหนีสายตาร้อนรุ่มนั้น

กางเกงซับในลูกไม้สีขาวที่ผมสวมนั้น ไม่ได้ช่วยให้มันปกปิดอะไรเลยสักนิด แทคยอนขยับตัวขึ้นมากระซิบเสียงแหบข้างหูผม

“นายเซ็กซี่เป็นบ้าเลยนิชคุณ” ผมเม้มปากไม่ตอบแล้วก็ได้แต่เบือนหน้าหนีอยู่แบบนั้น แทคยอนกดปลายจมูกลงกับแก้มของผมก่อนที่จะถอยตัวลงไปที่เดิม

ฝ่ามืออุ่นไล้ที่หน้าขาของผมเบาๆจะไล้ผ่านปลายขาของกางเกงซับในขาบานของผม ยิ่งปลายนิ้วนั่นไล้ขึ้นสูงเท่าไหร่  อาการวูบหน่วงในท้องก็ยิ่งเกร็งตาม มืออีกข้างก็ไล้วนที่ต้นขาด้านใน ปลายลิ้นอุ่นไล้วนที่รอบสะดือของผมสร้างความเสียวซ่านจนผมเผลอหยัดกายขึ้นรับสัมผัสเหล่านั้น

“อ่า... แทค” ผมครางเรียกชื่อร่างสูงเสียงสั่นเครือ เสียงที่ผมได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันช่างแหบพร่าและเซ็กซี่แบบที่แทคยอนบอกนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมก็คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ส่วนนั้นของผมค่อยๆพองออกจนแทบจนล้นออกมาจากชั้นในตัวบางนั้น แทคยอนค่อยๆดึงชั้นในของผมลงต่ำจนมันกองอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งแล้วก็จัดการกับส่วนที่แข็งขืน  ปลายนิ้วไล้ตรงท่อนลำนั้นเบาๆก่อนที่โพรงปากอุ่นจะเข้าครอบครองมัน

“อ๊า...” ผมหยัดสองขาขึ้นจิกพื้นเตียงไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนไล้วนส่วนปลายให้วาบวาม  เมื่อแทคยอนเริ่มขยับผมก็เริ่มหวีดร้องอีกครั้งและยิ่งจิกพื้นเตียงเพื่อระบายความเสียวซ่านนั้น ร่างของผมส่ายรับจังหวะนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวและมันคงทำให้แทคยอนแทบคลั่งแน่ๆ เพราะเจ้าตัวดูสนุกเหลือเกินกับการที่ได้เล่นสนุกกับร่างกายของผม  สองมือของผมกำผ้าปูเตียงของแทคยอนแน่น ขย้ำจนมันแทบจะขาดติดมือมาอยู่แล้ว ยิ่งแทคยอนเร่งเร้าจังหวะผมก็ยิ่งหวีดร้องและผวาตอบรับจังหวะนั้น

อาการวามในใจยิ่งพุ่งสูงจนผมเลื่อนมือไปสอดไล้เข้าใต้เส้นผมสีเข้มของแทคยอนแล้วขยุ้มเส้นผมนั้นแทน จังหวะที่เร่งเร้าก็ค่อย ๆ หนักหน่วงขึ้นจนผมเกร็งไปทั้งร่างและปลดปล่อยสายธารนั้นออกมา มันไหลย้อยจากส่วนปลายลงไปด้านล่าง หลังจากปลดปล่อยจนหมดผมก็ผวาลุกขึ้นทันที

“ขอโทษนะ” ผมช่วยเช็ดมุมปากของแทคยอนที่เปื้อนน้ำสายนั้นของผมด้วยทีท่าตกใจแต่แทคยอนกลับยิ้มขำแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบผม รสชาติเค็มแปลกๆที่ผมสัมผัสได้ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด

“น่ารักจังนะ” แล้วแทคยอนก็ได้กำปั้นทุบอกเป็นของตอบแทน

“ถอดเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงเขินอายแช่งด่าไอ้เด็กบ้านี่กลับไปแล้ว

แต่ตอนนี้มันต่างออกไปผมได้แต่ยื่นมือสั่นๆออกไปค่อยๆปลดกระดุมเสื้อให้ผิวกายขาวที่มีมัดกล้ามเผยต่อสายตาผมทำเอาแก้มของผมร้อนหนักกว่าเดิม ผมไม่กล้าที่จะขยับทำอะไรอีกแต่เสียงกระเส่าที่ชิดริมหูผมนี่สิ

“ถอดกางเกงให้ผมด้วยสิครับที่รัก” สองมือของผมที่วางอยู่บนแผงอกมัดกล้ามนั้นไล้ลงต่ำไปที่หัวเข็มขัด  ผมได้ยินเสียงทุ้มครางแผ่วยามที่ผมลากมือผ่านลงไปด้วย หลังจากปลดเข็มขัดได้ผมก็ปลดกระดุมกางเกงออก  เพียงแค่นั้นผมก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ตื่นตัวเต็มที่แล้วอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีดำนั้น

แทคยอนช้อนใบหน้าผมแล้วคร่อมทับผมอีกครั้ง ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้งโดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับไม่ห่างและจูบของเราก็ไม่ยอมห่างเช่นกัน

“ไม่ต้องเกร็งนะครับ” เสียงแหบที่กระซิบข้างหูเรียกให้ผมพยักหน้ารับตาม   แทคยอนละจูบออกไปแล้วเพียงไม่นาน ผมก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่สัมผัสที่ส่วนปลายของผมปาดเช็ดคราบน้ำเหนียวนั้นและชโลมมันที่ช่องทางด้านหลัง เมื่อโดนกระตุ้นสองขาของผมก็หยัดขึ้นและแยกออกโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ผมจะผวาเฮือกเมื่อสัมผัสถึงปลายนิ้วนั้นที่ชำแหละเข้ามา


“อ๊า... แทค..มันเจ็บ” ผมหลับตาแน่นแล้วเบือนหน้าหนี  แทคยอนตามมาประกบจูบผมแล้วจูบซับมุมปากของผม

“อย่าเกร็งนะ” ผมพยักหน้าอีกรอบก่อนที่จะค่อยๆผ่อนลมหายใจ แทคยอนยังคงสาละวนกับการจูบซับซอกคอผมอยู่ เมื่อผมหายใจได้เป็นปกติเรียวนิ้วนั้นก็ขยับเป็นจังหวะ มันยิ่งสร้างความรัญจวนใจแก่ผมยิ่งนัก เสียงครางหวานหูสำหรับแทคยอนก็ดังขึ้นอีกระลอก

แทคยอนขยับปลายนิ้วเบาๆก่อนที่จะเร่งจังหวะที่หนักหน่วงและเร็วขึ้น แล้วนิ้วที่สองก็ตามแทรกเข้ามาให้ผมหยัดกายขึ้นสูงอย่างวามไหวแล้วหอบหายใจแรง แทคยอนก็คอยจูบซับผม มืออีกข้างก็คอยลูบเนื้อตัวผมให้ผ่อนคลาย ขยับแทรกจังหวะสอดประสานไปกับผมที่ตอบรับจังหวะนั้น

แล้วจู่ ๆ ปลายนิ้วนั้นก็ถอนออกไปเล่นเอาผมผวาตัวตามจนแทคยอนส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ผมยกกำปั้นขึ้นทุบที่อกเขาเบาๆเพราะผมแทบจะไม่เหลือแรงแล้ว

ร่างใหญ่ที่ทาบทับนั้นผละออกเพื่อถอดสิ่งกีดขวางของเขาออก ผมเหลือบตามองก็เห็นส่วนนั้นที่มันขยายเสียเต็มที่และพร้อมที่จะออกรบแล้ว มันใหญ่กว่าของผมมากนักแล้วทฤษฎีที่ผมเคยอ่านเจอในเน็ตก็แล่นเข้าหัวทันทีว่าการที่โดนยิงโกลด์นั้นเหมือนกับที่เราเอานิ้วมือยัดรูจมูกนั่นแหละ ถึงจะรูไม่เท่ากัน ขนาดไม่เท่ากันแต่ความเจ็บ พอๆกัน! ใจของผมฝ่อไปเสียแล้ว แล้วแทคยอนคงจะรู้เลยจัดการป้ายน้ำเหนียวที่ผมทำเลอะไว้ที่ส่วนปลายของเขาแล้วค่อยๆแทรกผ่านเข้ามาในร่างของผม

“อ๊ะ! แทค!!” ผมผวาขึ้นกอดเขาทันทีที่ความเจ็บแล่นเข้ามา แทคยอนลูบหลังและจูบขมับปลอบผมแต่ผมกลับนึกกลัวเสียแล้ว ก็ไอ้นั่นมันเล็กซะเมื่อไหร่เล่า!!

“ถ้าเจ็บหรือทนไม่ไหวก็ข่วนหลังหรือจะกัดไหล่ก็ได้นะ” เมื่อสิ่งนั้นค่อยๆแทรกเข้ามาผมก็ผวาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังแข็งแรงนั้นเพื่อระบายความเจ็บ เมื่อผมไม่ไหวแทคยอนก็ยังคงคาไว้แบบนั้นเพื่อรอให้ผมปรับจังหวะลมหายใจ  ริมฝีปากคู่นั้นก้มลงมามอบจูบหวานๆให้ผมอีกครั้ง สองแขนที่เท้าค้ำไว้ก็ค่อยๆเลื่อนปลายนิ้วมาประคองสองแก้มของผม  ปลายนิ้วที่คลึงเบาๆเรียกให้ผมสงบขึ้นเยอะ หลังจากที่ผ่อนลมหายใจได้เป็นปกติแล้ว ความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการจนผมยกเอวขึ้นตอบรับสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว

สิ่งนั้นค่อยๆขยับผ่านร่างของผมเข้ามา ผมที่กำลังหลังมัวเมากับรสจูบที่ป้อนมานี้ก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามันแทรกเข้ามาจนสุดความยาวของมันแล้ว แทคยอนยังคงนิ่งไว้แล้วป้อนจูบให้หนักหน่วงขึ้นก่อนที่เขาจะเริ่มขยับ

จังหวะช้าเนิบนาบที่ส่งมาเรียกเสียงครางฮือจากผมได้ ผมเบี่ยงหน้าหนีรสจูบนั้นแล้วจิกมือเข้ากับแผ่นหลังขาว คิดว่าคงได้เลือดซิบกันล่ะแต่ใครล่ะจะสนก็ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังสนใจกับอะไรตอนนี้อยู่ต่างหาก

แทคยอนผละออกเพื่อใช้มือค้ำร่างไว้แล้วเร่งจังหวะสอดแทรกเข้ามา ผมก็แยกขาออกกว้าง ผมรู้สึกว่ามันสอดเข้ามาได้ลึกกว่าปกติ เสียงครางของผมสอดรับกับจังหวะที่แทรกเข้ามา เสียงหายใจของแทคยอนสลับกับเสียงครางฮือในลำคอยิ่งทำให้ผมไร้ซึ่งสติ  ผมเอื้อมมือออกไปเกี่ยวรั้งคอแทคยอนให้ก้มลงมาจูบ แม้ว่าเราจะจูบกันอยู่แต่ด้านล่างก็ยังคงสอดจังหวะเข้ามาหนักหน่วงจนผมทนไม่ไหว อยากได้มากกว่านี้

“อ๊า.. แทค ฉัน...” เสียงของผมขาดหายเมื่อแทคยอนหยุดกายแล้วค่อยๆโน้มตัวลงมาพร้อมกับที่ยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดไหล่ของเขา ฝ่ามือใหญ่สอดประสานกับมือของผมแล้วกดมือผมลงกับพื้นเตียง

“พร้อมนะ” ผมพยักหน้าตอบรับแล้วจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงนั้นก็กลับมาอีกครั้งและยิ่งทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีก ผมเงยหน้าขึ้นครางเสียงหวานก่อนที่จะงับไหล่ของคนตรงหน้าไว้ เมื่อรู้สึกว่าส่วนนั้นมันเข้าไปลึกเกินไป  ขาของผมที่พาดไหล่แข็งแรงไว้ก็เกร็งเพราะความเสียวซ่านและหาที่จิกไม่ได้ ส่วนอีกข้างก็จิกพื้นเตียงไว้ สองมือก็จิกเล็บลงบนหลังมือของคนคร่อมทับ

“อ๊า... ดะ... เดี๋ยวก่อนทะ..แทค.. หยุดก่อน!” แทคยอนหันมองหน้าผมแต่ก็ไม่ยอมหยุดจังหวะนั้นลงจนเสียงผมขาดๆหายๆ

“ยะ.. หยุดก่อน พักก่อน”

“ทำไมครับ” เสียงทุ้มยิ่งแหบพร่าเมื่อกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการอย่างถึงที่สุด ผมค่อยๆเปิดเปลือกตาแล้วหันมองเขาด้วยหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเป็นสาย

“ตะ... ตะคริวกินขาอ่ะ” แล้วจังหวะนั้นก็หยุดลง แทคยอนมองหน้าผมก่อนที่จะหัวเราะเบาๆแล้วค่อยๆถอยตัวออกไปเพื่อที่จะดูขาข้างที่ผมพาดไว้กับไหล่เขา สองมือของแทคยอนจับนวดขาข้างนั้นให้ผมซึ่งตอนนี้ผมโคตรจะอายเลยอ่ะที่อยู่ ๆ ก็ตะคริวแดกตอนที่กำลังโดนเขาแดกเนี่ย!!!


แม่มมมม รู้ถึงไหนนิชคุณได้อายไปถึงนั่น!!!


“หายหรือยังครับ” ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหลเมื่อมันเจ็บจี๊ดๆ ส่วนล่างที่เชื่อมกันอยู่ก็ยังไม่ยอมลดระยะทางและขนาดลงเลย ทั้งเสียวซ่าน ทั้งเจ็บแปลบผสมกันทำเอาสนุกดีพิลึก!

“ไม่ต้องเกร็งมากขนาดนั้นนะ ถ้าหาที่ลงไม่ได้ก็กัดไหล่ผมไว้นะ” ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง หลังจากที่แทคยอนนวดขาผมให้หายจากอาการตะคริวกิน

“งั้นมาต่อเลยนะ” แทคยอนกระซิบเบาๆอีกครั้ง เมื่อผมพยักหน้าตอบจังหวะช้าๆก็เริ่มบรรเลงขึ้นก่อนที่จะทบทวีจนหนักหน่วงตามเดิม ผมเลือกที่จะกัดไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้าไว้เพื่อคลายความเสี่ยวซ่านแทนที่จะเกร็งขา กลัวตะคริวจะแดกอีกรอบ

แทคยอนโน้มตัวลงมาใกล้และจูบผมจนตอนนี้ผมเลือกรู้สึกดีไม่ถูกแล้วว่า สิ่งไหนที่ทำให้ผมล่องลอยแบบนี้ จังหวะที่รุนแรงนั้นค่อยๆผ่อนแรงลงและกลับมาแทรกหนักหน่วงอีกครั้ง จังหวะที่แทคยอนบรรเลงนั้นช่างวาบวามและเสียวซ่านจนผมเผลอร้องครางเสียงดังอีกรอบ มือทั้งสองข้างก็จิกเล็บแน่นเมื่อแทคยอนกัดที่ซอกคอผมเบาๆ

“คุณครับ บอกให้กัดไหล่ไม่ใช่เอาขามารัดคอ” ผมลืมตามองขาของผมที่พาดอยู่บนไหล่กว้างนั้นและมันกำลังรัดคอแทคยอนอยู่จริงๆนั่นล่ะ แต่แทคยอนก็ยังคงไม่ลดจังหวะลงแม้แต่น้อย

“อ๊ะ.. ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ” ผมขยับขาออกจากคอของแทคยอนออกไปจนเกือบจะสุดปลายไหล่ และนั้นยิ่งทำให้คนบนร่างผมสอดเข้ามาได้ลึกสุดๆ แทคยอนขยับรุนแรงและส่งส่วนนั้นเข้ามาลึกจนสุด  ผมรู้สึกว่าร่างของผมกระตุกและหยัดเอวขึ้นสูงเพื่อตอบรับส่วนนั้น

“อ๊า.. คุณ นายนี่สุดยอดจริงๆ” เสียงทุ้มกระซิบที่หูของผมแต่ผมกลับไม่ได้ยินว่าเสียงนั้นพูดอะไร เสียงครางเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยพร้อมกับน้ำอุ่นๆที่ฉีดพุ่งเข้ามา ผมได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อย แทคยอนก้มหน้าลงซุกที่ซอกคอของผมอีกครั้งแล้วขบเม้มแรงขึ้น ส่วนล่างก็ค่อยๆสอดเข้ามาเพื่อปล่อยสายน้ำอุ่นนั้นไว้ในร่างของผมให้หมด

“อื้อ...” ผมครางเสียงแผ่วก่อนที่จะกัดไหล่แข็งนั้นแรงๆ เพื่อเตือนให้แทคยอนหยุดขยับได้แล้วไม่อย่างนั้นคงจะได้มีอีกรอบแน่ๆ

 “หลงตายเลยทีนี้นะ” ผมควรจะเข้าใจประโยคนี้ของแทคยอนหรือเปล่านะ ไม่รู้สิ ผมรู้สึกหมดแรงยังไงก็ไม่รู้ ผมยังคงนอนหอบคล้ายกับไปวิ่งมาหลายสิบกิโลเลยล่ะ  

เมื่อกี้ก็ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่หรอกนะแต่ตอนนี้ผมเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน ผมปล่อยไหล่ที่กัดนั้นออกแล้วนอนหอบมองแทคยอนที่ยิ้มดูเจ้าเล่ห์แปลกๆชอบกล พร้อมกับที่ค่อยๆถอนส่วนนั้นออกไป ผมก็ผวาสะดุ้งเฮือกกอดรัดคอแทคยอนไว้แน่น

ตอนนี้ผมคงทำได้แค่มองเด็กนี่ที่ยิ้มให้ผมนิ่งๆ รู้สึกมึนๆ งงๆ เอ๋อๆ ยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก มันแบบ.. เมื่อกี้นี้เกิดอะไรกันหว่า? ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้คืออะไรกันอะ? ไม่เข้าใจ ประมวลผลไม่ทัน


จูนเครื่องได้หรือยังครับ หื้ม?

ชอบจังเลยเวลาแทคยอนพูดกับผมด้วยน้ำเสียงหวานนุ่มแบบนี้นะ เสียงทุ้มๆที่ฟังดูนุ่มนวลและอ่อนโยน

จูนเครื่อง?” ผมทวนคำอย่างมึนๆ อะไรคือจูนเครื่องกันล่ะ แทคยอนยิ้มมุมปากแล้วโน้มตัวลงมาใช้ศอกเท้าค้ำตัวเองไว้

“อะไร?” แล้วแทคยอนก็หัวเราะขำกับคำถามของผมก่อนที่จะโน้มหน้าลงมาจูบเร็วๆ ซ้ำๆที่ ริมฝีปากแดงเจ่อของผม
อืม... ถ้ามองไม่ผิด ริมฝีปากคู่นั้นของแทคยอนเองก็แดงไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยแฮะ

เป็นยังไงบ้างครับที่รักแทคยอนถามอีกรอบและแน่นอน... ผมก็ยังคงเป็นผม... หาได้เข้าใจอะไรได้รวดเร็วไม่

เป็นอะไรเหรอ”

คุณอะ!” แทคยอนหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วก็กระชับอ้อมกอดจนร่างเปล่าเปลือยของผมเบียดกับร่างเปลือยของแทคยอนแต่ผมก็ยังประมวลผมไม่ทันอยู่ดี เมื่อกี้มันเหมือนลอยๆอยู่ในอากาศเลย มึนๆ เบลอๆ

“...???...”

ก็ที่เพิ่งผ่านมาไงล่ะอ่า... เรื่องนี้นี่เอง เมื่อพอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้วผมก็เลยพยายามตั้งสติ แต่ก็ปล่อยให้เด็กนี่รอนานเป็นนาทีเหมือนกัน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เร่งเร้าอะไรยังคงจ้องหน้าผมนิ่งแบบนั้น

ที่ทำกันเมื่อกี้?” แทคยอนพยักหน้า

“พี่เสียซิงให้นายแล้วใช่ปะ” ความเข้าใจของผม ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่หรือไม่ใช่ ว่าแล้วว่าไอ้เด็กนี่ต้องหลุดขำแน่ๆ เห๊อะ!!! อย่ามาขำผมนะ ลองมาเสียซิงบ้างสิวะ แม่ม! เดี๋ยวก็ฟ้อนเล็บใส่อีกหรอก!

อีกสักรอบไหมครับ เผื่อจะได้แน่ใจอะไรขึ้น” แทคยอนว่าและทำท่าเหมือนจะทำอย่างที่ปากพูดซะด้วย

ไม่ต้องๆ พี่ยังเหนื่อยอยู่นะ” ผมรีบพูดแต่ถ้าพี่หายเหนื่อยนั่นคืออีกเรื่องหนึ่งนะ เอ้า! ฮิ้ววววววววววว

อ่าฮะ รอหายเหนื่อยก่อนก็ได้เดี๋ยวก็ตะคริวกินขาอีกหรอก” โอเค ไอ้เด็กชั่ว ไปไกล ๆ เลยเดี๋ยวรอบสองก็จะไม่ได้หรอก!

“ขอโทษครับ ไม่พูดแล้ว ไว้รอพี่หายเหนื่อยแล้วอีกรอบก็ไม่สาย” กูรั่วออกไปอีกแล้วสินะ เหอๆๆ

ว่าแต่เมื่อกี้รู้สึกดีใช่ครับผมพยักหน้า รู้สึกตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“ดีจังเลย” แทคยอนโน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากเบาๆก่อนที่จะยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม

นึกว่าจะไม่ชอบซะแล้ว” แทคยอนพูดกลั้วหัวเราะ ทำไมผมต้องไม่ชอบที่แทคยอนแตะต้องตัวผมล่ะ ผมชอบจะตายแต่ผมก็ไม่บอกเด็กนี่หรอก อิอิ

ไม่ต้องบอกผมก็รู้นะนิชคุณ  ถ้านายยังไม่เลิกรั่วแตกแบบนี้น่ะ”

ขอบคุณ แกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างก็ได้ป่ะวะ!

แทคยอนหัวเราะเบาๆ แล้วกอดผมไว้ก่อนที่จะซุกใบหน้าลงกับซอกคอของผม  ผมเริ่มรู้สึกเย็นขึ้นมานิดๆเพราะไม่ได้สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว แทคยอนเอาผ้าขึ้นมาห่มให้ผมและตัวเองไว้ก่อนที่จะลงนอนข้างๆแล้วกอดผมไว้แนบอก  

แทค” ผมเรียกและเขาก็ขานรับในลำคอเบา ๆ

หืม?”

เรื่องอย่างที่ทำเมื่อกี้นี้

ทำไมเหรอ?” แทคยอนขยับกายออกห่างผมเล็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าลงมองสบตาของผมที่เงยมองเขาอยู่

พี่ทำอย่างเมื่อกี้กับนายได้ไหมอ่ะ ทำแบบที่แทคทำกับพี่อ่ะ แบบสลับกันอ่ะผมถาม แทคยอนทำหน้าตกใจก่อนที่จะกระตุกยิ้มแล้วหัวเราะเบา ๆ ทำไมอ่ะ? ผมทำบ้างไม่ได้เหรอ? หรือยังไง อะไรงง แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมอยากทำแบบนั้นกับแทคยอนด้วยนี่นา ผมรู้สึกดี ผมก็แค่อยากให้แทคยอนรู้สึกดีด้วย มันผิดเหรอ?

ไม่ได้เหรอ?” ผมถาม ผมรับรู้ได้เมื่อแทคยอนส่ายหน้าช้าๆแล้วกอดผมแนบอก

ตอนนี้ไม่ได้” แทคยอนบอกผมเสียงเบาที่ข้างหู

ทำไมอ่ะ” เสียงแทคยอนหัวเราะก่อนจะกระซิบบอกผมเบาๆพร้อมกับขบเม้มที่ปลายติ่งหูผมแผ่วเบา

ไว้ให้นายเรียนให้เก่งก่อนแล้วค่อยคิดจะทำนะ” เสียงทุ้มนั่นทำเอาผมพยักหน้ารับแบบงงๆ แทคยอนหัวเราะเบาๆแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์ เอ? หรือมันมีประโยคความแฝงอะไรไว้ในนั้นหรือเปล่า?

“จริงๆนะ” แทคยอนยิ้มกว้างแล้วจูบที่หน้าผากผมอีกที ฝ่ามือใหญ่นั่นก็ลูบไล้ไปตามร่างของผมอย่างแผ่วพลิ้ว


โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่าลูบมากเดี๋ยวแม่ก็จัดตอนนี้เลยนิ!!


“คำไหนคำนั้นครับที่รัก”

ทำไมผมถึงรู้สึกอยากจะเขินตายในอ้อมอกนี้กับคำว่าที่รักจังเลยน้า~~ อิอิ เสียงทุ้มที่เรียกว่าที่รักน่ะมันอ่อนโยนและก็หวานมากเลยนะ แทคยอนยังคงลูบไล้ตามท่อนแขนและสีข้างของผมไปเรื่อยๆโดยที่ผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรเขา จะว่าไป.. เรื่องของเรื่องก็คือผมชอบสัมผัสทุกอย่างของแทคยอนที่สัมผัสผมนั่นแหละ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องสะบัดสะบิ้งทำตัวตุ๊ด มันหมดเวลาเล่นตัวแล้วล่ะนิชคุณ...... อิ...อิ

หายเหนื่อยหรือยังครับแทคยอนเอ่ยถามผมเสียงเบา ผมก็แค่พยักหน้าเบาๆ กลัวผมเหนื่อยเหรอเนี่ย? แหมๆๆๆ น่ารักจริงๆเลยอ่ะแฟนใครหนอ~ อิอิ  ตัวเองต่างหากที่เหนื่อยน่ะยังจะมามัวห่วงเก๊าะอีก 


โอ๊ยยย เก๊าะรักตัวเองสุดใจเลยจ้าาาาา

อืม พี่หายแล้ว ทำไมเหรอ? หรือว่าแทคยอนเหนื่อยนอนพักก่อนไหมแทคยอนส่ายหน้าทันที เบียดกายชะโงกตัวไปเอื้อมนาฬิกาปลุกเครื่องเล็กที่อยู่ข้างหมอนฝั่งของผมมาก่อนจะวางมันลงที่เดิมและมองสบตากับผมด้วยสายตาที่โคตรจะเจ้าเล่ห์!

เหมือนผมจะเข้าใจอะไรได้ลางๆนะ

อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลานัดนิเนอะผมยิ้มเขินโคตรๆซุกหน้ากับอกของเด็กหื่น แทคยอนเลยกดจูบไหล่ของผมย้ำๆ

เหลือเวลาอาบน้ำอีกด้วยนะ” ไม่เข้าใจก็โง่แล้วว่าเด็กนี่ต้องการอะไรและบังเอิญว่าผมไม่โง่ซะด้วย! ชิชะ ขอบอกว่านิชคุณฉลาดมากนะครับ!!! ก็เลยเข้าใจว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิเสธอะไรสักนิด

อีกสักพักค่อยไปอาบน้ำกันนะครับ” ในเมื่อผมไม่ตอบรับแต่ก็ไม่ตอบออกไปว่าไม่ ทำได้แต่ซุกอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนั้น ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าเด็กนี่จะต้องหยุดความคิดและการกระทำอยู่แล้ว

และดีที่ว่าตอนนี้ที่ปากของผมมันไม่ว่างเพราะต้องเปล่งเสียงจากการสัมผัสของไอ้เด็กหื่นนี่ ไม่อย่างนั้นมันต้องรั่วออกมาและคนอย่างไอ้เด็กบ้านี่ก็พร้อมที่จะตามใจผมซะด้วย ถ้าเด็กนี่รู้ล่ะนะ


ความจริงผมอยากยกเลิกนัดเย็นนี้กับพวกเพื่อนๆด้วยซ้ำ ถ้าจะไม่โดนมันประณามเอานะ ก็อยากอยู่กับเด็กตัวโตนี่บนเตียงนี้ทั้งคืนนั่นแหละ! ตามนั้นครับ! อิอิ


ผมหื่นไปหรือเปล่าเนี่ย!



ไม่หรอก สวยๆ เริ่ดๆ เอ้ย..น่ารัก หล่อ ๆ อย่างนิชคุณซะอย่าง คิๆ



1 ความคิดเห็น:

  1. อะแฮ่มมม!คนสวยเสียจิ้นให้เด็กซะแล้ว..ใครรักใครหลงใครมากกว่าใครก็ไม่รู้
    โถ..ถูกน้องแทคกดน่ะดีแล้วล่ะคุนนี่อย่าริไปกดน้องเขาเลย อิ อิ.......thanks

    ตอบลบ