Love in NYC
Short
fiction: Love in NYC
Pairing
: Taeckhun
Author :Z-rowink
Contact me twitter
:@ZZzerozero (พูดคุย หรือทวงถามฟิคได้ ^^)
บางทีเราอาจเป็นคู่ “เหมาะสม” กันที่สุด
เพียงแค่เราไม่ได้เจอกันในเวลาที่
“เหมาะสมที่สุด” ก็เท่านั้น
“น้องสวยมากใช่ไหมลูก นิชคุณ”
เสียงมารดาที่เอ่ยถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังอยู่เวดดิ้งสตูดิโอเพื่อลองชุดแต่งงานรอบสุดท้ายก่อนที่งานวันจริงจะมีขึ้นอีกหนึ่งข้างหน้า หลังจากที่เขากลับมาจากประชุมที่นิวยอร์ก
“สวยมากครับ สวยจนผมอยากให้ถึงวันแต่งงานซะพรุ่งนี้เลย”
บอกพร้อมส่งยิ้มการค้าให้กับว่าที่เจ้าสาวที่ตอนนี้ยืนเขินหน้าแดงข้าง ๆ
มารดาของเขาและของเธอ
แม้ปากจะบอกแบบนั้น...แต่ใจของเขากลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับหญิงสาวเลยสักนิด
เพราะหน้าที่..ที่จำต้องรักษาไว้ของการเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลผู้ดีเก่าของเกาหลีที่เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม
อดจะคิดสมเพชตัวเองไม่ได้ที่ต้องแต่งงานเพื่อความเหมาะสมทางหน้าตาและเพื่อพยุงฐานะของตระกูลเก่าแก่ที่มีแต่หนี้สินตัวแดงมากมายให้ต้องคอยจัดการ
วิคตอเรีย
ซ่ง คือ
หญิงสาวที่ถูกหมายตาไว้ให้ตั้งแต่...ฐานะทางเงินของตระกูลที่ต่ำลงไปทุกที
รอยยิ้มขื่นเกิดขึ้นที่มุมปากของนิชคุณเพียงชั่วแวบเดียว
ก่อนจะกลายเป็นรอยยิ้มที่สดใสเมื่อถูกช่างภาพของสตูดิโอเรียกเข้าไปถ่ายรูปพร้อมกับว่าที่เจ้าสาว ที่มาจากตระกูลเศรษฐีใหม่
ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี บัณฑิตสาวที่จบแฟชั่นดีไซน์จากฝรั่งเศส
ในขณะที่เขาเองก็ไม่ได้น้อยหน้าอีกฝ่าย
มหาบัณฑิตเกียรตินิยมเหรียญทองจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ติดหนึ่งในท็อปไฟว์ของอเมริกา ที่ปรึกษาด้านการเงินของบริษัทต่าง ๆ
พูดได้เต็มปากเต็มคำถึงการแต่งงานครั้งนี้ของพวกเราทั้งคู่ คือการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ที่พร้อมเอื้อกัน
อีกฝั่งต้องการคอนเนคชั่นของตระกูลผู้ดีเก่าแก่ของประเทศเพื่อขยายฐานธุรกิจ
ในขณะที่อีกฝ่ายก็ต้องการเงินเพื่อต่อลมหายให้อยู่ได้ในสังคม เพราะคำว่า ‘จมไม่ลง’
แม้สายตาของคนภายนอก
เราทั้งคู่คือคู่แต่งงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรอบปี
“เหนื่อยเหรอคะพี่คุณ”
เสียงหวานของเจ้าสาวเอ่ยถามขณะรอช่างภาพและทีมงานกำลังเซ็ตฉากใหม่สำหรับถ่ายรูปชุดแต่งงานเซ็ตใหม่
“นิดหน่อย
พี่แอบเครียดเรื่องที่จะไปเป็นตัวแทนของพ่อเราที่นิวยอร์ค”
“เรื่องนั่นเอง ไม่ซีเรียสไปหรอกค่ะ คุณพ่อท่านไว้ใจพี่คุณและเชื่อมั่นว่าพี่ต้องทำออกมาได้ดีถึงได้มอบหมายให้ไงค่ะ”
นี่ก็อีกเรื่อง...การอวยออกนอกหน้าของว่าที่พ่อตา จนมองเหมือนข้ามหน้าข้ามตาของพนักงานอาวุโสหลาย
ๆ คนภายในบริษัท ที่จู่ ๆ
ว่าที่ลูกเขยก็เข้ามาทำงานด้วยพร้อมกับตำแหน่งรองประธานกรรมการผู้จัดการใหม่
แต่ขอโทษเถอะ...มันไม่ใช่อะไรที่คนอย่างนิชคุณต้องสนใจและแคร์สักนิด
“พร้อมแล้วครับ เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เลยครับ”
หน้ากากของชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมและแสนดีถูกหยิบขึ้นมาใช้ พร้อมกับช่วยพยุงเจ้าสาวแสนสวยในชุดราตรียาวโชว์แผ่นหลังก้าวไปยังฉากอย่างระมัดระวัง และคอยดูแลเทคแคร์ไม่ห่าง
เปลือกตาคมปิดลงอย่างเหนื่อย
หลังจากผ่านสัปดาห์นรกของการประชุมที่ตัวเขาเดินทางมาที่นิวยอร์คตั้งแต่สัปดาห์ก่อนลงไปแล้ว การประชุมร่วมทุนครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นบททดสอบความสามารถกราย
ๆ จากพ่อตาที่กำลังลองภูมิและความสามารถของเขาอยู่
มันกลายเป็นความเคยชิน
ที่ต้องทำตัวให้อยู่ในกรอบและกฎระเบียบที่ผู้ใหญ่กำหนดไว้ ขอสักครั้งได้ไหมของชีวิตที่จะทำอะไรที่รู้สึก
“อิสระ” ในแบบที่ใจต้องการสักครั้ง
แค่สักครั้ง...ก่อนที่ทั้งชีวิตต้องไปอยู่ในกรงของการเป็นลูกที่ดี สามีที่เพียบพร้อมของว่าที่ภรรยาที่แสนน่ารัก
ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงนอน
ที่ตัวเองถลาลงมานอนพักสายตาเมื่อสิบนาทีก่อนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่พอรู้ตัวอีกที ตัวเขาเองก็มาอยู่ในสถานเริงรมณ์ที่เคยมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่นี้ครั้งสองครั้ง
“ดรายมาตินี่”
สั่งบาร์เทนเดอร์ไปด้วยเสียงเรียบ ๆ
ก่อนที่หันไปมองร้านที่ตอนนี้ผู้คนบางตาอย่างเห็นได้ชัด
อาจคงเพราะข้างนอกกำลังมีพายุหิมะก็เป็นได้ เลยทำให้ผู้คนต่างเลือกในที่อบอุ่นมากกว่า
มือเรียวหมุนแก้วเล่นหลังจากที่ผ่านไปค่อนคืน
แถมตรงหน้ายังมีแก้วมาตินี่ที่ถูกดื่มไปแล้วไม่ต่ำกว่าเจ็ดแก้วทั้งที่ปกติรู้ว่าตัวเองคออ่อน แต่ก็อยากจะทำอะไรที่ไม่เคยสักครั้ง
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาหันไปยังมุมโซฟาของโซนวีไอพีของร้านที่อยู่ฝั่งกับเคาน์เตอร์บาร์
สายตาคมของชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในลุคสบาย
ๆ เสื้อเชิร์ตสีดำพับแขนมาจนถึงข้อศอกที่ปลดเม็ดดุมออกถึงสี่เม็ดโชว์แผ่นอกสีน้ำผึ้งไม่นับรวมขายาวที่อยู่ภายใต้เดฟสีน้ำตาลเข้ม
ที่จับจ้องมานิ่งมันทำให้นิชคุณต้องหลบสายตาหันไปมองแก้วในมือต่อ
แม้จะไม่หันกลับไปมองอีก แต่เขารู้โดยสัญชาติญาณว่าอีกฝ่ายยังมองอยู่
ตอนนี้ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้นเกิดขึ้น
เพราะตอนนี้เจ้าของสายตาคมกริบลุกจากโซฟามายืนอยู่ที่เก้าอี้ข้าง ๆ
นิชคุณ
แขนแกร่งค้ำยันที่เคาน์เตอร์เหมือนกับกำลังกักเขาให้อยู่ในอ้อมกอดกลาย ๆ
“เต้นรำกันสักเพลงไหมครับ”
คิ้วสวยเลิกขึ้นเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรุกเร็วแบบนี้
กว่าจะรู้ตัวร่างของพวกเราทั้งคู่แนบชิดกันอยู่กลางฟลอร์
ร่างสูงก้มลงมาใกล้...ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอาร์มานี่ไดมอนที่อีกฝ่ายใช้กรุ่นผสมกับกลิ่นวิสกี้
ที่นิชคุณได้มีโอกาสได้ชิมรสเมื่อริมฝีปากหยักค่อย ๆ ไล้เล็มจูบที่ริมฝีปากล่างก่อนจะเลื่อนมาแนบชิด
จูบระหว่างพวกเราที่มันทวีความเร้าร้อนและร้อนแรงขึ้นเรื่อย
ๆ
จนนิชคุณต้องโอบคออีกฝ่ายไว้เพื่อพยุงร่างหลังจากที่ริมฝีปากของเราผละออกจากกัน ตอนนี้มือแกร่งซุกซนกำลังลูบไล้เนื้อแท้ของเขา
เพียงแต่เงยหน้ามองสบตากัน...ก็เดาได้ไม่ยากว่าคืนนี้ระหว่างเราสองคนจะจบลงที่ไหน ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในมหานครที่ไม่เคยหลับใหลอย่างนิวยอร์ก
“อา~~”
นิชคุณแอบอายเหมือนกันเมื่อได้ยินเสียงของตัวเองครางแผ่ว ๆ
ออกมาขณะที่ริมฝีปากหยักร้อนของร่างสูง ที่ยังไม่รู้จักชื่อและไม่อยากรู้จักด้วยเมื่อผ่านคืนนี้ไป
พรมจูบมอบความซาบซ่านวาบหวามไปจนทั่วทุกส่วนของร่าง โดยเฉพาะแผ่นอกที่เริ่ม
ขึ้นสีแดงเป็นจ้ำและติ่งสีหวานทั้งสองข้างที่กำลังถูกดุนดันอยู่
ริมฝีปากบางเริ่มบวมช้ำและรู้สึกว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดนิด
ๆ จากการแลกจูบสุดเร่าร้อนทันที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักของเลิฟโมเต็ลที่อยู่ไม่ไกลจากสถานบันเทิงนั้น
บทรักของเราเริ่มขึ้นอย่างง่าย
ๆ นิชคุณตอบรับทุกสัมผัสจากร่างสูงด้วยความเต็มใจ
ริมฝีปากหยักของร่างสูงวนเวียนขบดูดอยู่กับติ่งเนื้อกลางแผ่นอกที่ดูจะตอบรับสัมผัสของเขาได้ดีเหลือเกิน
ปลายลิ้นตวัดไล้เลียไปมาราวกับมันเป็นของหวานเลิศรส
เขาต้องมีนิสัยขี้แกล้งแน่
ๆ โดยส่วนตัว ถึงได้ใช้ฟันงับดึงมันขึ้นเบา
ๆ จนต้องแอ่นอกขึ้นตามแรงดึงนั้นความรู้สึกนั้นมันทั้งเจ็บทั้งเสียวจนร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง
จนต้องเผลออ้อนวอนร่างสูงที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์กึ่งยั่วยวน
“พะ...พอก่อน...ไม่เอาแบบนี้”
ร่างสูงเพียงแต่ยิ้มน้อย
ๆ ก่อนผละจากติ่งเนื้อที่ชูชันและแดงก่ำจากการถูกขบดูด เลื่อนตัวขึ้นมาจูบหนัก ๆ
ก่อนพรมจูบไล่ต่ำลงไปเรื่อย ๆ หยุดชั่วครู่เพื่อตวัดลิ้นล้อเล่นอยู่กับรอยบุ๋มตรงกลางหน้าท้อง
ต่ำลงมาจนถึงส่วนกลางของร่างกายที่เริ่มแข็งตึงขึ้นจากการถูกปลุกเร้าเมื่อครู่...
แต่นิชคุณแทบคลั่งเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่ทำอะไรต่อ...เพียงแต่ไล้ปลายนิ้วแผ่ว
ๆ ไปบนความแข็งขืนที่ดันตัวขึ้นมาภายใต้กางเกงราวกับจะยั่วให้ร่างบางมีความต้องการอย่างที่สิ้นสุด ยิ่งร่างสูงไล้นิ้วไปมาแบบนี้สลับกับดูดเลียปลายยอดอกทั้งสองไปมาจนเปียกชุ่มก็ทำให้ร่างโปร่งบางรู้สึกปวดหนึบ
ๆ ขึ้นมาตรงนั้นเป็นอาการที่บอกให้รู้ว่าใกล้จะถึงจุดเต็มทน...
“ได้โปรด...”
ร่างสูงตอบรับคำขอร้องนั้นทันที กางเกงสแล็คที่ติดกายตัวนิชคุณอยู่เมื่อครู่ปลิวหายไปพร้อมกับโพรงปากร้อนที่ครอบทับลงมาบนจุดศูนย์กลางของร่างนวลที่มีผิวเรียบเนียนยิ่งกว่าผู้หญิง
ริมฝีปากหยักร้อนที่ช่ำชองอย่างร้ายกาจรูดขึ้นลงไม่กี่ครั้ง นิชคุณก็กระตุกเกร็งขึ้นทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน
“อา~~”
ก่อนที่นิชคุณจะสะดุ้งเฮือกขึ้นทั้งตัว เมื่อปลายนิ้วที่ชโลมไว้ด้วยอะไรบางอย่างใส ๆ
เย็น ๆ เริ่มรุกรานช่องทางด้านหลังที่ยังไม่เคยมีใครผ่านเข้ามา
มันขยับคืบคลานอย่างเชื่องช้าแต่กลับสร้างความเจ็บปวดจนต้องร้องออกมา
“อ๊ะ~~จะ..เจ็บนะ” ใบหน้าเนียนใสที่ชื้นด้วยเหงื่อตามไรผมเหยเก
แล้วความเจ็บนั้นก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างสูงจูบที่แสนร้อนแรงที่ทำเอาแทบละลายเป็นน้ำส่วนอีกมือที่ว่างก็ลูบไล้ไปทั่วผิวร้อนผ่าวของนิชคุณ ขณะที่ปลายนิ้วที่เพิ่มเข้ามาอีกเป็นสามก็ขยับเคลื่อนไหวเข้าออกไม่หยุดหย่อน
“พร้อมนะ...”
เสียงทุ้มพร่าเอ่ยบอกอย่างกลั้นอารมณ์
ขาเรียวสองข้างถูกจับแยกออกจากกัน นิชคุณอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อเหลือบขึ้นมองเพดานห้องที่ฝังกระจกรูปไข่ไว้ ที่สะท้อนทุกอย่างว่าร่างกายของร่างโปร่งบางอยู่ในท่าทางแบบไหนบ้าง
ร่างสูงยังไม่ขยับตัวเข้ามายังในร่างกายของเขา แต่กลับก้มหน้าลงไปตรงหว่างขาเรียว ปลายลิ้นอุ่น ๆ
ไล้เลียอย่างยั่วเย้าอยู่ตรงพื้นที่ว่างของช่องทางรักด้านหลัง
“อา~~เสียว...”
นิชคุณเพิ่งรู้เหมือนกันว่าการใช้ลิ้นกับพื้นที่อ่อนไหวส่วนนี้จะทำให้รู้สึกเสียวซ่านได้พอ
ๆ กับที่ร่างสูงใช้ปากทำให้เมื่อครู่ ร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อปลายลิ้นร้อนของคนควบคุมเกมรักครั้งนี้สอดแทรกเข้ามาตามรอยจีบของปากทางเข้าจนอดสะดุ้ง เกร็งไปทั้งตัวไม่ต่างจากตอนที่สอดนิ้วเข้ามาเมื่อครู่
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าคมที่จะมีรอยย่นเวลายิ้ม ที่นิชคุณเริ่มหลงใหลผุดขึ้นบนมุมปากของคนด้านบนขณะที่ถอนปลายลิ้นออก เปลี่ยนเป็นลูบไล้แผ่ว ๆ บริเวณปากทางเข้าที่คงขมิบตัวเตรียมรับอยู่
“เข้ามาเถอะ”
อดจะเป็นคนเรียกร้องไม่ได้พร้อมพยักหน้าช้า ๆ ให้และกัดฟันเกร็งร่างเตรียมรับความเจ็บปวดระลอกใหม่ที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า
“อา~~แน่นเป็นบ้า” เสียงทุ้มพร่าช่างเซ็กซี่น่าหลงใหลเหลือเกินของร่างสูงครางเบา
ๆ อยู่ริมหูของนิชคุณระหว่างที่การประสานร่างกายเป็นหนึ่งเดียวเป็นไปอย่างยากลำบาก
ร่างสูงใช้ความระมัดระวังพอสมควรและอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่สติซึ่งกระเจิดกระเจิงจากอารมณ์ใคร่จะทำได้
นิชคุณเชื่อถึงตัวเขาเองไม่ได้เอ่ยปากบอกว่านี้คือครั้งแต่ก็รู้สึกว่าร่างสูงดูออก เพราะการขยับเคลื่อนไหวในทุกจังหวะนั่นนุ่มนวลอ่อนโยน แต่กลับแฝงด้วยความเร่าร้อน
จากความเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะฉีกขาดออกเป็นชิ้น
ๆ กลับกลายเป็นรู้สึกดีเหลือเกิน ความแสบร้อนจากการฉีกขาดถูกบรรเทาลงด้วยความลื่นเย็นของเจลหล่อลื่นและความสุขแปลกใหม่ที่กำลังได้รับจนลืมเจ็บ
รู้สึกดีจนแทบสำลัก...และบรรยายออกมาไม่ถูกเวลาที่แกนกายใหญ่โตของร่างสูงเสียดสีเข้าออกหนักหน่วงกับปากทางเข้าของตัวเองที่เริ่มขยายตัวรองรับขนาดของมันได้มากขึ้น
ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ
ในเวลานี้นอกจากเสียงครวญครางคละเคล้าเสียงหอบกระเส่าที่แข่งกันปล่อยออกมาราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด
“อ๊ะ~~แรง..อึก...อีก...”
“เจ็บขึ้นมาก็อย่ามาว่ากัน...นะเจ้าชายอา~~”
นิชคุณครางลั่นออกมาขณะขยับขาให้อ้ากว้างออกอีกเมื่อจังหวะการกระแทกเปลี่ยนเป็นแรงขึ้นเสียจนตัวโปร่งบางไถลเกือบชนหัวเตียงจนร่างกายของเราทั้งคู่เกือบหลุดจากการเชื่อมต่อ
มือแกร่งของร่างสูงจับขาเรียวให้พาดบนบ่ากว้าง จากนั้นก็เลื่อนมาจับสะโพกมนที่บิดเร่าจากความเสียวซ่านที่กำลังได้รับไว้แน่นแล้วกระแทกกายเข้าไปตามที่ปรารถนาและตามเสียงเรียกร้องของนิชคุณ
ระหว่างที่เราทั้งคู่กำลังเสพสุขจากร่างกายของกันและกัน...นิชคุณก็ป่ายมือเปะปะขึ้นกอดรัดร่างสูงเอาไว้แน่นพยายามปรือดวงตาฉ่ำน้ำที่หลั่งรินออกมาจากความรู้สึกภายในขึ้นมองใบหน้าคมเข้มที่ราวกับจะจดจำไว้ทุกอณู
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าร่างกายของเราทั้งคู่เข้ากันได้ดีเหลือเกิน
แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากความสุขสมครั้งนี้จะมีการจากลาขึ้น
หากไม่มีคำว่า
“ภาระและหน้าที่” คอยค้ำคอนิชคุณอยู่
ร่างโปร่งบางก็อยากจะลองศึกษาร่างสูงดูสักครั้งแต่เวลาแห่งการเป็นอิสระจากทุกสิ่งที่บีบรัดอยู่นี้มันใกล้จบลงทุกขณะ ตอนนี้ทำได้เพียงเก็บเกี่ยวมันไว้ให้ได้มากที่สุดเผื่อในอนาคตจะเป็นน้ำทิพย์ล่อเลี้ยงจิตใจ
“อา~~” ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างตั้งแต่เส้นผมลงไปจรดปลายเท้า
นิชคุณขยับกายเคลื่อนไหวให้เข้ากับแรงส่งจากด้านบนหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ รับรู้จากความเกร็งจากช่องทางด้านหลังของตนเองว่าใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางเต็มทน
“เร็ว..อีก....แรง...อีกหน่อย...ผม...จะ...ไม่ไหว...แล้ว...”
ร่างสูงกระแทกสะโพกลงมาอีกตามเสียงร้องขออย่างบ้าคลั่ง ภาพทุกอย่างที่เคยมองเห็นกลายเป็นสีขาวโพลนในช่วงที่อารมณ์พุ่งสูงถึงขีดสุด นิชคุณกอดรัดร่างชื้นเหงื่อแน่นขึ้นอีกราวกับจะให้กลืนเป็นเนื้อเดียวกันขณะปล่อยเสียงครางลั่นออกมา
ส่วนอ่อนไหวด้านหน้าถูกมือแกร่งชักรูดเป็นจังหวะเดียวกับการกระแทกกายเข้ามาทางด้านหลังและเหมือนร่างสูงจะรู้ว่านิชคุณกำลังจะปลดปล่อย แกนกายร้อนถูกถอดถอนออกไปจนเกือบหลุดก่อนกระแทกกายกลับเข้ามาอีกครั้ง ลึกและแรงเสียจนไปโดนจุดกระสันของร่างโปร่งบางเต็ม
ๆ จนร้องครางลั่นออกมาสุดเสียง
นิชคุณฝังคมฟันลงบนบ่าแกร่ง
กระตุกกายขึ้นกอดรัดร่างสูงไว้แน่นขณะปลดปล่อยของเหลวสีน้ำขุ่นออกมาจนเลอะเนื้อตัวขอ
เราทั้งคู่และเลอะมือที่ช่วยควบคุมอยู่อีกทางหนึ่ง
จากนั้นทิ้งร่างลงกับที่นอนอย่างเหนื่อยล้า หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบหลุดออกมานอกอกเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งรอบสนามมาสักสิบรอบ รู้สึกดีจนแทบจะลอยได้กับความสุขสมซาบซ่านที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง
แต่นิชคุณอยู่กับความรู้สึกนี้ได้ไม่นานนัก อีกคนที่ยังไม่สุขสมเพราะร่างโปร่งปลดปล่อยล่วงหน้าไปก่อนก็จับตัวพลิกคว่ำหน้าแนบที่นอน สะโพกถูกยกขึ้นสูงในท่าที่อำนวยต่อการกระแทกร่างของร่างสูงอย่างที่สุด
“ผมยังไม่ถึงเลย...อืมมมม~~”
นิชคุณ ขยำผ้าปูที่นอนสีขาวจนแทบจะขาดคามือบางเมื่อร่างสูงกระแทกกายกลับเข้ามาอย่างหนักหน่วงรุนแรงในช่วงสุดท้ายของคนที่กำลังจะถึงจุดหมาย แขนแกร่งทั้งสองกอดรัดสะโพกมนของร่างโปร่งบางไว้แน่นขณะกระแทกส่วนนั้นย้ำซ้ำ
ๆ เข้ามาถี่รัวจนคนถูกกระทำหัวสั่นหัวคลอน
ต้องเอื้อมมือไปยันขอบเตียงไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองหัวชนกับฝาผนัง
ไม่นานนักร่างสูงก็กระแทกร่างกลับเข้ามาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเกร็งตัวฉีดพ่นของเหลวแบบเดียวกันออกมาจนนิชคุณรู้สึกอุ่นวาบ รับรู้ได้ถึงกระแสความร้อนที่วิ่งวนอยู่ในช่องท้องและรับรู้ด้วยว่าต้นขาชื้นแฉะจากสิ่งที่ร่างกายของตัวเองไม่อาจรับไว้ได้หมดจนต้องปล่อยให้มันไหลล้นออกมาด้านนอก
ร่างสูงฟุบทาบทับลงมาบนแผ่นหลังของนิชคุณ หายใจหอบแรงรินรดจนขนอ่อนบริเวณนั้นลุกซู่ ผิวกายสั่นระริกชื้นเหงื่อแนบสนิท
เราทั้งคู่นอนนิ่งอยู่แบบนั้นครู่ใหญ่กว่าร่างสูงจะพลิกร่างดึงนิชคุณมาสวมกอด ไล้ปลายจมูกเบา ๆ ไปตามผิวเนียนนุ่ม แก้มใสและลำคอระหงของร่างโปร่งบางพร้อมกับประทับรอยตีตราความเป็นเจ้าของไว้ทุกส่วนที่ริมฝีปากหยักร้อนเคลื่อนผ่าน
นิชคุณรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งหลับไปชั่วครู่เพราะเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าจากมือถือที่ถูกต้องไว้ปลุกเสมอดังขึ้น
ดวงตากลมหันไปมองร่างสูงที่นอนตระกองกอดตัวเองด้วยความรู้สึกตื้อ ก่อนจะตัดสินใจค่อย ๆ
ลุกออกจากเตียงพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกคนที่หลับอยู่ถอนเมื่อคืนมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว
“คุณจะไปแล้วเหรอ”
เสียงทุ้มพร่าที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้นิชคุณที่กลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายหันไปมอง
สายตาคมที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ดูเหมือนไม่จะมีไม่จบสิ้นมันทำให้นิชคุณร่างกายร้อนผ่าวอีกครั้ง
“ผมต้องไปแล้ว”
บอกก่อนตัดสินใจเดินกลับมายังข้างเตียงและโน้มตัวลงไปเป็นฝ่ายจูบที่ริมฝีปากหยักก่อน
“เราจะเจอกันอีกได้ไหม”
“...”
นิชคุณไม่ตอบนอกจากมือบางที่เอื้อมไปลูบผมหยักศกที่ยาวเคลียไหล่ของร่างสูงที่ตอนนี้ตาปรือพร้อมที่จะเข้าสู่ห้วงของการนิทราเต็มที่
กดจูบที่หน้าผากแกร่งราวจะบอกฝันดีกับร่างสูงที่ตอนนี้ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหลับสนิทไปแล้ว ก่อนจะลุกเดินขึ้นไปที่ประตูห้อง ร่างโปร่งหยุดยืนนิ่งอย่างลังเลอยู่ชั่วครู...
เปลือกตาบางหลับลงก่อนดวงตากลมจะเปิดขึ้นด้วยความว่างเปล่า พร้อมกับเก็บกักค่ำคืนที่แสนหวานในนิวยอร์คให้ลงไปลึกที่สุดของหัวใจ
แค่ One Night
Stand กับชายหนุ่มเอเชียเหมือนกัน
ที่จะผ่านมาและผ่านไปเท่านั้นโดยไร้การสานสัมพันธ์ใดๆ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ แค่นี้พี่คุณก็หล่อจนวิคบรรยายไม่ถูกแล้ว”
ร่างโปร่งบางไม่ตอบนอกจากก้มลงหอมแก้มคนที่ได้ชื่อว่าภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเบา
ๆ ที่แก้มเนียนหลังจากที่อีกฝ่ายช่วยผูกเน็คไทให้ทุกเช้าก่อนเขาจะไปทำงาน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ที่ปฏิบัติมาทุก ๆ
เช้านับตั้งแต่แต่งงานกันมาเกือบสามปี
ชีวิตครอบครัวที่เกือบเรียกได้ว่าสมบูรณ์หากมีเด็กเล็ก
ๆ มาวิ่งทั่วบ้าน
นับว่าเป็นโชคดีที่วิคตอเรียไม่ชอบเด็กแผนการมีทายาทจึงถูกเลื่อนไปก่อน
ส่วนความสัมพันธ์ทางร่างกายที่มีต่อกัน...นิชคุณไม่ปฏิเสธว่าเรือนร่างและเสน่ห์ของหญิงสาวสามารถช่วยเติมเต็มความสุขสมได้ แต่ในใจลึก ๆ ตัวเขาเองยังคิดถึงค่ำคืนที่ร้อนแรงที่นิวยอร์คอยู่เสมอเกือบสามปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลย
ตอนนี้นิชคุณกลายเป็นกำลังสำคัญในธุรกิจของพ่อตาที่เริ่มจะปล่อยมือจากการบริหารเร็ว
ๆ นี้
“เย็นนี้
เราต่างคนต่างไปเจอกันที่งานเลี้ยงเลยนะคะพี่คุณ”
ส่งยิ้มการค้าให้กับภรรยาสาวที่ขับรถไปทำงานที่ไฟท้ายรถสปอร์ตคันหรูหายลิบไปแล้ว
ก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองเพื่อขับไปทำงานเหมือนเดิม...เหมือนที่เคยทำด้วยความเคยชิน
พลางทำหน้าเบื่อหน่ายระหว่างติดไฟแดงก่อนถึงบริษัท
เพราะคืนนี้นอกจากจะมีงานฉลองกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปีของบริษัทแล้วทางครอบครัวพ่อตายังจะจัดงานเปิดตัวลูกชายคนโต
ซึ่งเป็นลูกกับภรรยาเก่าของพ่อตาที่รู้เขามารู้ภายหลัง หลังจากแต่งงานมาได้สักพักถึงรู้ว่าวิคตอเรียไม่ใช่ลูกคนเดียวแต่มีพี่ชายคนละแม่อยู่หนึ่งคน
ที่ฝั่งนั้นไปร่ำเรียนอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ และไม่ได้เคยกลับมาเกาหลีเลยตั้งแต่ภรรยาเก่าของพ่อตาเสียชีวิตไป
ยังจำน้ำเสียงตื่นเต้นของวิคตอเรียได้ที่สองอาทิตย์มานี้พูดถึงพี่ชายอย่างนั้นอย่างโน้น จนนิชคุณคร้านจะฟังแต่ด้วยเป็นคนเงียบ ๆ
ไม่มีปากเสียงเลยต้องจำใจฟัง
บรรยากาศงานเลี้ยงเดิม
ๆ ที่เจอมานับตั้งแต่ตามพ่อแม่และญาติ ๆ ของตระกูลเข้าสังคมแต่เด็ก มันทำให้คุ้นเคยจนกลายเป็นความเคยชิน
ที่ต้องสวมหน้ากากของการเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบผู้ดีเก่าพร้อมรอยยิ้มการค้าที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์มากกว่าความจริงใจ
“เหอ”
ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบล้างมือที่อ่างล้างมือภายในห้องน้ำของโรงแรมหรูหลังเสร็จธุระส่วนตัว ที่เพิ่งขอแยกตัวออกมาจากเพื่อนและญาติ ๆ
ของวิคตอเรีย
เฮือก!!!
นิชคุณสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อหันหลังมาจากกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ
เพียงแค่เห็นร่างสูงของใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำที่กลับไม่เลือนรางลงไปเลยทั้งที่ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว
“คุณ/คุณ”
สองเสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างพร้อมกัน
และเป็นร่างสูงที่โผเข้ามากอดร่างโปร่งบางเอาไว้
“ผมคิดถึงคุณจะแย่ ทำไมคืนนั้นคุณหายไปโดยไม่บอกอะไรผมเลย”
เหมือนเข็มนับร้อยที่กำลังทิ่มแทงสู่หัวใจของนิชคุณ เพราะความรู้สึกและสัมผัสของร่างสูงทำให้เขาเจ็บ...
เจ็บใจ..ที่ทำไม พวกเขาทั้งคู่ถึงมาเจอกันในเวลาที่ไม่เหมาะสม
ตอนนี้ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่แนบสนิทกัน
นัยน์ตาสองคู่มองสบกันล้วนต่างแสดงถึงความห่วงหาอาวรณ์
ร่างสูงก้มลงแนบริมฝีปากหยักอุ่นลงทาบทับริมฝีปากบางและจูบที่อ่อนโยนเริ่มทวีความร้อนแรงที่บ่งบอกความต้องการที่มากกว่าจูบ
เสียงเซ็งแซ่ที่ใกล้ประตูห้องน้ำทำให้ร่างสูงต้องจำใจผละออกจากริ่มฝีปากบาง
แล้วตัดสินใจลากร่างโปร่งบางเข้าไปยังห้องน้ำห้องในสุดพร้อมกดล็อคประตู
ร่างสูงแทรกปลายลิ้นเข้าไปกวาดความหวานในริมฝีปากบาง ปลายลิ้นเล็กพยายามตวัดเกี่ยวดึงตอบกลับอย่างเร่าร้อนราวจะสื่อว่าพวกเขาทั้งคู่คิดถึงกันแค่ไหน
มือแกร่งเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีฟ้าตัวในของนิชคุณอย่างเชื่องช้า
“อ๊ะ...”
ร่างโปร่งร้องขึ้นเมื่อรู้สึกว่ายอดอกของตัวเองมันแข็งเป็นไตทันทีที่ร่างสูงสัมผัส
แต่...........................
“คุณนิชคุณครับ อยู่ในนี้ไหมครับ ท่านให้มาเชิญ”
เสียงของเลขาของคนสนิทที่เรียกอยู่ด้านนอกทำให้สติของนิชคุณกลับมา
“...”
เงียบเสียงไปแล้วของคนมาตาม
ต่างคนต่างมองกันนิ่ง
ๆ ก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมาเมื่อเห็นว่านิ้วนางข้างซ้ายของคนที่ตนพยายามตามหาตลอดสามปีมีแหวนคาร์เทียแบบเรียบ
ๆ สวมอยู่
“คุณแต่งงานแล้ว”
เสียงทุ้มพร่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ
นิชคุณก้มหน้าลมไม่สบตาด้วยก่อนจะดันร่างสูงให้พ้นทาง
“ผมแต่งงานแล้ว”
“ดะ..เดี๋ยว แล้วเรื่องคืนนั้น”
นิชคุณเงยหน้าขึ้นมองมองเพดานฉลุลายดอกไม้ของโรงแรมก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
ๆ
“คิดว่าผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเถอะ อย่าสานต่ออะไรอีกเลย”
บอกก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมชำเลืองมองสภาพของตัวเองที่หัวฟู เสื้อเชิร์ตตัวในถูกปลดกระดุมออก
แต่ด้วยความชำนาญนิชคุณก็กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมเข้างานเลี้ยงของครอบครัวภรรยาอีกครั้ง
หน้ากากและรอยยิ้มการค้าถูกนำมาสวมใส่ทันทีที่เข้าไปยืนเคียงข้างภรรยา
ก่อนที่นิชคุณจะตัวเย็นเยียบเมื่อเห็นร่างสูงของคนที่เขาเพิ่งจากมาเดินเข้ามาในห้องบอลรูม
“พี่แทค พี่ค่ะ
ทางนี้ค่ะ”
แค่นี้ก็อธิบายได้ดีแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใครและมีความสำคัญกับครอบครัวภรรยายังไง
บางทีเราอาจเป็นคู่
“เหมาะสม” กันที่สุด
เพียงแค่เราไม่ได้เจอกันในเวลาที่
“เหมาะสมที่สุด” ก็เท่านั้น
ท่ามกลางแขกเหรื่อที่วนเวียนมาทักทายอ๊คแทคยอนไม่ขาดสาย หลังจากที่ท่านเจ้าสัวซ่งหรือพ่อตาของ
นิชคุณประกาศเปิดตัวประธานบริษัทคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อและงานแต่งงานของแทคยอนกับคู่หมั่นสาวคริสตัลจองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
ทั้งคู่ต่างลอบสบตากันเป็นระยะ เพราะตอนนี้ต่างอับจนคำพูดที่มาบรรยายความรู้สึกใด
ๆ ความนัยที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของทั้งคู่ต่างแสดงออกหากัน
ปลายทางของพวกเขาไม่ว่าจะเลือกยังไงต้องทำให้ใครอีกหลายคนต้องเจ็บปวดแน่นอน!!!
……
RRrr RRrr
RRrr
เสียงข้อความเข้าใหม่ของโปรแกรมไลน์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากร่างสูงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง
เพียงแค่เห็นว่าเป็นชื่อใครบางคนที่แยกจากกันที่สนามบินเจเอฟเคเมื่อไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อน
[ครั้งหน้าท่านประธาน อยากให้ไปสัมมนาที่ไหน?] จากผู้ส่ง:
นิชคุณ
ริมฝีปากหยักฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ที่ไหนก็ได้”
ไม่ถึงสามสิบวินาทีข้อความตอบกลับก็ถูกส่งกลับมา
[สิ้นเดือนเจอกันที่กรุงเทพ]
“จะนับวันรอเลยทีเดียว”
กดส่งข้อความกลับ เมื่อเห็นสัญลักษณ์ว่า ‘อ่านแล้ว’
มือหนาก็กดลบบทสนทนาในไลน์ทิ้งทันทีก่อนจะวางมือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม
“แทคค่ะ ยังปรับเวลาไม่ได้เหรอทำไมไม่นอนคะ?” คริสตัลเอ่ยถามสามีเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกยังเห็นชายหนุ่มอ่านหนังสือคุณพ่อมือใหม่อยู่
“แสงไฟคงแยงตาคุณสินะ ผมอ่านจบพอดีกำลังจะนอน”
บอกด้วยเสียงทุ้มก่อนจะปิดหนังสือที่ต้องอ่าน ‘ตามหน้าที่’ ลงพร้อมกับเอื้อมมือไปปิดโคมไฟข้างหัวเตียง
“กู๊ดไนท์ครับคุณแม่”
ชะโงกหน้าไปกดจูบเบา ๆ
ที่หน้าผากเนียนของหญิงสาวพร้อมกับห่มผ้าให้ก่อนจะเอนตัวเองนอนและหันตะแคงไปอีกฝั่งของเตียงนอน
ไม่นานนักคริสตัลที่ยังนอนจ้องแผ่นหลังของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอที่บ่งบอกว่าชายหนุ่มเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว
มือเรียวบางหยิบมือถือเครื่องบางที่วางไว้ได้หมอนขึ้นมาก่อนจะสไลด์หน้าจอและกดตอบข้อความในไลน์ที่ยังไม่ตอบกลับตั้งแต่เมื่อหัวค่ำ
“ฉันอยากกินชูครีม ที่โตเกียว”
ไม่ถึงสามสิบวินาทีก็ได้รับข้อความตอบ
[ทางสะดวกวันไหนก็บอกมาได้เลย J] จากผู้ส่ง:วิคตอเรีย
รอยยิ้มเกิดขึ้นที่มุมปากของหญิงสาวก่อนจะวางมือถือไว้ที่เดิม
ในเมื่ออ๊คแทยอนยังมีความลับในชีวิตส่วนตัวได้....แล้วทำไมคนอย่างคริสตัลจองจะมีความลับบ้างไม่ได้
ที่ไม่พูด.....ใช่ว่าไม่รู้
เข็นมาเสิร์ฟ ^^
ยิ้มหวานแล้วจากไป
เช่นเคย นี่คือ 1 ใน 5 เรื่องสั้นที่จะรวมอยู่ใน
ALWAYS LOVE WITH TAECKHUN Vol.I
ที่จะลงให้อ่าน 3-4 เรื่อง ซึ่งแน่นอนไม่นับ Side story ของ Lost อีก 5 ตอน
เจอกันตอนหน้า
ยิ้มหวานแล้วจากไป
เช่นเคย นี่คือ 1 ใน 5 เรื่องสั้นที่จะรวมอยู่ใน
ALWAYS LOVE WITH TAECKHUN Vol.I
ที่จะลงให้อ่าน 3-4 เรื่อง ซึ่งแน่นอนไม่นับ Side story ของ Lost อีก 5 ตอน
เจอกันตอนหน้า
อ่านแล้วรบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ ^^http://writer.dek-d.com/angle67000/story/view.php?id=861077
หักมุมมากกกกกกก กอไก่ล้านตัว สลัลคู่กันไปเลยเหอะ ฟินลืม!!!
ตอบลบ