วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

Short fiction: Love in NYC



Love in NYC
Short fiction:  Love in NYC
Pairing :  Taeckhun
Author :Z-rowink
Contact  me twitter :@ZZzerozero (พูดคุย  หรือทวงถามฟิคได้ ^^)




บางทีเราอาจเป็นคู่ “เหมาะสม” กันที่สุด
เพียงแค่เราไม่ได้เจอกันในเวลาที่ “เหมาะสมที่สุด” ก็เท่านั้น


             “น้องสวยมากใช่ไหมลูก  นิชคุณ”

             เสียงมารดาที่เอ่ยถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังอยู่เวดดิ้งสตูดิโอเพื่อลองชุดแต่งงานรอบสุดท้ายก่อนที่งานวันจริงจะมีขึ้นอีกหนึ่งข้างหน้า  หลังจากที่เขากลับมาจากประชุมที่นิวยอร์ก

             “สวยมากครับ  สวยจนผมอยากให้ถึงวันแต่งงานซะพรุ่งนี้เลย” บอกพร้อมส่งยิ้มการค้าให้กับว่าที่เจ้าสาวที่ตอนนี้ยืนเขินหน้าแดงข้าง ๆ มารดาของเขาและของเธอ

             แม้ปากจะบอกแบบนั้น...แต่ใจของเขากลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับหญิงสาวเลยสักนิด


             เพราะหน้าที่..ที่จำต้องรักษาไว้ของการเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลผู้ดีเก่าของเกาหลีที่เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม

             อดจะคิดสมเพชตัวเองไม่ได้ที่ต้องแต่งงานเพื่อความเหมาะสมทางหน้าตาและเพื่อพยุงฐานะของตระกูลเก่าแก่ที่มีแต่หนี้สินตัวแดงมากมายให้ต้องคอยจัดการ


             วิคตอเรีย ซ่ง  คือ หญิงสาวที่ถูกหมายตาไว้ให้ตั้งแต่...ฐานะทางเงินของตระกูลที่ต่ำลงไปทุกที


             รอยยิ้มขื่นเกิดขึ้นที่มุมปากของนิชคุณเพียงชั่วแวบเดียว  ก่อนจะกลายเป็นรอยยิ้มที่สดใสเมื่อถูกช่างภาพของสตูดิโอเรียกเข้าไปถ่ายรูปพร้อมกับว่าที่เจ้าสาว  ที่มาจากตระกูลเศรษฐีใหม่ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี  บัณฑิตสาวที่จบแฟชั่นดีไซน์จากฝรั่งเศส


             ในขณะที่เขาเองก็ไม่ได้น้อยหน้าอีกฝ่าย  มหาบัณฑิตเกียรตินิยมเหรียญทองจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ติดหนึ่งในท็อปไฟว์ของอเมริกา  ที่ปรึกษาด้านการเงินของบริษัทต่าง ๆ 


             พูดได้เต็มปากเต็มคำถึงการแต่งงานครั้งนี้ของพวกเราทั้งคู่  คือการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ที่พร้อมเอื้อกัน อีกฝั่งต้องการคอนเนคชั่นของตระกูลผู้ดีเก่าแก่ของประเทศเพื่อขยายฐานธุรกิจ  ในขณะที่อีกฝ่ายก็ต้องการเงินเพื่อต่อลมหายให้อยู่ได้ในสังคม  เพราะคำว่า จมไม่ลง


             แม้สายตาของคนภายนอก  เราทั้งคู่คือคู่แต่งงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรอบปี


             “เหนื่อยเหรอคะพี่คุณ” เสียงหวานของเจ้าสาวเอ่ยถามขณะรอช่างภาพและทีมงานกำลังเซ็ตฉากใหม่สำหรับถ่ายรูปชุดแต่งงานเซ็ตใหม่


             “นิดหน่อย  พี่แอบเครียดเรื่องที่จะไปเป็นตัวแทนของพ่อเราที่นิวยอร์ค”


             “เรื่องนั่นเอง  ไม่ซีเรียสไปหรอกค่ะ  คุณพ่อท่านไว้ใจพี่คุณและเชื่อมั่นว่าพี่ต้องทำออกมาได้ดีถึงได้มอบหมายให้ไงค่ะ”


             นี่ก็อีกเรื่อง...การอวยออกนอกหน้าของว่าที่พ่อตา  จนมองเหมือนข้ามหน้าข้ามตาของพนักงานอาวุโสหลาย ๆ คนภายในบริษัท  ที่จู่ ๆ ว่าที่ลูกเขยก็เข้ามาทำงานด้วยพร้อมกับตำแหน่งรองประธานกรรมการผู้จัดการใหม่


             แต่ขอโทษเถอะ...มันไม่ใช่อะไรที่คนอย่างนิชคุณต้องสนใจและแคร์สักนิด


             “พร้อมแล้วครับ  เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เลยครับ”


             หน้ากากของชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมและแสนดีถูกหยิบขึ้นมาใช้   พร้อมกับช่วยพยุงเจ้าสาวแสนสวยในชุดราตรียาวโชว์แผ่นหลังก้าวไปยังฉากอย่างระมัดระวัง  และคอยดูแลเทคแคร์ไม่ห่าง


             เปลือกตาคมปิดลงอย่างเหนื่อย   หลังจากผ่านสัปดาห์นรกของการประชุมที่ตัวเขาเดินทางมาที่นิวยอร์คตั้งแต่สัปดาห์ก่อนลงไปแล้ว   การประชุมร่วมทุนครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นบททดสอบความสามารถกราย ๆ จากพ่อตาที่กำลังลองภูมิและความสามารถของเขาอยู่

             มันกลายเป็นความเคยชิน  ที่ต้องทำตัวให้อยู่ในกรอบและกฎระเบียบที่ผู้ใหญ่กำหนดไว้  ขอสักครั้งได้ไหมของชีวิตที่จะทำอะไรที่รู้สึก “อิสระ” ในแบบที่ใจต้องการสักครั้ง   

             แค่สักครั้ง...ก่อนที่ทั้งชีวิตต้องไปอยู่ในกรงของการเป็นลูกที่ดี  สามีที่เพียบพร้อมของว่าที่ภรรยาที่แสนน่ารัก

             ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงนอน  ที่ตัวเองถลาลงมานอนพักสายตาเมื่อสิบนาทีก่อนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่พอรู้ตัวอีกที  ตัวเขาเองก็มาอยู่ในสถานเริงรมณ์ที่เคยมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่นี้ครั้งสองครั้ง


             “ดรายมาตินี่” สั่งบาร์เทนเดอร์ไปด้วยเสียงเรียบ ๆ ก่อนที่หันไปมองร้านที่ตอนนี้ผู้คนบางตาอย่างเห็นได้ชัด  อาจคงเพราะข้างนอกกำลังมีพายุหิมะก็เป็นได้  เลยทำให้ผู้คนต่างเลือกในที่อบอุ่นมากกว่า


             มือเรียวหมุนแก้วเล่นหลังจากที่ผ่านไปค่อนคืน  แถมตรงหน้ายังมีแก้วมาตินี่ที่ถูกดื่มไปแล้วไม่ต่ำกว่าเจ็ดแก้วทั้งที่ปกติรู้ว่าตัวเองคออ่อน  แต่ก็อยากจะทำอะไรที่ไม่เคยสักครั้ง


             ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาหันไปยังมุมโซฟาของโซนวีไอพีของร้านที่อยู่ฝั่งกับเคาน์เตอร์บาร์  



             สายตาคมของชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในลุคสบาย ๆ เสื้อเชิร์ตสีดำพับแขนมาจนถึงข้อศอกที่ปลดเม็ดดุมออกถึงสี่เม็ดโชว์แผ่นอกสีน้ำผึ้งไม่นับรวมขายาวที่อยู่ภายใต้เดฟสีน้ำตาลเข้ม  ที่จับจ้องมานิ่งมันทำให้นิชคุณต้องหลบสายตาหันไปมองแก้วในมือต่อ



             แม้จะไม่หันกลับไปมองอีก  แต่เขารู้โดยสัญชาติญาณว่าอีกฝ่ายยังมองอยู่ 



             ตอนนี้ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้นเกิดขึ้น  เพราะตอนนี้เจ้าของสายตาคมกริบลุกจากโซฟามายืนอยู่ที่เก้าอี้ข้าง ๆ นิชคุณ  แขนแกร่งค้ำยันที่เคาน์เตอร์เหมือนกับกำลังกักเขาให้อยู่ในอ้อมกอดกลาย ๆ



             “เต้นรำกันสักเพลงไหมครับ”


             คิ้วสวยเลิกขึ้นเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรุกเร็วแบบนี้   



             กว่าจะรู้ตัวร่างของพวกเราทั้งคู่แนบชิดกันอยู่กลางฟลอร์  ร่างสูงก้มลงมาใกล้...ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอาร์มานี่ไดมอนที่อีกฝ่ายใช้กรุ่นผสมกับกลิ่นวิสกี้  ที่นิชคุณได้มีโอกาสได้ชิมรสเมื่อริมฝีปากหยักค่อย ๆ ไล้เล็มจูบที่ริมฝีปากล่างก่อนจะเลื่อนมาแนบชิด



             จูบระหว่างพวกเราที่มันทวีความเร้าร้อนและร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนนิชคุณต้องโอบคออีกฝ่ายไว้เพื่อพยุงร่างหลังจากที่ริมฝีปากของเราผละออกจากกัน  ตอนนี้มือแกร่งซุกซนกำลังลูบไล้เนื้อแท้ของเขา


             เพียงแต่เงยหน้ามองสบตากัน...ก็เดาได้ไม่ยากว่าคืนนี้ระหว่างเราสองคนจะจบลงที่ไหน  ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ในมหานครที่ไม่เคยหลับใหลอย่างนิวยอร์ก



             อา~~”      นิชคุณแอบอายเหมือนกันเมื่อได้ยินเสียงของตัวเองครางแผ่ว ๆ ออกมาขณะที่ริมฝีปากหยักร้อนของร่างสูง   ที่ยังไม่รู้จักชื่อและไม่อยากรู้จักด้วยเมื่อผ่านคืนนี้ไป



             พรมจูบมอบความซาบซ่านวาบหวามไปจนทั่วทุกส่วนของร่าง    โดยเฉพาะแผ่นอกที่เริ่ม ขึ้นสีแดงเป็นจ้ำและติ่งสีหวานทั้งสองข้างที่กำลังถูกดุนดันอยู่



             ริมฝีปากบางเริ่มบวมช้ำและรู้สึกว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดนิด ๆ จากการแลกจูบสุดเร่าร้อนทันที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักของเลิฟโมเต็ลที่อยู่ไม่ไกลจากสถานบันเทิงนั้น            



             บทรักของเราเริ่มขึ้นอย่างง่าย ๆ  นิชคุณตอบรับทุกสัมผัสจากร่างสูงด้วยความเต็มใจ   ริมฝีปากหยักของร่างสูงวนเวียนขบดูดอยู่กับติ่งเนื้อกลางแผ่นอกที่ดูจะตอบรับสัมผัสของเขาได้ดีเหลือเกิน   ปลายลิ้นตวัดไล้เลียไปมาราวกับมันเป็นของหวานเลิศรส
             เขาต้องมีนิสัยขี้แกล้งแน่ ๆ โดยส่วนตัว  ถึงได้ใช้ฟันงับดึงมันขึ้นเบา ๆ จนต้องแอ่นอกขึ้นตามแรงดึงนั้นความรู้สึกนั้นมันทั้งเจ็บทั้งเสียวจนร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง  จนต้องเผลออ้อนวอนร่างสูงที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์กึ่งยั่วยวน



            “พะ...พอก่อน...ไม่เอาแบบนี้”           



             ร่างสูงเพียงแต่ยิ้มน้อย ๆ ก่อนผละจากติ่งเนื้อที่ชูชันและแดงก่ำจากการถูกขบดูด  เลื่อนตัวขึ้นมาจูบหนัก ๆ ก่อนพรมจูบไล่ต่ำลงไปเรื่อย ๆ หยุดชั่วครู่เพื่อตวัดลิ้นล้อเล่นอยู่กับรอยบุ๋มตรงกลางหน้าท้อง   ต่ำลงมาจนถึงส่วนกลางของร่างกายที่เริ่มแข็งตึงขึ้นจากการถูกปลุกเร้าเมื่อครู่...   



             แต่นิชคุณแทบคลั่งเมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่ทำอะไรต่อ...เพียงแต่ไล้ปลายนิ้วแผ่ว ๆ ไปบนความแข็งขืนที่ดันตัวขึ้นมาภายใต้กางเกงราวกับจะยั่วให้ร่างบางมีความต้องการอย่างที่สิ้นสุด   ยิ่งร่างสูงไล้นิ้วไปมาแบบนี้สลับกับดูดเลียปลายยอดอกทั้งสองไปมาจนเปียกชุ่มก็ทำให้ร่างโปร่งบางรู้สึกปวดหนึบ ๆ ขึ้นมาตรงนั้นเป็นอาการที่บอกให้รู้ว่าใกล้จะถึงจุดเต็มทน...         


  
             ได้โปรด...”      



             ร่างสูงตอบรับคำขอร้องนั้นทันที  กางเกงสแล็คที่ติดกายตัวนิชคุณอยู่เมื่อครู่ปลิวหายไปพร้อมกับโพรงปากร้อนที่ครอบทับลงมาบนจุดศูนย์กลางของร่างนวลที่มีผิวเรียบเนียนยิ่งกว่าผู้หญิง 



             ริมฝีปากหยักร้อนที่ช่ำชองอย่างร้ายกาจรูดขึ้นลงไม่กี่ครั้ง  นิชคุณก็กระตุกเกร็งขึ้นทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน          



             อา~~”  ก่อนที่นิชคุณจะสะดุ้งเฮือกขึ้นทั้งตัว   เมื่อปลายนิ้วที่ชโลมไว้ด้วยอะไรบางอย่างใส ๆ เย็น ๆ เริ่มรุกรานช่องทางด้านหลังที่ยังไม่เคยมีใครผ่านเข้ามา   มันขยับคืบคลานอย่างเชื่องช้าแต่กลับสร้างความเจ็บปวดจนต้องร้องออกมา          


 
             อ๊ะ~~จะ..เจ็บนะ  ใบหน้าเนียนใสที่ชื้นด้วยเหงื่อตามไรผมเหยเก      



             แล้วความเจ็บนั้นก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว   เมื่อร่างสูงจูบที่แสนร้อนแรงที่ทำเอาแทบละลายเป็นน้ำส่วนอีกมือที่ว่างก็ลูบไล้ไปทั่วผิวร้อนผ่าวของนิชคุณ   ขณะที่ปลายนิ้วที่เพิ่มเข้ามาอีกเป็นสามก็ขยับเคลื่อนไหวเข้าออกไม่หยุดหย่อน            





             พร้อมนะ...เสียงทุ้มพร่าเอ่ยบอกอย่างกลั้นอารมณ์



             ขาเรียวสองข้างถูกจับแยกออกจากกัน   นิชคุณอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อเหลือบขึ้นมองเพดานห้องที่ฝังกระจกรูปไข่ไว้    ที่สะท้อนทุกอย่างว่าร่างกายของร่างโปร่งบางอยู่ในท่าทางแบบไหนบ้าง        


   
             ร่างสูงยังไม่ขยับตัวเข้ามายังในร่างกายของเขา  แต่กลับก้มหน้าลงไปตรงหว่างขาเรียว  ปลายลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียอย่างยั่วเย้าอยู่ตรงพื้นที่ว่างของช่องทางรักด้านหลัง            


             อา~~เสียว...”            



             นิชคุณเพิ่งรู้เหมือนกันว่าการใช้ลิ้นกับพื้นที่อ่อนไหวส่วนนี้จะทำให้รู้สึกเสียวซ่านได้พอ ๆ กับที่ร่างสูงใช้ปากทำให้เมื่อครู่     ร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อปลายลิ้นร้อนของคนควบคุมเกมรักครั้งนี้สอดแทรกเข้ามาตามรอยจีบของปากทางเข้าจนอดสะดุ้ง เกร็งไปทั้งตัวไม่ต่างจากตอนที่สอดนิ้วเข้ามาเมื่อครู่            



             รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าคมที่จะมีรอยย่นเวลายิ้ม   ที่นิชคุณเริ่มหลงใหลผุดขึ้นบนมุมปากของคนด้านบนขณะที่ถอนปลายลิ้นออก   เปลี่ยนเป็นลูบไล้แผ่ว ๆ บริเวณปากทางเข้าที่คงขมิบตัวเตรียมรับอยู่



             “เข้ามาเถอะ” อดจะเป็นคนเรียกร้องไม่ได้พร้อมพยักหน้าช้า ๆ ให้และกัดฟันเกร็งร่างเตรียมรับความเจ็บปวดระลอกใหม่ที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า            



             อา~~แน่นเป็นบ้าเสียงทุ้มพร่าช่างเซ็กซี่น่าหลงใหลเหลือเกินของร่างสูงครางเบา ๆ อยู่ริมหูของนิชคุณระหว่างที่การประสานร่างกายเป็นหนึ่งเดียวเป็นไปอย่างยากลำบาก



             ร่างสูงใช้ความระมัดระวังพอสมควรและอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่สติซึ่งกระเจิดกระเจิงจากอารมณ์ใคร่จะทำได้   นิชคุณเชื่อถึงตัวเขาเองไม่ได้เอ่ยปากบอกว่านี้คือครั้งแต่ก็รู้สึกว่าร่างสูงดูออก  เพราะการขยับเคลื่อนไหวในทุกจังหวะนั่นนุ่มนวลอ่อนโยน  แต่กลับแฝงด้วยความเร่าร้อน



             จากความเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะฉีกขาดออกเป็นชิ้น ๆ กลับกลายเป็นรู้สึกดีเหลือเกิน  ความแสบร้อนจากการฉีกขาดถูกบรรเทาลงด้วยความลื่นเย็นของเจลหล่อลื่นและความสุขแปลกใหม่ที่กำลังได้รับจนลืมเจ็บ




             รู้สึกดีจนแทบสำลัก...และบรรยายออกมาไม่ถูกเวลาที่แกนกายใหญ่โตของร่างสูงเสียดสีเข้าออกหนักหน่วงกับปากทางเข้าของตัวเองที่เริ่มขยายตัวรองรับขนาดของมันได้มากขึ้น



             ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ในเวลานี้นอกจากเสียงครวญครางคละเคล้าเสียงหอบกระเส่าที่แข่งกันปล่อยออกมาราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด            



             อ๊ะ~~แรง..อึก...อีก...”            



             เจ็บขึ้นมาก็อย่ามาว่ากัน...นะเจ้าชายอา~~”            



             นิชคุณครางลั่นออกมาขณะขยับขาให้อ้ากว้างออกอีกเมื่อจังหวะการกระแทกเปลี่ยนเป็นแรงขึ้นเสียจนตัวโปร่งบางไถลเกือบชนหัวเตียงจนร่างกายของเราทั้งคู่เกือบหลุดจากการเชื่อมต่อ



             มือแกร่งของร่างสูงจับขาเรียวให้พาดบนบ่ากว้าง   จากนั้นก็เลื่อนมาจับสะโพกมนที่บิดเร่าจากความเสียวซ่านที่กำลังได้รับไว้แน่นแล้วกระแทกกายเข้าไปตามที่ปรารถนาและตามเสียงเรียกร้องของนิชคุณ  



             ระหว่างที่เราทั้งคู่กำลังเสพสุขจากร่างกายของกันและกัน...นิชคุณก็ป่ายมือเปะปะขึ้นกอดรัดร่างสูงเอาไว้แน่นพยายามปรือดวงตาฉ่ำน้ำที่หลั่งรินออกมาจากความรู้สึกภายในขึ้นมองใบหน้าคมเข้มที่ราวกับจะจดจำไว้ทุกอณู



             ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าร่างกายของเราทั้งคู่เข้ากันได้ดีเหลือเกิน  แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากความสุขสมครั้งนี้จะมีการจากลาขึ้น



             หากไม่มีคำว่า “ภาระและหน้าที่” คอยค้ำคอนิชคุณอยู่  ร่างโปร่งบางก็อยากจะลองศึกษาร่างสูงดูสักครั้งแต่เวลาแห่งการเป็นอิสระจากทุกสิ่งที่บีบรัดอยู่นี้มันใกล้จบลงทุกขณะ  ตอนนี้ทำได้เพียงเก็บเกี่ยวมันไว้ให้ได้มากที่สุดเผื่อในอนาคตจะเป็นน้ำทิพย์ล่อเลี้ยงจิตใจ            



             อา~~”    ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างตั้งแต่เส้นผมลงไปจรดปลายเท้า



             นิชคุณขยับกายเคลื่อนไหวให้เข้ากับแรงส่งจากด้านบนหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ  รับรู้จากความเกร็งจากช่องทางด้านหลังของตนเองว่าใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางเต็มทน            



             เร็ว..อีก....แรง...อีกหน่อย...ผม...จะ...ไม่ไหว...แล้ว...”            



             ร่างสูงกระแทกสะโพกลงมาอีกตามเสียงร้องขออย่างบ้าคลั่ง   ภาพทุกอย่างที่เคยมองเห็นกลายเป็นสีขาวโพลนในช่วงที่อารมณ์พุ่งสูงถึงขีดสุด  นิชคุณกอดรัดร่างชื้นเหงื่อแน่นขึ้นอีกราวกับจะให้กลืนเป็นเนื้อเดียวกันขณะปล่อยเสียงครางลั่นออกมา



             ส่วนอ่อนไหวด้านหน้าถูกมือแกร่งชักรูดเป็นจังหวะเดียวกับการกระแทกกายเข้ามาทางด้านหลังและเหมือนร่างสูงจะรู้ว่านิชคุณกำลังจะปลดปล่อย    แกนกายร้อนถูกถอดถอนออกไปจนเกือบหลุดก่อนกระแทกกายกลับเข้ามาอีกครั้ง  ลึกและแรงเสียจนไปโดนจุดกระสันของร่างโปร่งบางเต็ม ๆ จนร้องครางลั่นออกมาสุดเสียง 



             นิชคุณฝังคมฟันลงบนบ่าแกร่ง  กระตุกกายขึ้นกอดรัดร่างสูงไว้แน่นขณะปลดปล่อยของเหลวสีน้ำขุ่นออกมาจนเลอะเนื้อตัวขอ เราทั้งคู่และเลอะมือที่ช่วยควบคุมอยู่อีกทางหนึ่ง



             จากนั้นทิ้งร่างลงกับที่นอนอย่างเหนื่อยล้า   หัวใจเต้นกระหน่ำจนแทบหลุดออกมานอกอกเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งรอบสนามมาสักสิบรอบ   รู้สึกดีจนแทบจะลอยได้กับความสุขสมซาบซ่านที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง



             แต่นิชคุณอยู่กับความรู้สึกนี้ได้ไม่นานนัก  อีกคนที่ยังไม่สุขสมเพราะร่างโปร่งปลดปล่อยล่วงหน้าไปก่อนก็จับตัวพลิกคว่ำหน้าแนบที่นอน   สะโพกถูกยกขึ้นสูงในท่าที่อำนวยต่อการกระแทกร่างของร่างสูงอย่างที่สุด  


         
             ผมยังไม่ถึงเลย...อืมมมม~~”       




             นิชคุณ ขยำผ้าปูที่นอนสีขาวจนแทบจะขาดคามือบางเมื่อร่างสูงกระแทกกายกลับเข้ามาอย่างหนักหน่วงรุนแรงในช่วงสุดท้ายของคนที่กำลังจะถึงจุดหมาย   แขนแกร่งทั้งสองกอดรัดสะโพกมนของร่างโปร่งบางไว้แน่นขณะกระแทกส่วนนั้นย้ำซ้ำ ๆ เข้ามาถี่รัวจนคนถูกกระทำหัวสั่นหัวคลอน   ต้องเอื้อมมือไปยันขอบเตียงไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองหัวชนกับฝาผนัง   



             ไม่นานนักร่างสูงก็กระแทกร่างกลับเข้ามาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเกร็งตัวฉีดพ่นของเหลวแบบเดียวกันออกมาจนนิชคุณรู้สึกอุ่นวาบ    รับรู้ได้ถึงกระแสความร้อนที่วิ่งวนอยู่ในช่องท้องและรับรู้ด้วยว่าต้นขาชื้นแฉะจากสิ่งที่ร่างกายของตัวเองไม่อาจรับไว้ได้หมดจนต้องปล่อยให้มันไหลล้นออกมาด้านนอก



             ร่างสูงฟุบทาบทับลงมาบนแผ่นหลังของนิชคุณ  หายใจหอบแรงรินรดจนขนอ่อนบริเวณนั้นลุกซู่  ผิวกายสั่นระริกชื้นเหงื่อแนบสนิท




             เราทั้งคู่นอนนิ่งอยู่แบบนั้นครู่ใหญ่กว่าร่างสูงจะพลิกร่างดึงนิชคุณมาสวมกอด   ไล้ปลายจมูกเบา ๆ ไปตามผิวเนียนนุ่ม  แก้มใสและลำคอระหงของร่างโปร่งบางพร้อมกับประทับรอยตีตราความเป็นเจ้าของไว้ทุกส่วนที่ริมฝีปากหยักร้อนเคลื่อนผ่าน



             นิชคุณรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งหลับไปชั่วครู่เพราะเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าจากมือถือที่ถูกต้องไว้ปลุกเสมอดังขึ้น   ดวงตากลมหันไปมองร่างสูงที่นอนตระกองกอดตัวเองด้วยความรู้สึกตื้อ  ก่อนจะตัดสินใจค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกคนที่หลับอยู่ถอนเมื่อคืนมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว



             “คุณจะไปแล้วเหรอ” เสียงทุ้มพร่าที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้นิชคุณที่กลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายหันไปมอง



             สายตาคมที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ดูเหมือนไม่จะมีไม่จบสิ้นมันทำให้นิชคุณร่างกายร้อนผ่าวอีกครั้ง



             “ผมต้องไปแล้ว” บอกก่อนตัดสินใจเดินกลับมายังข้างเตียงและโน้มตัวลงไปเป็นฝ่ายจูบที่ริมฝีปากหยักก่อน



             “เราจะเจอกันอีกได้ไหม”



             “...”



             นิชคุณไม่ตอบนอกจากมือบางที่เอื้อมไปลูบผมหยักศกที่ยาวเคลียไหล่ของร่างสูงที่ตอนนี้ตาปรือพร้อมที่จะเข้าสู่ห้วงของการนิทราเต็มที่



             กดจูบที่หน้าผากแกร่งราวจะบอกฝันดีกับร่างสูงที่ตอนนี้ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหลับสนิทไปแล้ว  ก่อนจะลุกเดินขึ้นไปที่ประตูห้อง  ร่างโปร่งหยุดยืนนิ่งอย่างลังเลอยู่ชั่วครู...



             เปลือกตาบางหลับลงก่อนดวงตากลมจะเปิดขึ้นด้วยความว่างเปล่า  พร้อมกับเก็บกักค่ำคืนที่แสนหวานในนิวยอร์คให้ลงไปลึกที่สุดของหัวใจ


             แค่ One Night Stand กับชายหนุ่มเอเชียเหมือนกัน  ที่จะผ่านมาและผ่านไปเท่านั้นโดยไร้การสานสัมพันธ์ใดๆ



             “เรียบร้อยแล้วค่ะ  แค่นี้พี่คุณก็หล่อจนวิคบรรยายไม่ถูกแล้ว”



             ร่างโปร่งบางไม่ตอบนอกจากก้มลงหอมแก้มคนที่ได้ชื่อว่าภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเบา ๆ ที่แก้มเนียนหลังจากที่อีกฝ่ายช่วยผูกเน็คไทให้ทุกเช้าก่อนเขาจะไปทำงาน  ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ที่ปฏิบัติมาทุก ๆ เช้านับตั้งแต่แต่งงานกันมาเกือบสามปี





             ชีวิตครอบครัวที่เกือบเรียกได้ว่าสมบูรณ์หากมีเด็กเล็ก ๆ มาวิ่งทั่วบ้าน  นับว่าเป็นโชคดีที่วิคตอเรียไม่ชอบเด็กแผนการมีทายาทจึงถูกเลื่อนไปก่อน  ส่วนความสัมพันธ์ทางร่างกายที่มีต่อกัน...นิชคุณไม่ปฏิเสธว่าเรือนร่างและเสน่ห์ของหญิงสาวสามารถช่วยเติมเต็มความสุขสมได้  แต่ในใจลึก ๆ ตัวเขาเองยังคิดถึงค่ำคืนที่ร้อนแรงที่นิวยอร์คอยู่เสมอเกือบสามปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลย




             ตอนนี้นิชคุณกลายเป็นกำลังสำคัญในธุรกิจของพ่อตาที่เริ่มจะปล่อยมือจากการบริหารเร็ว ๆ นี้




             “เย็นนี้  เราต่างคนต่างไปเจอกันที่งานเลี้ยงเลยนะคะพี่คุณ”



             ส่งยิ้มการค้าให้กับภรรยาสาวที่ขับรถไปทำงานที่ไฟท้ายรถสปอร์ตคันหรูหายลิบไปแล้ว  ก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองเพื่อขับไปทำงานเหมือนเดิม...เหมือนที่เคยทำด้วยความเคยชิน



             พลางทำหน้าเบื่อหน่ายระหว่างติดไฟแดงก่อนถึงบริษัท  เพราะคืนนี้นอกจากจะมีงานฉลองกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปีของบริษัทแล้วทางครอบครัวพ่อตายังจะจัดงานเปิดตัวลูกชายคนโต  ซึ่งเป็นลูกกับภรรยาเก่าของพ่อตาที่รู้เขามารู้ภายหลัง   หลังจากแต่งงานมาได้สักพักถึงรู้ว่าวิคตอเรียไม่ใช่ลูกคนเดียวแต่มีพี่ชายคนละแม่อยู่หนึ่งคน  ที่ฝั่งนั้นไปร่ำเรียนอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ และไม่ได้เคยกลับมาเกาหลีเลยตั้งแต่ภรรยาเก่าของพ่อตาเสียชีวิตไป




             ยังจำน้ำเสียงตื่นเต้นของวิคตอเรียได้ที่สองอาทิตย์มานี้พูดถึงพี่ชายอย่างนั้นอย่างโน้น  จนนิชคุณคร้านจะฟังแต่ด้วยเป็นคนเงียบ ๆ ไม่มีปากเสียงเลยต้องจำใจฟัง




             บรรยากาศงานเลี้ยงเดิม ๆ ที่เจอมานับตั้งแต่ตามพ่อแม่และญาติ ๆ ของตระกูลเข้าสังคมแต่เด็ก  มันทำให้คุ้นเคยจนกลายเป็นความเคยชิน   ที่ต้องสวมหน้ากากของการเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบผู้ดีเก่าพร้อมรอยยิ้มการค้าที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์มากกว่าความจริงใจ




             “เหอ” ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบล้างมือที่อ่างล้างมือภายในห้องน้ำของโรงแรมหรูหลังเสร็จธุระส่วนตัว  ที่เพิ่งขอแยกตัวออกมาจากเพื่อนและญาติ ๆ ของวิคตอเรีย



             เฮือก!!!



             นิชคุณสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อหันหลังมาจากกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ  เพียงแค่เห็นร่างสูงของใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำที่กลับไม่เลือนรางลงไปเลยทั้งที่ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว



             “คุณ/คุณ”



             สองเสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างพร้อมกัน



             และเป็นร่างสูงที่โผเข้ามากอดร่างโปร่งบางเอาไว้



             “ผมคิดถึงคุณจะแย่  ทำไมคืนนั้นคุณหายไปโดยไม่บอกอะไรผมเลย”



             เหมือนเข็มนับร้อยที่กำลังทิ่มแทงสู่หัวใจของนิชคุณ  เพราะความรู้สึกและสัมผัสของร่างสูงทำให้เขาเจ็บ...




             เจ็บใจ..ที่ทำไม  พวกเขาทั้งคู่ถึงมาเจอกันในเวลาที่ไม่เหมาะสม



             ตอนนี้ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่แนบสนิทกัน  นัยน์ตาสองคู่มองสบกันล้วนต่างแสดงถึงความห่วงหาอาวรณ์  ร่างสูงก้มลงแนบริมฝีปากหยักอุ่นลงทาบทับริมฝีปากบางและจูบที่อ่อนโยนเริ่มทวีความร้อนแรงที่บ่งบอกความต้องการที่มากกว่าจูบ




             เสียงเซ็งแซ่ที่ใกล้ประตูห้องน้ำทำให้ร่างสูงต้องจำใจผละออกจากริ่มฝีปากบาง  แล้วตัดสินใจลากร่างโปร่งบางเข้าไปยังห้องน้ำห้องในสุดพร้อมกดล็อคประตู




             ร่างสูงแทรกปลายลิ้นเข้าไปกวาดความหวานในริมฝีปากบาง  ปลายลิ้นเล็กพยายามตวัดเกี่ยวดึงตอบกลับอย่างเร่าร้อนราวจะสื่อว่าพวกเขาทั้งคู่คิดถึงกันแค่ไหน  มือแกร่งเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีฟ้าตัวในของนิชคุณอย่างเชื่องช้า



             “อ๊ะ...” ร่างโปร่งร้องขึ้นเมื่อรู้สึกว่ายอดอกของตัวเองมันแข็งเป็นไตทันทีที่ร่างสูงสัมผัส




             แต่...........................



             “คุณนิชคุณครับ  อยู่ในนี้ไหมครับ  ท่านให้มาเชิญ”



             เสียงของเลขาของคนสนิทที่เรียกอยู่ด้านนอกทำให้สติของนิชคุณกลับมา




             “...” เงียบเสียงไปแล้วของคนมาตาม



             ต่างคนต่างมองกันนิ่ง ๆ ก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมาเมื่อเห็นว่านิ้วนางข้างซ้ายของคนที่ตนพยายามตามหาตลอดสามปีมีแหวนคาร์เทียแบบเรียบ ๆ สวมอยู่




             “คุณแต่งงานแล้ว” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ 



             นิชคุณก้มหน้าลมไม่สบตาด้วยก่อนจะดันร่างสูงให้พ้นทาง



             “ผมแต่งงานแล้ว” 



             “ดะ..เดี๋ยว  แล้วเรื่องคืนนั้น” 



             นิชคุณเงยหน้าขึ้นมองมองเพดานฉลุลายดอกไม้ของโรงแรมก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ 



             “คิดว่าผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเถอะ  อย่าสานต่ออะไรอีกเลย”  บอกก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมชำเลืองมองสภาพของตัวเองที่หัวฟู  เสื้อเชิร์ตตัวในถูกปลดกระดุมออก  แต่ด้วยความชำนาญนิชคุณก็กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมเข้างานเลี้ยงของครอบครัวภรรยาอีกครั้ง



             หน้ากากและรอยยิ้มการค้าถูกนำมาสวมใส่ทันทีที่เข้าไปยืนเคียงข้างภรรยา  ก่อนที่นิชคุณจะตัวเย็นเยียบเมื่อเห็นร่างสูงของคนที่เขาเพิ่งจากมาเดินเข้ามาในห้องบอลรูม



             “พี่แทค  พี่ค่ะ  ทางนี้ค่ะ”
             แค่นี้ก็อธิบายได้ดีแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใครและมีความสำคัญกับครอบครัวภรรยายังไง





            
             บางทีเราอาจเป็นคู่ “เหมาะสม” กันที่สุด
          เพียงแค่เราไม่ได้เจอกันในเวลาที่ “เหมาะสมที่สุด” ก็เท่านั้น





             ท่ามกลางแขกเหรื่อที่วนเวียนมาทักทายอ๊คแทคยอนไม่ขาดสาย       หลังจากที่ท่านเจ้าสัวซ่งหรือพ่อตาของ
นิชคุณประกาศเปิดตัวประธานบริษัทคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อและงานแต่งงานของแทคยอนกับคู่หมั่นสาวคริสตัลจองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า





             ทั้งคู่ต่างลอบสบตากันเป็นระยะ  เพราะตอนนี้ต่างอับจนคำพูดที่มาบรรยายความรู้สึกใด ๆ ความนัยที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของทั้งคู่ต่างแสดงออกหากัน




             ปลายทางของพวกเขาไม่ว่าจะเลือกยังไงต้องทำให้ใครอีกหลายคนต้องเจ็บปวดแน่นอน!!!






……
             RRrr  RRrr  RRrr




             เสียงข้อความเข้าใหม่ของโปรแกรมไลน์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากร่างสูงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง  เพียงแค่เห็นว่าเป็นชื่อใครบางคนที่แยกจากกันที่สนามบินเจเอฟเคเมื่อไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อน



             [ครั้งหน้าท่านประธาน  อยากให้ไปสัมมนาที่ไหน?] จากผู้ส่ง: นิชคุณ


             ริมฝีปากหยักฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว



             “ที่ไหนก็ได้”



             ไม่ถึงสามสิบวินาทีข้อความตอบกลับก็ถูกส่งกลับมา



             [สิ้นเดือนเจอกันที่กรุงเทพ]




             “จะนับวันรอเลยทีเดียว” กดส่งข้อความกลับ  เมื่อเห็นสัญลักษณ์ว่า อ่านแล้ว มือหนาก็กดลบบทสนทนาในไลน์ทิ้งทันทีก่อนจะวางมือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม




             “แทคค่ะ  ยังปรับเวลาไม่ได้เหรอทำไมไม่นอนคะ?” คริสตัลเอ่ยถามสามีเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกยังเห็นชายหนุ่มอ่านหนังสือคุณพ่อมือใหม่อยู่



             “แสงไฟคงแยงตาคุณสินะ  ผมอ่านจบพอดีกำลังจะนอน” บอกด้วยเสียงทุ้มก่อนจะปิดหนังสือที่ต้องอ่าน ตามหน้าที่ ลงพร้อมกับเอื้อมมือไปปิดโคมไฟข้างหัวเตียง




             “กู๊ดไนท์ครับคุณแม่” ชะโงกหน้าไปกดจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเนียนของหญิงสาวพร้อมกับห่มผ้าให้ก่อนจะเอนตัวเองนอนและหันตะแคงไปอีกฝั่งของเตียงนอน  



             ไม่นานนักคริสตัลที่ยังนอนจ้องแผ่นหลังของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอที่บ่งบอกว่าชายหนุ่มเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว




             มือเรียวบางหยิบมือถือเครื่องบางที่วางไว้ได้หมอนขึ้นมาก่อนจะสไลด์หน้าจอและกดตอบข้อความในไลน์ที่ยังไม่ตอบกลับตั้งแต่เมื่อหัวค่ำ



             “ฉันอยากกินชูครีม  ที่โตเกียว”



             ไม่ถึงสามสิบวินาทีก็ได้รับข้อความตอบ



             [ทางสะดวกวันไหนก็บอกมาได้เลย J] จากผู้ส่ง:วิคตอเรีย



             รอยยิ้มเกิดขึ้นที่มุมปากของหญิงสาวก่อนจะวางมือถือไว้ที่เดิม




             ในเมื่ออ๊คแทยอนยังมีความลับในชีวิตส่วนตัวได้....แล้วทำไมคนอย่างคริสตัลจองจะมีความลับบ้างไม่ได้
             ที่ไม่พูด.....ใช่ว่าไม่รู้







เข็นมาเสิร์ฟ ^^
ยิ้มหวานแล้วจากไป
เช่นเคย  นี่คือ 1 ใน 5 เรื่องสั้นที่จะรวมอยู่ใน
ALWAYS  LOVE  WITH  TAECKHUN   Vol.I 

ที่จะลงให้อ่าน 3-4 เรื่อง ซึ่งแน่นอนไม่นับ Side story ของ Lost อีก 5 ตอน
เจอกันตอนหน้า
อ่านแล้วรบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ ^^http://writer.dek-d.com/angle67000/story/view.php?id=861077

1 ความคิดเห็น:

  1. หักมุมมากกกกกกก กอไก่ล้านตัว สลัลคู่กันไปเลยเหอะ ฟินลืม!!!

    ตอบลบ