[Mpreg]: อุ่นไอรัก : 04
Pairing : TaeTen, Johneil,Jaedo,Hanta & SMROOKEIS
By winata [@WNzro07]
Other : 1.เนื้อหาในฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาของผู้แต่งเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ตัวศิลปิน เสื่อมเสียแต่อย่างใด โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงและฟิคในเรื่องนี้ผู้ชายท้องได้
2.เรื่องนี้ต้นฉบับออริจินอลเป็นของคนแต่งในยูสอื่นที่ใช้แต่งวงอสูรในคู่ดูซอบ ที่แบบตอนนี้ติ่งรุกกี้แรงมากเลยหยิบมาปัดฝุ่นดัดแปลงใหม่ค่ะ ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมเลยยกเว้นคู่หลัก 555+++
3.สนุกค่ะ เจอคำผิดคำตกข้ามมันไปเถอะไว้ว่างจะเข้ามารีไรท์ใหม่ แฮร่ ><
By winata [@WNzro07]
Other : 1.เนื้อหาในฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาของผู้แต่งเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ตัวศิลปิน เสื่อมเสียแต่อย่างใด โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงและฟิคในเรื่องนี้ผู้ชายท้องได้
2.เรื่องนี้ต้นฉบับออริจินอลเป็นของคนแต่งในยูสอื่นที่ใช้แต่งวงอสูรในคู่ดูซอบ ที่แบบตอนนี้ติ่งรุกกี้แรงมากเลยหยิบมาปัดฝุ่นดัดแปลงใหม่ค่ะ ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมเลยยกเว้นคู่หลัก 555+++
3.สนุกค่ะ เจอคำผิดคำตกข้ามมันไปเถอะไว้ว่างจะเข้ามารีไรท์ใหม่ แฮร่ ><
แทยงเดินลากเท้าตามเพื่อนร่วมวงที่เดินนำมาเรื่อยๆ
จนมารู้สึกตัวอีกทีก็เข้ามาอยู่ในห้องผู้ป่วย ยืนอยู่ข้างเตียงที่มีคนป่วยที่นอนให้น้ำเกลือพร้อมกระปุกอะไรไม่รู้สองกระปุกเล็ก นัยน์ตาคมมองใบหน้าเรียวของคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงยังคงซีดเซียว
แม้จะผ่านไปนานเกือบสามชั่วโมงแล้วยังไร้วี่แววว่าที่คุณแม่คนใหม่จะฟื้น
มือหนาเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มบางอย่างแผ่วเบา อย่างไม่กล้าที่จับแรงๆ
กลัวจะเป็นการก่อกวนของคนที่นอนหลับ ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงก่อนคว้ามือบางมากุมไว้พร้อมกับจูบที่หลังมือบางเบาๆ
กิริยาของแทยงที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาหรือพูดคุยกับสมาชิกตั้งแต่เข้ามาในห้องพักผู้ป่วย สมาชิกคนอื่นๆ ต่างสังเกตเห็น
แต่พวกเค้าเป็นแค่เพื่อนร่วมวงไม่ใช่คนในครอบครัวหรือคนรัก แม้จะสงสัยขนาดไหนตอนนี้คงทำได้อย่างเดียวคือการรอคอย ให้คนสองคนซึ่งเป็นคู่กรณีกันออกมาพูดเอง
“ออกไปหาไรเย็น ๆ ดื่มกันไหม
ปล่อยไว้แบบนี้ล่ะ”
กลายเป็นฮันซลที่หันมาถามอีกคนที่เหลือที่นั่งกันอยู่เงียบ ๆ ที่โซฟา โดยที่สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องแทยงแบบไม่ให้คลาดสายตา ก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆ จะพยักหน้าค่อยลุกออกไปอย่างเงียบ ซึ่งผ่านไปนานพอสมควรแทยงถึงได้รู้ว่าเหลือตนเองเพียงลำพังที่นั่งเฝ้าเตนล์อยู่
ชายหนุ่มเอนศีรษะลงบนข้างเตียงโดยที่มือบางแนบอยู่แก้ม ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงเพื่อนึกย้อนไปยังปลายปี ที่พวกเค้าวง BassBot ได้ไปแสดงงานคอนเสิร์ตรวมของค่ายที่เซียงไฮ้ซึ่งมันคือจุดเริ่มต้นในสิ่งที่แทยงบอกคนที่นอนอยู่บนเตียงว่ามันคือความผิดพลาดเพราะความเมา ที่เค้าไม่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น!!!!
ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจในสิ่งที่ตัวเองแอบคาดหวังมาตลอดเวลาหลายปี
ระหว่างหลังการซ้อมคอนเสิร์ตในสเตจดูเอทระหว่างลีแทยง วงBassBot
กับลีดเดอร์สาวสวยเกิร์ลกรุ๊ปร่วมค่าย
“แทยง นายว่าวันนี้ฉันสวยไหม?”
“เอ้า พอๆ
ไม่ต้องหมุนตัว ขาเธอยังไม่หายดีนะจูฮยอน แค่นี้เธอก็สวยและน่ารักมากแล้ว ถ้าไม่เชื่อคอยฟังเสียงแฟนๆ ตอนพวกเราขึ้นเวที”
“ฉันตัดสินใจแล้วนะแทยง คืนนี้หลังจบคอนเสิร์ตฉันจะบอกชานยอลว่าฉันรู้ยังไง นายต้องเอาใจช่วยด้วยน่ะเพื่อนร้ากกกกก”
วินาทีนั้นคำว่าอกหักเป็นยังไงลีแทยงเพิ่งสัมผัสเป็นครั้งแรก เพราะตอนแรกแค่คิดว่าการอยู่ใกล้ๆ ก็มากพอ เคยคิดจะบอกหญิงสาวตรงหน้านี้หลายครั้งต่อหลายครั้งทั้งที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันมากมายแต่ก็ไม่เคยจะกล้าสักที
ทั้งที่ความรู้สึกเกินเพื่อนมันมีมานานเสียจนจำไม่ได้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหน
คอนเสิร์ตจบลงตอนไหน แทยงแทบจำไม่ได้ว่าตลอดคอนเสิร์ตเค้าได้แสดงหรือพูดคุยบนเวทีอะไรไปบ้าง รู้แค่ทำในแบบที่เคยทำมาตลอดแม้บางจังหวะจะมีสายตาแปลกๆ
ของเพื่อนร่วมวงมองแบบงงๆ
รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ใช่เรื่องดี แถมตัวเองยังเป็นพี่ที่ต้องช่วยลีดเดอร์อย่างมุนแทอิลดูแลน้อง
ๆ แต่วันนี้ความอดทนของลีแทยงในการรักษาภาพลักษณ์ของไอดอลสิ้นสุดลง
มือหนายกแก้วใสที่บาร์เทนเดอร์ผสมให้ยกขึ้นดื่มแบบไม่ใส่ใจกับบรรยากาศรอบๆ
ตัว ของคลับพิเศษเฉพาะลูกค้าวีไอพีของโรงแรมใหญ่กลางมหานครเซียงไฮ้ที่มั่นใจได้ว่าไม่มีแฟนคลับคนไหนผ่านมาเห็นแน่ๆ
จนผ่านเข้าสู่วันใหม่เพราะรู้ลิมิตของร่างกายว่ามันจะไม่ไหว ไหนจะต้องขึ้นรีบไปขึ้นเครื่องกลับเกาหลีไฟล์เช้าด้วย ทำให้แทยงตัดสินใจเลิกดื่ม ร่างโปร่งค่อย ๆ เดินช้าทรงตัวเดินกลับไปยังห้องพักทั้งที่ตอนนี้ตาแทบจะปิดแล้ว
“อ้าวพี่แทยงยังไม่นอนเหรอฮะ” เตนล์ถามเพื่อนร่วมวงที่เดินด้วยท่าทางแปลกๆ
อยู่บนบริเวณหน้าลิฟต์
ก่อนจะหันหน้าไปมองยูตะอย่างงงๆ
เนื่องจากพวกเค้าเพิ่งกลับมาจากฟิสเนตของโรงแรมเพราะต้องไปเป็นเพื่อนยูตะที่ต้องออกกำลังบริหารช็อตโกแลตแอป พอดีกับแจฮยอนและโดยองที่กลับมาจากการซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อพอดี
“เฮ้ย ไปจมถังเหล้าที่ไหนมาวะเนี้ยแทยง”
ยูตะยกมือปิดจมูกเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาจากตัวแทยงที่ตอนนี้ยืนหลับตาพิงกำแพงอยู่
“เตนล์นายมาช่วย ฉันพยุงแทยงที”
ยูตะหันไปเรียกร่างเล็กให้มาช่วยยืนประกบร่างแร๊ปเปอร์ของวงคนละข้างเพื่อช่วยร่างสูงจะล้ม เพราะตอนนี้พวกเค้ายืนอยู่โถงหน้าลิฟท์ส่วนกลาง ซึ่งแน่นอนอาจมีแฟนคลับที่มาตามศิลปินในค่ายที่อยู่โรงแรมนี้มาเดินเล่นในตอนกลางคืนมาเห็นภาพพจน์แบบนี้ย่อมไม่ดีแน่ๆ
“เมายิ่งกว่าหมาเลยเนอะโดยอง”
แจฮยอนพูดขึ้นมาก่อนจะดูดน้ำอัดลมในกระป๋อง
“เจ้าเด็กนี่ คำว่าพี่
ทำไมชอบลืมอยู่เรื่อย
ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายรึไงเล่า”
โดยองว่าให้ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากมักเน่ตัวขาวอย่างระอาใจที่เจ้าตัวขยันลามปามและหยอดตัวเขาอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน
“ใครอยากเป็นน้อง ผมอยากเป็นแฟนครับหรอก ใจอ่อนเสียทีดิ”
โดยองที่ได้ยินเสียงอุ้งอิ้งของมักเน่จอมเนียนอยู่ข้างหูได้แต่หันหน้าหนีเพราะพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ โดยไม่ตอบอะไร
...ก็แบบบางทีคิมโดยอง...ก็ชอบให้เด็กเต๊าะก็เท่านั้นเอง...
^___________________^
โชคดีที่ลิฟต์โดยสารที่พวกเค้าทั้งห้าคนขึ้นมานั้นไม่มีผู้โดยสารคนอื่น ยูตะกับเตนล์ช่วยกันหิ้วปีกคนละข้างแทยงที่ยืนหลับไปแล้วเข้าไปยังห้องพักโดยเร็วที่สุด โดยมีแจฮยอนและโดยองเป็นฝ่ายเปิดประตูให้เพราะทั้งคู่เพิ่งหายบาดเจ็บที่ขามาเนื่องการผิดคิวที่กองถ่ายซีรี่ส์
บู๊ล้างผลาญที่คู่หูแจโดไปเป็นแขกรับเชิญให้กับฮันซลที่เล่นบทนำเป็นครั้งแรกมาทำให้ไม่สามารถช่วยเพื่อนร่วมวงตัวเล็กพยุงแทยงได้
“เป็นอะไรของมันวะเนี้ย
ถึงได้เมาเป็นมาแบบนี้
คอยดูพรุ่งนี้ฉันจะซัดให้เดี้ยงถ้ามันเมาค้าง” ยุตะบ่นอุปหลังจากโยนแทยงลงบนเตียงได้แล้ว
“ใจเย็นยูตะ พี่แทยงคงมีเหตุผลส่วนตัว พวกนายไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะดูแลพี่เค้าเอง”
“มันก็ต้องหน้าที่นายอยู่แล้วเตนล์ก็ทริปนี้ นายเป็นรูมเมทเจ้าหน้านิ่ง” โดยองพูดยิ้มๆ
ก่อนจะเอื้อมมือบีบจมูกรั้นๆ ของเพื่อนเล่น
ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองที่คราวนี้ก็ยังจับฉลากได้มักเน่ของวงเป็นรูมเมทโดยมียูตะเดินรั้งท้ายเพื่อน
เตนล์มองคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตา ที่ตอนที่เจ้าตัวตื่นไม่มีทางจะให้เห็นยกเว้นตอนอยู่บนเวทีหรือออกรายการเกมโชว์ที่จัดโมเม้นท์ให้เล่าแม่ยกแทเตนล์กรี๊ดเล่น เชื่อเถอะเกือบสามปีที่ผ่านมาเตนล์พยายามไม่เข้าใกล้แทยงเลยสักนิด
เพราะบุคลิกของอีกคนเข้าถึงยากรวมถึงตัวเตนล์เองกลัว...
....กลัวความรู้สึกที่มีเกินคำว่าพี่น้องและเพื่อนร่วมวง มันจะทำให้เตนล์สูญเสียลีแทยงไป...
มือบางที่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำผสมโคโลญจน์ค่อยๆ เช็ดบนใบหน้าคมก่อนจะสะดุ้งเมื่อคนที่นอนหลับอยู่ลืมตาขึ้นมามอง
“บอกฉันสิ ว่าเธอไม่ได้ไปบอกรักคนอื่น”
เสียงทุ้มแหบพึมพำเบาๆ ทำให้เตนล์ต้องก้มลงไปฟังใกล้ ก่อนจะตกใจเมื่อโดนฉุดให้ลงไปนอนบนเตียงโดยมีแทยงคร่อมเอาไว้
“พี่แทยง ผมเตนล์นะครับพี่...”
ริมฝีปากสีอ่อนที่กำลังจะเอ่ยถูกประกบปิดด้วยเรียวปากร้อนของแทยงอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว
เตนล์หลับตาแน่นด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่ทันได้คิด แถมยังไม่ได้ตั้งตัวล่วงหน้ามาก่อนร่างบางนอนนิ่งเกร็งสั่นไปทั้งตัวอย่างคนไร้ประสบการณ์
คนตัวเล็กพยายามเม้มเรียวปากให้แน่นสนิทป้องกันการรุกล้ำจากอีกฝ่าย หากนั่นไม่ใช่อุปสรรคที่ยากเย็นสำหรับแทยงที่กำลังมึนเมาแอลกอฮอล์
ลิ้นชื้นไล้ร่องปากหวานไปตามแนวฟันขาวซ้ำๆ
ราวกับจะขออนุญาต ฝ่ามือแกร่งลูบไล้ผิวเนื้ออ่อนใสไปทุกซอกทุกมุม
จวบจนถึงยอดอกตึงแน่นใต้เสื้อเนื้อบางที่ชูชันสู้นิ้วแกร่ง เตนล์เผยออ้าปากอย่างตื่นตกใจในสัมผัสวาบหวิวเปิดช่องให้เรียวลิ้นของแทยงกวาดวนเข้ามาภายในโพรงปากเล็กได้อย่างถนัด
ร่างบางสะบัดตัวดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแกร่ง หากเสมือนเป็นเพียงการขยับกายเล็กน้อยมากกว่าเนื่องจากรสจูบร้อนเร่าที่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ กลับทวีอารมณ์ร้อนแรงของร่างบางที่ไม่เคยปั่นป่วนจนแทบคลั่ง
คนอ่อนประสาพยายามใช้ลิ้นต่อต้านการรุกรานจากร่างเบื้องบนแต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเตนล์ถูกดึงเข้าไปร่วมสนุกในการบรรเลงรสจูบด้วยเสียมากกว่า
“ปะ ปล่อย เตนล์นะ...พี่แทยง” เตนล์ที่ใช้เรี่ยวแรงที่เหลือทั้งหมดที่มีอยู่ผลักให้ร่างสูงผละออกไป
“ไม่!
ฉันไม่ยอมให้เธอไปเป็นของคนอื่น จู...เบจูฮ...ยอน”
ยิ่งได้ฟังคนอยู่ด้านล่างเอ่ยปากห้ามยิ่งทำให้อารมณ์ของแทยงมีมากขึ้นกว่าเดิม กลิ่นหอมจากร่างเล็กบอบบางมันปลุกความรู้สึกให้อยากครอบครองทุกตารานิ้วทุกส่วนสัดเลยทีเดียว
“ไม่ นะ!! ผมไม่ใช่ไอรีนนูนา! พี่แทยงดูให้ชัดสิ ผมเตนล์!!! อ๊า~~~~!!!”
ร่างบางกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกฉีกกระชากร่างออกเป็นชิ้นๆ
กางเกงผ้าแบรนด์ดังถูกปลดร่นลงไปกองอยู่บริเวณเข่าตามด้วยแก่นกายขนาดใหญ่ของลีแทยงที่สอดแทรกเข้ามาภายในอย่างไม่ออมแรง
เนื้อนิ่มในช่องทางลับเกร็งบีบสิ่งแปลกปลอมแน่นด้วยไม่รู้ถึงวิธีผ่อนคลาย ต้นขาขาวสั่นระริกพร้อมที่จะทรุดฮวบลงไปทุกเมื่อหากลำแขนแกร่งประคองช่วงเอวบางไว้ให้รับการรุกรานได้อย่างเต็มเหนี่ยว
“อึก! ฮือ....เตนล์เจ็บออก...เอาออกไป!!”
ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็มาฉุดอารมณ์ดิบของแทยงให้หยุดได้อีกแล้ว มือแกร่งเลื่อนไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเตนล์ไว้หลวมๆ
ก่อนขยับพาอารมณ์ซาบซ่านให้แผ่ผลาญไปทั่วร่างเล็ก แม้จะลบล้างความอึดอัดอันแสนทรมานได้ไม่หมดแต่ก็พอช่วยบรรเทาให้หันเหความสนใจไปเรื่องอื่นได้บ้าง
“เรียกชื่อฉัน
แท..แทยง เรียกสิ~ ~ ~ ”
ร่างบางที่ถูกกระทำกำผ้าปูที่นอนแน่นไม่สามารถขัดขืนการกระทำแถมร่างกายยังคล้อยตามกับสัมผัสวาบหวามนั้นอีกด้วย
“อึก...อืม...อ๊ะ! อ๊ะ! อ่า.......”
เตนล์ได้ยินว่าเสียงหวานของตัวเองที่กำลังเปล่งเสียงที่แสนน่าอาย แต่ก็ยากเกินกว่าจะเก็บกลั้นมันเอาไว้ได้ ริมฝีปากสีหวานเผยอหอบครางกระเส่า
แผ่นหลังสีขาวเนียนถูกริมฝีปากร้อนไล่ประทับตราสีกุหลาบไปถ้วนทั่วอย่างเริงสำราญยังผลให้คนถูกกระทำสะดุ้งเฮือกทุกครั้ง
“ฮ้า~ อ่า.....อืม อะ...อ๊ะ! อ๊ะ!
หยุด พอแล้ว! พอ! อ๊ะ พี่แท~~ยง”
เสียงหวานที่ร้องเรียกชื่อเค้าทำให้แทยงมองใบหน้าของร่างที่อยู่ด้านล่างด้วยความมึน
“ตะ~เตนล์!!!!”
แทยงที่ตอนนี้เหมือนจะสร่างเมาไปทันทีแต่ถ้าให้หยุดตอนนี้ก็ไม่ได้เสียแล้ว
สะโพกบางบิดเร่าราวจะขาดใจเมื่อฝ่ามือใหญ่กระชับแก่นกายอ่อนบางแน่นแล้วเร่งจังหวะป้อนห้วงหฤหรรษ์ให้ร่างเล็กบอบบาง ความหนาแน่นเบื้องหลังกระแทกกระทันถี่เร็วประชิดจงใจเสียดสีจุดหวามไหวในช่องทางแคบจนคนถูกกระทำกระตุกรัดรัวตามอารมณ์เร้า
“อ๊ะ! ฮ้า~ อ่า....อ่า....อะ...อ๊า~!
อ๊า~~!!”
“ทนอีกนิดนะ น้องเตนล์”
น้ำเสียงทุ้มชวนฟังของแทยงเอ่ยกระซิบข้างหูนิ่มก่อนที่ริมฝีปากคนพูดจะแนบลงมอบสัมผัสที่แผ่วเบาเจือหวานที่ริมฝีปากบาง
แผ่นหลังบางของเตนล์หยัดเกร็งปลดปล่อยทั้งเสียงครางรื่นหูและหยาดหยดแห่งห้วงอารมณ์
ออกมาจนหมดสิ้น ดวงตาคมของแทยงปิดลงรับสัมผัสยามถูกบีบรัดจากช่องทางร้อนระอุอย่างอิ่มเอม
เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังต่อเนื่องจากสองร่างที่ตอนนี้กอดกันบนเตียงนอนนุ่มจนหลับไปแทบจะพร้อม
ๆ กัน
RRR….RRR
เสียงโทรศัพท์ห้องพักที่จุนมยอนโทรมาปลุกให้เตรียมตัวไปสนามบิน
เป็นแทยงที่รู้สึกขึ้นมาหยิบรับสายก่อนจะรับคำปลายสายเบาๆ
ที่ให้เวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งชั่วโมง
แทยงวางสายก่อนจะหันมาเห็นร่างเล็กบอบบางที่ตัวเองนอนกอดไว้ทั้งขึ้นที่ตอนนี้รู้สึกตัวแล้วลุกมานั่งพิงเตียงเอาไว้ แม้จะมีผ้าห่มผืนใหญ่ปิดจนถึงไหล่บาง แต่รอยสีแดงจางๆ ตั้งคอลงมาก็เผลอทำให้คนมองอย่างแทยงกลืนน้ำลายเฮือก เพราะสภาพเตนล์ตอนนี้เหมือนลูกแมวน้อยที่เพิ่งตื่นพร้อมให้กระโจนเข้าไปฟัด แต่กลายเป็นลีแทยงเสียเองที่เลือกใช้น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยตัดรอนร่างเล็กบอบบางเสียเอง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเมาหนักมากเรื่องเมื่อคืนมันเป็นความผิดพลาดเพราะงั้น
ลืมมันซะเถอะนะเตนล์ ยังไงฉันก็ขอโทษด้วยแล้วกัน”
…เจ็บ...เจ็บยิ่งกว่าเมื่อคืนที่แทยงเผลอเรียกชื่อนูนาแสนสวยคนนั้นเสียอีก...
“ผมเป็นผู้ชาย
ไม่มีอะไรเสียหายเหมือนผู้หญิงหรอกพี่แทยง” เสียงใสราวไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ที่เปล่งออกจากร่างเล็กบอบบางที่พูดออกมาเหมือนไม่ใส่ใจมันทำให้แทยงโมโห ร่างแกร่งสะพัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะเดินโต้งๆ
เข้าห้องน้ำไปพร้อมกับปิดประตูดังปัง!!! ราวจะให้มันสะเทือนไปถึงหัวใจของเตนล์ที่นั่งอยู่บนเตียงที่ตอนนี้หัวใจมันได้แตกสลายไปหมดแล้ว
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูเสียงสติของแทยงกลับมาเมื่อคุณหมอยองโฮและพยาบาลเข้ามาในห้อง
“ขอหมอตรวจคุณแม่สักครู่นะครับ”
น้ำเสียงทุ้มๆ ฟังสบายๆ ที่แทยงฟังแล้วเหมือนอีกฝ่ายเป็นพี่ชายที่แสนใจดีเหมือนกับพี่แทอิลลีดเดอร์วงเลยทีเดียว
“น้ำเกลือกับยาบำรุงหมดขวดพอดี
เดียวจะถอดเข็มน้ำเกลือออก ตอนนี้ร่างกายคุณแม่ปกติดีแต่ถ้ามีอะไรผิดปกติกดกริ่งเรียกพยาบาลได้เลยนะครับ”
คุณหมอยองโฮเห็นสีหน้ายุ่งของไอดอลหนุ่มเลยเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาเสียเอง
“มีอะไรจะถามหมอรึเปล่า คุณแทยง”
“คุณหมอเรียกผม แค่แทยงก็พอครับ
ผมแค่สงสัยการอาเจียนนี่ผิดปกติไหม?
แล้วการที่กินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมดเลย”
“ไม่ผิดปกติหรอกครับ
นี่เป็นอาการปกติในสามเดือนแรกของคุณแม่ทั้งนั้น แล้วถ้าคุณแม่ทานอะไรก็อาเจียนออกมาหมด ลองหาพวกน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง น้ำส้ม
แครกเกอร์ หรือขนมปังกรอบ
มาให้คุณแม่ทานระหว่างมื้อใหญ่ๆ จะช่วยลดอาการพวกนี้ไปได้มากทีเดียว”
คุณหมอยองโฮยิ้มให้กับแทยงที่ตอนนี้ยกมือเกาแก้มแก้อาการเขินของตัวเอง
หมอบอกคุณแล้วคุณเตนล์...ว่าเด็กคนนี้จะนำสิ่งดี ๆ มาให้คุณ ดูท่าคนที่เป็นพ่อคงจะอยู่ใกล้ ๆ เสียด้วยสิ
“ขอบคุณมากครับคุณหมอที่ให้คำแนะนำ
เอ่อ..ผมจะดูแลเตนล์เป็นอย่างดี”
แทยงยืนส่งคุณหมอออกไปจากห้องแล้วกลับมานั่งมองว่าคุณแม่ตัวเล็กที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงมือแกร่งยกมือเล็กขึ้นมาจูบเบา
ๆ เค้าไม่ได้สังเกตเตนล์นานแค่ไหนนะหรือว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นที่เซียงไฮ้ ที่แทยงพยายามหลีกเลี่ยงร่างเล็กบอบบางตรงหน้าอย่างแนบเนียน จนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายผอมลงมากแค่ไหน
“ลูกครับ อย่าดื้อกับคุณแม่นะครับ
แค่นี่คุณแม่ก็ตัวเล็กจะแย่อยู่แล้วให้คุณแม่ทานอะไรบ้างนะครับ”
แทยงลุกขึ้นไปกระซิบที่หน้าท้องเนียน ก่อนจะจุมพิตลงไปเบาๆ ราวจะสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ
ในท้องของเตนล์ที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นมาทุกวัน
“ส่วนคุณแม่ถ้าตื่นขึ้นมา เรามีอะไรต้องคุยกันอีกเยอะเลยนะครับน้องเตนล์”
แทยงจูบที่หน้าผากมนของเตนล์พร้อมกับทรุดนั่งลงที่ข้างเตียงเช่นเดิม
ชายหนุ่มร่างโปร่งที่อยู่ในเสื้อฮู๊ดสีดำ มาร์สคาดปิดปากสีดำ แถมด้วยกางเกงยีนส์สีดำ สรุปว่าดำทั้งตัวที่ยืนเกาะกระจกห้องเด็กแรกเกิดอยู่นั้นเรียกความสนใจให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่แถวนั้นได้พอสมควร
“แทยง?”
ร่างโปร่งหันไปตามเสียงเรียกก่อนโค้งตัวทักทายคุณหมอยองโฮในเสื้อกาวน์สีขาวที่มายืนอยู่ข้าง
ๆ
“น่ารักน่าชังเชียวทารกที่เพิ่งเกิดใหม่ ว่างั้นไหมครับแทยง”
“แล้วเด็กที่อยู่ในตู้แยกออกมาละครับคุณหมอ” มือแกร่งชี้ไปยังตู้อบที่มีทารกนอนอยู่ในตู้โดยมีผ้าปิดตาพร้อมกับสายเล็กของเข็มเสียบที่ส้นเท้าเล็กที่นอนนิ่งอยู่ๆ
“แล้วแต่อาการของแต่ละคนครับ อย่างเด็กคนที่คุณชี้มีปัญหาคือแม่คลอดก่อนกำหนดหมอเป็นทำคลอดให้เองตอนนั้นอายุครรภ์ของแม่เด็กแค่
7 เดือนเท่านั้น
ตอนออกมาทีแรกหนักไม่ถึงมาตรฐานต้องอยู่ในตู้อบเกือบสองเดือน เดียวอีกพักคุณแม่ของน้องคงจะมาให้นมแล้ว คุณสนใจเข้าไปดูหมอตรวจเด็กๆ
ในห้องแรกเกิดไหม?”
แทยงผงกศีรษะรับคำชวนก่อนจะเดินตามคุณหมอยองโฮและคุณพยาบาลไปทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนชุดเข้าไปห้องแรกเกิด ในห้องนั้นแทยงได้เฝ้าดูคุณหมอยองและพี่ๆ
พยาบาลอาบน้ำให้เด็กทารก
ให้นมเด็กทารกในบางรายที่ตัวแม่เด็กเองไม่สามารถให้น้ำนมบุตรของตนเองได้
“ลองอุ้มดูหน่อยไหม? คะ” พี่พยาบาลประจำห้องหันมาไอดอลหนุ่ม
ก่อนจะส่งเด็กทารกที่อยู่ห่อผ้าสีขาวสะอาดให้ชายหนุ่มที่ยืนมือไปรับอย่างเก้ๆ
กัง ๆ
แทยงมือสั่นเล็กน้อยขณะที่อุ้มยิ่งกว่าการจับไมค์ขึ้นเวทีเดบิวท์ครั้งแรกของBassBot
ที่ตั้งต้องออกมาแร๊ปพร้อมแสดงโซโล่สเตจเปิดเวทีซะอีก พร้อมกับฟังคำแนะนำในการอุ้มเด็กที่ถูกต้องจากพยาบาล ตลอดเวลาครึ่งที่ชั่วโมงที่อยู่ในห้องนั้นแทยงบรรยายไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไง รู้เพียงแค่ตัวเองยิ้มแล้วยิ้มอีกตอนเห็นเด็กๆ
ในห้องนั้นดื่มนมหรือหัวเราะอ้อแอ้
นี่ใช่ไหมความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อ
ทำให้อดคิดไม่ได้หากลูกของเค้ากับเตนล์คลอดออกมาแล้วจะน่ารักน่ารักชังแค่ไหนก็คุณแม่มีใบหน้ารักขนาดนั้น
..ลูกของเค้ากับเตนล์...
มันทำหัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบขนาดแค่เพิ่งรู้ถึงตัวตนที่เพิ่งปฏิสนธิขึ้นมาแค่นี้ แทยงเองยังออกอาการขนาดนี้ ถ้าเด็กคลอดออกมาจะขนาดไหน
ยิ่งบรรยากาศภายในตึกของสูตินารีเวชที่จัดสวนในมุมนั่งเล่นได้ผ่อนโดยแต่ละมุมมีความแตกต่างแต่ผสานไปด้วยความลงตัว
เหมือนคนที่มานั่งพักผ่อนนั่งอยู่ในบรรยากาศที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจนแทยงอยากจะพาเตนล์กับลูกในท้องออกมาเดินเล่นรับบรรยากาศดีบ้าง ถ้าร่างกายอีกฝ่ายแข็งแรงขึ้นแล้วหลังที่เขามาเดินสำรวจดูพักใหญ่ๆ
ก่อนจะเจอคุณหมอยองโฮอีกครั้งที่เหมือนคุณหมอเพิ่งกราวน์วอร์ดเสร็จ
“มีอะไรกับหมอรึเปล่าแทยง”
คุณหมอยองโฮเอ่ยถามเมื่อเห็นไอดอลหนุ่มมีอาการอ้ำอึ้ง
“มาทำอะไรที่นี่แทยง” แทอิลที่เดินนำ สองผู้จัดการอย่างจุนมยอนและเซฮุน ออกมาจากลิฟท์ทักรุ่นน้องร่วมวงก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะตวัดมองคุณหมอเจ้าของไข้เตนล์ด้วยสายตาขุ่นเคือง สร้างความแปลกใจให้กับแทยงอยู่ไม่น้อย
“ผมกำลังจะชวนคุณหมอให้ช่วยเลือกแครกเกอร์กับน้ำผลไม้ให้เตนล์ครับพี่”
ยองโฮเป็นฝ่ายตัดบทขึ้นมาเสียเอง
เมื่อเห็นผู้จัดการวงอย่างจุนมยอนรั้งข้อมือแทอิลไว้เพราะเมื่อครู่เจ้าตัวใช้เสียงดังมากพอควร
“หมอว่าไปด้วยกันหมดเถอะครับ
จะได้ดูด้วยชนิดเหมาะกับคนท้องคราวหน้าเวลาไปซื้อเองจะได้ซื้อได้ถูกต้อง
เพราะของพวกนี้จะช่วยลดอาการอาเจียนได้ดีทีเดียว โดยให้คุณแม่ทานมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยลดอาการท้องว่าง”
แทอิลเดินตามหลังคุณหมอยองโฮที่เดินนำหน้าไปกับแทยง พร้อมกับอธิบายด้วยน้ำเสียงทุ้มชวนฟัง
“พี่นึกว่านายลืมเขาได้ตั้งนานแล้ว” แทอิลหันไปมองมือหนาที่วางอยู่บนบ่าก่อนจะถอนหายใจ
“.....................”
เซฮุนเอ่ยต่อเมื่อเห็นน้องชายคนสนิทนิ่งเงียบไป เพราะทั้งเซฮุนและจุนมยอนต่างเห็นแทอิลมาตั้งแต่เจ้ายังเป็นเด็กฝึก
ช่วงระยะเวลาที่ฝึกยาวนานกว่าคนอื่นรวมถึงคุณหมอยองโฮที่เดินนำหน้านั้นไปด้วย ที่เคยเป็นอดีตเด็กของค่ายก่อนที่เจ้าตัวจะลาออกไปเรียนต่อแพทย์ที่ชิคาโก้คงตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น
“อะไรที่ควรลืมก็ควรลืมมันไปเถอะแทอิล ผ่านมาหลายปีแล้วพวกนายทั้งคู่ล้วนต่างมีชีวิตเป็นของตนเองแล้ว”
“......................”
“พี่รู้ตั้งแต่นายขอจัดการเรื่องเตนล์เอง นายไม่เคยปล่อยวางเรื่องนี้ออกไปเลย” จุนมยอนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
ๆ
“ผมไม่อยากให้น้องสองคนต้องเป็นแบบผม
เด็กที่กำลังจะเกิดมาเค้าไม่ได้มีความผิดมาก..มากขนาดที่คนเป็นพ่อจะต้อง
“จัดการทิ้ง” เพื่อเพราะอนาคตบ้าบออะไรนั่น!!!!”
“แทอิล/แทอิล” เซฮุนและจุนมยอนครางชื่อลีดเดอร์ของวงออกมาอย่างตกใจก่อนที่ทั้งสองผู้จัดการจะหันไปมองรอบ
ๆ ว่ามีใครได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของแทอิลหรือไม่
ลีดเดอร์วง BassBotหลับตาลงก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาสบตากับพี่ผู้จัดการวงที่มองมาด้วยสายตาระคนเป็นห่วง
“ผมแยกแยะออกฮะ พวกพี่ไม่ต้องห่วงผมจะทำให้เสียงานยังไงฝ่ายนั้นก็เป็นหมอเจ้าของไข้เตนล์ แถมน้องๆในวงของเรายังจะติดไว้ใจมากกว่าเสียด้วย เหมือนพี่ชายที่แสนดีมากกว่าหมอเจ้าของไข้”
ในสภาพที่ร่างการอ่อนแอด้วยโรคภัยไข้เจ็บจะเป็นช่วงที่คนเราต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่าคนปกติ เตนล์ก็เช่นกันหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาไม่พบว่ามีใครอยู่ในห้องเลย
แขนเล็กก็โอบกอดตัวเองเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาที่ไหลออกจากดวงตากลมโตออกมาเรื่อยๆ
พลางคิดไปล่วงหน้าสมาชิกในวงรวมถึงผู้จัดการทั้งสองคนต้องรับไม่ได้ที่เค้ากำลังท้อง!!!!
ในขณะที่กำลังมีตารางอันยาวเหยียด ไหนจะต้องเตรียมตัวคัมแบค...บรรดาแฟนคลับอีก...แค่คิดเตนล์ทรมานไปทั้งใจแล้ว
ทำไงดี?
จะทำไงดี ถ้าแฟนคลับที่รักเตนล์ ชิตพลไม่ยอมรับ?
ทว่าไม่กี่วินาทีเตนล์ก็ต้องลุกพรวดขึ้นคว้ากระโถนที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาอาเจียน ที่มีแต่น้ำย่อยและน้ำลายเหนียวออกมา
“น้องเตนล์!!!!!”
แทยงที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเห็นร่างเล็กบอบบางนั่งสะอื้นอยู่บนเตียง
ทำให้รีบถลาเข้าไปจนลืมตัวโยนถุงแครกเกอร์กับน้ำผลไม้ที่ไปเลือกกับคุณหมอซอยองโฮทิ้งไปทันที
“ร้องไห้ทำไมเจ็บไหน?/พี่มายังได้ยังไง?”
สองเสียงที่พูดขึ้นมาพร้อมกัน
ดวงตาสองคู่มองสบกันก่อนจะเสหันไปมองคนละทาง
“ปวดท้องรึเปล่า ให้ตามคุณหมอยองโฮหรือพยาบาลไหม”
แทยงพูดพลางใช้มือหนาไล่คราบน้ำตาที่อยู่บนแก้มเนียนออกอย่างอ่อนโยน
“ฮื้ออออออ แทยง ลีแทยง
ไอ้พี่บ้า...ไอ้คนใจร้าย”
เมนแดนซ์ของBassBotดึงคอเสื้อของลีแทยงเข้ามาใกล้ก่อนใบหน้าเรียวหวานจะเงยหน้ามองใบหน้าคมเข้มที่ก้มลงมา ก่อนเสียงใสจะบ่นอู้อี้
“ผมต้องตาลาย คิดถึงพี่มากแน่
ๆ จนคิดว่าพี่แทยงมาอยู่ตรงหน้า”
“คราวนี้ตื่นเต็มตารึยังครับน้องเตนล์”
แทยงก้มลงมาจุมพิตเบาที่ริมฝีปากสีอ่อนเบาๆ ก่อนจะเลิกคิ้วมองร่างเล็กบอบบางที่อยู่ในอ้อมแขนงงๆ
“ปากพี่ ไปโดนใครทำอะไรมา แล้วทายารึยัง
ถ้าพี่จุนมยอนกับพี่เซฮุนมาเห็นพี่แทยงได้โดนบ่นไปสามวันแน่ๆ ลีแทยงนี่ได้ยินไหมปล่อยมือน้องเตนล์เดี๋ยวนี้นะ”
สรรพนามเดิม ๆ ที่เคยใช้เรียกกันเมื่อครั้งยังเป็นเด็กฝึก
นานแค่ไหนที่แทยงไม่ได้ยินคนตรงหน้าแทนตัวเองว่า...น้องเตนล์...
“อยู่นิ่งๆสักห้านาทีได้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงเตนล์มากอดไว้แน่นๆ
ก่อนที่แทยงจะซบลงที่ไหล่ลาดเล็ก
“ขอร้องเถอะแทยงปล่อยน้องเตนล์ไปเถอะนะ มันแค่ความผิดพลาด”
“ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยมือจากนาย..ชิตพล”
เตนล์ที่ยังมีน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาเรียวไม่ขาดสาย
“อย่าทำแบบนี้เลย ผมสัญญาเรื่องระหว่างเราจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่ขออย่างเดียวได้ไหมขอเก็บเด็กคนนี้ไว้ ส่วนเรื่องวงผมจะให้ทนายความมายกสัญญากับทางค่ายเอง”
“เตนล์
ขอร้องละอย่าพูดอะไรออกมาอีกเลยแค่นี้นายก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเลวเกินกว่าจะได้รับการอภัยจากนายและลูกในท้องแล้ว”
แทยงผละออกจากเตนล์ก่อนจะจ้องมองเข้าไปดวงตาเรียวคู่สวยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันไม่ขอให้นายอภัยกับการกระทำที่เห็นแก่ตัวของฉันกับสิ่งต่างๆ
ที่ผ่านมา
แต่อยากจะให้นายให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้มีโอกาสดูแลนายกับลูกในท้องในฐานะพ่อและสามี”
“ไม่นะ พี่แทยง..พี่ไม่ต้อง...”
เตนล์เอ่ยปฏิเสธทั้งที่ใจแสนจะดีใจที่อีกฝ่ายเป็นฝ่ายเอ่ยปากเรื่องนี้มาเอง
แต่จะให้คนที่เค้ามาดูแลด้วยจำยอมมากกว่าการทำด้วยความเต็มใจ สู้ไม่มีตั้งแต่แรกเสียดีกว่า
“นายรู้จักฉันดีนะเตนล์
ถ้าไม่เต็มใจจะทำอะไรฉันก็จะไม่ทำ
ทำไมไม่ให้โอกาสฉันสักครั้งไม่มีใครรู้อนาคตหรอกนะว่าความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนจะเป็นยังไง เราควรอาศัยโอกาสนี้หันมาศึกษาตัวตนของกันและกัน ได้โปรดให้โอกาสให้ลีแทยงคนนี้ดูแลพวกนายแม่ลูกด้วยเถอะ”
“พี่แทยง....”
ร่างเล็กบอบบางยกแขนขึ้นโอบคอร่างสูงพร้อมซบหน้าลงบนบ่าใหญ่ อย่างน้อยตอนนี้เตนล์ก็มีลีแทยงอยู่ข้างๆ
ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหนแต่ตอนนี้แค่อยู่ข้างๆ กันก็พอ
พระผู้เป็นเจ้าโปรดเมตตาน้องเตนล์ด้วยเถอะ
ขอให้ความสุขนี้อยู่กับลูกไปนานๆ ด้วยเถิด
++++++++++++++++++รบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดี หรือสครีมแท๊ก #อุ่นไอรักแทเตนล์
ด้วยนะเจ้าค่ะ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ รักทุกคนค่ะที่แวะมาอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น