[Mpreg]: อุ่นไอรัก : 010
Pairing : [TaeTen,Hanta ,Johneil,Jaedo] & SMROOKEIS
By winata [@WNzro07]
“ไม่เด็ดขาด
หัวเด็ดตีนขาดยังไงน้องเตนล์ก็ไม่ยอมใส่ชุดพวกนี้ ม๊ากับพี่เทราเอากลับไปเลยนะฮะ”
เสียงใสโวยวายดังลั่นห้องพักBassBot ปลุกสมาชิกคนอื่นๆ
ที่อยู่ในช่วงพักงานต่างตื่นขึ้นมา
หญิงสาวทั้งสองคนรวมถึงนากาโมโตะ
ยูตะ กำลังพยายามยัดเยียดสิ่งที่ถืออยู่ให้เตนล์เอาไปลองสวม
ชุดคลุมท้อง!!!!!!
เตนล์อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ
ไหนจะโมโหที่พักนี้ตื่นเช้ามาไม่เจอลีแทยงนอนอยู่ข้างกาย
แล้วยังมาเจอยูตะ คุณม๊าโซฮีกับพี่เทรา พี่สาวของแทยงที่ทั้งสองคนมาพูดกรอกหูเรื่องชุดคลุมท้องอีก
“น้องเตนล์จะไม่ห่วงหลานคะลูก ตอนนี้ท้องเราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นะ จะใส่กางเกงยีนขาเดฟรัดๆกับเสื้อยืดตัวใหญ่ม๊าไม่ไหวมั้ง”
โซฮีพยายามพูดอย่างใจเย็นกับลูกชายคนเดียว
“จริงๆ น้องเตนล์ไม่ต้องใส่พวกนี้ออกไปข้างนอกนี่น้า ก็แค่ใส่อยู่ในบ้านเท่านั้นเองจะได้สบายท้องไงจ้ะ”
เทราเสริมมาอีกคน
ร่างบางที่ได้ยินก็ทำปากยื่นบ่งบอกว่าไม่พอใจแถมด้วยแก้มใสที่พองลมที่ดูแล้วน่ารักน่าหยิกมากๆ
“นี่เตนล์ ฉันแอบไปจิกของพี่สไตล์ลิสของสาวๆ
ขนมเค้กมาให้นายด้วยนะจะได้เอาไว้ใส่ไปหาหมอ” ยูตะหยิบวิกผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มที่ดัดเป็นลอนๆให้เพื่อนดู
“นากาโมโตะ ยูตะ นายเห็นฉันเป็นตุ๊กตาบาร์บี้รึไง ถึงได้ขนอะไรแบบนี้มาให้ฉันแต่ง...ห๊า!”
“ชิตพล....”
ยูตะที่เริ่มชักจะโมโหกับเพื่อนรักขึ้นมาบ้างเหมือนกัน นั่นนี่โน้นก็ไม่เอาทั้งที่รับปากกับแทยงแล้วว่าจะคอยดูแลให้ช่วงเวลาที่อีกฝ่ายไปจัดการธุระส่วนตัว
“งั้นของพวกนี้ก็เอาไปทิ้งเถอะครับคุณแม่ พี่เทรา
ในเมื่อคนเป็นแม่ไม่คิดจะสนใจห่วงใยลูกในท้องจะอึดอัดตายเพราะแม่มัวแต่ใส่กางเกงรัดหน้าท้องไว้”
ยูตะพูดเสร็จก็สะบัดหน้าเชิดเดินลงส้นเท้าเข้าห้องนอนตัวเองไป
ปัง!!!!!! เสียงปิดประตูห้องของยูตะที่ปลุกให้คนอื่นๆ
ตื่นได้เต็มตาเลยทีเดียวโดยเฉพาะแจฮยอนที่เป็นรูมเมทของหนุ่มหน้าหวานเสียงดีเต้นเก่งจากโอซาก้า
“ม๊ารู้ว่าน้องเตนล์เป็นผู้ชาย
จะให้มาใส่อะไรแบบนี้คงลำบากใจไม่น้อย
แต่ตอนนี้น้องเตนล์ไม่เหมือนเดิมแล้วนะคะ
การเป็นแม่คนเราต้องเสียสละอะไรตั้งมากมายเพื่อลูกในท้องที่จะเกิดมา”
“.......................”
ตอนนี้ชเวโซฮีและลีเทรานั่งประกบเตนล์ไว้ก่อนจะค่อยๆ
อธิบายให้ร่างบางเข้าใจ
“มีหลายๆ อย่างที่คุณแม่ต้องเสียสละ
อย่างตอนที่พี่ท้อง แดเนียลกับเคธี่
พี่ไม่เคยคิดถึงตัวเองก่อนเลยสักนิด
ไม่ว่าจะเรื่องกินปกติพี่ไม่กินนมด้วยซ้ำไปปกติกินแต่กาแฟ
พี่ต้องกินอะไรที่มันมีประโยชน์ต่อลูกในท้อง
เพื่อลูกที่อยู่ในท้องจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
ดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงพอลูกคลอดแล้วจะได้มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์”
“นะ..น้องเตนล์...”
“อ้าว แทยงมาพอดีเลย พี่กับคุณน้าโซฮีว่าจะกลับพอดี” ลีเทราเอ่ยทักทายน้องชายที่ยืนพิงประตูห้องนั่งเล่น
“ม๊าไปนะคะน้องเตนล์
ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยคนเก่ง
คุณป๋าก็คิดถึงเรานะไว้ว่างแล้วกลับบ้านบ้างนะลูก” ชเวโซฮีบอกลูกชาย ก่อนจะขอตัวกลับไปพร้อมกับเทราที่วันนี้ทั้งคู่ต่างก็ทำให้เตนล์ใส่ชุดคลุมท้องไม่ได้อีกเช่นเคยซึ่งทั้งคู่พยายามมาเกือบอาทิตย์แล้ว
“เตนล์”
“...”
“ทำไมต้องคิดไรมาก
ทุกคนทำก็เพราะห่วงนายกับแฝดที่อยู่ในท้อง”
แทยงบอกพร้อมกับหยิบวิกผมที่ยูตะโยนลงบนขึ้นมาสะบัดก่อนจะค่อยๆ นำมาสวมที่ศีรษะกลมๆ
ของเตนล์
“ดูดีออก ผมสีน้ำตาลดัดนิดๆ
ขับผิวขาวนายดี ยูตะนี่ตาแหลมใช้ได้ เข้าใจซื้อ”
“จริงเหรอ
ยูตะแอบขโมยมาจากโคดี้นูนาต่างหากเล่า” เสียงใสเอ่ยขึ้นมาแผ่วๆ
เตนล์เองก็อายนะจะให้ลุกขึ้นมาแต่งหน้าใส่วิกใส่ชุดคลุมท้องแบบนี้
“น้องเตนล์ไม่เชื่อสายตาของพี่เหรอ
เราเอานี่ไปลองใส่ออกมา จะได้ดูด้วยกันเลยจะได้รู้กันไปว่าแต่งครบแบบนี้จะออกมาดูดีขนาดไหน”
แทยงหยิบชุดเอี๊ยมผ้ายืดกางเกงขาสามส่วนสีเหลืองอ่อนซึ่งน่าจะทำให้ว่าที่คุณแม่สะดวกใจมากกว่าชุดอื่นๆ
ที่ออกแนวคลุมท้องและสีสันไม่หวือหวาเหมือนของผู้หญิงเท่าใดนัก
เงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ทำให้เตนล์อดจะเขินไม่ได้ ดวงตาเรียวสวยก้มลงมองชุดที่ตัวเองสวม ไหนจะจะวิกผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนที่ตอนนี้ช่วยขับให้ใบหน้าผ่องขึ้นมากว่าเดิม
รวมถึงชุดเอี๊ยมสีเหลืองอ่อนที่ใส่คู่กับเสื้อยืดขาว มันส่งให้เตนล์เหมือนเด็กสาวๆ
ที่เจ้าเนื้อมากกว่าคนท้องที่จะมีอายุครรภ์สี่เดือน
ร่างบางถอนหายใจอดจะยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองสวยและน่ารัก
“ก็บอกแล้วว่าใส่ออกมาแล้วดูดี
เดี๋ยวพี่ไปตั้งโต๊ะก่อนจะได้ทานเที่ยงกัน
ฝากน้องเตนล์ไปเรียกยูตะกับคนอื่นๆ มากินข้าวหน่อยนะ”
“พี่ฮะ....วิกนี้ใส่เฉพาะตอนออกไปหาหมอน้า แค่นี้ก็เขินจะแย่ละ” เตนล์รีบบอกก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องนอนของยูตะ กับแจฮยอน
ร่างบางเองก็รู้หรอกว่าแทยงอยากให้เขาไปง้อยูตะ ที่เมื่อกี้ขึ้นเสียงพร้อมกับทำกิริยาไม่ดีใส่เพื่อนสนิททั้งที่ฝ่ายนั้นห่วงใยเค้ามาก
“ยูตะอา ออกมากินข้าวกันเถอะ”
“ไม่ฉันไม่หิว” เสียงยูตะตะโกนออกมาทำให้เตนล์หน้าเบ้
...งื้อ...พี่ฮันซลก็ไปฟิสเนสชั้นยังไม่กลับมาแล้วเขาจะง้อเจ้าเพื่อนบ้ายังไงดี
“ถ้ายูตะ
ออกมากินข้าวแถมหายงอนนะ
อยากให้น้องเตนล์ใส่ชุดไหนจะยอมใส่ให้ดูทุกชุดเลยก็ได้นะ”
เท่านั้นละประตูห้องของยูตะแทบจะเปิดออกมาในทันทีแถมด้วยในมือของนากาโมโตะ ยูตะ
มีถุงเสื้อผ้าชุดคลุมท้องแบรนด์ดังอีกสองสามถุง เตนล์ได้แต่แอบกลืนน้ำตาลถึงจะยังไม่เปิดถุงดูแต่ชุดสีชมพูหวานในถุงนั้นลายฮัลโลคิตตี้ชัด
ๆ
“นายพูดเองนะเพื่อนรักว่าจะใส่ให้ดู”
ร่างบางเดินไปเดินพร้อมกับเสียงปื๊บๆ
ของสลิปเปอร์สีเหลืองหัวเป็ด
ที่จะส่งเสียงทุกครั้งที่เตนล์เดินไปเดินมา ดวงตาเรียวสวยหันไปมองนาฬิกาที่ติดไว้ข้างฝาห้องนั่งเล่นเกือบจะทุกๆ
ห้านาที
ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงราวกับจะสกัดกั้นอารมณ์โมโหของตนเองที่ดูเหมือนจะมากขึ้นตามเข็มนาฬิกาที่หมุนไป
“พี่เตนล์
ไปนอนก่อนดีไหมพี่ คืนนี้พี่แทยงคงกลับดึกเหมือนเดิม”
แจฮยอนบอกพร้อมกับหาววอดๆ
เพราะคืนนี้เค้าอาสาอยู่เป็นเพื่อนพี่ชายร่างเล็กที่ยืนกรานคืนนี้จะต้องรอเจอแร๊ปเปอร์ของวงให้ได้ ที่ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาทำตัวลับๆ
ล่อๆ ชอบหายไปตอนเช้ามืดแล้วกลับมาห้องพักตอนสาย
ๆ ก่อนที่ช่วงเย็นๆ
จะออกไปใหม่และกว่าจะกลับเข้ามาอีกทีก็เกือบเที่ยงคืน
คำตอบที่แทยงยกมาอ้างทุกครั้งที่ร่างบางถาม
“ฉันต้องเข้าไปเคลียร์งานที่ค่ายนะ
ไม่มีอะไรมากหรอก” แต่แร๊ปเปอร์หนุ่มคงไม่รู้ว่าจุนมยอนที่แวะเข้ามาเยี่ยมเตนล์ในวันที่ออกจากบ้านไปเวลาเดิมๆ
“ไม่มีงานไรนะ
ช่วงนี้ผู้ใหญ่ให้พวกนายพักผ่อน
กะว่าวีคหน้าโชอากลับมาจากถ่ายแบบค่อยจะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ”
ลีแทยงโกหก!!!!!!
พฤติกรรมที่เหมือนมีความลับของร่างสูงทำให้เตนล์รู้สึกเสียใจ
โทรศัพท์มือถือที่ร่างบางจ้องแล้วจ้องอีกให้ใครคนนั้นโทรกลับมาหา
หลังจากวันนี้หมั่นโทรไปแค่ไหนก็ติดต่อไม่ได้
เสียงเรียกเข้าพร้อมกับรูปที่โชว์หน้าจอทำให้รู้ว่าคุณโซฮี..คุณม๊าคนสวยของเตนล์เองที่เป็นคนโทรมาหา
“ฮัลโหล น้องเตนล์คะ ลูกรีบมาพาแทยงกลับหอพักด่วนเลยนะ ตอนนี้ทะเลาะกับคุณพ่อใหญ่แล้วค่ะ” เพราะความรีบร้อนในการรับสายทำให้ร่างบางเผลอกดสปีกเกอร์โฟนทำให้สมาชิกคนอื่นๆ
ที่ยังไม่ได้นอนได้ยินไปด้วย
“เดี๋ยวฉันขับรถเอง” ฮันซลที่ตอนแรกเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อไปหยิบโค้กมาดื่มบอกก่อนจะไปหยิบกุญแจรถยนต์และกระเป๋าตังค์ พ่วงมาด้วยยูตะที่เดินตามออกมา เหลือไว้แค่แจฮยอนที่นอนหลับคาตักของโดยองไปแล้วให้เฝ้าห้องพัก
ชายสูงวัยมองรอดผ่านผ้าม่านออกไปมองชายหนุ่มรุ่นลูกที่คุกเข่าอยู่หน้าบ้านชเวมานานกว่าสามชั่วโมงด้วยความหมั่นไส้ พร้อมกับจิปากแบบไม่สบอารมณ์เล็กน้อยที่เห็นเลือดจางๆ
ที่คิ้วของชายหนุ่มที่ยังไหลออกมาอยู่นิดหน่อย
“คุณคะ
นี่มันไม่แรงไปหน่อยเหรอ” คุณโซฮีถามขึ้นทั้งที่ใจก็สงสารว่าที่น้องเขยที่คุกเข่าอยู่หน้าบ้านชเวเป็นเวลานานแล้ว
“แค่นี่มันยังน้อยไป
ตอบมาได้ไง ยังไม่คิดจะแต่งงานกับน้องเตนล์ ลูกผมตั้งแต่เล็กจนโตเคยทำให้เสียใจหรือร้องไห้ก็ไม่เคยซะละ
แล้วไอ้หมอนั่นมันเป็นใครมาทำลูกเราเสียน้ำตาแล้วเสียอีกไม่นับลูกในท้องอีก แบบนี้มันน่าฟาดให้ปากแตกมากกว่า”
ชเวซีวอนพูดแบบฉุนๆ
แม้จะทำใจพยายามยอมรับในความสัมพันธ์ที่มันไกลเกินหยุดยั้งของเตนล์และแทยงได้แล้ว และยิ่งชอบใจที่แทยงกล้าเดินเข้ามาหาพร้อมสารภาพทุกอย่างด้วยตนเอง
แถมด้วยการที่ครอบครัวบ้านลียอมรับว่าเตนล์คือลูกสะใภ้ มันทำให้ซีวอนมองชายหนุ่มที่คุกเข่าอยู่หน้าบ้านด้วยสายตาที่ดีขึ้น
หลังจากแกล้งให้ช่วยงานในร้านอาหารอิตาเลี่ยนระดับมิชลินสตาร์ที่คุณชเวโซฮีหุ้นเปิดกับเพื่อนชาวต่างชาติ ตั้งแต่ตื่นไปจ่ายตลาดกับพ่อครัวของร้านแต่เช้ามืด
ไหนจะให้ช่วยเก็บร้านหลังเลิกร้านตอนกลางคืน
รวมไปถึงการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้านนอกจากนั้นแทยงยังต้องไปช่วยคุณซีวอนดูงานที่ร้านเพชรด้วย กิจการเก่าแก่ของบ้านชเวคือการออกแบบเครื่องประดับเพชรเป็นหลัก
ทุกอย่างกำลังดีขึ้นแต่ลีแทยงมาตกม้าตายตอนที่ซีวอนถามขึ้นมา
“เธอคิดจะแต่งงานกับน้องเตนล์ตอนไหน”
“ผมไม่คิดที่จะแต่งงานกับน้องเตนล์ครับ...”
เกินกว่าจะคาดคิดซีวอนก็คว้าแจกันดอกไม้ใกล้มือขว้างใส่แทยงโดยที่ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบไม่ทันเลยได้แผลแตกที่หัวคิ้วมา
“แกออกไปจากบ้านฉันเดียวนี้เลย
เสียแรงที่ฉันคิดว่าแกจะเป็นคนดีกว่านี้ลีแทยยง ส่วนน้องเตนล์กับลูกในท้องเดี๋ยวฉันจะเอามาเลี้ยงดูเอง เชื่อเถอะมีอีกใคร ๆ
คนที่อยากจะเป็นพ่อของหลานฉัน”
ก่อนจะให้คนใช้ในบ้านมาลากแทยงที่กำลังมึนงงเพราะโดนแจกันเข้าไปที่หัวเต็ม
ๆ ออกไปนอกบ้าน
“ดะ..เดี๋ยวครับคุณพ่อ
คุณพ่อเข้าใจผมผิดนะครับไม่ใช่ว่าผมไม่อยากแต่งกับน้อง...”
“ใครเป็นพ่อนายห๊ะ..ลีแทยง ฉันชเวซีวอนมีลูกชายแค่คนเดียวคือน้องเตนล์”
“กรุณาด้วยครับ ให้ผมดูแลน้องต่อ คุณพ่ออย่าพรากพ่อแม่ลูกจากกันเลย” แทยงที่เห็นสีหน้าบึ้งตึงของว่าที่พ่อตา ทำให้ความดีที่เค้ากำลังทำเพื่อพิชิตใจอีกฝ่ายตลอดเวลาหลายอาทิตย์ต้องสูญหายไปเพราะคำตอบประโยคเดียวแท้ๆ
แม้จะปลายเดือนมีนาคมแต่อากาศตอนกลางคืนของโซลยังคงมีอากาศเย็นแทบจะติดลบอยู่ ตอนนี้ร่างสูงที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าบ้านชเวที่มีเพียงแค่เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนขายาว ส่วนผ้าพันคอและเสื้อโค้ทที่ใส่ออกมาจากหอพักยังอยู่ในบ้านที่เค้าเพิ่งถูกไล่ออกมาเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว
“พี่ฮะ...”
เตนล์ที่เปิดประตูรถลงมาแทบจะทันทีหลังจากที่ฮันซลจอดรถ!!!!!
ร่างบางถลาเข้าไปกอดแทยงไว้
ก่อนจะถอดผ้าคอของตัวเองพันให้ชายหนุ่มที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวและเนื้อตัวเย็นชืด
“ไม่ต้องถอดเสื้อนะ พี่ไม่เป็นไรหรอกน้องเตนล์” ร่างสูงห้ามทันทีเมื่อเห็นเตนล์กำลังจะถอดเสื้อโค้ทออกมาให้เค้าสวม
“เจ็บมากไหม” ถามเสียงสั่นๆ ขณะที่มือบางกำลังลูบแผลที่หัวคิ้วของแทยงเบาๆ
“สภาพดูไม่จืดเลยวะเพื่อน” ฮันซลที่ลงจากรถมาพร้อมกับยูตะเอาเสื้อโค้ทของตัวเองที่มีทิ้งๆ
ไว้ในรถมาคลุมให้แทยง
“พ่อตานายโหดได้เลือดจริงๆ” แม้จะตึงเครียดแต่ยูตะก็อยากจะให้แทยงกับเตนล์ผ่อนคลายสักนิด
“น้องเตนล์” คุณซีวอนเปิดประตูบ้านออกมาพร้อมกับเรียกชื่อลูกชายเสียงดัง
“ป๋า”
“มาหาป๋าเดี๋ยวนี้!!!!!”
“ขอร้องละครับคุณพ่อ
อย่าพรากพวกเราพ่อแม่ลูกเลย”
แทยงลุกขึ้นยืนก่อนจะกันตัวเตนล์ไว้ด้านหลังของตนเอง
ทั้งที่ตอนนี้เค้าปวดหัวไปหมดมองอะไรก็พล่าเลือนไปหมด
“ฉันมีลูกอยู่คนเดียวเท่านั้น
ไหนเมื่อแกไม่คิดจะรับผิดชอบเตนล์แล้วจะเก็บลูกฉันไว้ทำไม”
“ผะ...ผมไม่ได้คิดแบบนั้น
แค่ผมจะบอกคุณพ่อว่า..ผมอยากให้ลูกของผมกับน้องเตนล์คลอดก่อนแล้วค่อยแต่งงานกัน
คะ..แค่อยากให้ลูกได้อยู่ร่วมในงานแต่งงานของเราสองคน”
ร่างสูงที่ตอนนี้หมดสติลงไปแล้วโชคดีที่ฮันซลกับยูตะที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ รับไว้ทันก่อนที่แทยงจะล้มลงมาทับเตนล์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ว้า....ไม่สนุกเลยเล่นกับเจ้าลูกเขย
น็อคคายกไปแล้ว”
จบคำซีวอนก็หัวเราะด้วยความสะใจที่ได้สั่งสอนลูกเขยที่ตอนนี้สลบไปด้วยด้วยพิษไข้ได้
“คุณป๋า...ทำไมทำแบบนี้
เล่นแรงไปแล้วนะฮะ”
เตนล์ที่โดนพ่อดึงเข้ามากอด
ก่อนที่ซีวอนจะมองสำรวจร่างของลูกชายที่ดูมีน้ำมีนวลและหน้าท้องใหญ่ขึ้นมาก
“ก็ป๋าบอกน้องเตนล์แล้วนะครับ
ใครจะเป็นเขยบ้านนี้มันต้องอึด..ถึกทนทานและตายยาก”
“คืนนี้ค้างกับป๋าแล้วก็ม๊าที่บ้านดีกว่านะลูก ส่วนเจ้าลูกเขยก็ให้ยูตะกับฮันซลพากลับหอพักไป”
บอกพร้อมกับจูงแขนร่างบางเตรียมจะเข้าบ้านเพราะอากาศข้างนอกหนาวขึ้นเรื่อยๆ
“ป๋าฮะ...น้องเตนล์...” น้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่กำลังคลอเบ้าตาของลูกชายมันทำให้รู้ว่าตอนนี้ซีวอนได้เสียเตนล์ไปเป็นคนของบ้านลีเต็มตัวแล้ว ถึงทั้งคู่จะยังไม่เข้าพิธีแต่งงานกันก็เถอะ!!!!
“ไป...กลับไปกันให้หมดเลยก็ได้”
“ขอบคุณฮะป๋า เดี๋ยวน้องเตนล์จะพาพี่แทยงมาไหว้ป๋ากับม๊าใหม่วันหลัง”
เตนล์พูดอ้อนคนเป็นพ่อพร้อมหอมแก้มคุณซีวอนเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปที่รถยนต์ที่ฮันซลกับยูตะพยุงแทยงขึ้นรถไปก่อนแล้ว
ซีวอนเห็นหลังกลับมาเจอภรรยาคนสวยที่ยืนยิ้มกว้างๆ ให้
“นี่โซฮีดูลูกคุณนะ ไม่ทันไรก็เห็นสามีดีกว่าพ่อ”
แสงสว่างที่แยงตาทำให้ชายหนุ่มร่างสูงพลิกตัวหนีแต่ทันที่พลิกตัวความเมื่อยล้าก็แล่นขึ้นมาแทบจะทั่วทั้งร่างรวมถึง เหนือกระบอกตาที่ตอนนี้ปวดตุบๆตุบ
“พี่ฮะ ตื่นแล้วเหรอ” เตนล์ที่นั่งเฝ้าอยู่พูดด้วยความดีใจหลังจากเห็นเปลือกตาของร่างสูงเปิดขึ้นพร้อมกระพริบ
“เป็นไงบ้าง รู้ตัวไหมฮะไปสลบไปคืนกับวันหนึ่งเต็มๆ
เชียวนะ อากาศหนาวขนาดนั้นดูสิพี่ยังไปนั่งตากน้ำค้างหลายชั่วโมงแบบนั้นอีก ดีนะไม่เป็นอะไรมากแค่เป็นไข้ แผลที่หัวคิ้วก็ไม่ลึกมากจนต้องเย็บ” ลีแทยงนอนยิ้มมองคุณแม่ที่ท้องสี่เดือนบ่นไปจนไม่มีจังหวะให้เค้าได้พูดแทรก ในขณะมือบางก็ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ
มาเช็ดตัวให้
“ปวดหัวเหรอฮะ? หรือพี่อยากได้อะไร”
เตนล์เลิกคิ้วได้รูปถามคนที่นอนส่งยิ้มมาให้
ก่อนจะก้มลงมองมือแกร่งที่เอื้อมมาดึงมือเค้าไปกุมไว้
“อยากให้ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอน้องเตนล์ทุกๆ เช้าเลย”
“...........................”
“จูบพี่ทีสิน้องเตนล์”
เตนล์เสหน้าไปมองที่อื่นที่ไม่ใช่คนที่ส่งยิ้มหล่อแบบกระชากใจมากให้
“เช้าที่ไหน นี่มันบ่ายแก่ๆ
แล้วต่างหาก ไม่เป็นไรก็ดีแล้วลุกไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวจะได้กินข้าวกินยา” บอกเสร็จก็ลุกเดินออกไปจากห้องนอนทันทีปล่อยให้คุณพ่อมองตามด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
ร่างสูงที่แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขายาวเนื้อนิ่มสีน้ำเงิน
เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูพื้นเล็กที่ใช้ซับน้ำจากเส้นผม ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆหอพักด้วยความสงสัย เพราะวันนี้มันเงียบผิดปกติ
ปื๊บ….ปื๊บ….ปื๊บ….ปื๊บ
เสียงดังมาจากห้องครัวทุกอย่างก้าวที่เตนล์เดินเรียกความสนใจให้แทยงเป็นอย่างมากกว่าจะมองหาสมาชิกคนอื่นๆ
ของวง
“ทำอะไรอยู่”
“พี่ฮะ” เตนล์หันไปทางคนมาใหม่ก่อนจะที่จะรีบบอก
“น้องเตนล์หิวอะ แต่ไม่มีขนมเหลืออยู่เลยแจฮยอนกินของน้องหมดเลย จะฝากยูตะหรือคนอื่นซื้อคืนนี้ก็ไม่มีใครกลับมาหอสักคน”
“รู้สึกแป้งดิบของโฮต็อกที่เราไปกินกันที่ตลาดจะมีอยู่ เดี๋ยวพี่ทอดให้เอง”
หลังจากเดินเอาผ้าขนหนูไปตามแล้วก็รีบตรงดิ่งมาจัดการตั้งกระทะร้อนทอดแป้งโฮต็อกของเจ้าอร่อยที่ซื้อติดมือมาทิ้งไว้ ทอดให้คุณแม่ที่จ้องแทบจะทุกขั้น
“อีกนิดก็จะสุกแล้ว”
โครก!!!!
เสียงขานรับจากท้องคุณแม่เรียกเสียงหัวเราะของคุณพ่อที่กำลังตักโฮต็อกออกจากกระทะได้ทันที
แค่ฟังจากเสียงสงสัยลูกแฝดจะหิวจริงๆ
ก็เสียงออกจะดังขนาดนั้น
เตนล์หลับตาพริ้มแบบมีความสุขหลังจากที่ได้กัดขนมโฮต็อกเข้าไปคำแรกพร้อมกับจิบนมอุ่นๆ
ที่แทยงรินใส่แก้วมาให้
“เกือบลืมนะ พี่มีอะไรมาฝากเราด้วยนะ”
ร่างบางมองตามหลังคนที่เดินหายไปทางห้องนอนของพวกเค้าและกลับออกมาพร้อมกับถุงกระดาษใบเล็กๆ
หนึ่งใบ
“เปิดดูสิ”
มือบางรับถุงมาเปิดดูก่อนจะอมยิ้มกับพ่วงกุญแจดินญี่ปุ่นน่ารักๆ แถมมีกระพรวนที่ดังกรุ้งกริ่งยิ่งทำให้เตนล์ยิ้มกว้างมากขึ้นเท่านั้น
“น่ารักใช่ไหม? ตอนเห็นพี่คิดถึงน้องเตนล์ทันทีเลยนะ”
จากยิ้มกว้างตอนนี้คุณแม่กลายเป็นพองลมไว้ที่แก้มแล้ว
“แล้วงั้นถ้าเห็นเจ้าแมวอ้วนนี่ต้องคิดถึงพี่รึไง พี่เจตนาว่าน้องเตนล์อ้วนรึเปล่าเนี้ย”
เตนล์พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ
แต่มือบางก็หยิบพวงกุญแจทั้งสองมาดูอยู่ดีโดยเฉพาะแมวสีขาวที่ตัวอวบที่มีตัวอักษรเล็กๆที่อุ้งเท้าเป็นตัวเลข
10
“เราแบ่งกันคนละตัวถือว่าเป็นของคู่ชิ้นแรกที่เราใช้ด้วยกัน”
ก่อนที่แทยงจะเดินไปหยิบเป้สะพายหลังใบเก่งที่เตนล์ใช้อยู่บ่อยๆ มาจัดการห้อยพวงกุญแจแมวสีขาวให้ จากนั้นก็หันมาเอาอันมาห้องที่กระเป๋าตัวเองบ้าง
“ทำไมพี่น่ารักแบบนี้”
“งั้นขอรางวัลที่คุณพ่อน่ารักและทำให้คุณแม่ปลื้มด้วย”
แทยงย่อตัวลงมาให้เสมอกับเตนล์ที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเคาะที่แก้มตัวเอง
“ขอบคุณฮะ สำหรับทุกอย่าง”
เตนล์ยิ้มหวานให้ก่อนที่จะโน้มปลายจมูกไปแตะที่แก้มของแทยง กิริยาเขินอายของเตนล์ทำให้ร่างสูงทนไม่ไหวรั้งให้ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมารับจูบที่ลึกซึ้ง ซึ่งร่างบางก็ตอบรับสัมผัสด้วยความเต็มใจ
ปลายลิ้นเล็กที่ตวัดหยอกเย้าเรียกร้องสัมผัสที่มากขึ้นกว่านี้ทำให้แทยงต้องจำใจผละออกมา
“มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ไม่งั้นน้องเตนล์จะแย่”
“พี่ไม่อยากจะกอดน้องเตนล์เหรอฮะ
เหมือนที่น้องเตนล์อยากให้พี่กอดอา~~”
“พี่กอดเราได้จริงๆ เหรอ?”
ดวงตาเรียวช้อนตาขึ้นมามองพร้อมกับใบหน้าเนียนที่แดงระเรื่อ มือบางที่เอื้อมไปกอดแทยงก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ตอนนี้สั่นกว่าครั้งแรก
“ถ้าพี่ไม่รุนแรงก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
แค่ไม่ทับท้องก็พอ คะ..คือน้องเตนล์เคยปรึกษาพี่หมอยองโฮด้วยนะเรื่องนี้”
แทยงยิ้มจนแก้มจะแตกเพราะไม่คิดว่าเตนล์จะน่ารักขนาดนี้จนอดที่แกล้งไม่ได้
“แล้วคุณหมอบอกว่าไงอีกบ้างล่ะ”
“พี่หมอก็บอกว่าห้ามคุณพ่อกดทับท้อง
แล้วก็ให้ทำท่าโก่งโค้งได้
นอกจากนั้นก็ควรให้คุณแม่อยู่ด้านบน
แล้วก็.......”
เตนล์หยุดพูดเพราะรู้แล้วว่าตัวเองโดยร่างสูงแกล้งก็แววตาวิบวับปนเจ้าเล่ห์
“พี่อา~~~
รู้แล้วยังแกล้งให้น้องเตนล์พูด” สะบัดหน้าหนีด้วยความงอน
“น้องเตนล์~~”
แทยงเป่าลมอุ่นๆ
รดใบหูขาวที่ขึ้นสีก่อนจะขบเม้มติ่งหูเล็กให้ร่างบางสะดุ้งเล่น
“อะไรเหรอฮะพี่~~” เตนล์ขนลุกซู่เมื่อร่างสูงเลื่อนริมฝีปากมาซุกไซ้ที่ซอกคอพร้อมกับทิ้งรอบสีจางๆ
ทุกที่ที่ริมฝีปากร้อนลากผ่าน
“ดะ..เดี๋ยวก่อนเราอยู่ห้องนั่งเล่นนะ” มือบางที่จับมือแกร่งที่กำลังจะเลิกเสื้อยืดออกจากตัวเค้า
“งั้นเราไปห้องนอนกัน” พร้อมกับที่แทยงช้อนร่างของเตนล์ขึ้นมาก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองกับคนในอ้อมแขนและปิดประตูกดล็อคอย่างเรียบร้อย
“ยังเปลี่ยนใจได้นะถ้าไม่อยากให้กอด
แต่ถ้าเสื้อผ้าหลุดออกจากตัวหมดเมื่อไหร่คราวนี้จะห้ามยังไงก็ไม่ได้แล้วนะน้องเตนล์” แทยงพูดด้วยเสียงสั่นๆ
ขณะที่ริมฝีปากได้รูปก็กดจูบริมฝีปากบางที่เผยอค้างอยู่
คงตกใจไม่น้อยที่เค้าจัดการเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่างอย่างรวดเร็ว
“พี่ฮะ อื้อ~~” ใบหน้าใสเริดขึ้นไปทางด้านหลังเอนตัวลงบนที่นอนหนานุ่ม
ร่างสูงค่อยๆ ก้มลงๆไปดูดกลืนตุ่มเล็กสีหวานที่เด่นชัดบนผิวขาวของเตนล์ ฟันซี่เล็กขบกัดเบาๆ ลากลิ้นอุ่นๆ
ดูดกลืนสร้างเสียงครางแผ่วๆ
เตนล์กำมือเข้าหากันแน่น
พยายามห้ามเสียงครางของตัวเอง
ตอนนี้ในหัวสมองขาวโพลนและภาพร่างสูงที่ขึ้นคร่อมอยู่พร่ามัว มีเพียงแค่ร่างเปลือยเปล่าของแทยงตรงหน้าที่เด่นชัดที่สุด
“อื้อ~~”
ครางออกเมื่อชุดนอนแบบสวมถูกถอดออกพ้นตัวไป
ฝ่ามือแกร่งบีบเคล้นนวดคลึงต้นขาเนียนนุ่มราวกับก้อนแป้ง
ริมฝีปากร้อนผละออกมาจากยอดอกสีสวย..ไล่จูบตั้งแต่หัวเข่าคู่เล็กลากไล้จนถึงปลีน่องขาว เตนล์ตัวเกร็งเมื่อรับสัมผัสร้อนชวนวาบหวิว จนเกือบจุดอ่อนไหวที่เริ่มปวดหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ฮะ อื้อ~~อย่าทับท้อง”
“อืมมมม ไม่ทับหรอกพี่จะทำค่อยๆ”
แทยงกระซิบที่ข้างใบหูเล็กก่อนจะค่อยช้อนตัวอุ้มเตนล์ให้ขึ้นมานั่งซ้อนตักแกร่งที่ตอนนี้นั่งอยู่บนที่นอน
“ผ่อนคลายหน่อยนะ”
“อ๊า~~~....”
เตนล์ส่งเสียงครางเบาๆ ขณะค่อยๆ กดตัวต่ำลงไปกลืนกินส่วนหน้าของร่างสูงทีละน้อยๆ
ร่างบางจิกเล็บลงบนไหล่หนาของแทยง
ดวงตาเรียวส่องประกายยั่วยวนขณะกำลังกดร่างกายลงไปให้ลึกที่สุดสอดรับความอบอุ่นเบื้องล่าง
ริมฝีปากบางแดงช้ำจากการถูกบดเบียดและขบกัดเป็นเวลานาน
“อ่า~~~....”
แทยงครางแผ่วเบา
เมื่อบทรักกับคุณแม่กำลังดำเนินขึ้นแบบช้าๆ ไม่รีบร้อน ร่างบางที่กำลังดูดกลืนเค้าเข้าไปช้าๆ
แต่มันกลับทำให้รู้สึกเร่าร้อนจนแทบจะขาดใจ
ฝ่ามือแกร่งลูบไล้สะโพกเนียนเบาๆ พลางกัดฟัน อดทนไม่ให้เผลอไปกระแทกคุณแม่ที่อยู่ด้านบนแรงๆ
เตนล์วางมือลงบนหน้าแกร่งก่อนจะพยายามดันตัวขึ้นลงให้เร็วขึ้น เมื่อช่องทางร้อนเริ่มปรับสภาพกลืนกินร่างสูงได้มากขึ้น
สองร่างที่สอดรับกันอย่างไม่เร่งรีบขยับเข้าหากัน
จังหวะของร่างกายที่พุ่งขึ้นสูงสร้างเสียงครวญครางออกมาจากคนทั้งคู่
ร่างบางที่เป็นคนคุมเกมด้านบนโยกเอนไปตามจังหวะ หอบหายใจรัวเร็ว..เมื่อร่างกายกำลังจะโผบินไปสู่จุดสูงสุด ความเหอะแหนะแผ่ซ่านออกมาแทบจะทั่วร่างกายจนร่างบางที่หมดแรงต้องเอนลงมาซบแทยงด้วยความเพลีย
“เหนื่อยจัง” เตนล์พึมพำทั้งที่ดวงตากลมปิดอยู่ ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกเหมือนโดนอะไรชนท้อง
“โอย!”
“เป็นอะไรน้องเตนล์”
แทยงถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากช่วยพยุงร่างบางให้ลงมานั่งข้างๆ
กันบนเตียงนอนที่ตอนนี้มีเพียงผ้าห่มหนาที่ปิดร่างที่เปลือยเปล่าของพวกเค้าไว้
ร่างบางช้อนดวงตาเรียวสวยที่วาววับไปด้วยน้ำตามามองแทยง ริมฝีปากบางเบะออกก่อนเอ่ยเสียงสั่นเครือว่า
“ละ ลูกเราดิ้น”
“ลูกดิ้น???”
“พี่ลองจับดูสิฮะ” เตนล์บอกพร้อมเอามือร่างสูงมาวางไว้บนท้องเนียน
ตึก....ตึก....ตึก....ตึก
“เหมือนแฝดจะทักทายเรารึเปล่าน้องเตนล์”
แทยงก้มลงไปแนบศีรษะลงไปท้องป่องๆ
ของคุณแม่ที่ตอนนี้ไม่มีผ้าห่มหนากั้นไว้แล้ว
มือแกร่งลูบไล้ที่หน้าท้องเบาๆ
ไม่นานนักแทยงก็หน้าตื่นทันทีเมื่อรู้สึกอะไรบางอย่างแตะที่จมูกเค้า จ้องไปที่หน้าท้องเนียนตอนนี้เหมือนมีอะไรเล็กๆ
กระทุ้งหน้าท้องของเตนล์ออกมา
คราวนี้กลายเป็นคนที่เป็นคุณพ่อโผเข้ากอดคุณแม่ก่อนจะปล่อยโฮออกมาด้วยความดีใจ
จากนั้นพอได้สติแทยงก็กดมือถือหาคุณหมอยองโฮทันทีเพราะอยากจะมั่นใจว่าอาการของเตนล์แค่ลูกดิ้น โดยไม่ได้มองเลยว่าตอนนี้มันคือเวลา 3.45
น. ซึ่งมันคือเวลาพักผ่อนของใครหลายๆ
คนรวมถึงคุณหมอยองโฮและแทอิลด้วย
++++++++++++++++++รบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดี หรือสครีมแท๊ก #อุ่นไอรักแทเตนล์
ด้วยนะเจ้าค่ะ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ รักทุกคนค่ะที่แวะมาอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น