[Mpreg]: อุ่นไอรัก : 012
Pairing : [TaeTen,Hanta ,Johneil,Jaedo] & SMROOKEIS
By winata [@WNzro07]
ผลการตรวจร่างกายเตนล์ออกเป็นที่น่าพอใจของคุณหมอซอยองโฮ นอกจากเลือดในช่องท้องจะหยุดไหลแล้ว ทารกแฝดที่อยู่ในครรภ์ของร่างบางก็แข็งแรงดี สังเกตได้จากการดิ้นที่มีอยู่เรื่อยๆ โดยที่ข้างกายของคุณแม่จะมีคุณพ่อคอยดูแลอยู่ไม่ห่างทำให้คนอื่นๆ
ที่มาเยี่ยมต่างเอ่ยแซวไม่ขาดสาย
“โอยพี่ อยู่ห่างจากพี่เตนล์หน่อยก็ได้ มาช่วยผมขนของที่ซื้อมาเลย” แทยงอยากจะแกล้งให้มักเน่อิจฉาเลยก้มแก้มเนียนของคุณแม่ที่นั่งอยู่บนเตียง
“โอยไม่ไหว พี่โดยองขอน้ำหน่อยผมจะดับความอิจฉาตาร้อน”
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ของวงต่างส่ายหน้าอย่างระอา
“แล้วนี่พวกนายซื้ออะไรกันมาเยอะแยะ
เดี๋ยวอีกวันสองวันก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
เปิดดูข้าวของในถุงไปมา
ระหว่างช่วยแจฮยอนขนไปวางที่ชั้นข้างเคาน์เตอร์ที่กั้นเป็นส่วนของห้องครัวเล็กๆ
ในห้องพิเศษ
“ไม่ได้ซื้อมาหรอกพี่
พวกนี้ของแฟนคลับที่เอามาฝากไว้กับลุงยามหน้าคอนโด
ผมเลยขนมาหมดกะเอามาบำรุงทั้งคุณแม่แล้วก็คนเฝ้าด้วย”
“ขอบใจนะแจฮยอน”
“โอย....ไม่เอ้....า
พี่ไปกอดพี่เตนล์คนเดียวก็พอแล้ว” บอกพร้อมเบี่ยงตัวหนีมือของแทยงที่รั้งเข้าไปกอดคอ
“เฮ้ย!!!” ยูตะร้องอย่างตกใจก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่ตอนแรกนั่งดูทีวีอยู่กับฮันซลไปยืนข้างเตียงเตนล์แทบจะทันที
“อะ...ไรยูตะ” เตนล์ถามด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าตื่นๆ
ของเพื่อน
“ฉันเห็นอะไรกระทุ้งท้องนายออกมา” ก่อนจะวางมือของตัวลงบนที่บริเวณหน้าท้องที่เริ่มนูนของคุณแม่
“โอย หลานทักฉันด้วยอะ” นั้นทำให้คนอื่นต่างลุกมารุมล้อมคุณแม่เพื่อสัมผัสท้องบ้าง
“ท้องไม่ใหญ่มาก ไม่บอกนี่ไม่รู้แน่ๆ
ว่าเป็นแฝด” โดยองบอกหลังจากได้ลูบท้องคุณแม่
“พี่ว่าหลานจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”
“ผู้หญิงแน่ๆ เนอะเตนล์” ยูตะตอบแจฮยอนแทนเตนล์ที่อมยิ้มอยู่
“แต่ในท้องเตนล์เป็นแฝดนะ” ฮันซลแย้งขึ้นมาบ้าง
“ฉันว่าแฝดชาย 5 แสนวอน รับขวัญเลยเอ้า”
“พี่ยูตะหลายเป็นแฝดนะพี่รับขวัญน้อยไปมั้ง 5 แสนวอน ผมว่าล้านวอนไปเลยดีกว่า” แจฮยอนไม่ยอมน้อยหน้าเกทับรุ่นพี่หน้าสวยของวงทันที
“ได้ล้านวอน แฝดชายทั้งคู่” ยูตะรับคำมักเน่ของวงก่อนจะยักคิ้วให้แบบกวนๆ
“แต่ผมว่าแฝดหญิง
พี่ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมพี่โดยอง พี่ฮันซล” ตอนนี้มักเน่หันมาหาเพื่อน
โดยองมองไปทางซ้ายที่ยูตะยืนอยู่
ก่อนจะมองไปทางด้านขวาฝั่งที่แจฮยอนยืนอยู่ เพราะไม่รู้จะเลือกพนันข้างไหน
“พวกนาย เพศลูกฉันไม่ใช่เรื่องเอามาพนันนะ” เตนล์ท้วงขึ้นมาเพราะเห็นว่าเรื่องมันชักจะบานปลาย
“หรือนายไม่อยากรู้ว่าลูกในท้องเพศไหน” ฮันซลถามขึ้นมา
“ช่วงไตรมาศสอง
นอกจากเด็กจะดิ้นแล้วยังเริ่มอัลตร้าซาวน์ดูเพศได้แล้วนะ” แทยงที่นั่งอยู่ข้างเตียงพูดขึ้นมาตามที่จำได้จากหนังสือที่อ่านเล่นก่อนนอนทุกคืน
“ดีเลยเตนล์
พวกเราจะได้รู้เพศหลานจะได้เตรียมห้องเตรียมของใช้ ของเล่นได้ถูกเพศไง” ยูตะพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ตะ แต่ว่า.....”
“ถ้าเตนล์อยากจะลุ้นตอนคลอดเลย
พี่ก็ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าจะเพศไหนพี่ก็รักลูกแฝดของเราทั้งนั้นและรักคุณแม่มากๆ
ด้วยนะครับ”
สมาชิกคนอื่นที่ได้ยินลีแทยงพูดอะไรหวานๆ กับคุณแม่ก็เลี่ยนไปตามๆ กัน ทีเมื่อก่อนจะอ้าปากพูดกับร่างบางได้แทบจะต้องง้างปากเลยทีเดียวถ้าไม่ใช่เวลางาน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นก่อนที่แทอิลแล้วตามด้วยคุณหมอยองโฮจะเดินเข้ามา
“เป็นไงบ้างวันนี้ครับ” คุณหมอยองโฮทักคุณแม่ก่อนจะส่งยิ้มให้คนอื่นๆ
ที่ตอนนี้เปิดทางให้คุณหมอเดินเข้ามายังข้างเตียง
“สบายดีครับพี่ยองโฮ”
“แล้วนี่พวกนายคุยอะไรกันอยู่ถึงได้เสียงดังไปถึงด้านนอก” แทอิลทักขึ้นมาก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาดื่ม
“พวกเรากำลังพนันเพศในท้องเตนล์อยู่ครับ ถ้าหลานคลอดจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”
“พวกนาย” แทอิลมองแต่ละคนอย่างระอา
แฟนคลับทั้งหลายคงยังไม่รู้ว่าหนุ่มๆวงนี่ชื่นชอบการพนันขันต่อแค่ไหน ไม่นับนากาโมโตะ ยูตะที่บ้าฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“พี่แทอิลจะพนันด้วยไหม
นี่ผมกับพี่ยูตะพนันกันคนละล้านวอน”
ป้าบ.....ป้าบ
แทอิลอดไม่ได้เลยตบน้องร่วมวงไปคนละที
“มันใช่เรื่องเอามาพนันที่ไหน สองล้านวอนท้องแรกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง” พอจบคำของลีดเดอร์ของวงทุกคนต่างฮาครืน เพราะต่างไม่คิดว่าแทอิลจะร่วมวงพนันด้วย
“ถ้าเตนล์กับแทยง
อยากอัลตราซาวด์ดูก่อนก็ได้นะ
เพราะแค่ท้องสี่เดือนกว่าแฝดก็ดิ้นแล้วเผื่อบางทีจะเห็นเพศ” คุณหมอยองโฮเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีเพราะรู้ว่าสมาชิกของBassBot
และผู้จัดการทุกคนล้วนตื่นเต้นกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่
“อัลตราซาวด์ดูก็ได้ครับ ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน”
“มันต้องอย่างนี้สิเตนล์เพื่อนรัก
พี่ฮันซลไปเอารถเข็นมาเลย” ยูตะสั่งอย่างกระวีกระวาด
“ครับพ่อคนเห่อหลาน”
บรรยากาศภายในห้องตรวจที่วันนี้นอกจากมีคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก็มีสมาชิกคนอื่นๆ ของBassBot
ที่ตามมาด้วย
เพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเตนล์อัลตราซาวด์ หลังจากครั้งก่อนเห็นแค่รูปที่แทยงถ่ายไปให้ดู
เตนล์ที่ตอนนี้ขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจโดยมีแทยงช่วยพยุงขึ้นไปนอนบนเตียง พร้อมกับเปิดเสื้อคอยคุณหมอยองโฮที่เอาเจลใสมาทาหน้าท้องเนียนไปทั่วๆ
ก่อนจะตามด้วยเครื่องอัลตราซาวด์มาลากผ่านหน้าท้อง
“แฝดคนเก่ง ขอลุงหมอดูหน่อยนะครับ” ยองโฮบอกอย่างอ่อนโยน
ภาพทารกน้อยสองคนที่อยู่ในลักษณ์กอดกันปรากฏบนจอแอลซีดีขนาดสามสิบหกนิ้ว
เรียกรอยยิ้มปลื้มปิติจากคนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่คุณลุงและคุณอาทั้งหลาย โดยเฉพาะก้อนเนื้อเล็กๆ
ที่เรียกว่าหัวใจของแฝดทั้งคู่กับเต้นตุบๆ
อยู่ในลำตัวจิ๋วที่ส่งเสียงผ่านเครื่องมือออกมาเป็นจังหวะ
เตนล์จับมือแทยงแน่น
ก่อนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“แฝดน่ารักมากเลย อย่าร้องนะน้องเตนล์”
ใช้นิ้วโป้งไล้น้ำตาให้ออกจากแก้มเนียนทั้งที่ตัวเองก็น้ำตาคลอเบ้า
“พี่ครับ
ดูเพศเลยได้ไหมครับ” แทยงหันไปถามคุณหมอยองโฮที่พยักหน้าก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งวางเครื่องมือไปทั่วพุงกลมๆ
ของเตนล์
แต่จนรอดก็ยังไม่สามารถหามุมที่จะเห็นเพศของฝาแฝดได้สักทีเพราะทารกต่างอยู่ในลักษณะที่คล้ายกอดกันไว้ทั้งสองคน
“คนเก่งครับ ขอลุงหมอกับคุณพ่อคุณแม่ คุณลุงคุณอาดูหน่อยสิครับลูก..คนเก่ง”
หลังพยายามหลายครั้งและทุกวิถีทางให้เห็นเพศของแฝด ทั้งให้เตนล์ตะแคงซ้ายตะแคงขวาก็แล้ว
แฝดทั้งสองก็ยังอยู่ในลักษณะเดิม
“ท่าทางแฝดเราจะขี้อายทั้งคู่ พี่ว่าพักให้เตนล์ดื่มน้ำสักแก้วก่อนดีกว่า” ยองโฮบอกตามประสบการณ์ที่ควรให้คุณแม่ผ่อนคลาย
“เราพักสักแป๊บ
ให้คุณพ่อคุณแม่คุยกับแฝดดูแล้วเดี๋ยวค่อยอัลตราซาวด์ดูอีกครั้ง”
คุณพ่อก้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกับพุงกลมๆ
ของคุณแม่ก่อนจะออดอ้อนลูกแฝดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานระคนอ่อนโยน
“คนเก่งของพ่อ เดี๋ยวให้ลุงหมออัลตราซาวด์อีกรอบนะครับลูก คราวนี้ขอเห็นชัดๆ ได้ไหม คุณพ่อจะได้เตรียมของให้พวกหนูถูก เราจะได้เงินรับขวัญจากอาๆ
ทั้งหลายคนละตั้งสองล้านวอนเชียวนะลูก”
“พี่แทยง คริ...คริ” คุณแม่แทบจะกลั้นขำไว้ไม่ได้
“พวกผมอ่ะรอลุ้นแทบไม่ไหวแล้วเถอะพี่
หลานต้องกล้าๆ หน่อยนะครับคุณหลาน
เดี๋ยวอาๆ จะรับขวัญเลย.....คนละสองล้านวอนเลยเอ้า....ให้เห็นชัดๆกันไปเลย” แจฮยอนพูดขึ้นมาบ้างเพราะยืนลุ้นจนตัวเกร็ง
“ได้ยินอาแจฮยอนบ่นแล้วใช่ไหมลูก”
แทยงลูบท้องเนียนเบา ๆ แฝดที่เหมือนจะขยับตัวแล้วก็ยกขาเล็กๆ
ถีบแทบจะพร้อมๆ กันทั้งสองคนทำเอาเตนล์แทบจุก
“หลานขยับแล้ว” หนุ่ม ๆ ต่างอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นภาพในจอที่คุณหมอยองโฮหยิบเครื่องตรวจมาทาบที่หน้าท้องของเตนล์อีกรอบและเหมือนว่าแฝดทั้งคู่จะยอมโชว์ให้เห็นทั้งคู่เสียด้วย
เพราะภาพที่เห็นบนหน้าจอคือทารกแฝดที่นอนกางขาอ้าซ่าอย่างสบายอารมณ์
“ต้องแบบนี้สิลูกพ่อ เก่งมาก”
“จะเป็นแฝดหญิง แฝดชาย ก็ขอให้ ลุงหมอดูหน่อยนะครับ”
คุณหมอบอกก่อนจะกดซูมภาพเพื่อดูเพศของแฝด
แม้จะอายุครรภ์มากขึ้นทำให้เห็นส่วนเจริญเติบโตของทารกได้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกเพศแล้วคุณหมอยองโฮจึงสรุปให้คุณพ่อคุณแม่คุณลุงและคุณอาทั้งหลายฟังทันที
“ยินดีด้วยครับ แฝดชายหญิง”
“ลูกชาย กะ...กับ...ลูกสาว”
คุณแม่ที่ตื่นเต้นจนเสียงสั่นไปหมดพร้อมกับเขย่าแขนคุณพ่ออย่างแรง
“ใช่แล้วครับ
มองเห็นช้างน้อยของแฝดคนหนึ่ง
ส่วนอีกคนไม่มี” ยองโฮใช้เมาส์ชี้ตรงหว่างขาของแฝดแต่ละคนให้คุณพ่อคุณแม่ดู
“แบบนี้พวกเราต้องไปแต่งห้องทั้งสีชมพูกับสีฟ้าแล้วล่ะ” ยูตะขึ้นอย่างดีใจ
“พี่สุดยอดเลยพี่แทยง
ท้องแรกแฝดไม่พอยังได้ชายแล้วก็หญิง
โคตรนับนับถือจริงๆ” แจฮยอนแซว
“พวกนายอย่าลืมนะค่ารับขวัญหลานคนละสองล้านวอน”
แล้วทั้งห้องก็ฮาครืนที่เห็นคุณพ่อลีแทยงที่เริ่มงกแล้ว.....หันมาท้วงค่ารับขวัญหลานทันที
เคยมีคนพูดไว้การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด
แต่บางทีคำพูดจะทำให้คนตายเพราะคำพูดของตัวเอง
มันเหมือนกับจองแจฮยอนที่กำลังเป็นอยู่
“นี่พี่กลายเป็นคนพูดไม่รู้ไปตั้งแต่เมื่อไรคิมโดยอง ผมบอกแล้วไงว่ามันใช่แบบที่ลงในเว็บข่าวนั่น”
แจฮยอนที่คว้าแขนบาง ๆ ของโดยองไว้แน่นพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด แต่ใบหน้าคมที่ปกติจะมีรอยยิ้มตอนนี้ใบหน้าขาวเคร่งเครียดเพราะอาการพยศของคนตรงหน้า
“ใช่สิ ฉันมันคนพูดไม่รู้เรื่องแบบที่นายรำคาญไง ทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจเหมือนเยริคนดีของนายที่ทำให้อยู่แล้วนิ”
“ดะ..เดี๋ยวเยริมาเกี่ยวอะไรด้วย” โดยองถลึงตาใส่ก่อนจะสะบัดแขนออก
“แจฮยอน...นายมันไม่เคยเข้าใจอะไรเลยไม่เคยเลยจริง ๆ” ก่อนจะเดินลิ่วตรงมาที่หน้าลิฟต์ที่แทอิลกับว่าที่คุณแม่ลูกสองยืนนิ่งอยู่พร้อมกับถุงขนมนานาชนิด
“ผมไปปาร์ตี้วันเกิดเรนนะพี่แทอิล
คืนนี้จะค้างที่หอนิวอีสต์ส่วนจะกลับวันไหนผมจะโทรมาบอกอีกทีหรือไม่ก็มาวันแถลงข่าวเลย”
ประตูลิฟต์ปิดลงไปเหลือแค่สามคนที่ยืนมองกันอยู่เงียบๆ
“ชักจะนิสัยเสียแล้วนะ”
แจฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเดินมากดลิฟต์ด้วยท่าทางที่ไม่เร่งรีบ แต่แทอิลคนนี้อยากจะบอกว่าแววตาของมักเน่มันวาวแบบชวนขนหัวลุก ผิดลุคคุณชายจองที่ดูสุภาพอ่อนโยนเป็นที่รักของเหล่า
นูน่ามากๆ เลย
“อ๋อ ผมว่าวีคเอ็นนี้เตนล์พาพี่แทยงไปทำคะแนนกับคุณพ่อตาจะดีกว่านะครับ”
แจฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ และตามมารอยยิ้มที่ทำให้พี่ๆ
รู้สึกขนหัวลุก
แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้าตาที่ยิ้มแย้มเหมือนไม่มีพิษมีภัย จองแจฮยอนกำลังจะระเบิด!
“พี่แทอิล สองคนนั่นทะเลาะอะไรกัน”
เตนล์ที่ยังงงไม่หายเอ่ยถามขึ้นเพราะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อสองวันก่อน
ทุกคนในวงต่างสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอึมครึมระหว่างโดยองและแจฮยอนซึ่งปกติสองคนนี้ตัวติดกันตลอด
จู่ ๆ โดยองก็เงียบไม่พูดไม่จากับมักเน่ของวง จนมาถึงเหตุการณ์ปะทุหน้าห้องพักเมื่อกี้โชว์ดีที่ชั้นนี้ไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วย ไม่งั้นคงได้เป็นข่าว(คาว)อีกแน่ ๆ
“จะอะไรก็ ข่าวลือว่าแจฮยอนกำลังคบกับเยริอยู่นะสิ”
แทยงที่ยืนพิงประตูอยู่นานแล้วเอ่ยบอกก่อนจะเข้าไปดึงถุงขนมในมือเตนล์มาถือไว้ซะเอง
“พี่ว่าสถานการณ์แบบนี้ อย่าอยู่หอเลยดีกว่าท่าทางคงได้เรื่องแน่
ๆ เพราะแจฮยอนโมโหจริงๆ”
แทอิลพูดเพราะถึงน้องร่วมวงทั้งสองคนอย่างโดยองหรือแจฮยอน
จะยังไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ามันมากกว่าพี่น้องหรือแค่เพื่อนร่วมวง แต่เพื่อนร่วมวงที่ไหนดีพคิสกัน><
บางทีก็กอดกัน นอนตักกันจูบมือกันแน่นอนว่ามักเน่วงเนียนลวนลามเมนวอยซ์ของวงไปแล้ว
ใจของพี่ใหญ่และในฐานหัวหน้าวงแทอิลเองก็อยากให้สองคนนี้เคลียร์กันให้จบ
ๆ ว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือแบบนี้
“แบบนี้สินะ
ยูตะถึงได้ตามพี่ฮันซลไปเที่ยวปูซานเพราะไม่อยากอยู่ระหว่างระเบิดสองลูก”
เตนล์ทำหน้ามุ่ยเพราะเดาใจโดยองไม่ถูก
ทั้งที่เพื่อนรักของตัวเองมีใจให้มักเน่ของวงแท้ๆ
พอถึงเวลาที่แจฮยอนจะรุกขึ้นมามาก ๆ เพื่อนตัวบางกลับถอยออกมาคล้ายกลับไม่แน่ใจ
แล้วยิ่งมีคิมเยริม หรือ เยริ ไอดอลสาวเพื่อนร่วมค่าย
เพื่อนสนิทของแจฮยอนที่มีข่าวว่าทั้งคู่คบหากันมากกว่าเพื่อนสนิท เพราะตลอดเวลาตั้งแต่เดบิวมารูปหลุด หรือรูปที่แจฮยอนไปไหนมาไหนกับไอดอลสาวมีออกมาเรื่อย
ๆ แถมยังร่วมงานกันประจำ
ทำให้ทั้งแฟนคลับและนักข่าวเชียร์อยากให้ทั้งคู่คบกันทั้งในจอและนอกจอ
นั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของโดยองกับแจฮยอนไปไม่ถึงไหน
แต่อย่างว่าเรื่องหัวใจมันห้ามกันได้ที่ไหน
จองแจฮยอนหรือจองยุนโอที่พอเดบิวต์ที่เลือกใช้ชื่อสเตรทมากกว่าชื่อจริงๆ
ของตัวเอง
กำลังกดโทรศัพท์มือถือหาเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างค่ายคนที่ช่วยให้เขาพา “ผู้ใหญ่นิสัยเสีย”
กลับบ้านได้
“ว่าไงคุณชายจอง
นึกครึ้มอะไรถึงโทรหากูได้วะ” เสียงทักทายจากจองกุกพร้อมเสียงเพลงที่แว่วเข้ามาในสายบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสถานบันเทิง
“กูจะตามตัวชเวมินกิ นิวอีสต์ได้ที่ไหน”
“แป๊บนะมึง” ปลายสายบอก
“มีปัญหาไรกับเรนวะ
นั่นมันเด็กพี่แบคโฮนะ” แจฮยอนหัวเราะเบาๆ
“จะไปตามคนของกูกลับบ้าน”
ง่ายๆ สั้นๆ ตามนิสัยไม่อ้อมค้อม
แค่จองกุกโทรหาคนที่จะให้คำตอบได้เพราะอีกฝ่ายคือน้องชายคนสนิทของอารอนพี่ใหญ่ของนิวอีสต์ที่เคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยทำเพลงใต้ดิน
“อ่อ พี่เค้าเพิ่งมาถึง ที่เดิมที่เมื่อก่อนมึงเคยไปไงคุณชายจอง”
“โอเค
ไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึง” กำลังจะวางสายแต่ปลายเรียกไว้ก่อน
“ยุนโอ วงเดียวกันคิดดีๆ
ก่อนที่จะทำอะไรเพราะถ้ามันพลาดไปแล้วมึงเรียกกลับคืนมาไม่ได้นะ”
“อ้าว ทีแกจับแทยองกิน
ไม่เห็นพวกฉันห้ามแกได้นะจองกุก” แจฮยอนกดวางสายทันทีโดยไม่รอจอนจองกุกได้มีโอกาสแร็พด่า
“ย่าห์ ไอ้คุณชายจอง”
คิมโดยองที่ตอนนี้กำลังนั่งเงียบๆ
มองบรรยากาศในสถานบันเทิงที่ตัวเขาเองดื้อดึงที่จะตามเพื่อนสนิทต่างวงมาเที่ยวด้วย
“มาแล้วทำหน้าเป็นหมาเหงา
กลับไปนอนหอดีกว่ามั้งคิมโด” ชายหนุ่มร่างเล็กหน้าสวยยิ่งกว่าผู้หญิงที่กรีดตาเฉี่ยวที่สวมเสื้อซีทรูสีดำกับกางเกงเดฟสีแดงสดและรองเท้าบูทครึ่งแข้งเอ่ยทัก
“...”
“เป็นอะไร?” เรน หรือชเวมินกิถามขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนที่ช่วงนี้ห่างๆ
กันเพราะต่างมีงานรัดตัวทั้งคู่แถมวงของเรนเองก็ไปโปรโมทที่ญี่ปุ่นทำให้ไม่ได้อยู่ที่เกาหลีเลย
“ทะเลาะกับน้องมาเหรอ?”
คำว่า “น้อง” มันทำให้โดยองคว้าแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันกลืนลงลำคอไปติดๆกันสามแก้ว
“ฉันมันเป็นได้แค่พี่ชายร่วมวงก็เท่านั้นเอง เจ็บชะมัดเลยเรน” มือบางกำลังจะคว้าแก้วที่ตอนนี้ถูกเติมจนเต็มอีกครั้งขึ้นดื่มต้องหยุดชะงักเพราะถูกใครบางคนยึดเอาไว้
โดยองตั้งใจจะหันกลับไปด่าให้เต็มที่เพราะตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่....แต่ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นใบหน้าคมของใครบางคน ใบหน้าขาวที่สีหน้าราบเรียบแต่ดวงตาคม
ๆ กลับวาววับจนคนมองรู้สึกกลัว
“กลับ”
ดวงตาคมของแจฮยอนฉายแววดุ แล้วยิ่งเห็นอาการนัวเนียของโดยองกับเพื่อนสนิทต่างค่ายที่แทบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้ว มือหนาเลยฉุดให้ร่างบางลุกขึ้นพร้อมลากหายออกไปจากร้านโดยไม่เปิดโอกาสให้คนที่เริ่มมึนเพราะดื่มไปหลายแก้วได้ขัดขืน
“เรน เจ้านั้นมันแฟนโดยองเหรอ?”
เรนหันไปมองแบคโฮที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ
“ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้นะ” โดยองพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากมือแกร่ง
“เงียบๆ แล้วนั่งนิ่ง ๆ ”
แจฮยอนที่ตอนนี้เปิดประตูรถแล้วดันร่างของโดยองให้เข้าไปในรถจากฝั่งประตูคนขับ
ก่อนที่จะกระชากรถขับออกไปด้วยความเร็วสูงโดยมีจุดหมายอยู่ที่หอพักBassBot
“เปิดประตู ฉันบอกแล้วไงคืนนี้ไม่กลับจะไปนอนหอเรน”
“แต่เรามีเรื่องที่ต้องคุยและเคลียร์ให้เข้าใจกันนะ..คิมโดยอง” น้ำเสียงทุ้มพร่าที่กระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ
ที่รดต้นคอ ทำให้โดยองรู้สึกร้อนวูบไปทั่วสันหลัง
“จะคุยอะไร ระวังเยริจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิด จะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะ ”
“ช่างเยริสิ คนที่ผมอยากจะคุยด้วยคือคิมโดยองที่อยู่ตรงหน้านี่ต่างหาก”
มือหน้าจับคางเรียวของโดยองให้หันมาสบตากับดวงตาคมที่มองอยู่ก่อนแล้ว
โดยองก้มหน้าหลบสายตาเมื่อเห็นสายตารุกเร้าที่มาพร้อมกับฝ่ามือร้อนๆ ที่กำลังลูบไล้ไปมาบนร่างกายเขา จองแจฮยอนเวอร์ชั่นดาร์กแบบนี้ไม่เคยเห็นก็ปกติมีแต่อ้อนแบบเด็ก
ๆ
“จะ แจฮยอน”
แจฮยอนหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอาการของคนไปไม่เป็น...ก็ปกติเห็นนิ่ง ๆ
ตลอดแถมยังชอบมาทำให้อยากแล้วจากไปตลอด
เชื่อสิว่าเพื่อนร่วมวง BassBot คงไม่มีใครสังเกตว่าคนตัวขาวบอบบางที่อยู่ตรงหน้าช่างยั่วแค่ไหนเวลาเมา ดูสิคราวนี้หนีรอดจากมือเค้าไปได้ยังไง...
บอกเลยว่าวันนี้จองแจฮยอนจะกินกระต่ายแสนพยศให้จงได้ แล้วก็พาตัวเองไปเบียดจนคนตัวบางขยับหนีไปติดชิดกับริมประตู เอวบางของโดยองถูกยกลอยขึ้นจากพื้นเมื่อแจฮยอนยกตัวอีกฝ่ายให้ขึ้นมานั่งอยู่กลางตัก
“เลิกเล่น แล้วมาคุยกันจริงๆ
จังๆ สักที”
“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย”
ริมฝีปากสวยได้รูปของโดยองถูกบดเบียดทับก่อนจะได้พูดจนประโยค ลิ้นร้อนส่งเข้ามาดุนดันหาความหวาน
ฝ่ามือร้อนส่งมาประคองลำคอระหงส์เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้หันหน้าหนี ปากได้รูปของแจฮยอนยังคงรุกรานต่อเนื่องไม่หยุดจนโดยองต้องทุบที่หนาอกแกร่งเมื่อรู้สึกใกล้จะหมดลมหายใจ ใบหน้าขาวๆของโดยองแดงกล่ำหอบหายใจแรงๆ เพื่อสูดอากาศเข้าปอด
“ขึ้นไปคุยกันที่ห้อง” แจฮยอนบอกก่อนยื่นมือไปจับที่บานประตู
“ไม่ไป...ฉันจะไปหาเรน”
“โอเคไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้น ผมถือว่าให้โอกาสแล้ว”
จบคำแจฮยอนก็หยิบกุญแจรถที่อยู่ในมือใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์
“เรื่องอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะแจฮยอน” ร่างบางยังดิ้นไปบนตักแจฮยอนอย่างขัดใจที่ทำยังไงก็ไม่หลุดไปจากอ้อมกอดมักเน่ที่กอดรัดไว้จากด้านหลัง
“เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วล่ะโดยอง”
เสียงทุ้มพร่าพร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่ดุนดันสะโพกบางที่ถูกกดลงแนบตัก
ริมฝีปากร้อนจูบแผ่วเบาที่ต้นคอคอก่อนจะออกแรงกัดเบาๆ
“นะ นาย” โดยองตัวสั่นก่อนจะหาทางพยายามเบี่ยงตัวหลบ
“อ๊ะ....”
โดยองหลุดเสียงครางออกมาเมื่อเสื้อยืดสีดำคอปาดหลุดเลื่อนไปตามแนวลาดไหล่ มือบางได้แต่กำแน่น
เมื่อปากร้อนชื้นของคนที่อยู่ด้านหลังรุกล้ำครอบครองผิวเนียนสีน้ำนม ลำคอแห้งผากแล้วสติที่มีอยู่น้อยนิดของโดยองก็ถูกกระชากไปเมื่อริมฝีปากร้อนกดจูบแผ่วเบาลงบนกลีบปากสีสวย
พร้อมกับเสื้อยืดที่หลุดลอยออกจากร่าง
ลิ้นร้อนเริ่มเข้าครอบครองจุกสีหวานกลางอก แผ่นหลังเปลือยเปล่าของโดยองถูกดันให้ติดกับคอนโซนหน้ารถ ยอดอกสีหวานถูกขบเม้มจนร้อนไปหมด ขณะที่มือหนาของแจฮยอนก็ทำหน้าที่ไปด้วยนวดคลึงต้นขาขาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของโดยอง
“แจ...ฮยอน” โดยองร้องเสียงหลงเมื่อสัมผัสถึงความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ทันทีเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากร่าง
เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกเปิดเผยต่อสายตาคมที่จับจ้อง
ดวงตาคมที่มีแววตาแสดงออกถึงความปรารถนาเอาไว้ไม่มิดก่อนจะไล่สำรวจไปทุกซอกทุกมุมของผิวเนียนนุ่ม
ปลีขาเรียวยาวถูกแยกออกจากกันเมื่อใบหน้าคมฝังลงไปหยอกเอิ้นกับส่วนอ่อนไหวสีชมพู ฟันซี่เล็กๆ
ครูดขึ้นลงเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะจนสะโพกมนขยับตามอย่างรวดเร็ว
ปลายเล็บแหลมจิกทึ้งที่พรมที่วางอยู่หน้ารถ ไหล่หนาของแจฮยอนถูกใช้เป็นที่พักพิงเมื่อน้ำหยดสุดท้ายไหลลงสู่คอร่างสูงที่ดูดกลืนไปจนหมด
ร่างที่อ่อนปวกเปียกถูกพลิกให้หันหลังก่อนที่ส่วนแข็งขืนจะกดลงไปในโพรงหวานช้าๆ โดยองไม่มีแม้แต่แรงที่จะผลักคนที่กำลังจะรังแกให้ออกไปได้แต่กัดฟันรอรับความเจ็บปวดที่ไม่ได้มีการเปิดทางไว้ก่อน เอวบางถูกดึงให้ต่ำลงมาช้าๆ
ขณะที่เสียงทุ้มครางออกมาเป็นพักๆ เมื่อร่างกายค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ร่างบางได้เพียงทีละน้อย แม้ว่าใจจะอยากรักโดยองให้เร็วที่สุดแต่ก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
“อ๊ะ...เจ็บ”
“ทนหน่อยนะครับ โดยองของผม”
เสียงครางแผ่วเมื่อร่างแกร่งขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดมากที่สุด แรงเคลื่อนตัวจากด้านล่างทำให้เรือนกายบางของโดยองเคลื่อนไหวไปมา
สองเสียงที่ดังประสานกันขึ้นอย่างสุขสมโดยไม่กลัวว่าใครจะผ่านมาได้ยิน
เปลือกตาบางสีน้ำนมที่ปิดสนิทเริ่มเคลื่อนไหวไปมา ดวงตาคู่สวยจะจ้องมองเพดานที่เห็นจนชินตาไม่ต้องบอกก็รู้นี่คือห้องนอนในหอพักBassBot
ร่างกายที่มีเพียงผ้าห่มคลุมไว้เท่านั้นแค่โดยองขยับร่างกายนิดเดียวความเจ็บร้าวไปทั้งสะโพกก็จี้ดขึ้นสมอง
โดยองพยายามที่จะแกะมือหนาของใครบางคนที่นอนกอดซ้อนอยู่ด้านหลังออก แก้มเนียนแดงเข้มด้วยความเขินใครจะคาดคิดคนนิ่งๆ
จะมีบทรักที่ร้อนแรงตั้งแต่ในรถยันมาถึงในห้องพัก
“จะไปไหน ยังเช้าอยู่เลยนอนต่อเถอะนะพี่”
เสียงงึมงำที่ดังมาจากด้านหลังพร้อมกับใบหน้าคมที่จูบเบาๆ ที่ต้นคอ
“จะกลับไปนอนห้องฉัน” โดยองบอกด้วยเสียงนิ่ง ๆ
“เตียงผม หรือห้องผม ก็เหมือนของพี่ละโดยองอา”
“...........................”
แจฮยอนชะโงกหน้าดูคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้นอนนิ่งแล้วยิ่งมีน้ำไหลๆ
ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยมันทำให้ใจหาย
“พี่”
“ปล่อยฉันเถอะแจฮยอน ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจะให้นายแล้วนะ”
“ใครว่า...พี่ยังมีของที่ผมอยากได้อยู่นะคิมโดยอง”
โดยองที่ได้ยินน้ำเสียงกวนๆ
มันทำให้โมโหจนลืมตัวไม่สนใจความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาทุกครั้งที่ขยับตัวเลยสักนิด
พอลุกนั่งได้ก็คว้าเอาหมอนที่ใช้หนุนมาฟาดใส่ร่างหนาที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกันแบบไม่ยั้งมือ
“โอยเจ็บนะพี่” แจฮยอนปัดป้องตัวเองก่อนจะกระชากหมอนออกจากร่างบางโยนทิ้งไปอีกทาง แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมคราวนี้โถมตัวเข้าหาพร้อมเอามือตีที่อกแกร่งจนเขาต้องชาร์ตเข้ากอดล็อคตัวไว้
“นายกล้าพูดแบบนี้ได้ไง”
“แล้วหัวใจพี่ ให้ผมได้ไหมคิมโดยอง”
โดยองเงยหน้าขึ้นมามอง
“ผมรักพี่
จองแจฮยอนคนนี้รักคิมโดยอง”
นี่ใช่ไหม?
คำที่รอฟังมาตลอดหลายปี
“แบบพี่น้องสินะ” แจฮยอนสวนขึ้นทันที
“แบบคนรัก
ถ้าแบบพี่น้องจะทำแบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากได้รูปเบาๆ
“แล้วพี่ละครับ....รักผมไหม”
เสียงทุ้มพร่าที่กระซิบอยู่ข้างหู
มันให้โดยองรู้สึกตัว...ว่าตัวเองอยู่ในท่านั่งที่ล่อแหลมทั้งตัวเปล่าที่มีเพียงผ้าห่มบางกั้นไว้กับร่างหนาของแจฮยอนทั้งตัวแทบจะเกยอยู่บนร่างของมักเน่
“แล้วถ้าไม่รักจะยอมทำไมเล่า!!!!!”
“รักนะครับ” แจฮยอนพูดพร้อมกับเอามือดันคางคนในอ้อมกอดให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา
“แต่ตอนนี้ฉันไม่ “รัก” นายแล้ว” โดยองหลบสายตาคมที่มองมาด้วยแววตาที่ปรารถนา
“งั้นขอผมรักพี่เองก็ได้ สักรอบสองรอบแล้วกัน”
“พี่ยองโฮครับ เอ่อพี่โดยองเป็นไงบ้าง”
แจฮยอนถลาเข้าไปถามคุณหมอทันทีที่เปิดประตูห้องนอนออกมา
“เอ่อ.....” คุณหมอซอยองโฮเห็นสีหน้ากังวลของแจฮยอนแล้วก็พูดไม่ออก ก็เพราะคนที่นอนอยู่ในห้องนอนที่คุณหมอเพิ่งตรวจอาการพร้อมฉีดยาลดไข้ให้ไปถึงสองเข็มอดรู้สึกเขินขึ้นมาเสียไม่ได้
คือให้มาตรวจอาการโดยองที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแดง...ที่บ่งบอกถึงการผ่านการมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
“แจฮยอน” คุณหมอยองโฮพูดเสียงอ่อนโชคดีที่ตอนชายหนุ่มโทรศัพท์หาเขานั้น
แทอิลไปฟิสเนสทำให้คลาดกันไปนิดเดียว และใช่ว่าเรื่องนี้จะบอกลีดเดอร์ของ BassBot
ได้อย่างสะดวกใจ
“ครับพี่”
“โดยองไม่เป็นไรมากหรอกแค่ร่างกายอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น....แล้วทำไมม่านตาเราเป็นแบบนั้น”
คราวนี้คุณหมอยองโฮจับแจฮยอนนั่งลงที่โซฟากลางห้องรับแขกก่อนจะหยิบไฟฉายขนาดเล็กขึ้นมาตรวจม่านตาของนักร้องหนุ่ม ไม่ต้องให้คุณหมออธิบายอะไรมากแจฮยอนก็เข้าใจอาการตนเองดีว่าเกิดจากอะไร
แค่สัมผัสโดยองเพียงนิดเดียวก็เกิดความต้องการขึ้นมาอย่างมากจนไม่อาจหยุดได้
“พี่ครับ
ได้โปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
“พวกนายนี่นะ ให้ตายเถอะ พี่จะถือว่าวันนี้ไม่เคยมาห้องนี้ก็แล้วกัน ส่วนยานี้ให้โดยองกินตามเวลาแล้วกันจะทำไรก็คิดก่อนนะ วีคหน้าจะเริ่มซ้อมแล้ว” ยองโฮส่ายหน้าอย่างระอาใจเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้จัดการหรือสมาชิกวงคนอื่นถึงไม่อยู่หอพักในสุดสัปดาห์นี้
“ขอบคุณครับพี่”
แจฮยอนเดินไปส่งคุณหมอที่หน้าประตู
ก่อนจะกลับมานั่งดูทีวีต่อที่โซฟาเพราะตอนนี้ร่างบางในห้องกำลังหลับด้วยฤทธิ์ยาแก้ไขผสมยานอนหลับที่คุณหมอยองโฮฉีดให้
“กระต่ายจอมยั่ว ถึงพี่ไม่วางยาผมก็จะจับพี่กินเร็วๆ
นี้อยู่แล้วคิมโดยอง”
“ไง ใครทำอะไรขัดใจมาอีกละโดยอง” แบคโฮทักทายรุ่นพี่คนสนิทต่างวงต่างค่ายที่นานๆ
ทีจะเจอกัน
“เด็กที่บ้านวะพี่แบคโฮ” ตอบก่อนจะคว้าแก้วออนเดอะร็อคของรุ่นพี่มากระดกรวดเดียวจนหมด
“ท่ามากก็จับปล้ำก็สิ้นเรื่อง”
“ว้าว...ความคิดไม่เลวนะพี่
ว่าแต่ยาที่พี่แบคโฮเคยเล่นยังมีเหลือไหม?”
“แพงขนาดนั้นใครเค้าจะมาให้กันง่าย
แบ่งคนละครึ่งเม็ดนะโว้ย”
ก่อนจะส่งครึ่งเสี้ยวของยาเม็ดสีอ่อนที่ห่อกระดาษใสให้ ยาสังเคราะห์ที่ไร้กลิ่น ไร้รส
“เพลาๆ นะโดยอง
เดี๋ยวไม่แรงซ้อมใกล้คัมแบคแล้ว”
“ครับพี่ ใช่ว่าผมไม่เคยโต้รุ่งสักหน่อย”
โดยองยักคิ้วกวนให้รุ่นพี่ที่เดินไปแยกตัวไปทางห้องน้ำของผับ
“มาแล้วทำหน้าเป็นหมาเหงา
กลับไปนอนหอดีกว่ามั้งคิมโด” ชายหนุ่มร่างเล็กที่กรีดตาเฉี่ยวที่สวมเสื้อซีทรูสีดำกับกางเกงเดฟสีแดงสดและรองเท้าบูทครึ่งแข้งเอ่ยทัก
“....................” โดยองเงียบทันทีที่หางตาเห็นแจฮยอนที่กำลังเดินเข้ามา
“เฮ้ยเป็นอะไร?” เรนถามขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนเงียบ
“ทะเลาะกับน้องเค้ามาเหรอ?”
คำว่า “น้อง” มันทำให้โดยองคว้าแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันกลืนลงลำคอไปติดๆกันสามแก้ว
“ฉันเป็นมันแค่พี่ชายร่วมวงก็เท่านั้นเอง ฉันเจ็บชะมัดเลยเรน” มือบางกำลังจะคว้าแก้วที่ตอนนี้ถูกเติมจนเต็มอีกครั้งขึ้นดื่มต้องหยุดชะงักเพราะถูกใครบางคนยึดเอาไว้
“กลับ” ดวงตาคมของแจฮยอนฉายแววดุ ก่อนจะฉุดแขนโดยองให้ลุกขึ้นและกึ่งจูงกึ่งลากออกจากผับไป
คิมโดยองหันหลังกลับมาขยิบตาให้กับเพื่อนสนิทที่มองตามไปอย่างงงๆ
“เรน....คนนั้นแฟนโดยองเหรอ?”
เรนหันไปมองแบคโฮที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ
“นั้น มันโง่จริงๆ
หรือแกล้งโง่ ไม่ต้องใช้ยาเจ้าเด็กยุนโอไอ้คุณชายสร้างภาพจอมหื่นเงียบก็จ้องจะกินมันอยู่แล้ว”
เรนแทบจะสบถออกมาชุดใหญ่ ก่อนจะมองแฟนตัวอย่างงอน ๆ ก็จะอะไรก็พวกแก็งค์นี้มันชอบหลอกให้เหงื่อมาติดเบ็ดด้วยอาการนิ่งๆ
สุภาพ อ่อนโยนแต่ร้ายลึก
“ช่างมันดิ เพราะยังไงโดยองมันจ้องงาบน้องเค้ามาตั้งนาน จะโดนน้องเค้ากินหรือมันจะเป็นฝ่ายกินน้องเค้าก็คงไม่ต่างกัน”
จองแจฮยอนกับคิมโดยองคงไม่ต้องบอกนะว่าใครนะร้ายที่สุด
แต่ถ้าร้ายเพราะรัก
เชื่อเถอะอีกฝ่ายก็ต้องยอมอภัยให้อยู่แล้ว...ก็เพราะรักคำเดียวสั้น ๆ
ก็เท่านั้นเอง
+++++++++++++++++++
++++++++++++++++++รบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดี หรือสครีมแท๊ก #อุ่นไอรักแทเตนล์
ด้วยนะเจ้าค่ะ ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ รักทุกคนค่ะที่แวะมาอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น