วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[Mpreg]: อุ่นไอรัก : 012



[Mpreg]:  อุ่นไอรัก : 012

Pairing :  [TaeTen,Hanta ,Johneil,Jaedo] & SMROOKEIS

By winata [@WNzro07]


ผลการตรวจร่างกายเตนล์ออกเป็นที่น่าพอใจของคุณหมอซอยองโฮ   นอกจากเลือดในช่องท้องจะหยุดไหลแล้ว  ทารกแฝดที่อยู่ในครรภ์ของร่างบางก็แข็งแรงดี  สังเกตได้จากการดิ้นที่มีอยู่เรื่อยๆ   โดยที่ข้างกายของคุณแม่จะมีคุณพ่อคอยดูแลอยู่ไม่ห่างทำให้คนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมต่างเอ่ยแซวไม่ขาดสาย


“โอยพี่  อยู่ห่างจากพี่เตนล์หน่อยก็ได้   มาช่วยผมขนของที่ซื้อมาเลย” แทยงอยากจะแกล้งให้มักเน่อิจฉาเลยก้มแก้มเนียนของคุณแม่ที่นั่งอยู่บนเตียง


“โอยไม่ไหว   พี่โดยองขอน้ำหน่อยผมจะดับความอิจฉาตาร้อน” ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ของวงต่างส่ายหน้าอย่างระอา


“แล้วนี่พวกนายซื้ออะไรกันมาเยอะแยะ  เดี๋ยวอีกวันสองวันก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว”


เปิดดูข้าวของในถุงไปมา  ระหว่างช่วยแจฮยอนขนไปวางที่ชั้นข้างเคาน์เตอร์ที่กั้นเป็นส่วนของห้องครัวเล็กๆ ในห้องพิเศษ


“ไม่ได้ซื้อมาหรอกพี่  พวกนี้ของแฟนคลับที่เอามาฝากไว้กับลุงยามหน้าคอนโด  ผมเลยขนมาหมดกะเอามาบำรุงทั้งคุณแม่แล้วก็คนเฝ้าด้วย”  


“ขอบใจนะแจฮยอน”


“โอย....ไม่เอ้....า   พี่ไปกอดพี่เตนล์คนเดียวก็พอแล้ว” บอกพร้อมเบี่ยงตัวหนีมือของแทยงที่รั้งเข้าไปกอดคอ


“เฮ้ย!!!  ยูตะร้องอย่างตกใจก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่ตอนแรกนั่งดูทีวีอยู่กับฮันซลไปยืนข้างเตียงเตนล์แทบจะทันที


“อะ...ไรยูตะ”  เตนล์ถามด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าตื่นๆ ของเพื่อน


“ฉันเห็นอะไรกระทุ้งท้องนายออกมา” ก่อนจะวางมือของตัวลงบนที่บริเวณหน้าท้องที่เริ่มนูนของคุณแม่


“โอย  หลานทักฉันด้วยอะ” นั้นทำให้คนอื่นต่างลุกมารุมล้อมคุณแม่เพื่อสัมผัสท้องบ้าง


“ท้องไม่ใหญ่มาก   ไม่บอกนี่ไม่รู้แน่ๆ ว่าเป็นแฝด” โดยองบอกหลังจากได้ลูบท้องคุณแม่


“พี่ว่าหลานจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”


“ผู้หญิงแน่ๆ เนอะเตนล์”  ยูตะตอบแจฮยอนแทนเตนล์ที่อมยิ้มอยู่


“แต่ในท้องเตนล์เป็นแฝดนะ” ฮันซลแย้งขึ้นมาบ้าง


“ฉันว่าแฝดชาย  5 แสนวอน  รับขวัญเลยเอ้า”


“พี่ยูตะหลายเป็นแฝดนะพี่รับขวัญน้อยไปมั้ง 5 แสนวอน  ผมว่าล้านวอนไปเลยดีกว่า” แจฮยอนไม่ยอมน้อยหน้าเกทับรุ่นพี่หน้าสวยของวงทันที


“ได้ล้านวอน  แฝดชายทั้งคู่” ยูตะรับคำมักเน่ของวงก่อนจะยักคิ้วให้แบบกวนๆ


“แต่ผมว่าแฝดหญิง  พี่ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมพี่โดยอง  พี่ฮันซล”  ตอนนี้มักเน่หันมาหาเพื่อน


โดยองมองไปทางซ้ายที่ยูตะยืนอยู่    ก่อนจะมองไปทางด้านขวาฝั่งที่แจฮยอนยืนอยู่  เพราะไม่รู้จะเลือกพนันข้างไหน


“พวกนาย  เพศลูกฉันไม่ใช่เรื่องเอามาพนันนะ”  เตนล์ท้วงขึ้นมาเพราะเห็นว่าเรื่องมันชักจะบานปลาย


“หรือนายไม่อยากรู้ว่าลูกในท้องเพศไหน”  ฮันซลถามขึ้นมา


“ช่วงไตรมาศสอง  นอกจากเด็กจะดิ้นแล้วยังเริ่มอัลตร้าซาวน์ดูเพศได้แล้วนะ”  แทยงที่นั่งอยู่ข้างเตียงพูดขึ้นมาตามที่จำได้จากหนังสือที่อ่านเล่นก่อนนอนทุกคืน


“ดีเลยเตนล์  พวกเราจะได้รู้เพศหลานจะได้เตรียมห้องเตรียมของใช้  ของเล่นได้ถูกเพศไง”  ยูตะพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น


“ตะ  แต่ว่า.....”


“ถ้าเตนล์อยากจะลุ้นตอนคลอดเลย  พี่ก็ไม่ว่าอะไร  ไม่ว่าจะเพศไหนพี่ก็รักลูกแฝดของเราทั้งนั้นและรักคุณแม่มากๆ ด้วยนะครับ”


สมาชิกคนอื่นที่ได้ยินลีแทยงพูดอะไรหวานๆ กับคุณแม่ก็เลี่ยนไปตามๆ กัน  ทีเมื่อก่อนจะอ้าปากพูดกับร่างบางได้แทบจะต้องง้างปากเลยทีเดียวถ้าไม่ใช่เวลางาน






ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นก่อนที่แทอิลแล้วตามด้วยคุณหมอยองโฮจะเดินเข้ามา


“เป็นไงบ้างวันนี้ครับ” คุณหมอยองโฮทักคุณแม่ก่อนจะส่งยิ้มให้คนอื่นๆ ที่ตอนนี้เปิดทางให้คุณหมอเดินเข้ามายังข้างเตียง


“สบายดีครับพี่ยองโฮ”


“แล้วนี่พวกนายคุยอะไรกันอยู่ถึงได้เสียงดังไปถึงด้านนอก” แทอิลทักขึ้นมาก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาดื่ม


“พวกเรากำลังพนันเพศในท้องเตนล์อยู่ครับ  ถ้าหลานคลอดจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”  


“พวกนาย” แทอิลมองแต่ละคนอย่างระอา  แฟนคลับทั้งหลายคงยังไม่รู้ว่าหนุ่มๆวงนี่ชื่นชอบการพนันขันต่อแค่ไหน  ไม่นับนากาโมโตะ ยูตะที่บ้าฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


“พี่แทอิลจะพนันด้วยไหม  นี่ผมกับพี่ยูตะพนันกันคนละล้านวอน”



ป้าบ.....ป้าบ
แทอิลอดไม่ได้เลยตบน้องร่วมวงไปคนละที


“มันใช่เรื่องเอามาพนันที่ไหน สองล้านวอนท้องแรกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง” พอจบคำของลีดเดอร์ของวงทุกคนต่างฮาครืน  เพราะต่างไม่คิดว่าแทอิลจะร่วมวงพนันด้วย


“ถ้าเตนล์กับแทยง  อยากอัลตราซาวด์ดูก่อนก็ได้นะ   เพราะแค่ท้องสี่เดือนกว่าแฝดก็ดิ้นแล้วเผื่อบางทีจะเห็นเพศ” คุณหมอยองโฮเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีเพราะรู้ว่าสมาชิกของBassBot   และผู้จัดการทุกคนล้วนตื่นเต้นกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่


“อัลตราซาวด์ดูก็ได้ครับ  ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน”


“มันต้องอย่างนี้สิเตนล์เพื่อนรัก   พี่ฮันซลไปเอารถเข็นมาเลย” ยูตะสั่งอย่างกระวีกระวาด


“ครับพ่อคนเห่อหลาน” 






บรรยากาศภายในห้องตรวจที่วันนี้นอกจากมีคุณพ่อคุณแม่มือใหม่    ก็มีสมาชิกคนอื่นๆ ของBassBot ที่ตามมาด้วย    เพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเตนล์อัลตราซาวด์  หลังจากครั้งก่อนเห็นแค่รูปที่แทยงถ่ายไปให้ดู


เตนล์ที่ตอนนี้ขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจโดยมีแทยงช่วยพยุงขึ้นไปนอนบนเตียง  พร้อมกับเปิดเสื้อคอยคุณหมอยองโฮที่เอาเจลใสมาทาหน้าท้องเนียนไปทั่วๆ ก่อนจะตามด้วยเครื่องอัลตราซาวด์มาลากผ่านหน้าท้อง


“แฝดคนเก่ง  ขอลุงหมอดูหน่อยนะครับ”  ยองโฮบอกอย่างอ่อนโยน   


ภาพทารกน้อยสองคนที่อยู่ในลักษณ์กอดกันปรากฏบนจอแอลซีดีขนาดสามสิบหกนิ้ว   เรียกรอยยิ้มปลื้มปิติจากคนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่คุณลุงและคุณอาทั้งหลาย   โดยเฉพาะก้อนเนื้อเล็กๆ ที่เรียกว่าหัวใจของแฝดทั้งคู่กับเต้นตุบๆ อยู่ในลำตัวจิ๋วที่ส่งเสียงผ่านเครื่องมือออกมาเป็นจังหวะ


เตนล์จับมือแทยงแน่น  ก่อนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่


“แฝดน่ารักมากเลย  อย่าร้องนะน้องเตนล์” ใช้นิ้วโป้งไล้น้ำตาให้ออกจากแก้มเนียนทั้งที่ตัวเองก็น้ำตาคลอเบ้า


“พี่ครับ  ดูเพศเลยได้ไหมครับ”  แทยงหันไปถามคุณหมอยองโฮที่พยักหน้าก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งวางเครื่องมือไปทั่วพุงกลมๆ ของเตนล์   แต่จนรอดก็ยังไม่สามารถหามุมที่จะเห็นเพศของฝาแฝดได้สักทีเพราะทารกต่างอยู่ในลักษณะที่คล้ายกอดกันไว้ทั้งสองคน


“คนเก่งครับ ขอลุงหมอกับคุณพ่อคุณแม่ คุณลุงคุณอาดูหน่อยสิครับลูก..คนเก่ง”


หลังพยายามหลายครั้งและทุกวิถีทางให้เห็นเพศของแฝด  ทั้งให้เตนล์ตะแคงซ้ายตะแคงขวาก็แล้ว แฝดทั้งสองก็ยังอยู่ในลักษณะเดิม


“ท่าทางแฝดเราจะขี้อายทั้งคู่   พี่ว่าพักให้เตนล์ดื่มน้ำสักแก้วก่อนดีกว่า” ยองโฮบอกตามประสบการณ์ที่ควรให้คุณแม่ผ่อนคลาย


“เราพักสักแป๊บ  ให้คุณพ่อคุณแม่คุยกับแฝดดูแล้วเดี๋ยวค่อยอัลตราซาวด์ดูอีกครั้ง”


คุณพ่อก้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกับพุงกลมๆ ของคุณแม่ก่อนจะออดอ้อนลูกแฝดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานระคนอ่อนโยน


“คนเก่งของพ่อ  เดี๋ยวให้ลุงหมออัลตราซาวด์อีกรอบนะครับลูก  คราวนี้ขอเห็นชัดๆ ได้ไหม  คุณพ่อจะได้เตรียมของให้พวกหนูถูก  เราจะได้เงินรับขวัญจากอาๆ ทั้งหลายคนละตั้งสองล้านวอนเชียวนะลูก”


“พี่แทยง คริ...คริ” คุณแม่แทบจะกลั้นขำไว้ไม่ได้


“พวกผมอ่ะรอลุ้นแทบไม่ไหวแล้วเถอะพี่  หลานต้องกล้าๆ หน่อยนะครับคุณหลาน  เดี๋ยวอาๆ จะรับขวัญเลย.....คนละสองล้านวอนเลยเอ้า....ให้เห็นชัดๆกันไปเลย”  แจฮยอนพูดขึ้นมาบ้างเพราะยืนลุ้นจนตัวเกร็ง


“ได้ยินอาแจฮยอนบ่นแล้วใช่ไหมลูก” 


แทยงลูบท้องเนียนเบา ๆ แฝดที่เหมือนจะขยับตัวแล้วก็ยกขาเล็กๆ ถีบแทบจะพร้อมๆ กันทั้งสองคนทำเอาเตนล์แทบจุก


“หลานขยับแล้ว” หนุ่ม ๆ ต่างอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นภาพในจอที่คุณหมอยองโฮหยิบเครื่องตรวจมาทาบที่หน้าท้องของเตนล์อีกรอบและเหมือนว่าแฝดทั้งคู่จะยอมโชว์ให้เห็นทั้งคู่เสียด้วย  เพราะภาพที่เห็นบนหน้าจอคือทารกแฝดที่นอนกางขาอ้าซ่าอย่างสบายอารมณ์


“ต้องแบบนี้สิลูกพ่อ  เก่งมาก”


“จะเป็นแฝดหญิง  แฝดชาย  ก็ขอให้ ลุงหมอดูหน่อยนะครับ” คุณหมอบอกก่อนจะกดซูมภาพเพื่อดูเพศของแฝด   แม้จะอายุครรภ์มากขึ้นทำให้เห็นส่วนเจริญเติบโตของทารกได้อย่างชัดเจน  เมื่อเห็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกเพศแล้วคุณหมอยองโฮจึงสรุปให้คุณพ่อคุณแม่คุณลุงและคุณอาทั้งหลายฟังทันที


“ยินดีด้วยครับ  แฝดชายหญิง”


“ลูกชาย  กะ...กับ...ลูกสาว” คุณแม่ที่ตื่นเต้นจนเสียงสั่นไปหมดพร้อมกับเขย่าแขนคุณพ่ออย่างแรง


“ใช่แล้วครับ  มองเห็นช้างน้อยของแฝดคนหนึ่ง  ส่วนอีกคนไม่มี”  ยองโฮใช้เมาส์ชี้ตรงหว่างขาของแฝดแต่ละคนให้คุณพ่อคุณแม่ดู


“แบบนี้พวกเราต้องไปแต่งห้องทั้งสีชมพูกับสีฟ้าแล้วล่ะ” ยูตะขึ้นอย่างดีใจ


“พี่สุดยอดเลยพี่แทยง  ท้องแรกแฝดไม่พอยังได้ชายแล้วก็หญิง  โคตรนับนับถือจริงๆ”  แจฮยอนแซว


“พวกนายอย่าลืมนะค่ารับขวัญหลานคนละสองล้านวอน”


แล้วทั้งห้องก็ฮาครืนที่เห็นคุณพ่อลีแทยงที่เริ่มงกแล้ว.....หันมาท้วงค่ารับขวัญหลานทันที







เคยมีคนพูดไว้การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด
แต่บางทีคำพูดจะทำให้คนตายเพราะคำพูดของตัวเอง
มันเหมือนกับจองแจฮยอนที่กำลังเป็นอยู่


“นี่พี่กลายเป็นคนพูดไม่รู้ไปตั้งแต่เมื่อไรคิมโดยอง  ผมบอกแล้วไงว่ามันใช่แบบที่ลงในเว็บข่าวนั่น”


แจฮยอนที่คว้าแขนบาง ๆ ของโดยองไว้แน่นพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด  แต่ใบหน้าคมที่ปกติจะมีรอยยิ้มตอนนี้ใบหน้าขาวเคร่งเครียดเพราะอาการพยศของคนตรงหน้า


“ใช่สิ  ฉันมันคนพูดไม่รู้เรื่องแบบที่นายรำคาญไง  ทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจเหมือนเยริคนดีของนายที่ทำให้อยู่แล้วนิ”


“ดะ..เดี๋ยวเยริมาเกี่ยวอะไรด้วย” โดยองถลึงตาใส่ก่อนจะสะบัดแขนออก


“แจฮยอน...นายมันไม่เคยเข้าใจอะไรเลยไม่เคยเลยจริง ๆ” ก่อนจะเดินลิ่วตรงมาที่หน้าลิฟต์ที่แทอิลกับว่าที่คุณแม่ลูกสองยืนนิ่งอยู่พร้อมกับถุงขนมนานาชนิด


“ผมไปปาร์ตี้วันเกิดเรนนะพี่แทอิล  คืนนี้จะค้างที่หอนิวอีสต์ส่วนจะกลับวันไหนผมจะโทรมาบอกอีกทีหรือไม่ก็มาวันแถลงข่าวเลย” ประตูลิฟต์ปิดลงไปเหลือแค่สามคนที่ยืนมองกันอยู่เงียบๆ


“ชักจะนิสัยเสียแล้วนะ”


แจฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเดินมากดลิฟต์ด้วยท่าทางที่ไม่เร่งรีบ   แต่แทอิลคนนี้อยากจะบอกว่าแววตาของมักเน่มันวาวแบบชวนขนหัวลุก   ผิดลุคคุณชายจองที่ดูสุภาพอ่อนโยนเป็นที่รักของเหล่า นูน่ามากๆ เลย
“อ๋อ ผมว่าวีคเอ็นนี้เตนล์พาพี่แทยงไปทำคะแนนกับคุณพ่อตาจะดีกว่านะครับ” 


แจฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ และตามมารอยยิ้มที่ทำให้พี่ๆ รู้สึกขนหัวลุก  แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้าตาที่ยิ้มแย้มเหมือนไม่มีพิษมีภัย  จองแจฮยอนกำลังจะระเบิด!


“พี่แทอิล  สองคนนั่นทะเลาะอะไรกัน” 


เตนล์ที่ยังงงไม่หายเอ่ยถามขึ้นเพราะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อสองวันก่อน  ทุกคนในวงต่างสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอึมครึมระหว่างโดยองและแจฮยอนซึ่งปกติสองคนนี้ตัวติดกันตลอด  


จู่ ๆ โดยองก็เงียบไม่พูดไม่จากับมักเน่ของวง  จนมาถึงเหตุการณ์ปะทุหน้าห้องพักเมื่อกี้โชว์ดีที่ชั้นนี้ไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วย  ไม่งั้นคงได้เป็นข่าว(คาว)อีกแน่ ๆ


“จะอะไรก็ ข่าวลือว่าแจฮยอนกำลังคบกับเยริอยู่นะสิ” แทยงที่ยืนพิงประตูอยู่นานแล้วเอ่ยบอกก่อนจะเข้าไปดึงถุงขนมในมือเตนล์มาถือไว้ซะเอง


“พี่ว่าสถานการณ์แบบนี้  อย่าอยู่หอเลยดีกว่าท่าทางคงได้เรื่องแน่ ๆ เพราะแจฮยอนโมโหจริงๆ” 


แทอิลพูดเพราะถึงน้องร่วมวงทั้งสองคนอย่างโดยองหรือแจฮยอน  จะยังไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ามันมากกว่าพี่น้องหรือแค่เพื่อนร่วมวง   แต่เพื่อนร่วมวงที่ไหนดีพคิสกัน>< 


บางทีก็กอดกัน  นอนตักกันจูบมือกันแน่นอนว่ามักเน่วงเนียนลวนลามเมนวอยซ์ของวงไปแล้ว


ใจของพี่ใหญ่และในฐานหัวหน้าวงแทอิลเองก็อยากให้สองคนนี้เคลียร์กันให้จบ ๆ ว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือแบบนี้ 


“แบบนี้สินะ  ยูตะถึงได้ตามพี่ฮันซลไปเที่ยวปูซานเพราะไม่อยากอยู่ระหว่างระเบิดสองลูก” 


เตนล์ทำหน้ามุ่ยเพราะเดาใจโดยองไม่ถูก  ทั้งที่เพื่อนรักของตัวเองมีใจให้มักเน่ของวงแท้ๆ พอถึงเวลาที่แจฮยอนจะรุกขึ้นมามาก ๆ เพื่อนตัวบางกลับถอยออกมาคล้ายกลับไม่แน่ใจ 


แล้วยิ่งมีคิมเยริม หรือ เยริ ไอดอลสาวเพื่อนร่วมค่าย   เพื่อนสนิทของแจฮยอนที่มีข่าวว่าทั้งคู่คบหากันมากกว่าเพื่อนสนิท  เพราะตลอดเวลาตั้งแต่เดบิวมารูปหลุด  หรือรูปที่แจฮยอนไปไหนมาไหนกับไอดอลสาวมีออกมาเรื่อย ๆ แถมยังร่วมงานกันประจำ  ทำให้ทั้งแฟนคลับและนักข่าวเชียร์อยากให้ทั้งคู่คบกันทั้งในจอและนอกจอ


นั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของโดยองกับแจฮยอนไปไม่ถึงไหน
แต่อย่างว่าเรื่องหัวใจมันห้ามกันได้ที่ไหน




จองแจฮยอนหรือจองยุนโอที่พอเดบิวต์ที่เลือกใช้ชื่อสเตรทมากกว่าชื่อจริงๆ ของตัวเอง  กำลังกดโทรศัพท์มือถือหาเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างค่ายคนที่ช่วยให้เขาพา “ผู้ใหญ่นิสัยเสีย” กลับบ้านได้


“ว่าไงคุณชายจอง  นึกครึ้มอะไรถึงโทรหากูได้วะ” เสียงทักทายจากจองกุกพร้อมเสียงเพลงที่แว่วเข้ามาในสายบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสถานบันเทิง


“กูจะตามตัวชเวมินกิ  นิวอีสต์ได้ที่ไหน”


“แป๊บนะมึง” ปลายสายบอก


“มีปัญหาไรกับเรนวะ  นั่นมันเด็กพี่แบคโฮนะ” แจฮยอนหัวเราะเบาๆ


“จะไปตามคนของกูกลับบ้าน” 


ง่ายๆ สั้นๆ ตามนิสัยไม่อ้อมค้อม  แค่จองกุกโทรหาคนที่จะให้คำตอบได้เพราะอีกฝ่ายคือน้องชายคนสนิทของอารอนพี่ใหญ่ของนิวอีสต์ที่เคยรู้จักกันตั้งแต่สมัยทำเพลงใต้ดิน


“อ่อ  พี่เค้าเพิ่งมาถึง  ที่เดิมที่เมื่อก่อนมึงเคยไปไงคุณชายจอง”


“โอเค  ไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึง” กำลังจะวางสายแต่ปลายเรียกไว้ก่อน


“ยุนโอ  วงเดียวกันคิดดีๆ ก่อนที่จะทำอะไรเพราะถ้ามันพลาดไปแล้วมึงเรียกกลับคืนมาไม่ได้นะ”


“อ้าว ทีแกจับแทยองกิน  ไม่เห็นพวกฉันห้ามแกได้นะจองกุก” แจฮยอนกดวางสายทันทีโดยไม่รอจอนจองกุกได้มีโอกาสแร็พด่า


“ย่าห์  ไอ้คุณชายจอง”







คิมโดยองที่ตอนนี้กำลังนั่งเงียบๆ มองบรรยากาศในสถานบันเทิงที่ตัวเขาเองดื้อดึงที่จะตามเพื่อนสนิทต่างวงมาเที่ยวด้วย


“มาแล้วทำหน้าเป็นหมาเหงา  กลับไปนอนหอดีกว่ามั้งคิมโด” ชายหนุ่มร่างเล็กหน้าสวยยิ่งกว่าผู้หญิงที่กรีดตาเฉี่ยวที่สวมเสื้อซีทรูสีดำกับกางเกงเดฟสีแดงสดและรองเท้าบูทครึ่งแข้งเอ่ยทัก


“...”


“เป็นอะไร?” เรน หรือชเวมินกิถามขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนที่ช่วงนี้ห่างๆ กันเพราะต่างมีงานรัดตัวทั้งคู่แถมวงของเรนเองก็ไปโปรโมทที่ญี่ปุ่นทำให้ไม่ได้อยู่ที่เกาหลีเลย


“ทะเลาะกับน้องมาเหรอ?”


คำว่า “น้อง” มันทำให้โดยองคว้าแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันกลืนลงลำคอไปติดๆกันสามแก้ว


“ฉันมันเป็นได้แค่พี่ชายร่วมวงก็เท่านั้นเอง  เจ็บชะมัดเลยเรน” มือบางกำลังจะคว้าแก้วที่ตอนนี้ถูกเติมจนเต็มอีกครั้งขึ้นดื่มต้องหยุดชะงักเพราะถูกใครบางคนยึดเอาไว้


โดยองตั้งใจจะหันกลับไปด่าให้เต็มที่เพราะตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่....แต่ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นใบหน้าคมของใครบางคน  ใบหน้าขาวที่สีหน้าราบเรียบแต่ดวงตาคม ๆ กลับวาววับจนคนมองรู้สึกกลัว


“กลับ” 


ดวงตาคมของแจฮยอนฉายแววดุ   แล้วยิ่งเห็นอาการนัวเนียของโดยองกับเพื่อนสนิทต่างค่ายที่แทบจะนั่งเกยตักกันอยู่แล้ว  มือหนาเลยฉุดให้ร่างบางลุกขึ้นพร้อมลากหายออกไปจากร้านโดยไม่เปิดโอกาสให้คนที่เริ่มมึนเพราะดื่มไปหลายแก้วได้ขัดขืน


“เรน   เจ้านั้นมันแฟนโดยองเหรอ?”


เรนหันไปมองแบคโฮที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ



“ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้นะ” โดยองพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากมือแกร่ง


“เงียบๆ แล้วนั่งนิ่ง ๆ ” 


แจฮยอนที่ตอนนี้เปิดประตูรถแล้วดันร่างของโดยองให้เข้าไปในรถจากฝั่งประตูคนขับ  ก่อนที่จะกระชากรถขับออกไปด้วยความเร็วสูงโดยมีจุดหมายอยู่ที่หอพักBassBot


“เปิดประตู   ฉันบอกแล้วไงคืนนี้ไม่กลับจะไปนอนหอเรน”


“แต่เรามีเรื่องที่ต้องคุยและเคลียร์ให้เข้าใจกันนะ..คิมโดยอง”  น้ำเสียงทุ้มพร่าที่กระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ ที่รดต้นคอ  ทำให้โดยองรู้สึกร้อนวูบไปทั่วสันหลัง


“จะคุยอะไร ระวังเยริจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิด  จะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะ ”


“ช่างเยริสิ  คนที่ผมอยากจะคุยด้วยคือคิมโดยองที่อยู่ตรงหน้านี่ต่างหาก” มือหน้าจับคางเรียวของโดยองให้หันมาสบตากับดวงตาคมที่มองอยู่ก่อนแล้ว


โดยองก้มหน้าหลบสายตาเมื่อเห็นสายตารุกเร้าที่มาพร้อมกับฝ่ามือร้อนๆ  ที่กำลังลูบไล้ไปมาบนร่างกายเขา  จองแจฮยอนเวอร์ชั่นดาร์กแบบนี้ไม่เคยเห็นก็ปกติมีแต่อ้อนแบบเด็ก ๆ


“จะ แจฮยอน” 


แจฮยอนหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอาการของคนไปไม่เป็น...ก็ปกติเห็นนิ่ง ๆ ตลอดแถมยังชอบมาทำให้อยากแล้วจากไปตลอด  เชื่อสิว่าเพื่อนร่วมวง BassBot คงไม่มีใครสังเกตว่าคนตัวขาวบอบบางที่อยู่ตรงหน้าช่างยั่วแค่ไหนเวลาเมา    ดูสิคราวนี้หนีรอดจากมือเค้าไปได้ยังไง...


บอกเลยว่าวันนี้จองแจฮยอนจะกินกระต่ายแสนพยศให้จงได้  แล้วก็พาตัวเองไปเบียดจนคนตัวบางขยับหนีไปติดชิดกับริมประตู  เอวบางของโดยองถูกยกลอยขึ้นจากพื้นเมื่อแจฮยอนยกตัวอีกฝ่ายให้ขึ้นมานั่งอยู่กลางตัก  


“เลิกเล่น  แล้วมาคุยกันจริงๆ จังๆ สักที”


“ไม่  ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย”


ริมฝีปากสวยได้รูปของโดยองถูกบดเบียดทับก่อนจะได้พูดจนประโยค  ลิ้นร้อนส่งเข้ามาดุนดันหาความหวาน  ฝ่ามือร้อนส่งมาประคองลำคอระหงส์เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้หันหน้าหนี  ปากได้รูปของแจฮยอนยังคงรุกรานต่อเนื่องไม่หยุดจนโดยองต้องทุบที่หนาอกแกร่งเมื่อรู้สึกใกล้จะหมดลมหายใจ    ใบหน้าขาวๆของโดยองแดงกล่ำหอบหายใจแรงๆ เพื่อสูดอากาศเข้าปอด


“ขึ้นไปคุยกันที่ห้อง” แจฮยอนบอกก่อนยื่นมือไปจับที่บานประตู


“ไม่ไป...ฉันจะไปหาเรน”


“โอเคไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้น  ผมถือว่าให้โอกาสแล้ว” จบคำแจฮยอนก็หยิบกุญแจรถที่อยู่ในมือใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์


“เรื่องอะไร  ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะแจฮยอน”  ร่างบางยังดิ้นไปบนตักแจฮยอนอย่างขัดใจที่ทำยังไงก็ไม่หลุดไปจากอ้อมกอดมักเน่ที่กอดรัดไว้จากด้านหลัง


“เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วล่ะโดยอง” เสียงทุ้มพร่าพร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่ดุนดันสะโพกบางที่ถูกกดลงแนบตัก  ริมฝีปากร้อนจูบแผ่วเบาที่ต้นคอคอก่อนจะออกแรงกัดเบาๆ


“นะ  นาย” โดยองตัวสั่นก่อนจะหาทางพยายามเบี่ยงตัวหลบ


“อ๊ะ....” 


โดยองหลุดเสียงครางออกมาเมื่อเสื้อยืดสีดำคอปาดหลุดเลื่อนไปตามแนวลาดไหล่  มือบางได้แต่กำแน่น  เมื่อปากร้อนชื้นของคนที่อยู่ด้านหลังรุกล้ำครอบครองผิวเนียนสีน้ำนม  ลำคอแห้งผากแล้วสติที่มีอยู่น้อยนิดของโดยองก็ถูกกระชากไปเมื่อริมฝีปากร้อนกดจูบแผ่วเบาลงบนกลีบปากสีสวย พร้อมกับเสื้อยืดที่หลุดลอยออกจากร่าง  ลิ้นร้อนเริ่มเข้าครอบครองจุกสีหวานกลางอก    แผ่นหลังเปลือยเปล่าของโดยองถูกดันให้ติดกับคอนโซนหน้ารถ  ยอดอกสีหวานถูกขบเม้มจนร้อนไปหมด  ขณะที่มือหนาของแจฮยอนก็ทำหน้าที่ไปด้วยนวดคลึงต้นขาขาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของโดยอง


“แจ...ฮยอน” โดยองร้องเสียงหลงเมื่อสัมผัสถึงความเย็นของเครื่องปรับอากาศ  ทันทีเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากร่าง  เนื้อตัวเปลือยเปล่าถูกเปิดเผยต่อสายตาคมที่จับจ้อง  


ดวงตาคมที่มีแววตาแสดงออกถึงความปรารถนาเอาไว้ไม่มิดก่อนจะไล่สำรวจไปทุกซอกทุกมุมของผิวเนียนนุ่ม  ปลีขาเรียวยาวถูกแยกออกจากกันเมื่อใบหน้าคมฝังลงไปหยอกเอิ้นกับส่วนอ่อนไหวสีชมพู  ฟันซี่เล็กๆ ครูดขึ้นลงเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะจนสะโพกมนขยับตามอย่างรวดเร็ว  ปลายเล็บแหลมจิกทึ้งที่พรมที่วางอยู่หน้ารถ  ไหล่หนาของแจฮยอนถูกใช้เป็นที่พักพิงเมื่อน้ำหยดสุดท้ายไหลลงสู่คอร่างสูงที่ดูดกลืนไปจนหมด



ร่างที่อ่อนปวกเปียกถูกพลิกให้หันหลังก่อนที่ส่วนแข็งขืนจะกดลงไปในโพรงหวานช้าๆ  โดยองไม่มีแม้แต่แรงที่จะผลักคนที่กำลังจะรังแกให้ออกไปได้แต่กัดฟันรอรับความเจ็บปวดที่ไม่ได้มีการเปิดทางไว้ก่อน  เอวบางถูกดึงให้ต่ำลงมาช้าๆ ขณะที่เสียงทุ้มครางออกมาเป็นพักๆ เมื่อร่างกายค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ร่างบางได้เพียงทีละน้อย  แม้ว่าใจจะอยากรักโดยองให้เร็วที่สุดแต่ก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป


“อ๊ะ...เจ็บ”


“ทนหน่อยนะครับ  โดยองของผม”



เสียงครางแผ่วเมื่อร่างแกร่งขยับตัวให้อยู่ในท่าที่ถนัดมากที่สุด  แรงเคลื่อนตัวจากด้านล่างทำให้เรือนกายบางของโดยองเคลื่อนไหวไปมา  สองเสียงที่ดังประสานกันขึ้นอย่างสุขสมโดยไม่กลัวว่าใครจะผ่านมาได้ยิน






เปลือกตาบางสีน้ำนมที่ปิดสนิทเริ่มเคลื่อนไหวไปมา  ดวงตาคู่สวยจะจ้องมองเพดานที่เห็นจนชินตาไม่ต้องบอกก็รู้นี่คือห้องนอนในหอพักBassBot   ร่างกายที่มีเพียงผ้าห่มคลุมไว้เท่านั้นแค่โดยองขยับร่างกายนิดเดียวความเจ็บร้าวไปทั้งสะโพกก็จี้ดขึ้นสมอง  


โดยองพยายามที่จะแกะมือหนาของใครบางคนที่นอนกอดซ้อนอยู่ด้านหลังออก  แก้มเนียนแดงเข้มด้วยความเขินใครจะคาดคิดคนนิ่งๆ จะมีบทรักที่ร้อนแรงตั้งแต่ในรถยันมาถึงในห้องพัก


“จะไปไหน   ยังเช้าอยู่เลยนอนต่อเถอะนะพี่” เสียงงึมงำที่ดังมาจากด้านหลังพร้อมกับใบหน้าคมที่จูบเบาๆ ที่ต้นคอ


“จะกลับไปนอนห้องฉัน” โดยองบอกด้วยเสียงนิ่ง ๆ 


“เตียงผม  หรือห้องผม  ก็เหมือนของพี่ละโดยองอา”


“...........................”


แจฮยอนชะโงกหน้าดูคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้นอนนิ่งแล้วยิ่งมีน้ำไหลๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยมันทำให้ใจหาย


“พี่”


“ปล่อยฉันเถอะแจฮยอน    ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจะให้นายแล้วนะ”


“ใครว่า...พี่ยังมีของที่ผมอยากได้อยู่นะคิมโดยอง”


โดยองที่ได้ยินน้ำเสียงกวนๆ มันทำให้โมโหจนลืมตัวไม่สนใจความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาทุกครั้งที่ขยับตัวเลยสักนิด  พอลุกนั่งได้ก็คว้าเอาหมอนที่ใช้หนุนมาฟาดใส่ร่างหนาที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยกันแบบไม่ยั้งมือ


“โอยเจ็บนะพี่” แจฮยอนปัดป้องตัวเองก่อนจะกระชากหมอนออกจากร่างบางโยนทิ้งไปอีกทาง  แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมคราวนี้โถมตัวเข้าหาพร้อมเอามือตีที่อกแกร่งจนเขาต้องชาร์ตเข้ากอดล็อคตัวไว้


“นายกล้าพูดแบบนี้ได้ไง”


“แล้วหัวใจพี่  ให้ผมได้ไหมคิมโดยอง”


โดยองเงยหน้าขึ้นมามอง


“ผมรักพี่  จองแจฮยอนคนนี้รักคิมโดยอง”


นี่ใช่ไหม? 
คำที่รอฟังมาตลอดหลายปี


“แบบพี่น้องสินะ” แจฮยอนสวนขึ้นทันที


“แบบคนรัก  ถ้าแบบพี่น้องจะทำแบบนี้ได้ไง” ว่าแล้วก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากได้รูปเบาๆ


“แล้วพี่ละครับ....รักผมไหม” 


เสียงทุ้มพร่าที่กระซิบอยู่ข้างหู    มันให้โดยองรู้สึกตัว...ว่าตัวเองอยู่ในท่านั่งที่ล่อแหลมทั้งตัวเปล่าที่มีเพียงผ้าห่มบางกั้นไว้กับร่างหนาของแจฮยอนทั้งตัวแทบจะเกยอยู่บนร่างของมักเน่


“แล้วถ้าไม่รักจะยอมทำไมเล่า!!!!!


“รักนะครับ” แจฮยอนพูดพร้อมกับเอามือดันคางคนในอ้อมกอดให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา


“แต่ตอนนี้ฉันไม่ “รัก” นายแล้ว” โดยองหลบสายตาคมที่มองมาด้วยแววตาที่ปรารถนา 


“งั้นขอผมรักพี่เองก็ได้  สักรอบสองรอบแล้วกัน”







 “พี่ยองโฮครับ  เอ่อพี่โดยองเป็นไงบ้าง”  


แจฮยอนถลาเข้าไปถามคุณหมอทันทีที่เปิดประตูห้องนอนออกมา


“เอ่อ.....” คุณหมอซอยองโฮเห็นสีหน้ากังวลของแจฮยอนแล้วก็พูดไม่ออก    ก็เพราะคนที่นอนอยู่ในห้องนอนที่คุณหมอเพิ่งตรวจอาการพร้อมฉีดยาลดไข้ให้ไปถึงสองเข็มอดรู้สึกเขินขึ้นมาเสียไม่ได้   
คือให้มาตรวจอาการโดยองที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแดง...ที่บ่งบอกถึงการผ่านการมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง


“แจฮยอน” คุณหมอยองโฮพูดเสียงอ่อนโชคดีที่ตอนชายหนุ่มโทรศัพท์หาเขานั้น



แทอิลไปฟิสเนสทำให้คลาดกันไปนิดเดียว  และใช่ว่าเรื่องนี้จะบอกลีดเดอร์ของ BassBot ได้อย่างสะดวกใจ


“ครับพี่”


“โดยองไม่เป็นไรมากหรอกแค่ร่างกายอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย   นี่มันเกิดอะไรขึ้น....แล้วทำไมม่านตาเราเป็นแบบนั้น”


คราวนี้คุณหมอยองโฮจับแจฮยอนนั่งลงที่โซฟากลางห้องรับแขกก่อนจะหยิบไฟฉายขนาดเล็กขึ้นมาตรวจม่านตาของนักร้องหนุ่ม   ไม่ต้องให้คุณหมออธิบายอะไรมากแจฮยอนก็เข้าใจอาการตนเองดีว่าเกิดจากอะไร   
แค่สัมผัสโดยองเพียงนิดเดียวก็เกิดความต้องการขึ้นมาอย่างมากจนไม่อาจหยุดได้



“พี่ครับ  ได้โปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”


“พวกนายนี่นะ  ให้ตายเถอะ  พี่จะถือว่าวันนี้ไม่เคยมาห้องนี้ก็แล้วกัน  ส่วนยานี้ให้โดยองกินตามเวลาแล้วกันจะทำไรก็คิดก่อนนะ  วีคหน้าจะเริ่มซ้อมแล้ว” ยองโฮส่ายหน้าอย่างระอาใจเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้จัดการหรือสมาชิกวงคนอื่นถึงไม่อยู่หอพักในสุดสัปดาห์นี้


“ขอบคุณครับพี่”


แจฮยอนเดินไปส่งคุณหมอที่หน้าประตู  ก่อนจะกลับมานั่งดูทีวีต่อที่โซฟาเพราะตอนนี้ร่างบางในห้องกำลังหลับด้วยฤทธิ์ยาแก้ไขผสมยานอนหลับที่คุณหมอยองโฮฉีดให้


“กระต่ายจอมยั่ว   ถึงพี่ไม่วางยาผมก็จะจับพี่กินเร็วๆ นี้อยู่แล้วคิมโดยอง”






 “ไง  ใครทำอะไรขัดใจมาอีกละโดยอง” แบคโฮทักทายรุ่นพี่คนสนิทต่างวงต่างค่ายที่นานๆ ทีจะเจอกัน


“เด็กที่บ้านวะพี่แบคโฮ” ตอบก่อนจะคว้าแก้วออนเดอะร็อคของรุ่นพี่มากระดกรวดเดียวจนหมด


“ท่ามากก็จับปล้ำก็สิ้นเรื่อง”


“ว้าว...ความคิดไม่เลวนะพี่  ว่าแต่ยาที่พี่แบคโฮเคยเล่นยังมีเหลือไหม?”


“แพงขนาดนั้นใครเค้าจะมาให้กันง่าย   แบ่งคนละครึ่งเม็ดนะโว้ย” ก่อนจะส่งครึ่งเสี้ยวของยาเม็ดสีอ่อนที่ห่อกระดาษใสให้   ยาสังเคราะห์ที่ไร้กลิ่น  ไร้รส


“เพลาๆ นะโดยอง  เดี๋ยวไม่แรงซ้อมใกล้คัมแบคแล้ว”


“ครับพี่  ใช่ว่าผมไม่เคยโต้รุ่งสักหน่อย” โดยองยักคิ้วกวนให้รุ่นพี่ที่เดินไปแยกตัวไปทางห้องน้ำของผับ


“มาแล้วทำหน้าเป็นหมาเหงา  กลับไปนอนหอดีกว่ามั้งคิมโด”  ชายหนุ่มร่างเล็กที่กรีดตาเฉี่ยวที่สวมเสื้อซีทรูสีดำกับกางเกงเดฟสีแดงสดและรองเท้าบูทครึ่งแข้งเอ่ยทัก


“....................” โดยองเงียบทันทีที่หางตาเห็นแจฮยอนที่กำลังเดินเข้ามา


“เฮ้ยเป็นอะไร?” เรนถามขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนเงียบ


“ทะเลาะกับน้องเค้ามาเหรอ?”


คำว่า “น้อง” มันทำให้โดยองคว้าแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันกลืนลงลำคอไปติดๆกันสามแก้ว


“ฉันเป็นมันแค่พี่ชายร่วมวงก็เท่านั้นเอง  ฉันเจ็บชะมัดเลยเรน” มือบางกำลังจะคว้าแก้วที่ตอนนี้ถูกเติมจนเต็มอีกครั้งขึ้นดื่มต้องหยุดชะงักเพราะถูกใครบางคนยึดเอาไว้


“กลับ” ดวงตาคมของแจฮยอนฉายแววดุ  ก่อนจะฉุดแขนโดยองให้ลุกขึ้นและกึ่งจูงกึ่งลากออกจากผับไป


คิมโดยองหันหลังกลับมาขยิบตาให้กับเพื่อนสนิทที่มองตามไปอย่างงงๆ 


“เรน....คนนั้นแฟนโดยองเหรอ?”


เรนหันไปมองแบคโฮที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ


“นั้น  มันโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่  ไม่ต้องใช้ยาเจ้าเด็กยุนโอไอ้คุณชายสร้างภาพจอมหื่นเงียบก็จ้องจะกินมันอยู่แล้ว”


เรนแทบจะสบถออกมาชุดใหญ่  ก่อนจะมองแฟนตัวอย่างงอน ๆ ก็จะอะไรก็พวกแก็งค์นี้มันชอบหลอกให้เหงื่อมาติดเบ็ดด้วยอาการนิ่งๆ สุภาพ  อ่อนโยนแต่ร้ายลึก


“ช่างมันดิ  เพราะยังไงโดยองมันจ้องงาบน้องเค้ามาตั้งนาน  จะโดนน้องเค้ากินหรือมันจะเป็นฝ่ายกินน้องเค้าก็คงไม่ต่างกัน”




จองแจฮยอนกับคิมโดยองคงไม่ต้องบอกนะว่าใครนะร้ายที่สุด
แต่ถ้าร้ายเพราะรัก
เชื่อเถอะอีกฝ่ายก็ต้องยอมอภัยให้อยู่แล้ว...ก็เพราะรักคำเดียวสั้น ๆ ก็เท่านั้นเอง




+++++++++++++++++++
++++++++++++++++++รบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดี  หรือสครีมแท๊ก #อุ่นไอรักแทเตนล์ 
 ด้วยนะเจ้าค่ะ  ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ   รักทุกคนค่ะที่แวะมาอ่าน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น