วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

OS: I’m ok.[TAOKAI ft.Sehun]

OS: I’m ok.
Pairing :   TAOKAI ft.Sehun
By  winata
Note: สั้น ๆ มางง ๆ ถือว่าฉลองวันเกิดให้ตัวเอง(6ตค)แล้วกัน



            มือหนาดันแว่นสายตากรอบสีขาวให้เข้าที่พลางใช้ความคิดแก้สมการโจทย์แคลคูลัสหนึ่งที่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ทุกคนต้องเรียน  ซึ่งฮวางจื่อเทาสอบผ่านไปเมื่อเทอมก่อนด้วยเกรดเอ  แถมไม่ใช่เอธรรมดาแต่เป็นคะแนนที่สูงที่สุดทำให้เกรดที่ตัดคะแนนอิงกลุ่มมีนักศึกษาติดเอฟเป็นจำนวนมาก  รวมถึงเจ้าของโจทย์ที่เขาต้องมาติวช่วยอีกฝ่ายเพื่อที่จะเก็บหน่วยกิตให้ผ่านในเทอมนี้เพื่อจะได้เรียนตัวถัดไป  เพราะแคลคูลัสของวิศวะต้องเรียนตัวต่อกันถึงสี่ตัว


            “ขอโทษนะที่มาช้า  แล็ปเซอร์กิตปล่อยช้ามาก” คนมาใหม่บอกพร้อมยิ้มกว้างก่อนจะรีบหยิบสมุดรวมถึงชีทขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมในการติว


            “ไม่เป็นไร  วิ่งละสิ  เอ้าเช็ดหน้าก่อนเหงื่อนายนี่ยังอ่ะไปอาบน้ำมา” จื่อเทาบอกพร้อมยื่นผ้าขนหนูที่พกติดกระเป๋าใส่ชุดซ้อมบาสมาสองผืนประจำให้กับร่างโปร่ง  ที่เอื้อมมือมารับไปซับเหงื่อ


            “โอเค มาติวเถอะวันนี้เรียนหาปริพันธ์ไม่จำกัดเขตมา  ไม่เข้าใจเลยอ่ะจื่อเทา  แถมคาบหน้าอาจารย์มิเรียมจะควิซด้วย”


            “มันไม่ยากนะเรื่องนี้  มันมีทริกอยู่แค่.....” จากนั้นจื่อเทาก็ค่อย ๆ อธิบายให้เพื่อนร่วมคณะแต่ต่างภาควิชาฟังอย่างละเอียดพร้อมยกตัวอย่างประกอบ  พร้อมบอกแนวข้อสอบที่เชื่อเถอะถ้าคิมจงอินกลับไปซ้อมทำโจทย์วันนี้ควิซเก็บคะแนนครั้งหน้าคิมจงอินได้เต็มแน่ ๆ ก็เพราะฮวางจื่อเทาเป็นศิษย์รักของอาจารย์ปาร์คมิเรียม   แถมโจทย์ในสไลด์หรือชีทที่อาจารย์ทำแจกนักศึกษาเขาทำมาไม่ต่ำกว่าสิบรอบ  เพราะงั้นแนวการออกข้อสอบของอาจารย์เขาเดาทางได้หมด


            เกือบสองชั่วโมงที่ทั้งคู่ใช้เวลาติวที่โต๊ะม้าหินอ่อนลานคณะ   เป็นภาพชินตาของนักศึกษาคนอื่นที่จะเห็นฮวางจื่อเทาดุคิมจงอินที่แก้สมการแคลคูลัสผิด


            “นายเก่งมากนะจื่อเทา  ที่ทำให้ฉันที่อ่อนแคลสุด ๆ เข้าใจ  ไฟนอลนี้มีความมั่นใจขึ้นเยอะเลยไม่งั้นไม่ได้เรียนตัวถัดไปแน่ ดูสิพวกนายเรียนแคล2 ฉันยังต้องเรียนแคล1อยู่เลย”


            “เอ้าน้า  เทอมนี้ผ่านแน่ ๆ ใช่ว่านายมีคนเดียวที่ติดวิชานี้สักหน่อย” จื่อเทาบอกพร้อมยิ้มตามคนที่นั่งข้าง ๆ ที่ไหล่แทบจะเกยกันอยู่แล้ว  


            มันก็แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่เป็นเวลาของฮวางจื่อเทาที่ได้มีคิมจงอินอยู่ข้าง ๆ


            เวลาที่คนสองคนอยู่เคียงข้าง ๆ กันโดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไร


            “เหนื่อยจัง  ไปหาอะไรเย็น ๆ ที่ร้านนมข้างคณะกัน  จื่อเทาลุกเร็ว” ร่างโปร่งบอกพร้อมกวาดข้าวของทุกอย่างลงเป้สะพายไหล่ก่อนจะหันมาฉุดแขนจื่อเทาให้เดินตามตัวเอง


            ดวงตาคมมองมือเรียวที่จับมือของตัวเองอยู่ก็ยิ้มออกมา...เพราะมันอุ่นไปถึงหัวใจ
            ...อย่างน้อยตอนนี้คิมจงอินก็จับมือฮวางจื่อเทาเอาไว้...
            แค่นี้ก็พอแล้ว...จริง ๆ นะ


            “เอาชานมเย็นครับ   แล้วนายเอาอะไรจื่อเทา” จงอินหันมาถามคนอยู่ข้างๆ ที่พ่วงตำแหน่งติวเตอร์ประจำที่เป็นมาเกือบเทอมแล้ว


            “คาราเมลมัคกิอาโต้เฟปเป้ เพิ่มวิปครีมแล้วก็ท็อปปิ้งช็อกโกแลตชิป” แล้วจื่อเทาก็หันมามองคนที่ยืนทำตาโตอยู่ข้าง ๆ

            “อะไร  ทำไมมองแบบนั้น”

            “ก็นายสั่งได้แบบว่าสุดยอด  ปกตินอกจากชานมฉันก็ไม่รู้จะสั่งอะไรเลยนะ   แป๊บๆ เดี๋ยวรับสายก่อน”

            ดวงตาคมหม่นแสงลงเมื่อเห็นหน้าจอมือถือที่จงอินหันมาโชว์ว่าใครโทรเข้ามา...ปลายสายที่เป็นคนสำคัญของคิมจงอิน



            น้ำเสียงทุ้มนุ่มหูที่กำลังพูดกับปลายสายมันทำให้จื่อเทารู้สึกหายใจไม่ออก
            รอยยิ้มนั้นที่มันยิ่งทำให้จื่อเทาอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้
            ทั้งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ...แต่จื่อเทาไม่มีสิทธิ์แม้จะเอื้อมมือไปจับคิมจงอิน



            “อ้าว  ไหนว่าซ้อมเต้นเสร็จตอนห้าโมงไง  เพิ่งติวกับจื่อเทาเสร็จ  โอเคครับคุณชายโอเซฮุน  ผมจะรีบขับรถไปเดี่ยวนี้ ไม่เกินสิบนาทีแล้วเจอกัน”



            แล้วคำพูดสุดท้ายก่อนวางสายของจงอินก็เหมือนมีดคม ๆ ที่มันกรีดบนหัวใจของฮวางจื่อเทาให้เป็นแผล...แผลที่ลึกลงมากกว่าเดิม

            “รักนายเหมือนกันเซฮุน  เจ้าแมวขี้อ้อน”



            “จื่อเทา  ฉันคงต้องไปก่อนนะเดี๋ยวเซฮุนรอนาน  ไว้ไงเดี๋ยวโทรหานะ” จงอินบอกก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์


            “อืม” ร่างสูงบอกสั้น ๆ ก่อนเสสายตามองออกไปนอกร้าน

            “นายโอเคนะ” จงอินหันกลับมาถามเพื่อนร่วมคณะที่วันนี้มีอาการแปลก ๆ

            “ฉันโอเคน้า...รีบไปเถอะ  เดี๋ยวเซฮุนรอนาน” จื่อเทาบอกพร้อมยิ้มให้กับแผ่นหลังของคิมจงอินที่เดินออกไปจากร้าน

            มันก็แค่อีกครั้ง...ที่เวลาของฮวางจื่อเทาหมดลงแล้ว


            “เอ่อ...” เสียงพี่พนักงานที่กำลังรอรับออเดอร์ทำให้จื่อเทาได้สติ


            “ไม่เอาทั้งสองแก้วนะครับพี่” บอกด้วยเสียงเรียบ ๆ เพราะตอนนี้ร่างสูงไม่มีอารมณ์ที่จะอยากดื่มอะไรแล้วก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้าน


            “อ้าวน้องคะ...แต่พี่ยังไม่ได้ทำ....”


            ร่างสูงไม่แม้แต่จะสนใจที่เรียกตามหลังเพราะตอนนี้ความรู้สึกเจ็บจนชามันลามไปทั้งตัวแล้ว  ขาแกร่งก้าวไปอย่างเชื่องช้าทีละก้าว...ทีละก้าว


            แค่ฮวางจื่อเทามีความสำคัญในเวลาที่คิมจงอินต้องการความช่วยเหลือก็พอแล้ว  เขาโอเคกับจุดที่ตัวเองยืนอยู่เพราะรู้ตัวดีไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถก้าวเข้าไปแทรกกลางความสัมพันธ์ของจงอินกับใครคนนั้นได้
            I’m ok






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น