วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

OS: KISS [TAOKAI]

OS: KISS
Pairing :   TAOKAI
By  winata
Note: คิดถึงคู่นี้...แบบเป็นอีกคู่ที่เราชอบ ><

              ...สวบ...เสียงดังจากลูกบอลสีส้มที่ร่างสูงที่มีเชื้อสายจีนและดวงตาคมที่สะกดทุกคนได้ส่งออกไปลงห้วงของแป้นบาสทันเวลาก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดทันเวลาพอดี  สามแต้มที่ถูกชู๊ตของจื่อเทาช่วยให้ฝั่งของปีสองที่แข่งซ้อมกับปีสามที่เป็นนักกีฬาตัวจริงของโรงเรียนชนะไปแบบหวุดหวิด 60-58 คะแนน


              เพื่อนร่วมทีมทั้งหลายต่างมารุมกอดเพราะนานๆ ทีทีมตัวสำรองชนะทีมตัวจริงที่มีนักกีฬาหลักแบบคริสและลู่หาน  จื่อเทาแค่ยิ้มรับก่อนจะเดินออกมาริมสนามที่ใครบ้างคนที่เดินออกจากสนามมานั่งอยู่ที่ม้านั่งพร้อมยกขวดน้ำดื่มแบบไม่สนใจอะไรเลย


              แต่ภาพที่เด็กผู้ชายผิวสีแทนเพราะแดดกำลังยกขวดน้ำดื่มแล้วน้ำไหลออกมาที่มุมปากแล้วไหลลงมาที่ลำคอระหงและแผ่นอกเนียนละมุนตาที่มีเพียงเสื้อแขนกุดที่ใช้ใส่ซ้อมบาสอยู่นั้นมันทำให้คนมองรู้สึกลำคอแห้งผากพิกล


              “เอามากินมั่งดิ” ว่าแล้วก็แย่งขวดน้ำในมือของอีกคนมาดื่มจนหมดขวดแบบไม่สนใจใบหน้าคมของอีกคนที่มองมางงๆ


              “แล้วทำไมไม่เอาขวดใหม่วะ” ถามแค่นั้นก่อนจะเปิดกระเป๋าคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาซับเหงื่อรวมถึงหยดน้ำที่อยู่แถวลำคอของตัวเอง  ก่อนจะคล้องผ้าไว้ที่คอ


              “แม่งจะมีสักวันม่ะ ที่คุณมึงจะพกมาเอง แถมกูยังใช้แล้วอีกต่างหากผ้าอ่ะ” บ่นอุบอีกรอบว่าคนที่ตาคมเอื้อมมือมาดึงผ้าขนหนูที่จงอินคล้องคอไว้ไปเช็ดใบหน้าที่มีทั้งเหงื่อและหยดน้ำที่อีกคนเพิ่งเทน้ำเย็น ๆ ราดใบหน้ามาแบบไม่กลัวว่าพื้นของโรงยิมจะเปียกและจะมีนักกีฬาคนอื่นมาลื่นน้ำที่ทำเปียกเอาไว้   เพราะตอนนี้ในโรงยิมเหลือเพียงแค่จื่อเทาและจงอินเพียงสองคน


              ร่างสูงเลิกคิ้วเข้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากก่อนใช้ผ้าซับเหงื่อต่อไปแบบไม่สนใจว่าผ้าผืนนั้นจะเปื้อนเหงื่อหรือคาบไคลของจงอินเลยสักนิด


              “ชอบกลิ่นนี้  เดี๋ยวบอกแม่ให้เปลี่ยนน้ำยาปรับผ้านุ่มมาใช้กลิ่นเดียวกับแม่นายดีกว่า”


              “เหนื่อยจนเพี้ยนเปล่า  แม่นายกับแม่ฉันก็ใช้ยี่ห้อเดียวกันไม่ได้เปลี่ยนใหม่สักหน่อย” ตอบแบบไม่ใส่ใจก่อนจะคว้าเป้ที่เก็บข้าวของหมดแล้วขึ้นคล้องไหล่  รวมถึงส่งเป้อีกใบให้จื่อเทาก่อนจะก้าวนำเดินออกจากโรงยิม


              “นึกว่าจะมาไม่ทัน  จงอินกลับบ้านพร้อมพี่ไหม” กัปตันทีมบาสตัวจริงเอ่ยทักขึ้นที่หน้าประตูโรงยิม  ที่จื่อเทาแอบเบ้ปากแล้วบ่นเบา ๆ แต่จงอินได้ยินเต็มสองหู


              “อยู่สองคนเสือกทักคนเดียว โลกจะเอียงไปไหน”


              เพราะสีหน้าบูดบึ้งและหงิกงอของเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำให้จงอินส่งยิ้มให้คริสก่อนจะปฏิเสธไปอย่างสุภาพแล้วฉุดมือของจื่อเทาให้รีบเดินไปรอรถเมล์ที่พวกเขาทั้งคู่ใช้โดยสารกลับบ้านทุกวัน  กว่าพวกเขาจะได้ขึ้นรถก็เกือบสามทุ่มที่ตอนนี้คนในรถแทบจะบางตา


              แทบทุกครั้งที่จงอินต้องเป็นฝ่ายนั่งติดหน้าต่างและจื่อเทาจะนั่งด้านนอก  รถเมล์เคลื่อนตัวออกจากป้ายหน้าโรงเรียนไปไม่ถึงสิบนาที หัวกลม ๆ ของจงอินก็เอนไปมาก่อนที่ร่างสูงจะรั้งให้มาซบไหล่ของตัวเองพร้อมยิ้มมุมปาก  แล้วนั่งฟังเพลงจากไอพอดไปเรื่อย ๆ จนใกล้ถึงป้ายที่จะลงก็สะกิดปลุกคนข้าง ๆ ที่งัวเงียขึ้นมามองจนต้องจูงมือให้เดินลงจากรถเมล์


              “อาบน้ำแป๊บ  เดี๋ยวไปทำการบ้านด้วย”


              “ฉันทำเสร็จหมดแล้วนะ” จงอินบอกขณะที่เปิดประตูบ้าน  ซึ่งบ้านของจื่อเทากับจงอินอยู่ข้าง ๆ กัน


              “ไม่รู้อ่ะ  ฉันยังทำไม่เสร็จ  บอกจะเอาไปทำห้องนายก็ตามนั้น” พูดจบคนตาคมก็เข้าบ้านไของตัวเองปเลยเหลือจงอินที่เพิ่งตื่นเต็มตายกมือเกาแก้มอย่างงงๆ


              “เอาแต่ใจว่ะ ฮวางจื่อเทา”  อีกครั้งที่คิมจงอินได้บ่นตามหลัง!!!
             



              คิมจงอินที่อยู่ในชุดนอนที่ตอนนี้ตาปรือจนจะลืมไม่ขึ้น  นั่งอยู่ข้างเตียงนอนของตัวเองและอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่จื่อเทาเอามากางทำการบ้านชีวะกับฟิสิกส์   ซึ่งแน่นอนจงอินใช้เวลาว่างคาบพักเที่ยงเอาของเซฮุนมาลอกเรียบร้อยในขณะที่ร่างสูงดันไปเล่นบาสเพื่อนร่วมทีมทั้งที่ตอนเย็นก็ต้องซ้อมอยู่แล้ว


              “เซฮุน คิดเลขผิดรึเปล่าทำไมฉันคิดแล้วตัวเลขไม่เท่ากัน” ว่าแล้วก็ชี้ตรงบรรทัดสมการ  จงอินชะโงกหน้าไปดูก่อนจะคว้าดินสอบนโต๊ะมาลองคำนวณดูบ้างกับกระดาษทดที่จื่อเทาใช้คิด

              “ผิดจริงด้วย  มันต้องเป็นนาโนไม่ใช่เมกกะ” จงอินเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษทดก็เจอใบหน้าคมของ
จื่อเทาที่ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่อยู่ใกล้กัน...ใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ

              ดวงตาสองคู่ที่มองสบกันก่อนที่จงอินจะเป็นฝ่ายหลับตาลงก่อน  เมื่อจื่อเทาขยับมาใกล้พร้อมกับแนบริมฝีปากบางลงบนริมฝีบางหนาแต่สวยได้รูปของจงอินเบา ๆ ก่อนจูบไล้ขมเม้มให้อีกฝ่ายเปิดปากพร้อมกับเรียวลิ้นอุ่นที่กวาดต้อนความหวานไปมา  ก่อนจะถอนตัวออกมาเมื่อโดนกำปั้นที่ทุบหัวไหล่เบา ๆ


              “ง่วงแล้ว” บอกแต่นั้นแล้วจงอินก็ลุกขึ้นไปนอนบนเตียงเดี่ยวของตัวเองพร้อมกับยกผ้าห่มคลุมโปง


              จื่อเทาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะเก็บสมุดการบ้านใส่กระเป๋าเป้ของตัวเองแล้วเอาไว้วางไว้ข้าง ๆ กับของจงอิน  แล้วพับเก็บโต๊ะญี่ปุ่น  จากนั้นก็เดินไปปิดไฟแล้วเดินกลับไปยังเตียงนอนซึ่งร่างสูงเดินไปมาอย่างคุ้นเคยแทบจะเป็นห้องของตัวเองก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วรั้งร่างของอีกคนเข้ามากอดไว้

              “ฝันดีครับ”

              “อือ”


              แล้วเป็นอีกคืนที่ฮวางจื่อเทาไม่ได้กลับไปนอนบ้านของตัวเอง






***************อ้ายยย  กรี๊ดแล้วจากไปแบบว่ากำลังหลงคู่นี้  รับโดเนทสติให้วินาตะโดยด่วน**************


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น