วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

OS:ความรักความลับ [LuBaek]

OS:ความรักความลับ
Pairing :   LuBaek
By  winata
Note: เหตุเกิดเพราะรูปนี้นะคะ  และมาแบบสั้น^^









คุณเคยไหม? ที่มีความรักที่เป็นได้แค่ความลับ...
ความรักที่ไม่สามารถพูดออกไปได้นอกจากเก็บไว้เป็นความลับในใจ


          ร่างสูงโปร่งกวาดเอาสิ่งของจำเป็น   สำหรับการเดินทางไปจีนเพื่อถ่ายรายการแฮปปี้แคมป์ลงกระเป๋าน้องแอลวีใบเก่งที่ช่วงนี้หยิบมาใช้บ่อยมากกว่ากระเป๋าเป้ของเอ็มซีเอ็มยี่ห้อโปรดอีกยี่ห้อ  เพียงเพราะกระเป๋าใบนี้เป็นของขวัญ
วันคริสมาสต์ที่ใครบางคนให้มา….ใครบางคนที่เป็นคนสำคัญของลู่หานหน้าตาของวงเอ็กโซ

          แล้วขาแกร่งก็ต้องหยุดชะงักกึกเมื่อเปิดประตูห้องพักออกมา

          “อ้าวเรียบร้อยแล้วใช่ไหมทุกคน ไป..ไป รีบเข้ารถตู้มารอด้านล่างแล้ว”  เสียงพี่ผู้จัดการเรียกสติกลับมาจากภาพกลางห้องรับแขกของหอพักร่วมใหม่ของเอ็กโซทั้งสิบสองคน  ที่หลังจากคัมแบ็คกลับมาในอัลบั้มเต็มครั้งแรกหลังจากหายไปสิบสี่เดือน


          “น่ารักมั้ยลู่หานฮยอง  วันนี้ผมกับคยองใส่เสื้อคู่จากบ้านแฟนเบสด้วยนะ  คริ..คริ วันนี้บอสซั่มไลน์ต้องกรี๊ดพร้อมฟินตัวแตกแน่ ๆ” ตัวคนพูดที่พูดได้ตลอดเวลาจนลิงหลับพอ ๆ กับคู่หูร่างโย่งน้องเสาไฟฟ้าอย่างชานยอลที่เดินออกไปจากห้องพักก่อนทำเอาลู่หานแอบเบะปาก


          ถ้ารู้ว่าบ้านไหนให้..ตรูจะจ้างแฮกเกอร์ปิดเวบ!!!!


          “ฮยอง...ผม...”


          ส่วนคนที่ทำหน้าลำบากอยู่ข้าง ๆ ที่ดูก็รู้ว่าโดนบังคับให้ใส่เสื้อคู่   มันทำให้โกรธไม่ลง  ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมนวอยซ์หลักอีกคนของวงอย่างโดคยองซู  เคยมีปากมีเสียงกับใครที่ไหน - -*  อย่างมากถ้าร่างเล็กจะบ่นเพราะความเหลืออดก็พูดแค่ว่า


          “เพ้อเจ้อไปละ” 


          และแน่นอนคนที่ได้รับคำพูดนี้บ่อย ๆ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแร็ปเปอร์ของวงอย่างปาร์คชานยอล            “ช่างเถอะ  ฮยองไม่เป็นไร แต่พวกนายใส่เสื้อแบบนี้ก็น่ารักดีนะ”             ได้แต่ส่งยิ้มไปให้คนที่มองมาตาแป๋ว ๆ แม้จะรู้ว่าคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ จนมาขึ้นรถตู้นั่งไปสนามบินยังเมียงมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง


          ใช่...นี่เป็นอีกคนที่รู้ว่าลู่หานคิดอะไรเกินเลย...เกินคำว่าเพื่อนร่วมวงกับใครบางคนไปแล้ว


          “ฮยอง  ถ้าชอบก็บอกเค้าไปดิ  แบบนี้มันไม่จุกอกตายเหรอ?” น้องสนิทอีกคนที่โดนจับคู่เป็นคู่รักชานมเอ่ยถามขึ้นบ่อย ๆ ตอนแรกเขาคงตอบกลับแต่หลัง ๆ ได้แค่ยิ้มแล้วชวนเปลี่ยนเรื่อง


          บางทีการเก็บไว้เป็นความลับมันมีความสุขในอีกแบบหนึ่ง  มากกว่าบอกออกไปแล้วอีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกัน  ทั้งที่เคยอยากจะรวบรวมความกล้าบอกออกไป  แต่พอถึงเวลาลู่หานก็ถอยหลังออกมาเพราะบางประโยคของใครคนนั้นลอยมา



          “เหนื่อยแต่มีความสุขเนอะฮยอง  ที่สร้างรอยยิ้มให้เอ็กโซแฟนได้” เสียงใสของร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
บนชั้นดาดฟ้าของที่พักเพื่อรอดูพระอาทิตย์แรกของปี2013  ในขณะที่คนอื่น ๆ ในวงต่างกลับบ้านของตัวเอง  ยกเว้นแค่ลู่หานและพยอนแบคฮยอนที่เลือกจะอยู่หอ  ก่อนจะกลับในเช้าวันปีใหม่


          “คุ้มกับการเป็นเด็กเทรนมาหลายปี”


          “นี่เจตนาแซะผมเปล่าเนี่ย” คนที่ก้าวเข้ามาร่วมวงเอ็กโซรองคนสุดท้ายตวัดสายตามองมาแบบเคือง ๆ


          “แล้วแต่นายจะคิด”


          “ลู่หานฮยองงงงงงงงงงงงงงงงงง”


          จากนั้นเสียงบ่นงุ้งงิ้งของคนข้างยังมีมาเรื่อย ๆ ส่วนคนบ่นก็สไลด์หน้าจอมือถือพิมพ์ข้อความอวยพรปีใหม่ให้เพื่อนร่วมวงกับพี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมค่าย


          “ฮยองดูสิ  เจ้าจงอินไปเคาน์ดาวน์บ้านคยองด้วยอ่ะ  ไอ้คู่นี้มีนอกมีในแน่ ๆ”


          “นี่เพิ่งรู้รึไง  ว่าคู่นี้เค้าคบกัน” ปฏิกิริยาที่มองมาเหมือนไม่เชื่อพร้อมกับอาการอ้าปากค้างทำให้ต้องเลิกคิ้วด้วยความงง


          “ดะ...เดี๋ยว ฮยองจะบอกว่า ไคโด้นี่ของจริง ไม่ใช่แฟนเซอร์วิส” พยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะก้มลงเป่าแก้วโกโก้ร้อนที่อยู่ในมือให้อุ่น ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยกขึ้นจิบ เมื่อเห็นร่างเล็กที่เงียบไปเลยทำให้เขาต้องเอ่ยถาม


          “หรือนายรับไม่ได้?”


          “ไม่ใช่ไม่ได้นะฮยอง  เราก็เป็นมนุษย์มีความรู้สึก ชอบ รัก แต่ตอนนี้เราเป็นไอดอล  จะมีเวลาทุ่มเทให้กับความรักได้แค่ไหนกัน  ถ้ารักเค้าแต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เค้าเพราะเราต้องทุ่มเทให้กับงานเพลงและเอ็กโซแฟน  ก็อย่าลากคนที่รักเราให้มาเจ็บปวดเพราะรักแต่ไม่มีเวลาให้ดีกว่า  อ้าว...ทำไมมองผมแบบนั้น”


          “นายคิดแบบนี้เหรอแบคฮยอน”


          “ใช่  ฮยองอาจว่าผมแปลกก็ได้  แต่ผมคิดมาตลอดนะว่าคนเราต้องมีเนื้อคู่ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาคู่กัน  ซึ่งเราจะได้เจอกันและรักกันในเวลาที่เหมาะสม”


          “มันคงคล้ายกับด้ายแดงที่คนจีนเชื่อสินะ” รอยยิ้มพรายบนใบหน้าใสมันทำเอาหัวใจผมกระตุก


          “ใช่เลยฮยอง  ถ้ามีโอกาสผมก็อยากมองเห็นด้ายแดงที่เป็นเนื้อคู่ผมนะ  แต่ก็รู้ล่ะผมในตอนนี้ไม่มีปัญญาพอจะไปดูแลใครเค้าได้”
          ถ้านายหันมามองคนนั่งข้าง ๆ นายอาจจะเห็นก็ได้พยอนแบคฮยอน  คนที่พร้อมจะดูแลนาย
          “เอางี้ม่ะ  ถ้ามองหาอาจทำได้ยาก  เดี๋ยวฮยองลงไปมินิมาร์ทซื้อได้แดงให้นายหลอดแล้วนายก็เอาเชือกไปผูกที่นิ้วก้อยคนที่นายชอบแล้วเค้าจะได้เป็นเนื้อคู่นายไง”


          “โอ้ยฮยอง  ประสาทล่ะใครเค้าจะกล้าเล่า  ให้ฮยองไปทำกับคนที่ชอบเถอะ  ผมไม่เอาด้วยหรอก” 



          ถ้าจะทำกับคนที่ชอบก็จะทำกับนายล่ะแบคฮยอน  เพราะนายคือคนที่ลู่หานชอบ..ไม่สิเรียกว่ารักได้แล้วตอนนี้




          พระอาทิตย์แรกของปีกำลังโผล่ขึ้นที่ขอบฟ้า  ลู่หานหลับตาลงอธิษฐานหวังว่าขอให้ร่างเล็กที่อยู่ข้าง ๆ คือเนื้อคู่ของตนเองเป็นอีกปลายสายของด้ายแดงที่เกาะเกี่ยวกันที่นิ้วก้อยข้างซ้ายและให้เขามีความกล้าพอ..พอที่จะบอกรักกับพยอนแบคฮยอนในวันใดวันหนึ่ง





          หลังจากผ่านเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย(รัก)ที่สนามบินChangsha Huanghuaก่อนจะเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักเพื่อถ่ายทำรายการวาไรตี้โชว์ที่ดังที่สุดของจีน  พี่ผู้จัดการก็เดินมาบอกสมาชิกของเอ็กโซทุกคนว่ามีเวลาว่างอิสระสามชั่วโมงก่อนเริ่มถ่ายทำเทป   จะทำอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่ภายในโรงแรม - -*


          ลู่หานขี้เกียจจะบอกกับใคร ๆ ว่าในโรงแรมนี่ตัวเขาเองแทบหลับตาเดินได้และจำได้ทุกที่ในโรงแรมเพราะมันคือหนึ่งในโรงแรมในเครือบ้านตระกูลลู่


          “ฮยอง  หิวข้าวอ่ะ ที่นี่มีอะไรอร่อย ๆ ให้กินไหม” แบคฮยอนที่เก็บข้าวเสร็จมาเคาะห้องของลู่หานที่วันนี้จับสลากได้รูมเมทคือมินซอกที่ตอนนี้หลับไปแล้ว


          “งั้นไปกินที่เหลาก็ได้นะ เดี๋ยวโทรจองห้องพิเศษก่อนมีอะไรน่ากินเยอะเชียว  เดี๋ยวไกด์ลู่เก้อจะพาไปเชลล์ชวนชิม” พร้อมกับกดเบอร์โทรห้องอาหารของโรงแรมและสั่งความด้วยภาษาบ้านเกิดอย่างรวดเร็ว


          “ป๊ะไปกัน”


          “อ้าว  แล้วเราไม่ปลุกมินซอกฮยองเหรอ” ลู่หานมองไปเตียงเพื่อนร่วมวงที่เปลือกตาสั่นเล็ก ๆ ดูก็รู้ว่าแกล้งหลับแต่ต้องจำใจเดินไปปลุก


          “มินซอก  มินซอก  ฉันจะไปหาไรกินกับแบคฮยอน  นายจะไปไหม” ลู่หานเอื้อมมือไปเขย่าร่างเพื่อนที่ตอนนี้ปรื้อตาขึ้นมามองพร้อมกับรอยยิ้มรู้ทัน


          [อยากกินกับน้องสองคน] ลู่หานขยับปากไม่มีเสียงให้ร่างกลมเห็น


          “พวกนายไปเถอะ  ฉันจะนอน  กินเผื่อด้วยนะ” มินซอกว่าพร้อมกับดึงผ้าห่มคลุมทั้งร่าง


          “เราไปกันเถอะแบคฮยอน”


          ทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องพักมินซอกก็ผุดลุกขึ้นทันทีก่อนจะคว้าเอามือถือโทรหาจงแด  จุนมยอน  เอาเป็นว่าโทรหาทุกคนในเอ็กโซรวมถึงผู้จัดการเลยแล้วกัน ^^



          “ทั้งที่หน้าร้อนแท้ ๆ ที่จีนนี้ก็ลมแรงนะฮยอง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมาลู่หานเลยยื่นแจ็คเก็ตสีดำแขนริ้วหลากสีของตัวเองให้ร่างเล็กใส่


          “เอ้านี่ใส่กันลมไว้  เสื้อยืดนายก็บางเชียว”  ได้โอกาสเนียน ๆ พอดีที่จะไม่ต้องเห็นเสื้อคู่แบคโด้ให้ช้ำใจเล่น


          ยิ่งร่างเล็กส่งยิ้มมาให้ยิ่งทำให้ลู่หานใจสั่น   หลังจากเช้าปีใหม่มาก็ผ่านมาหลายเดือนจนเขาตัดสินใจว่าวันนี้จะสารภาพกับแบคฮยอนให้ได้ถึงความรู้สึกที่มันล้นอยู่เต็มอก


          แต่ความหวังและความตั้งใจของลู่หานก็มีอุปสรรคทันทีที่เปิดประตูห้องพิเศษของภัตตาคารที่เขาจองไว้พิเศษรวมถึงเมนูอาหารจีนพิเศษที่ตั้งใจอยากให้พยอนแบคฮยอนได้ชิม


          “อ้าวเจ้ามือมาช้าจัง  นี่รอนานแล้วนะ” มินซอกพูดขึ้นมาคนแรก  ก่อนจะชี้ที่นั่งสองที่ข้างตัวเองที่ยังว่างอยู่  ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างพยายามกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าทะมึนของลู่หาน


          “ไหนว่าไม่กินไงมินซอกฮยอง”


          “ฮาๆ ฮยองเพิ่งนึกได้ว่าหิวเลยรีบตามมา”


          ลู่หานตวัดสายตาใส่เพื่อนร่วมยูนิตเอ็มก่อนจะปรายตามองสมาชิกคนอื่นที่พากันหลบสายตาเป็นพัลวันโดยเฉพาะคิมจุนมยอนและอู๋อี้ฟาน


          ได้....เล่นแบบนี้กันใช่ไหม?  ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเขาหาโอกาสอยู่ลำพังกับแบคฮยอนเสมอ



          “เอา ๆ ถ่ายรูปกันหน่อย  ไหน ๆ ป๋าลู่ก็จะเลี้ยงพวกเรา” เซฮุนที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะเอ่ยขึ้นพร้อมกับคว้ามือถือขึ้นมากดถ่ายก่อนที่พนักงานจะลำเลียงอาหารมาเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ


          “ไม่อร่อยเหรอลู่หานฮยอง” แบคฮยอนเอ่ยถามขึ้นเพราะเห็นคนข้างไม่ค่อยกินอะไรเลย


          “อร่อยนะ แต่กินบ่อยไงอาหารจีนแล้วนี่แบคฮยอนอิ่มรึยัง”  พยักหน้ารับเพราะอาหารจีนไม่ใช่อะไรน่าพิศสมัยสำหรับแบคฮยอนนักเพราะปกติไม่ชอบกินของจืดหรือเลี่ยน


          “งั้นเราไปกันเถอะ” ลู่หานว่าพร้อมฉุดมือมือร่างเล็กแล้วลุกออกจากโต๊ะ


          “อ้าว  ลู่หานจะไปไหน?” มินซอกที่เงยหน้าขึ้นมาจากจานหลังจากเพิ่งคีบเป็ดปักกิ่งและกุ้งผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์


          “ไปเดินเล่น  ก็กินอิ่มแล้วนี่”


          “อ้าวเฮ้ย  แล้วไหนนายว่าจะเลี้ยง” จุนมฮยอนถามขึ้นมาใช่ว่าจะไม่เห็นแววตาดุ ๆ จากสายตาเพื่อนร่วมวงแต่แบบความหมั่นไส้มันมีให้เยอะเกิน  กับการอมพะนำอ้ำอึ้งในความสัมพันธ์กับเมนวอยซ์ของวง


          “ฉันบอกตอนไหนจะเลี้ยงจุนมยอน  นายเป็นลีดเดอร์ก็จัดการไปสิ” บอกพร้อมรอยยิ้มที่เอ็กโซแฟนเห็นคงได้ลงไปนอนดิ้นแต่มันเรียกสีหน้าซีดเผือดเพราะบิลที่พนักงานส่งให้มันเกือบหกพันหยวน!!!






          “ฮยอง  ลู่หานฮยอง”

          “หื้อ?” หันมามองคนที่เดินอยู่ข้างที่เงยหน้ามองมาอยู่แล้ว

          “ผมจะถามว่าฮยองเจอด้ายแดงที่คิดว่าเป็นเนื้อคู่ของฮยองแล้วรึยัง” ถามเองก็อดเขินไม่ได้

          “จะ..เจอแล้วนะ ง่า คิดว่าฮยองเจอเค้าแล้ว” บอกพร้อมกับสอดประสานฝ่ามือกับมือของร่างเล็ก  ต่างคนต่างอมยิ้มให้กันก่อนจะหันหน้าหนีไปคนละทาง


          บางทีความลับอาจจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป^^



 end


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น