OS:ความรักความลับ
Pairing : LuBaek
By
winata
Note:
เหตุเกิดเพราะรูปนี้นะคะ และมาแบบสั้น^^
คุณเคยไหม?
ที่มีความรักที่เป็นได้แค่ความลับ...
ความรักที่ไม่สามารถพูดออกไปได้นอกจากเก็บไว้เป็นความลับในใจ
ร่างสูงโปร่งกวาดเอาสิ่งของจำเป็น สำหรับการเดินทางไปจีนเพื่อถ่ายรายการแฮปปี้แคมป์ลงกระเป๋าน้องแอลวีใบเก่งที่ช่วงนี้หยิบมาใช้บ่อยมากกว่ากระเป๋าเป้ของเอ็มซีเอ็มยี่ห้อโปรดอีกยี่ห้อ เพียงเพราะกระเป๋าใบนี้เป็นของขวัญ
วันคริสมาสต์ที่ใครบางคนให้มา….ใครบางคนที่เป็นคนสำคัญของลู่หานหน้าตาของวงเอ็กโซ
แล้วขาแกร่งก็ต้องหยุดชะงักกึกเมื่อเปิดประตูห้องพักออกมา
“อ้าวเรียบร้อยแล้วใช่ไหมทุกคน
ไป..ไป รีบเข้ารถตู้มารอด้านล่างแล้ว”
เสียงพี่ผู้จัดการเรียกสติกลับมาจากภาพกลางห้องรับแขกของหอพักร่วมใหม่ของเอ็กโซทั้งสิบสองคน ที่หลังจากคัมแบ็คกลับมาในอัลบั้มเต็มครั้งแรกหลังจากหายไปสิบสี่เดือน
“น่ารักมั้ยลู่หานฮยอง วันนี้ผมกับคยองใส่เสื้อคู่จากบ้านแฟนเบสด้วยนะ คริ..คริ วันนี้บอสซั่มไลน์ต้องกรี๊ดพร้อมฟินตัวแตกแน่
ๆ” ตัวคนพูดที่พูดได้ตลอดเวลาจนลิงหลับพอ ๆ กับคู่หูร่างโย่งน้องเสาไฟฟ้าอย่างชานยอลที่เดินออกไปจากห้องพักก่อนทำเอาลู่หานแอบเบะปาก
ถ้ารู้ว่าบ้านไหนให้..ตรูจะจ้างแฮกเกอร์ปิดเวบ!!!!
“ฮยอง...ผม...”
ส่วนคนที่ทำหน้าลำบากอยู่ข้าง
ๆ ที่ดูก็รู้ว่าโดนบังคับให้ใส่เสื้อคู่
มันทำให้โกรธไม่ลง ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมนวอยซ์หลักอีกคนของวงอย่างโดคยองซู เคยมีปากมีเสียงกับใครที่ไหน - -*
อย่างมากถ้าร่างเล็กจะบ่นเพราะความเหลืออดก็พูดแค่ว่า
“เพ้อเจ้อไปละ”
และแน่นอนคนที่ได้รับคำพูดนี้บ่อย
ๆ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแร็ปเปอร์ของวงอย่างปาร์คชานยอล “ช่างเถอะ
ฮยองไม่เป็นไร แต่พวกนายใส่เสื้อแบบนี้ก็น่ารักดีนะ” ได้แต่ส่งยิ้มไปให้คนที่มองมาตาแป๋ว ๆ
แม้จะรู้ว่าคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ
จนมาขึ้นรถตู้นั่งไปสนามบินยังเมียงมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง
ใช่...นี่เป็นอีกคนที่รู้ว่าลู่หานคิดอะไรเกินเลย...เกินคำว่าเพื่อนร่วมวงกับใครบางคนไปแล้ว
“ฮยอง ถ้าชอบก็บอกเค้าไปดิ แบบนี้มันไม่จุกอกตายเหรอ?”
น้องสนิทอีกคนที่โดนจับคู่เป็นคู่รักชานมเอ่ยถามขึ้นบ่อย ๆ ตอนแรกเขาคงตอบกลับแต่หลัง
ๆ ได้แค่ยิ้มแล้วชวนเปลี่ยนเรื่อง
บางทีการเก็บไว้เป็นความลับมันมีความสุขในอีกแบบหนึ่ง
มากกว่าบอกออกไปแล้วอีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกัน ทั้งที่เคยอยากจะรวบรวมความกล้าบอกออกไป แต่พอถึงเวลาลู่หานก็ถอยหลังออกมาเพราะบางประโยคของใครคนนั้นลอยมา
“เหนื่อยแต่มีความสุขเนอะฮยอง ที่สร้างรอยยิ้มให้เอ็กโซแฟนได้”
เสียงใสของร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
บนชั้นดาดฟ้าของที่พักเพื่อรอดูพระอาทิตย์แรกของปี2013 ในขณะที่คนอื่น ๆ
ในวงต่างกลับบ้านของตัวเอง
ยกเว้นแค่ลู่หานและพยอนแบคฮยอนที่เลือกจะอยู่หอ ก่อนจะกลับในเช้าวันปีใหม่
“คุ้มกับการเป็นเด็กเทรนมาหลายปี”
“นี่เจตนาแซะผมเปล่าเนี่ย”
คนที่ก้าวเข้ามาร่วมวงเอ็กโซรองคนสุดท้ายตวัดสายตามองมาแบบเคือง ๆ
“แล้วแต่นายจะคิด”
“ลู่หานฮยองงงงงงงงงงงงงงงงงง”
จากนั้นเสียงบ่นงุ้งงิ้งของคนข้างยังมีมาเรื่อย
ๆ ส่วนคนบ่นก็สไลด์หน้าจอมือถือพิมพ์ข้อความอวยพรปีใหม่ให้เพื่อนร่วมวงกับพี่ ๆ
น้อง ๆ ร่วมค่าย
“ฮยองดูสิ เจ้าจงอินไปเคาน์ดาวน์บ้านคยองด้วยอ่ะ ไอ้คู่นี้มีนอกมีในแน่ ๆ”
“นี่เพิ่งรู้รึไง ว่าคู่นี้เค้าคบกัน”
ปฏิกิริยาที่มองมาเหมือนไม่เชื่อพร้อมกับอาการอ้าปากค้างทำให้ต้องเลิกคิ้วด้วยความงง
“ดะ...เดี๋ยว
ฮยองจะบอกว่า ไคโด้นี่ของจริง ไม่ใช่แฟนเซอร์วิส”
พยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะก้มลงเป่าแก้วโกโก้ร้อนที่อยู่ในมือให้อุ่น ๆ ก่อนจะค่อย ๆ
ยกขึ้นจิบ เมื่อเห็นร่างเล็กที่เงียบไปเลยทำให้เขาต้องเอ่ยถาม
“หรือนายรับไม่ได้?”
“ไม่ใช่ไม่ได้นะฮยอง เราก็เป็นมนุษย์มีความรู้สึก ชอบ รัก
แต่ตอนนี้เราเป็นไอดอล
จะมีเวลาทุ่มเทให้กับความรักได้แค่ไหนกัน
ถ้ารักเค้าแต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เค้าเพราะเราต้องทุ่มเทให้กับงานเพลงและเอ็กโซแฟน
ก็อย่าลากคนที่รักเราให้มาเจ็บปวดเพราะรักแต่ไม่มีเวลาให้ดีกว่า อ้าว...ทำไมมองผมแบบนั้น”
“นายคิดแบบนี้เหรอแบคฮยอน”
“ใช่ ฮยองอาจว่าผมแปลกก็ได้
แต่ผมคิดมาตลอดนะว่าคนเราต้องมีเนื้อคู่ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาคู่กัน ซึ่งเราจะได้เจอกันและรักกันในเวลาที่เหมาะสม”
“มันคงคล้ายกับด้ายแดงที่คนจีนเชื่อสินะ”
รอยยิ้มพรายบนใบหน้าใสมันทำเอาหัวใจผมกระตุก
“ใช่เลยฮยอง
ถ้ามีโอกาสผมก็อยากมองเห็นด้ายแดงที่เป็นเนื้อคู่ผมนะ แต่ก็รู้ล่ะผมในตอนนี้ไม่มีปัญญาพอจะไปดูแลใครเค้าได้”
ถ้านายหันมามองคนนั่งข้าง ๆ นายอาจจะเห็นก็ได้พยอนแบคฮยอน
คนที่พร้อมจะดูแลนาย
“เอางี้ม่ะ ถ้ามองหาอาจทำได้ยาก เดี๋ยวฮยองลงไปมินิมาร์ทซื้อได้แดงให้นายหลอดแล้วนายก็เอาเชือกไปผูกที่นิ้วก้อยคนที่นายชอบแล้วเค้าจะได้เป็นเนื้อคู่นายไง”
“โอ้ยฮยอง ประสาทล่ะใครเค้าจะกล้าเล่า ให้ฮยองไปทำกับคนที่ชอบเถอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก”
ถ้าจะทำกับคนที่ชอบก็จะทำกับนายล่ะแบคฮยอน เพราะนายคือคนที่ลู่หานชอบ..ไม่สิเรียกว่ารักได้แล้วตอนนี้
พระอาทิตย์แรกของปีกำลังโผล่ขึ้นที่ขอบฟ้า
ลู่หานหลับตาลงอธิษฐานหวังว่าขอให้ร่างเล็กที่อยู่ข้าง ๆ
คือเนื้อคู่ของตนเองเป็นอีกปลายสายของด้ายแดงที่เกาะเกี่ยวกันที่นิ้วก้อยข้างซ้ายและให้เขามีความกล้าพอ..พอที่จะบอกรักกับพยอนแบคฮยอนในวันใดวันหนึ่ง
หลังจากผ่านเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย(รัก)ที่สนามบินChangsha
Huanghuaก่อนจะเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักเพื่อถ่ายทำรายการวาไรตี้โชว์ที่ดังที่สุดของจีน
พี่ผู้จัดการก็เดินมาบอกสมาชิกของเอ็กโซทุกคนว่ามีเวลาว่างอิสระสามชั่วโมงก่อนเริ่มถ่ายทำเทป จะทำอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่ภายในโรงแรม - -*
ลู่หานขี้เกียจจะบอกกับใคร
ๆ
ว่าในโรงแรมนี่ตัวเขาเองแทบหลับตาเดินได้และจำได้ทุกที่ในโรงแรมเพราะมันคือหนึ่งในโรงแรมในเครือบ้านตระกูลลู่
“ฮยอง หิวข้าวอ่ะ ที่นี่มีอะไรอร่อย ๆ ให้กินไหม” แบคฮยอนที่เก็บข้าวเสร็จมาเคาะห้องของลู่หานที่วันนี้จับสลากได้รูมเมทคือมินซอกที่ตอนนี้หลับไปแล้ว
“งั้นไปกินที่เหลาก็ได้นะ
เดี๋ยวโทรจองห้องพิเศษก่อนมีอะไรน่ากินเยอะเชียว
เดี๋ยวไกด์ลู่เก้อจะพาไปเชลล์ชวนชิม” พร้อมกับกดเบอร์โทรห้องอาหารของโรงแรมและสั่งความด้วยภาษาบ้านเกิดอย่างรวดเร็ว
“ป๊ะไปกัน”
“อ้าว แล้วเราไม่ปลุกมินซอกฮยองเหรอ” ลู่หานมองไปเตียงเพื่อนร่วมวงที่เปลือกตาสั่นเล็ก
ๆ ดูก็รู้ว่าแกล้งหลับแต่ต้องจำใจเดินไปปลุก
“มินซอก มินซอก
ฉันจะไปหาไรกินกับแบคฮยอน
นายจะไปไหม”
ลู่หานเอื้อมมือไปเขย่าร่างเพื่อนที่ตอนนี้ปรื้อตาขึ้นมามองพร้อมกับรอยยิ้มรู้ทัน
[อยากกินกับน้องสองคน] ลู่หานขยับปากไม่มีเสียงให้ร่างกลมเห็น
“พวกนายไปเถอะ ฉันจะนอน
กินเผื่อด้วยนะ” มินซอกว่าพร้อมกับดึงผ้าห่มคลุมทั้งร่าง
“เราไปกันเถอะแบคฮยอน”
ทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องพักมินซอกก็ผุดลุกขึ้นทันทีก่อนจะคว้าเอามือถือโทรหาจงแด จุนมยอน
เอาเป็นว่าโทรหาทุกคนในเอ็กโซรวมถึงผู้จัดการเลยแล้วกัน ^^
“ทั้งที่หน้าร้อนแท้ ๆ ที่จีนนี้ก็ลมแรงนะฮยอง”
แบคฮยอนพูดพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมาลู่หานเลยยื่นแจ็คเก็ตสีดำแขนริ้วหลากสีของตัวเองให้ร่างเล็กใส่
“เอ้านี่ใส่กันลมไว้ เสื้อยืดนายก็บางเชียว” ได้โอกาสเนียน ๆ
พอดีที่จะไม่ต้องเห็นเสื้อคู่แบคโด้ให้ช้ำใจเล่น
ยิ่งร่างเล็กส่งยิ้มมาให้ยิ่งทำให้ลู่หานใจสั่น หลังจากเช้าปีใหม่มาก็ผ่านมาหลายเดือนจนเขาตัดสินใจว่าวันนี้จะสารภาพกับแบคฮยอนให้ได้ถึงความรู้สึกที่มันล้นอยู่เต็มอก
แต่ความหวังและความตั้งใจของลู่หานก็มีอุปสรรคทันทีที่เปิดประตูห้องพิเศษของภัตตาคารที่เขาจองไว้พิเศษรวมถึงเมนูอาหารจีนพิเศษที่ตั้งใจอยากให้พยอนแบคฮยอนได้ชิม
“อ้าวเจ้ามือมาช้าจัง นี่รอนานแล้วนะ” มินซอกพูดขึ้นมาคนแรก
ก่อนจะชี้ที่นั่งสองที่ข้างตัวเองที่ยังว่างอยู่ ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างพยายามกลั้นขำเมื่อเห็นสีหน้าทะมึนของลู่หาน
“ไหนว่าไม่กินไงมินซอกฮยอง”
“ฮาๆ
ฮยองเพิ่งนึกได้ว่าหิวเลยรีบตามมา”
ลู่หานตวัดสายตาใส่เพื่อนร่วมยูนิตเอ็มก่อนจะปรายตามองสมาชิกคนอื่นที่พากันหลบสายตาเป็นพัลวันโดยเฉพาะคิมจุนมยอนและอู๋อี้ฟาน
ได้....เล่นแบบนี้กันใช่ไหม?
ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเขาหาโอกาสอยู่ลำพังกับแบคฮยอนเสมอ
“เอา
ๆ ถ่ายรูปกันหน่อย ไหน ๆ
ป๋าลู่ก็จะเลี้ยงพวกเรา” เซฮุนที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะเอ่ยขึ้นพร้อมกับคว้ามือถือขึ้นมากดถ่ายก่อนที่พนักงานจะลำเลียงอาหารมาเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ
“ไม่อร่อยเหรอลู่หานฮยอง”
แบคฮยอนเอ่ยถามขึ้นเพราะเห็นคนข้างไม่ค่อยกินอะไรเลย
“อร่อยนะ
แต่กินบ่อยไงอาหารจีนแล้วนี่แบคฮยอนอิ่มรึยัง”
พยักหน้ารับเพราะอาหารจีนไม่ใช่อะไรน่าพิศสมัยสำหรับแบคฮยอนนักเพราะปกติไม่ชอบกินของจืดหรือเลี่ยน
“งั้นเราไปกันเถอะ”
ลู่หานว่าพร้อมฉุดมือมือร่างเล็กแล้วลุกออกจากโต๊ะ
“อ้าว ลู่หานจะไปไหน?”
มินซอกที่เงยหน้าขึ้นมาจากจานหลังจากเพิ่งคีบเป็ดปักกิ่งและกุ้งผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
“ไปเดินเล่น ก็กินอิ่มแล้วนี่”
“อ้าวเฮ้ย แล้วไหนนายว่าจะเลี้ยง” จุนมฮยอนถามขึ้นมาใช่ว่าจะไม่เห็นแววตาดุ
ๆ จากสายตาเพื่อนร่วมวงแต่แบบความหมั่นไส้มันมีให้เยอะเกิน
กับการอมพะนำอ้ำอึ้งในความสัมพันธ์กับเมนวอยซ์ของวง
“ฉันบอกตอนไหนจะเลี้ยงจุนมยอน นายเป็นลีดเดอร์ก็จัดการไปสิ”
บอกพร้อมรอยยิ้มที่เอ็กโซแฟนเห็นคงได้ลงไปนอนดิ้นแต่มันเรียกสีหน้าซีดเผือดเพราะบิลที่พนักงานส่งให้มันเกือบหกพันหยวน!!!
“ฮยอง ลู่หานฮยอง”
“หื้อ?”
หันมามองคนที่เดินอยู่ข้างที่เงยหน้ามองมาอยู่แล้ว
“ผมจะถามว่าฮยองเจอด้ายแดงที่คิดว่าเป็นเนื้อคู่ของฮยองแล้วรึยัง”
ถามเองก็อดเขินไม่ได้
“จะ..เจอแล้วนะ
ง่า คิดว่าฮยองเจอเค้าแล้ว” บอกพร้อมกับสอดประสานฝ่ามือกับมือของร่างเล็ก
ต่างคนต่างอมยิ้มให้กันก่อนจะหันหน้าหนีไปคนละทาง
บางทีความลับอาจจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น