วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

OS:เพียง 5 นาที [KrisLu]

OS:เพียง 5 นาที
Pairing :   KrisLu
By  winata
Note: มาแบบสั้น ๆ แฮ่ๆ


ถ้าคุณมีเวลาเพียงห้านาทีที่ได้เดินอยู่เคียงข้างใครบางคนที่คุณคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญสำหรับคุณ

แต่....

แน่นอนมันเจ็บปวดจนผมไม่อยากจะแชร์เพราะโลกนี้มีคำว่า “แต่”

เพราะใครคนนั้นกลับมองผ่านเลยคุณไปยังใครอีกคน  ที่คุณเห็นฝ่ายนั้นอยู่ห่าง ๆ ทั้งที่คุณอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมาก็สัมผัสได้  แต่สำหรับคุณใครคนนั้นมองมาเพียงแค่ “เพื่อนสนิท”


เส้นความสัมพันธ์ที่ตัวผมยังไม่กล้าพอ...กล้าที่จะก้าวข้าม


ความรู้สึกก้ำกึ่ง...น่าแปลกคนที่ถูกโหวตให้เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโรงเรียนมัธยมปลายเอสเอ็มแถมพ่วงด้วยตำแหน่งกัปตันทีมบาสอย่างอู้อี๋ฟานจะเป็น-__-;;


มือหนากระชับเป้สะพายสีดำสนิทของตัวเองกระชับแน่นขึ้น  เมื่อเดินมาถึงริมขอบสนามฟุตซอลทันในช่วงเวลาที่ร่างโปร่งบางของลู่หานกระโดดขี่หลังรุ่นน้องผิวสีแทนอย่างคิมจงอินพอดี

ก่อนที่เท้าแกร่งจะก้าวขึ้นไปนั่งบนแสตนด์เชียร์ข้างสนาม     พร้อมกับวางขวดน้ำเย็นจัดที่แวะซื้อมาจาก
มินิมาร์ทของโรงเรียนมาให้กับร่างโปร่งบาง

             แม้จะไม่หันไปมองทางหอสมุดของโรงเรียน  แต่อู๋อี้ฟานก็รู้ว่ายังมีใครอีกคนแม้จะไม่ประกาศตัวเป็นคู่แข่งอย่างชัดเจน  ก็ยังคงนั่งมองจากริมหน้าต่างหมวดหนังสือคณิตศาสตร์โอลิมปิกมายังสนามฟุตซอลอย่างเป็นนิจ

             ส่งยิ้มกลับให้ลู่หานที่โบกไม้โบกมือมาให้ก่อนจะพยักหน้ารับการโค้งศีรษะจากรุ่นน้องอย่างคิมจงอิน

             จู่ๆ คำพูดของจื่อเทา  รุ่นน้องคนสนิทในทีมบาสก็แวบขึ้นมาในหัว

             “เฮียผมถามจริง ๆ อึดอัดมากมั้ย กับการรักใครสักคนแล้วมันบอกออกไปไม่ได้”

             จำได้ว่าตอบก่อนจะชู้ตสามแต้มลงห่วงลงไปอย่างสวยงาม

             “จะทำยังไงได้  ถ้าบอกไปแล้วเสี่ยวลู่เปลี่ยนไป  บอกตรงๆ ฉันไม่พร้อมจะรับกับการเปลี่ยนแปลง”

             “แต่ว่า....”

             ร่างสูงหันมาสบตาคนที่มีขอบตาคล้ำเหมือนแพนด้าเหตุเพราะเจ้าตัวชอบเล่นเกมออนไลน์จนดึกดื่น

             “ไม่มีใครจะกล้าเหมือนนายนะจื่อเทา  ที่จะกล้าเดินไปบอกแบคฮยอนว่าชอบทั้งรู้ว่าเจ้านั่นหลงรัก
ปาร์คชานยอลอยู่”



             บางทีการอยู่กับที่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ยืดเวลาให้ได้เตรียมใจก่อนรับความเปลี่ยนแปลงได้




             เหมือนกับทุกวันที่ร่างสูงแวะมารับเพื่อนสนิทกัปตันทีมฟุตซอลกลับบ้านด้วยกัน   เพราะพวกเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่จำความได้  และบ้านพวกเขาอยู่ตรงข้ามกัน  แถมยังอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงแค่เดินห้านาทีเท่านั้น


             “เอาคืนมาเลย  ถือเองได้” ร่างโปร่งบางบอกก่อนจะเตะขาอี้ฟานเบา ๆ พร้อมกับสะพายเป้เอ็มซีเอ็มของตัวขึ้นหลัง


             “แค่ช่วยเท่านั้นเอง ไหนนายจะถือขวดน้ำ ไหนจะเช็ด อย่างกับนายจะสิบมืออย่างทศกัณฑ์”


             “ขี้บ่นจังงงงงงงงงงง...อู๋อี้ฟาน” หลังพูดจบร่างโปร่งชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเดินสวนกับใครบางคนที่เดินออกมาจากอาคารหอสมุด


             แค่เสี้ยววินาทีที่ร่างสูงเห็นสีหน้าระเรื่อของเพื่อนสนิทอย่างลู่หาน


             ไม่ใช่ครั้งแรก...ที่เห็น


             บางทีร่างสูงก็ภาวนาขอให้ในเวลาห้านาทีที่ตัวเขาและร่างโปร่งต้องเดินกลับบ้าน  อย่าได้เดินสวนกับใครคนนั้นเลย
แต่....
แน่นอนมันเจ็บปวดจนไม่อยากจะแชร์เพราะโลกนี้มีคำว่า “แต่”
คำสวดภาวนาของอู๋อี้ฟานไม่เคยเป็นจริงสักครั้ง

พวกเขาเดินเงียบ ๆ มาด้วยกันเพราะวันนี้ร่างโปร่งบางที่เดินเคียงข้างคิ้วขมวดเป็นปมเหมือนมีเรื่องต้องขบคิด


“มีอะไร” ร่างสูงที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหันมามองตัวต้นเหตุที่ดึงเสื้อใส่ซ้อมบาสเอาไว้

“อี้ฟาน เรามาจูบกันไหม”

ร่างสูงเลิกคิ้วที่สวยได้รูปขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะหันมากอดอกพิงประตูบ้าน

“เมาแดดเหรอ ลู่หาน”

คนชวนส่ายหน้าไปมาก่อนจะช้อนตาขึ้นมองร่างสูง



“ไม่ใช่  ฉันแค่อยากเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองว่าเราแค่สนิทมาตั้งแต่เกิดหรือมันมากกว่าเพื่อนไปแล้วสำหรับพวกเรา”


อึ้ง.....

ไม่คาดคิดว่าคนอย่างลู่หานที่มีนิสัยแมนเกินผู้ชายปกติ และเกรียนขั้นเทพไม่เข้ากับใบหน้าคมหวานและดวงตากลม ๆ เหมือนตากวางจะเป็นฝ่ายเอ่ยปาก


“ถามได้ไหมว่าทำไมต้องจูบ”


“เพราะถ้าฉันใจเต้นกับนายมากกว่าการยิงประตูทีมฝ่ายตรงข้ามได้  ฉันอาจจะรักนายเหมือนที่นายรักฉันก็ได้อู๋อี้ฟาน”



end

อ่านต่อใน  ทดเวลาบาดเจ็บ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น