OS:เพียง 5 นาที
Pairing : KrisLu
By
winata
Note: มาแบบสั้น ๆ แฮ่ๆ
ถ้าคุณมีเวลาเพียงห้านาทีที่ได้เดินอยู่เคียงข้างใครบางคนที่คุณคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญสำหรับคุณ
แต่....
แน่นอนมันเจ็บปวดจนผมไม่อยากจะแชร์เพราะโลกนี้มีคำว่า “แต่”
เพราะใครคนนั้นกลับมองผ่านเลยคุณไปยังใครอีกคน ที่คุณเห็นฝ่ายนั้นอยู่ห่าง ๆ
ทั้งที่คุณอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมาก็สัมผัสได้
แต่สำหรับคุณใครคนนั้นมองมาเพียงแค่ “เพื่อนสนิท”
เส้นความสัมพันธ์ที่ตัวผมยังไม่กล้าพอ...กล้าที่จะก้าวข้าม
ความรู้สึกก้ำกึ่ง...น่าแปลกคนที่ถูกโหวตให้เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโรงเรียนมัธยมปลายเอสเอ็มแถมพ่วงด้วยตำแหน่งกัปตันทีมบาสอย่างอู้อี๋ฟานจะเป็น-__-;;
มือหนากระชับเป้สะพายสีดำสนิทของตัวเองกระชับแน่นขึ้น
เมื่อเดินมาถึงริมขอบสนามฟุตซอลทันในช่วงเวลาที่ร่างโปร่งบางของลู่หานกระโดดขี่หลังรุ่นน้องผิวสีแทนอย่างคิมจงอินพอดี
ก่อนที่เท้าแกร่งจะก้าวขึ้นไปนั่งบนแสตนด์เชียร์ข้างสนาม พร้อมกับวางขวดน้ำเย็นจัดที่แวะซื้อมาจาก
มินิมาร์ทของโรงเรียนมาให้กับร่างโปร่งบาง
แม้จะไม่หันไปมองทางหอสมุดของโรงเรียน แต่อู๋อี้ฟานก็รู้ว่ายังมีใครอีกคนแม้จะไม่ประกาศตัวเป็นคู่แข่งอย่างชัดเจน
ก็ยังคงนั่งมองจากริมหน้าต่างหมวดหนังสือคณิตศาสตร์โอลิมปิกมายังสนามฟุตซอลอย่างเป็นนิจ
ส่งยิ้มกลับให้ลู่หานที่โบกไม้โบกมือมาให้ก่อนจะพยักหน้ารับการโค้งศีรษะจากรุ่นน้องอย่างคิมจงอิน
จู่ๆ
คำพูดของจื่อเทา รุ่นน้องคนสนิทในทีมบาสก็แวบขึ้นมาในหัว
“เฮียผมถามจริง
ๆ อึดอัดมากมั้ย กับการรักใครสักคนแล้วมันบอกออกไปไม่ได้”
จำได้ว่าตอบก่อนจะชู้ตสามแต้มลงห่วงลงไปอย่างสวยงาม
“จะทำยังไงได้ ถ้าบอกไปแล้วเสี่ยวลู่เปลี่ยนไป บอกตรงๆ ฉันไม่พร้อมจะรับกับการเปลี่ยนแปลง”
“แต่ว่า....”
ร่างสูงหันมาสบตาคนที่มีขอบตาคล้ำเหมือนแพนด้าเหตุเพราะเจ้าตัวชอบเล่นเกมออนไลน์จนดึกดื่น
“ไม่มีใครจะกล้าเหมือนนายนะจื่อเทา
ที่จะกล้าเดินไปบอกแบคฮยอนว่าชอบทั้งรู้ว่าเจ้านั่นหลงรัก
ปาร์คชานยอลอยู่”
บางทีการอยู่กับที่แบบนี้ไปเรื่อย
ๆ ก็ยืดเวลาให้ได้เตรียมใจก่อนรับความเปลี่ยนแปลงได้
เหมือนกับทุกวันที่ร่างสูงแวะมารับเพื่อนสนิทกัปตันทีมฟุตซอลกลับบ้านด้วยกัน
เพราะพวกเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่จำความได้ และบ้านพวกเขาอยู่ตรงข้ามกัน
แถมยังอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงแค่เดินห้านาทีเท่านั้น
“เอาคืนมาเลย ถือเองได้”
ร่างโปร่งบางบอกก่อนจะเตะขาอี้ฟานเบา ๆ พร้อมกับสะพายเป้เอ็มซีเอ็มของตัวขึ้นหลัง
“แค่ช่วยเท่านั้นเอง
ไหนนายจะถือขวดน้ำ ไหนจะเช็ด อย่างกับนายจะสิบมืออย่างทศกัณฑ์”
“ขี้บ่นจังงงงงงงงงงง...อู๋อี้ฟาน”
หลังพูดจบร่างโปร่งชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเดินสวนกับใครบางคนที่เดินออกมาจากอาคารหอสมุด
แค่เสี้ยววินาทีที่ร่างสูงเห็นสีหน้าระเรื่อของเพื่อนสนิทอย่างลู่หาน
ไม่ใช่ครั้งแรก...ที่เห็น
บางทีร่างสูงก็ภาวนาขอให้ในเวลาห้านาทีที่ตัวเขาและร่างโปร่งต้องเดินกลับบ้าน อย่าได้เดินสวนกับใครคนนั้นเลย
แต่....
แน่นอนมันเจ็บปวดจนไม่อยากจะแชร์เพราะโลกนี้มีคำว่า “แต่”
คำสวดภาวนาของอู๋อี้ฟานไม่เคยเป็นจริงสักครั้ง
พวกเขาเดินเงียบ ๆ
มาด้วยกันเพราะวันนี้ร่างโปร่งบางที่เดินเคียงข้างคิ้วขมวดเป็นปมเหมือนมีเรื่องต้องขบคิด
“มีอะไร” ร่างสูงที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหันมามองตัวต้นเหตุที่ดึงเสื้อใส่ซ้อมบาสเอาไว้
“อี้ฟาน เรามาจูบกันไหม”
ร่างสูงเลิกคิ้วที่สวยได้รูปขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะหันมากอดอกพิงประตูบ้าน
“เมาแดดเหรอ ลู่หาน”
คนชวนส่ายหน้าไปมาก่อนจะช้อนตาขึ้นมองร่างสูง
“ไม่ใช่ ฉันแค่อยากเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองว่าเราแค่สนิทมาตั้งแต่เกิดหรือมันมากกว่าเพื่อนไปแล้วสำหรับพวกเรา”
อึ้ง.....
ไม่คาดคิดว่าคนอย่างลู่หานที่มีนิสัยแมนเกินผู้ชายปกติ
และเกรียนขั้นเทพไม่เข้ากับใบหน้าคมหวานและดวงตากลม ๆ
เหมือนตากวางจะเป็นฝ่ายเอ่ยปาก
“ถามได้ไหมว่าทำไมต้องจูบ”
“เพราะถ้าฉันใจเต้นกับนายมากกว่าการยิงประตูทีมฝ่ายตรงข้ามได้
ฉันอาจจะรักนายเหมือนที่นายรักฉันก็ได้อู๋อี้ฟาน”
end
อ่านต่อใน ทดเวลาบาดเจ็บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น