วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

OS:ฟ้อง[BaekDo]

OS:ฟ้อง
Pairing :   BaekDo
By  winata
Note: มาแบบสั้นเพราะช็อตนี้จริง ๆ


หงุดหงิด นั่นคือ ความรู้สึกของพยอนแบคฮยอนเมนวอยซ์ของเอ็กโซนับตั้งแต่เปิดประตูห้องนอนออกมาไม่เจอใครบางคนกับลีดเดอร์ของวงที่ไปจัดรายการวิทยุด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืน  แต่เช้ามืดแล้วก็ยังไม่กลับมายังหอพักจนตอนนี้พวกเขาทั้งสิบคนร่วมถึงสต๊าฟและผู้จัดการเตรียมตัวเรียบร้อยพร้อมที่จะเดินไปรัสเซียเพื่อไปร่วมแสดงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก

“ไปๆ พวกเรา  รีบกันหน่อยเดี๋ยวรถติด  ส่วนจุนมยอนกับคยองซูจะไปเจอกันที่อินชอนเลย”

เสียงที่พี่ผู้จัดการบอกแทบไม่เข้าหูเขาเลยสักนิด  แต่มันเหมือนความเคยชินที่ต้องปฏิบัติตาม

“เป็นไรเงียบเชียว” ชานยอลหันมาทักเพื่อนซี้ที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จากับใครมาตั้งแต่เช้า

“....”

“เฮ้ย  หรือนายไม่สบาย  ให้ฉันบอกซึงวานฮยองไหม” แบคฮยอนถอนหายใจก่อนจะหันไปจิกสายตาใส่ร่างสูงโย่งประหนึ่งเสาไฟฟ้า

“เงียบสักห้านาทีจะตายไหมปาร์คชานยอล”

น้ำเสียงนิ่งและแววตาเย็นชาที่นาน ๆ ครั้งจะเจอจากพยอนแบคฮยอนทำให้ชานยอลเงียบเสียงทันที ก่อนจะคว้าสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาจิ้มไอคอนสีเขียวรัวส่งข้อความหาใครอีกคนที่นั่งรถคันละคันที

ตอนนี้สมาชิกของเอ็กโซร่วมถึงทีมงานเกือบทั้งมาถึงสนามบินอินชอนแล้ว  ขาดแต่ลีดเดอร์และเมนวอยซ์ร่างเล็กอีกคนที่กำลังเดินทางมา

“เฮ้ยน่ารักอ่ะ แบคฮยอน  ฮยองขอยืมหน่อยดิ” ลู่หานที่เห็นหมอนรองคอของแบคฮยอนเอ่ยขึ้นเพราะเห็นเพื่อนร่วมวงรุ่นน้องทำหน้าซังกะตายตั้งแต่ออกจากหอ

“ไหนว่าฮยองไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่นไง”

“อ้าว...แต่มันน่ารัก  ฮยองชอบขอยืมใช้หน่อยน้า ๆ แบคฮยอน” ลู่หานอ้อนพร้อมส่งสายตาแบบวิงค์ที่เจ้าตัวชอบส่งให้กับเอ็กโซแฟน  แต่ขอโทษเถอะมันใช้กับแบคฮยอนไม่ได้ผล

   “ไม่” ตอบแบบไร้เยื่อใยก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะถ้าทนสบดวงตากลมคู่สวยของลู่หานคิดแคล้วต้องใจอ่อนแน่ ๆ แต่วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีพอที่พูดคุยกับใคร  แค่ต้องปั้นยิ้มให้เอ็กโซแฟนที่มาคอยส่งที่สนามบินก็แทบแย่แล้ว

ดวงตาเรียวเล็กเบิกขึ้นนิดนึงก่อนที่ริมฝีปากบางได้รูปจะเม้มเข้าหาเมื่อเห็น  ร่างเล็กของเมนวอยซ์ที่ไปจัดรายการวิทยุกับลีดเดอร์กำลังเดินเข้ามารวมกลุ่มกับบรรดาสต๊าฟที่รออยู่ก่อน

ความหงุดหงิดของแบคฮยอนยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อเห็นลีดเดอร์ขยี้ผมสั้นๆ ของคยองซูให้ดูยุ่งกว่าเดิม

หายไปกินพิซซ่าตอนดึกด้วยกันไม่พอ....

ยังกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอไม่ทัน...แล้วยังมาทำแบบนี้ต่อหน้าตากันอีก

“โอ้ย  ฮยองจะอะไรนักหนา  ถ้าอยากได้ก็เอาไปเลยไป๋”

แบคฮยอนว่าอย่างหงุดหงิดก่อนโยนหมอนรองคอที่ลู่หานมาลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ให้ร่างสูงไป

ลู่หานที่กำลังงงๆ ไม่รู้ว่ารุ่นน้องตัวเล็กโมโหอะไรก็เลยจะคว้าแขนเล็กแต่ไม่ทันเพราะเจ้าตัวเบี่ยงตัวจะเดินหนีออก

“โอ้ย  เจ็บนะฮยอง” แบคฮยอนแอบซี้ดปากไม่ออกอาการมากเพราะเห็นเอ็กโซแฟนกำลังรัวกล้องถ่ายรูปอยู่

“ฮยองไม่ได้ตั้งใจ” ลู่หานบอกเสียงอ่อนเพราะปลายเล็บยาวที่ตัวเองยังไม่มีเวลาตัดไปข่วนแขนรุ่นน้องเข้า

“แล้วถ้าฮยองตั้งใจ  เลือดไม่ซิบแขนผมรึไง” พูดจบก็สะบัดหน้าหนีเดินนำทุกคนเข้าเกทไปเลย

เซฮุนที่ยืนอยู่ใกล้สุดและเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบตบบ่าลู่หานพี่ชายคนสนิทเบา ๆ

“ทำใจเถอะ ลู่หานฮยอง  วันนี้แบคฮยอนฮยองกำลังโมโหหึง”

หึง?
หึงใคร?

ลู่หานยิ่งงงเข้าไปใหญ่   เพราะปกติก็เห็นแบคฮยอนลัลล้ากับคนอื่นไปทั่ว แถมยังสถาปนาตัวเองเป็นแฟนบอยอันดับหนึ่งของตุ้ยจ่าง  แล้วจะมีใครให้หึง?

แม้แค่จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงห้านาทีที่เอ็กโซและสต๊าฟจะเดินเข้ามายังห้องรับรองเพื่อรอขึ้นเครื่องบินไปรัสเซียเพราะตอนนี้ประตูเกทยังเปิด  ร่างเล็กที่เดินข้าง ๆ มากับลีดเดอร์ก็เห็นปฏิกิริยาของใครบางคนมาตลอดแต่เพราะอยู่คนฝั่งทำให้เดินฝ่าเข้าไปหาไม่ได้ง่าย ๆ

“เป็นอะไรรึเปล่า” เอ่ยถามด้วยเสียงอ่อน ๆ

“สนใจกันด้วยรึไง” อาการสะบัดหน้าหันไปมองทางอื่น ๆ ยิ่งทำให้คยองซูอยากยิ้มออกมาจริง ๆ เพราะอาการแบบนี้..นี่มันงอนกันชัด ๆ

“สนสิ..ไม่สนใจแฟนแล้วจะไปสนใจใครที่ไหน”

“...”

“ก็ไลน์มาบอกแล้วไง  ว่าจะตามมาเจอกันที่สนามบินแต่นายเองนะที่ไม่ตอบ” กลายเป็นแบคฮยอนที่รีบหันกลับมามองคนที่สูงเกือบเท่า ๆ กัน  ก่อนจะทำสีหน้าไม่ชอบใจใส่

“ฉันไม่อยากให้นายอยู่ใกล้ใคร”

“มันเป็นงาน”

หึ...เสียงกลั้นหัวเราะของแดนซ์แมชชีนของวงที่กำลังจะเดินเข้ามาสองเมนวอยซ์ให้เดินเข้าไปร่วมกลุ่มเร็วทำให้แบคฮยอนหันไปถลึงตาใส่

“อ้าว  สองคนนี้เดินช้าจังเลย  เร็วเข้า” จุนมยอนที่เดินเข้าดุเพราะสองเมนวอยซ์ที่เดินช้ากว่าคนอื่นมาก ๆ

“นี่  ผมกำลังให้คยองซูดูแผลที่แขนอ่ะฮยอง   ลู่หานฮยองข่วนแขนผมแย่งหมอนรองคอ” แบคฮยอนว่า

“ไหนดูสิ  เป็นอะไรมากไหม” คยองซูรีบคว้าแขนของแบคฮยอนขึ้นมาดูก็พบรอยข่วนเล็ก ๆ สองสามรอย 

“โอมเพี้ยง  ไม่เจ็บนะครับคนดี”

กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งลีดเดอร์กับแดนซ์แมชชีนกลายมาเป็นพยานในความหวานของสองเมนวอยซ์

“ไหน  ลู่หานฮยองอยู่ไหน  ฮยองทำอะไรน้อง” จุนมยอนตะโกนเรียกรุ่นพี่ชาวจีนก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“จุนมยอนฮยอง  รอผมด้วย” จงอินพูดก่อนจะเดินตามลีดเดอร์ที่ขาสั้นกว่าไปเพราะคงไม่เหมาะที่จะเป็นกอขอคอกับคู่รักเมนวอยซ์  เพราะสายตาจิก ๆ จากแบคอยอนที่แม้จะปราศจากอายไลเนอร์ก็คงคมพอจะฟาดฟันได้อยู่

“ไม่เจ็บมากนะ  ไว้ขึ้นเครื่องแล้วจะขอพาสเตอร์ยาจากแอร์มาทำแผลให้”

“อื่ม คราวหลังนายอย่าทิ้งฉันไปนาน ๆ นะ เห็นไหมได้แผลเลย” แบคฮยอนว่าก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสเบา ๆ จังหวะที่พวกเขาเดินผ่านเสาของห้องรับรอง

“แบค!! นี่มันข้างนอกนะ”

“อ้าว แสดงว่าถ้าในห้องมิดชิดทำมากกว่านี้ได้ใช่ไหม?” แบคฮยอนที่กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งพูดอย่างทะเล้น

“ชอบฉวยโอกาสจริงเชียว” คยองซูพูดเบา ๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งพิงฝาผนังใกล้ ๆ กับสมาชิกคนอื่น ๆ ของเอ็กโซและสต๊าฟโดยมีแบคฮยอนทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ พร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนสีขาวของตัวเองขึ้นมา

“ฉวยโอกาสกับแฟนตัวเองผิดตรงไหน” พูดเสร็จก็หันมายักคิ้วให้ “คนเป็นแฟน” หนึ่งทีก่อนจะก้มหน้าแสร้งเล่นเกมในมือถือเพราะสมาชิกในวงหลายคนเริ่มหันมามองทางพวกเขา

คยองซูไม่ต่อคำพูดให้ยืดยาวเพราะตอนนี้มือบางของเขาถูกอีกฝ่ายกุมไว้ใต้เสื้อแจ๊กเก็ต  แรงบีบกระชับมันทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้  จนเขาต้องบีบมืออีกฝ่ายกลับคืนแล้วแก้มใสก็ร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิดเมื่อเห็นข้อความที่คนนั่งข้าง ๆ ส่งมา

-รักนายโดคยองซู-



แถมๆ


“นึกว่าจะอยู่ในสภาวะทะมึนจนถึงรัสเซีย” คริสนั่งเล่นตุ๊กตาที่ห้อยอยู่กับหมอนรองคอของตัวเองพูดขึ้นเมื่อเห็นรุ่นพี่ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันลอบมองกันแล้วส่งยิ้มเขิน ๆ ให้กัน

“อ้าวเฮ้ย ไอ้คู่นั้นตกลงมันมีซัมติงกันตอนไหน?” ลู่หานพูดอย่างงง ๆ

“ถามจริง  นอกจากหลุยส์คอลเลคชั่นใหม่กับแบรนด์ไฮเอนออกใหม่นายเคยสนใจอะไรอื่นบ้างไหม?”

“ถามแปลก  ฉันก็สนใจนายไงคริส”


 end




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น