OS:ฟ้อง
Pairing : BaekDo
By
winata
Note: มาแบบสั้นเพราะช็อตนี้จริง ๆ
หงุดหงิด นั่นคือ
ความรู้สึกของพยอนแบคฮยอนเมนวอยซ์ของเอ็กโซนับตั้งแต่เปิดประตูห้องนอนออกมาไม่เจอใครบางคนกับลีดเดอร์ของวงที่ไปจัดรายการวิทยุด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืน แต่เช้ามืดแล้วก็ยังไม่กลับมายังหอพักจนตอนนี้พวกเขาทั้งสิบคนร่วมถึงสต๊าฟและผู้จัดการเตรียมตัวเรียบร้อยพร้อมที่จะเดินไปรัสเซียเพื่อไปร่วมแสดงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก
“ไปๆ พวกเรา
รีบกันหน่อยเดี๋ยวรถติด
ส่วนจุนมยอนกับคยองซูจะไปเจอกันที่อินชอนเลย”
เสียงที่พี่ผู้จัดการบอกแทบไม่เข้าหูเขาเลยสักนิด แต่มันเหมือนความเคยชินที่ต้องปฏิบัติตาม
“เป็นไรเงียบเชียว”
ชานยอลหันมาทักเพื่อนซี้ที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จากับใครมาตั้งแต่เช้า
“เฮ้ย หรือนายไม่สบาย ให้ฉันบอกซึงวานฮยองไหม” แบคฮยอนถอนหายใจก่อนจะหันไปจิกสายตาใส่ร่างสูงโย่งประหนึ่งเสาไฟฟ้า
“เงียบสักห้านาทีจะตายไหมปาร์คชานยอล”
น้ำเสียงนิ่งและแววตาเย็นชาที่นาน ๆ ครั้งจะเจอจากพยอนแบคฮยอนทำให้ชานยอลเงียบเสียงทันที
ก่อนจะคว้าสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาจิ้มไอคอนสีเขียวรัวส่งข้อความหาใครอีกคนที่นั่งรถคันละคันที
ตอนนี้สมาชิกของเอ็กโซร่วมถึงทีมงานเกือบทั้งมาถึงสนามบินอินชอนแล้ว
ขาดแต่ลีดเดอร์และเมนวอยซ์ร่างเล็กอีกคนที่กำลังเดินทางมา
“เฮ้ยน่ารักอ่ะ แบคฮยอน
ฮยองขอยืมหน่อยดิ”
ลู่หานที่เห็นหมอนรองคอของแบคฮยอนเอ่ยขึ้นเพราะเห็นเพื่อนร่วมวงรุ่นน้องทำหน้าซังกะตายตั้งแต่ออกจากหอ
“ไหนว่าฮยองไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่นไง”
“อ้าว...แต่มันน่ารัก
ฮยองชอบขอยืมใช้หน่อยน้า ๆ แบคฮยอน”
ลู่หานอ้อนพร้อมส่งสายตาแบบวิงค์ที่เจ้าตัวชอบส่งให้กับเอ็กโซแฟน แต่ขอโทษเถอะมันใช้กับแบคฮยอนไม่ได้ผล
“ไม่”
ตอบแบบไร้เยื่อใยก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะถ้าทนสบดวงตากลมคู่สวยของลู่หานคิดแคล้วต้องใจอ่อนแน่
ๆ แต่วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีพอที่พูดคุยกับใคร
แค่ต้องปั้นยิ้มให้เอ็กโซแฟนที่มาคอยส่งที่สนามบินก็แทบแย่แล้ว
ดวงตาเรียวเล็กเบิกขึ้นนิดนึงก่อนที่ริมฝีปากบางได้รูปจะเม้มเข้าหาเมื่อเห็น ร่างเล็กของเมนวอยซ์ที่ไปจัดรายการวิทยุกับลีดเดอร์กำลังเดินเข้ามารวมกลุ่มกับบรรดาสต๊าฟที่รออยู่ก่อน
ความหงุดหงิดของแบคฮยอนยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อเห็นลีดเดอร์ขยี้ผมสั้นๆ
ของคยองซูให้ดูยุ่งกว่าเดิม
หายไปกินพิซซ่าตอนดึกด้วยกันไม่พอ....
ยังกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอไม่ทัน...แล้วยังมาทำแบบนี้ต่อหน้าตากันอีก
“โอ้ย ฮยองจะอะไรนักหนา ถ้าอยากได้ก็เอาไปเลยไป๋”
แบคฮยอนว่าอย่างหงุดหงิดก่อนโยนหมอนรองคอที่ลู่หานมาลูบ ๆ คลำ ๆ
อยู่ให้ร่างสูงไป
ลู่หานที่กำลังงงๆ ไม่รู้ว่ารุ่นน้องตัวเล็กโมโหอะไรก็เลยจะคว้าแขนเล็กแต่ไม่ทันเพราะเจ้าตัวเบี่ยงตัวจะเดินหนีออก
“โอ้ย เจ็บนะฮยอง”
แบคฮยอนแอบซี้ดปากไม่ออกอาการมากเพราะเห็นเอ็กโซแฟนกำลังรัวกล้องถ่ายรูปอยู่
“ฮยองไม่ได้ตั้งใจ” ลู่หานบอกเสียงอ่อนเพราะปลายเล็บยาวที่ตัวเองยังไม่มีเวลาตัดไปข่วนแขนรุ่นน้องเข้า
“แล้วถ้าฮยองตั้งใจ
เลือดไม่ซิบแขนผมรึไง” พูดจบก็สะบัดหน้าหนีเดินนำทุกคนเข้าเกทไปเลย
เซฮุนที่ยืนอยู่ใกล้สุดและเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบตบบ่าลู่หานพี่ชายคนสนิทเบา
ๆ
“ทำใจเถอะ ลู่หานฮยอง
วันนี้แบคฮยอนฮยองกำลังโมโหหึง”
หึง?
หึงใคร?
ลู่หานยิ่งงงเข้าไปใหญ่
เพราะปกติก็เห็นแบคฮยอนลัลล้ากับคนอื่นไปทั่ว
แถมยังสถาปนาตัวเองเป็นแฟนบอยอันดับหนึ่งของตุ้ยจ่าง แล้วจะมีใครให้หึง?
แม้แค่จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงห้านาทีที่เอ็กโซและสต๊าฟจะเดินเข้ามายังห้องรับรองเพื่อรอขึ้นเครื่องบินไปรัสเซียเพราะตอนนี้ประตูเกทยังเปิด ร่างเล็กที่เดินข้าง ๆ
มากับลีดเดอร์ก็เห็นปฏิกิริยาของใครบางคนมาตลอดแต่เพราะอยู่คนฝั่งทำให้เดินฝ่าเข้าไปหาไม่ได้ง่าย
ๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า” เอ่ยถามด้วยเสียงอ่อน ๆ
“สนใจกันด้วยรึไง” อาการสะบัดหน้าหันไปมองทางอื่น ๆ
ยิ่งทำให้คยองซูอยากยิ้มออกมาจริง ๆ เพราะอาการแบบนี้..นี่มันงอนกันชัด ๆ
“สนสิ..ไม่สนใจแฟนแล้วจะไปสนใจใครที่ไหน”
“...”
“ก็ไลน์มาบอกแล้วไง
ว่าจะตามมาเจอกันที่สนามบินแต่นายเองนะที่ไม่ตอบ”
กลายเป็นแบคฮยอนที่รีบหันกลับมามองคนที่สูงเกือบเท่า ๆ กัน ก่อนจะทำสีหน้าไม่ชอบใจใส่
“ฉันไม่อยากให้นายอยู่ใกล้ใคร”
“มันเป็นงาน”
หึ...เสียงกลั้นหัวเราะของแดนซ์แมชชีนของวงที่กำลังจะเดินเข้ามาสองเมนวอยซ์ให้เดินเข้าไปร่วมกลุ่มเร็วทำให้แบคฮยอนหันไปถลึงตาใส่
“อ้าว
สองคนนี้เดินช้าจังเลย เร็วเข้า”
จุนมยอนที่เดินเข้าดุเพราะสองเมนวอยซ์ที่เดินช้ากว่าคนอื่นมาก ๆ
“นี่
ผมกำลังให้คยองซูดูแผลที่แขนอ่ะฮยอง
ลู่หานฮยองข่วนแขนผมแย่งหมอนรองคอ” แบคฮยอนว่า
“ไหนดูสิ เป็นอะไรมากไหม”
คยองซูรีบคว้าแขนของแบคฮยอนขึ้นมาดูก็พบรอยข่วนเล็ก ๆ สองสามรอย
“โอมเพี้ยง ไม่เจ็บนะครับคนดี”
กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งลีดเดอร์กับแดนซ์แมชชีนกลายมาเป็นพยานในความหวานของสองเมนวอยซ์
“ไหน ลู่หานฮยองอยู่ไหน ฮยองทำอะไรน้อง”
จุนมยอนตะโกนเรียกรุ่นพี่ชาวจีนก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“จุนมยอนฮยอง รอผมด้วย” จงอินพูดก่อนจะเดินตามลีดเดอร์ที่ขาสั้นกว่าไปเพราะคงไม่เหมาะที่จะเป็นกอขอคอกับคู่รักเมนวอยซ์ เพราะสายตาจิก ๆ
จากแบคอยอนที่แม้จะปราศจากอายไลเนอร์ก็คงคมพอจะฟาดฟันได้อยู่
“ไม่เจ็บมากนะ
ไว้ขึ้นเครื่องแล้วจะขอพาสเตอร์ยาจากแอร์มาทำแผลให้”
“อื่ม คราวหลังนายอย่าทิ้งฉันไปนาน ๆ นะ เห็นไหมได้แผลเลย”
แบคฮยอนว่าก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสเบา ๆ จังหวะที่พวกเขาเดินผ่านเสาของห้องรับรอง
“แบค!! นี่มันข้างนอกนะ”
“อ้าว แสดงว่าถ้าในห้องมิดชิดทำมากกว่านี้ได้ใช่ไหม?” แบคฮยอนที่กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งพูดอย่างทะเล้น
“ชอบฉวยโอกาสจริงเชียว” คยองซูพูดเบา ๆ
ก่อนจะทรุดตัวนั่งพิงฝาผนังใกล้ ๆ กับสมาชิกคนอื่น ๆ
ของเอ็กโซและสต๊าฟโดยมีแบคฮยอนทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ
พร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนสีขาวของตัวเองขึ้นมา
“ฉวยโอกาสกับแฟนตัวเองผิดตรงไหน” พูดเสร็จก็หันมายักคิ้วให้
“คนเป็นแฟน” หนึ่งทีก่อนจะก้มหน้าแสร้งเล่นเกมในมือถือเพราะสมาชิกในวงหลายคนเริ่มหันมามองทางพวกเขา
คยองซูไม่ต่อคำพูดให้ยืดยาวเพราะตอนนี้มือบางของเขาถูกอีกฝ่ายกุมไว้ใต้เสื้อแจ๊กเก็ต แรงบีบกระชับมันทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้
จนเขาต้องบีบมืออีกฝ่ายกลับคืนแล้วแก้มใสก็ร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิดเมื่อเห็นข้อความที่คนนั่งข้าง
ๆ ส่งมา
-รักนายโดคยองซู-
แถมๆ
“นึกว่าจะอยู่ในสภาวะทะมึนจนถึงรัสเซีย”
คริสนั่งเล่นตุ๊กตาที่ห้อยอยู่กับหมอนรองคอของตัวเองพูดขึ้นเมื่อเห็นรุ่นพี่ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้าง
ๆ กันลอบมองกันแล้วส่งยิ้มเขิน ๆ ให้กัน
“อ้าวเฮ้ย ไอ้คู่นั้นตกลงมันมีซัมติงกันตอนไหน?” ลู่หานพูดอย่างงง ๆ
“ถามจริง
นอกจากหลุยส์คอลเลคชั่นใหม่กับแบรนด์ไฮเอนออกใหม่นายเคยสนใจอะไรอื่นบ้างไหม?”
“ถามแปลก ฉันก็สนใจนายไงคริส”
end
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น