วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

สารบัญฟิคในคลังwinnie

 ★ Fiction by Z-rowink & winata ★
คลังฟิคเกือบทั้งหมด กรุณาอย่าก็อปนะจ๊ะ


NCT  by winata

 

 







EXO  by winata
Love_Match[KrisYeol]13
Love_Match[KrisYeol]18
Love_Match[2] KaiHun Ch.14
Love_Match[2] Kaihun Ch.17
Love_Match[3] LuBaek Ch02



SF & OS [ALL EXO]
-Unexpectedly_ [KrisHun]
-What is love? [Kaido]
- Bcoz of u my Angel [Kaihun ft.Krisyeol]
OS:ฟ้อง[BaekDo]
- OS:5นาที [KaiDo]
OS:แค่ 5นาที [SeHunx(?)]
- OS:เพียง 5 นาที [KrisLu]
- SF:ทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที[Hunhan ft. kai & kris]
-OS:ความรักความลับ [LuBaek]
-OS:นายเจ็บ...ฉันก็เจ็บเหมือนกัน [TaoKai]
-OS:อ้อน(ภาคต่อของ นายเจ็บ...ฉันก็เจ็บเหมือนกัน) TaoKai
-OS: Handsome [TAOKAI]
-OS: เรื่องสิวๆ [TAOKAI]
-OS: KISS [TAOKAI]
-OS: HUG [TAOKAI]
-OS: I’m ok.[TAOKAI ft.Sehun]
-OS: ตกหลุมรัก [BAEKDO Ft. TAOKAI]















Long Fic_EXO

♥Shine ลิขิตรักจอมใจราชัน [Kaido,Chanbaek,Hunhan]--ยังไม่จบ

- Intro

Chapter 1 : 30ราตรี


Chapter  2 :ก้อนหิน
Chapter  3 :ล่าสัตว์






+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2 PM [Taeckhun]  by Z-rowink

 Short fiction: รักนาย...นายตัวร้าย
 Short fiction: Love in NYC
★ Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชาVSคุณชายมาเฟีย Ch.04
★ Matching Love [Taeckhun] เพราะเราเกิดมาเพื่อรักกัน Ch13
★ Lost [Taeckhun]:คุณหมอจอมเย็นชาVSคุณชายมาเฟีย [7]





วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560

[Fic NCT] Pure Love [ #JaeDo , #TaeTen , #HanTa ft. Johnil] Ch.13 100%



[Fic NCT]  Pure Love  [ #JaeDo , #TaeTen , #HanTa ft. Johnil]
By winata
Chapter  13 : ค่ำคืนใต้แสงจันทรา


            ร่างบางที่นอนพลิกไปพลิกมาสุดท้ายก็ลุกขึ้นนั่ง   หลังจากที่จะพยายามข่มตาให้หลับอาจแปลกที่หรือว่าวันนี้เป็นแรกในชีวิตขององค์ชายโดยองที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ เสียมากมายจนอดคิดไม่ได้ว่าตนผ่านเหตุการณ์เล่านั้นมาได้เช่นไร  การต่อสู้กับกลุ่มกบฏตอนที่จะเข้าวังหลวงยังไม่น่ากลัวเท่ากับการฝั่งเข็มเพื่อรักษาพระอนุชาลู่ฟางที่หากช้าเพียงนิดอาจจะไม่ทันการณ์   แสงจันทราส่องแสงกระจ่างใสปราศจากเมฆบดบังรวมถึงดวงดาราที่ค่ำคืนนี้ต่างลี้หนีไปไกล    


            สายลมแผ่วๆ ที่พัดมาเรื่อยๆ หลังจากที่โดยองนั่งบนตั่งข้างหน้าต่างบานกว้างที่เพิ่งเปิดออกด้วยฝีมือตนเองพร้อมกับสูดกลิ่นหอมของมวลหมู่ดอกไม้เข้าปอด  มันก็ไม่เลวที่เดียวกับวันแรกกับคืนแรกบนแผ่นดินของทงเยที่ชีวิตนี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เหยียบ  เสียงประตูห้องเปิดพร้อมกับร่างสูงขององค์ราชันที่สภาพอิดโรยจากที่ได้เจอกันในช่วงหัวค่ำที่ยังฉลองพระองค์ในชุดออกศึกยามนี้ถูกผลัดเปลี่ยนเป็นฉลองพระองค์เนื้อบาง



            “ดึกป่านนี้แล้วใยไม่หลับไม่นอนฮึ องค์ชายน้อย”  เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมนั่งลงข้างๆ ที่ว่างบนตั่งแล้วรั้งร่างบางเข้ามากอด “แปลกที่แปลกทางสินะ” จมูกโด่งกดลงบนพวงแก้มใส ริมฝีปากได้รูปขององค์ราชันคลอเคลียไปมาใกล้ๆริมฝีปากบางของโดยองที่ครานี้เจ้าตัวเม้มปากเอาไว้พร้อมก้มหน้าหลบสายตาคมเข้มเพราะเขินอายยามนี้แทบจะทั้งตัวบางที่เก่ยอยู่กับตักของร่างสูง



            “หากยังไม่ง่วง  เราจักพาเจ้าไปที่หนึ่ง” บอกพร้อมกับดึงรั้งร่างบางให้ลุกขึ้นพร้อมกับจูงมือให้เดินตามออกมาจากห้องบรรทมขององค์ราชันแจฮยอนแทนที่องค์ชายโดยองจะได้พักยังตำหนักอาคันตุกะชั้นนอก  เพราะตามกฎหากยังไม่ได้ทำการอภิเษกผู้มิใช่สายเลือดและหน่อเนื้อกษัตริย์แห่งทงเยมิสามารถพักในตำนักชั้นในได้  แต่ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นหากมันคือประสงค์ขององค์ราชัน



            “ท่านจะพาเราไปที่ใดกัน” โดยองกระซิบถามเบาๆ แม้ระหว่างทางเดินที่ออกมาจากตำหนักจนมาถึงอุทยานหลวงที่เงียบสนิทมีเพียงแสงจันทราเป็นแสงนำทาง   ร่างบางมองไปรวมอย่างหวาดๆ เพราะหนทางที่องค์ราชันพาตนมานั้นมันทั้งเงียบและมืดแถมยังไม่มีคบไฟ


            “อีกประเดี๋ยวเจ้าจะรู้เอง  นี่กลัวความมืดหรอกรึโดยอง”



            “ใครบอกว่าเรากลัวแต่เราไม่ชินกับหนทางเท่านั้น”  ปากบอกไม่กลัวแต่มือบางที่จับชายฉลองพระองค์ขององค์ราชันไว้แน่น  แล้วร่างบางก็หยุดชะงักเมื่อเห็นว่าพอเดินผ่านรั้วป่าไผ่ที่ถูกดัดเป็นกำแพงต้นไม้อย่างสวยงามไปนั้นคือเหล่าหลุมพระศพของเชื้อพระวงศ์แห่งทงเย


            “ฝ่าบาท”


            “มานี่สิโดยอง” แจฮยอนหันมาเรียกให้ร่างบางทั้งที่เมื่อครู่ยังจับชายเสื้อของตนแน่นแล้วจู่ๆ ปล่อยและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น



            “ท่านพ่อและท่านแม่ของเรากับลู่ฟาง” ร่างบางรีบทำความเคารพหน้าหลุมพระศพพร้อมกับรับธูปที่ถูกจุดจากองค์ราชันมาไหว้ทั้งสองพระองค์อย่างถูกขนบธรรมเนียมราชประเพณี



            “ยามนี้ฤกษ์ดี  ลูกพาโดยองมาพบท่านพ่อท่านแม่  หมอเทวดาที่มาช่วยรักษาลู่ฟางและเป็นว่าที่รานีแห่งทงเยแม้ยามนี้จะยังมิอาจจับเจ้ากบฏเฒ่าได้  แต่ลูกสัญญาตราบใดไม่เห็นมันสิ้นลมต่อหน้าลูกจะยอมลดละ” 



โดยองเอื้อมมือไปกุมมือร่างสูงไว้แน่นเพื่อแบ่งปันความเจ็บปวดก่อนจะก้มลงหลบดวงตาคมที่มองมาอย่างมีความหมาย



            “หากไม่มีพิธีการใหญ่โต  เจ้าจะเข้าพิธีวิวาห์กับเราหรือไม่  แค่ไหว้คำนับฟ้าดินต่อหน้าพระศพ”



            “พะย่ะค่ะฝ่าบาทแค่นี้ก็พอแล้ว”  จบคำร่างบางก็ถูกแจฮยอนรวบเข้าไปกอดก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มการพิธีที่มีเพียงแค่สองคนเท่านั้น  แม้จะไม่มีแม่สื่อหรือแขกเหรื่อแต่ทุกอย่างกลับถูกปฏิบัติอย่างถูกต้องเพียงเพราะต่างมีรักให้กันและกัน



            ครืน~ครืน~



            เสียงฟ้าร้องแล้วจากท้องฟ้าโปร่งในยามค่ำคืนที่มีเพียงดวงจันทราส่องแสงก็เริ่มมีเมฆมากขึ้นและส่องแสงแลบแปลบ พร้อมกับสายฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  ไม่ต้องรอให้เอ่ยปากทั้งแจฮยอนกับโดยองต่างกึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับยังตำหนักทันทีโดยที่องครักษ์ที่แฝงกายอยู่จะยังมิทันได้กางพระกลดถวายงานทั้งสองพระองค์เลย  แต่กว่าจะถึงห้องบรรทมขององค์ราชันและรานีแห่งทงเยก็เปียกไปทั่วพระวรกายแล้ว



               “ท่านรีบเปลี่ยนเสื้อก่อนเสียเถอะ  เดี๋ยวจะไม่สบาย” ร่างบางรีบไปหยิบฉลองพระองค์ตัวในร่วมถึงผ้าซับพระพักตร์ให้แจฮยอนที่ยืนยิ้มกว้างๆ อยู่แต่พอเห็นร่างสูงไม่รับก็มองค้อนๆ แล้วจัดการใช้ผ้าซับน้ำฝนที่มันติดอยู่ตามตัวออกให้เสียเองเพราะเหล่านางกำนัลโดยองค์ราชันไล่ออกไปตั้งแต่กลับมาถึงแล้วเพราะอยากอยู่เพียงลำพังกับโดยอง  แต่เชื่อสิหากองค์ราชันทรงเรียกหาไม่แคล้วอึดใจเดียวคงมากันทั้งหมดคณะ



            แจฮยอนก้มลงหอมแก้มนวลที่เจ้าของอมลมเสียแก้มป่องพร้อมใบหน้าหวานงอง้ำ  “ท่านอะ  ยังจะขำเราอีก” กริยากระเง้ากระงอดทำให้ร่างสูงกลั้นยิ้มไม่ไหวก่อนจะรั้งร่างบางที่พยายามเขย่งตัวมาเช็ดให้เข้าซบกับอกแกร่ง  โดยองขยุกขยิกอยู่ครู่เดียวก่อนจะตัดสินใจทิ้งผ้าในมือลง  แขนเรียวบางทั้งสองข้างยกขึ้นคล้องรอบคอหนาเอาไว้   เสียงฟ้าร้องที่ยังต่อเนื่องและลมพัดเข้ามารอดยังหน้าต่างที่ถูกปิดไว้แล้วทำเอาขนลุกเกลียวเพราะความหนาวเย็นที่แผ่เข้ามา



            “มาทางนี้เถอะ” แจฮยอนตัดสินใจอุ้มช้อนองค์ชายน้องแห่งพูดยอไปยังแท่นบรรทมกว้างแล้ววางลงอย่างทะนุถนอมแล้วทิ้งตัวลงข้างๆ  มือหนาเกลี่ยเส้นผมนิ่มที่หลุดลุ่ยเล่น ดวงตาเรียวรีก้มหลบสายตาคมวาวที่ในแววตาขององค์ราชันแสดงออกถึงแรงปรารถนาอย่างเปิดเผย



            ร่างสูงประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนแผ่วเบาแล้วเลยลงมายังพวงแก้มทั้งสองข้าง  โดยองตวัดแขนเรียวคล้องคอแจฮยอนเมื่อริมฝีปากได้รูปโฉบลงมายังริมฝีปากตน   องค์ราชันบดเบียดริมฝีปากลงริมฝีปากสีอ่อนแล้วลุกล้ำหาความหวานข้างในอย่างถือสิทธิ์พระสวามีกวาดต้อนความหวานเอาไว้จนหมดสิ้น



            “โดยอง” ร่างสูงผละออกมามองใบหน้าหวานพร้อมกับมือหนาที่ค่อยๆ ลูบไล้แก้มเนียนไล่ลงมาหัวไหล่ลาดเบาจนมาถึงแถวๆ เอวบางที่เป็นสายผูกมัดของเสื้อเอาไว้   แค่กระตุกทีเดียวสาบเสื้อก็แยกออกจากกันทันที  มือหนาลูบไล้ตามผิวเนียนอย่างหลงใหล  ริมฝีปากลากไปตามแผ่นอกบางโดยไม่ลืมทิ้งรอยสีหวานไว้บนผิวขาวๆทุกที่ที่จมูกและริมฝีปากขององค์ราชันได้สัมผัส



            “ผะ..ฝ่าบาท”



         “ไม่ใช่  ท่านพี่...เรียกเราว่าท่านพี่นับจากนี้ไป” โดยองบิดกายเร้าไปกับสัมผัสที่ได้รับ  ริมฝีปากได้รูปเข้าครอบครองติ่งไตสีหวานเรียวลิ้นร้อนตวัดเลียแล้วก้มลงดูดดึงสลับกันไปมาทั้งสองข้าง   ร่างบางสอดมือไปยังกลุ่มผมสีเข้มเพื่อปลดปล่อยอารมณ์  เสียงหอบหายใจถี่ของทั้งสองเริ่มดังสลับกับเสียงดูดแผ่นอกบางทั้งสองข้าง    



            “หากเจ้าไม่พร้อมก็จงหยุดเราเสียโดยอง  เพราะถัดจากนี้เรามิอาจหยุดได้แล้ว”  โดยองไม่ตอบอะไรนอกจากริมฝีปากบางเผยออกเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นจูบเบาๆ อย่างไม่รุกล้ำที่ริมฝีปากขององค์ราชัน  กิริยาน่ารักทำเอาแจฮยอนยิ้มออกมากมือหนาสอดประสานมือบางเอาไว้



            “เราจะรักและทะนุถนอมเจ้าด้วยหัวใจ  และนับจากนี้ข้างกายเราจะมีแค่เจ้าเพียงผู้เดียวโดยอง”



แจฮยอนผละออกมาจากร่างบาง ลุกขึ้นปลดเปลื้องฉลองพระองค์ออกแล้วลงมาทาบทับยังร่างบาง  ร่างเปลือยเปล่าทั้งสองได้สัมผัสกันแนบชิดโดยไร้อาภรณ์ใดๆ ขวางกั้น แผ่นอกแกร่งที่เห็นจากแสงไฟของตะเกียงที่ถูกรี่ลงจนเกือบมอด  ทำให้โดยองแทบจะม้วนกายหลบหนีเพราะขัดเขินไหนจะกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ดูแข็งแกร่งนั่นอีก ใบหน้าหวานไม่ยอมสบตรงๆ กับดวงตาคมจนร่างสูงต้องใช้อุ้งมือประคองใบหน้าหวานให้หันมาสบตากับตนแทน



            "เรารู้ว่าเจ้าเขิน   เพราะเราเองก็เขินเช่นกัน" เสียงทุ้มกระซิบลงข้างริมใบหูนิ่มแล้วกัดเล็มเบาๆ มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนกายงาม ความเนียนนุ่มมือทำให้เผลอบีบเคล้นเบาๆ


 
            แจฮยอนลากริมฝีปากลงมาหาติ่งไตสีหวานอีกครั้งพร้อมกับดูดเลียอีกข้าง ส่วนอีกข้างก็ใช้นิ้วเรียวบีบเคล้นไปด้วย ร่างบางผวาเฮือกฟันคมขบกัดริมฝีปากด้านล่างเพื่อข่มกลั้นเสียงครางยามติ่งไตที่หน้าอกถูกฟันคมขบกัดและดูดเลีย มือบางปะป่ายไปทั่วอกแกร่งก่อนที่จะยึดบ่ากว้างเป็นที่เกาะเกี่ยว



          "อ๊ะ...อ่า...อื้อ... "เสียงหวานเปล่งร้องครวญครางแผ่วเบาอย่างสุดกลั้น  มือหนายกเรียวขางามข้างหนึ่งให้แยกออกแล้วตนก็เข้าไปแทรกอยู่ตรงกลางหว่างขาเรียวคู่นั้น  มือหนาข้างหนึ่งบีบเคล้นแก้มก้นนิ่มไปด้วย แจฮยอนลากไล้จากติ่งไตทั้งสองข้างลงมาตามแผ่นอกบางแล้วใช้ฟันคมขบกัดลงบนหนาท้องแบนราบ เกลียวลิ้นแหย่ลงไปยังแอ่งตื้นตรงกลางลำตัว รองรอยสีหวานเริ่มมีประปรายตัดกับผิวกายขาว 



            "อา...อ๊ะ...ท่านพี่" เสียงหวานครวญครางดังขึ้นเมื่อแกนกายสีหวานของตนถูกครอบครองโดยริมฝีปากอุ่นร้อน โดยองบิดเร้าร่างกายส่วนบนไปมาเมื่อถูกฟันคมครูดลากไปตามความยาว  แจฮยอนยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินเสียงครางขององค์ชายน้อย    ริมฝีปากหนาขยับเข้าออกไปพร้อมกับที่มือหนาบีบเคล้นแก้มก้นนิ่มทั้งสองข้างไปด้วย  เมื่อปลายยอดแกนกายของร่างบางสั่นระริกเริ่มปริ่มน้ำร่างสูงจึงถอนริมฝีปากของตนออกมา พร้อมขยับกายขึ้นไปคร่อมทับร่างบางอีกครั้ง



            "ผะ ฝ่าบาท" เสียงหวานขาดห้วงพลางหอบหายใจทำให้แผ่นอกอิ่มสะท้อนขึ้นลงรัวเร็ว 



            "ท่านพี่  กอดเราเสียสิโดยอง  กอดแน่นๆ"  โดยองตวัดเรียวแขนขึ้นโอบรอบคอหนาอย่างว่าง่ายแล้วซบใบหน้าเข้ากับอกแกร่ง ครานี้จิตใต้สำนึกถูกแทนที่จนขาวโพลนไปเสียหมด สายฝนที่กระหน่ำอยู่ภายนอกแข่งกับเสียงเต้นอันรัวเร็วของจังหวะของหัวใจ แจฮยอนกดจูบลงบนหน้าผากมนอีกครั้ง แขนแกร่งข้างหนึ่งกอดรัดร่างบางเอาไว้ส่วนอีกข้างเลื่อนลงไปยังสะโพกนิ่มอีกครั้ง



            มือหนาบีบเคล้นอย่างหนักมือแล้วใช้นิ้วเรียวยาวสอดรุกล้ำเข้าไปยังช่องทางสีหวานแสนคับแคบที่ยังไม่เคยมีผู้ใดได้กล้ำกลายมาก่อน โดยองสะดุ้งเฮือกเมื่อสิ่งแปลกปลอมรุกล้ำเข้ามายังกายของตน แขนเรียวที่โอบรัดรอบคอหนารัดแน่นเข้า แจฮยอนสอดนิ้วเรียวเข้าไปทีละนิ้วๆ เพื่อขยายช่องทางให้สามารถรองรับร่างกายของตนได้และเพื่อให้ร่างบางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก



            "อย่ากลัวเลย  แค่เจ้ากอดเราไว้ก็พอ" เสียงทุ่มกระซิบแหบพร่าเพื่อปลุกปลอบ ร่างบางพยักใบหน้าหวานที่ยังซุกซบอยู่กับอกกว้างน้อยๆ พร้อมขยับเรียวแขนของตนให้แน่นเข้า



           แจฮยอนค่อยๆถอดถอนนิ้วทั้งสามของตนออกแล้วจับแกนกายของตนจ่อเข้ากับช่องทางสีหวานทันที  ความคับแน่นทำให้ทั้งสองต้องนิ่วใบหน้า โดยองจิกเรียวเล็บลงบนไหล่หนาเพื่อสกัดกลั้นความเจ็บปวดขณะที่ร่างสูงพยายามแทรกแกนกายที่มีขนาดใหญ่กว่านิ้วทั้งสามมากนักเข้ามายังร่างบอบบางขององค์ชายน้อย



"อ๊ะ... "โดยองขบกัดริมฝีปากล่างข่มเสียงร้อง   หยาดน้ำใสเริ่มเอ่อคลอรอบดวงตาเรียวสวย แจฮยอนจึงแช่นิ่งอยู่ในร่างบางทันทีอย่างไม่กล้าขยับเมื่อสัมผัสถึงน้ำตาจากใบหน้าหวานที่ซบอกตนอยู่



"โดยอง...อ่า" เสียงทุ้มเอ่ยเรียงร่างบางด้วยเสียงที่เปล่งออกมาอย่างยากลำบากเพราะตอนนี้ตนเองก็กำลังแย่อยู่เช่นกันเพราะผนังอุ่นๆที่ตอดรัดแกนกายของตนอยู่ขณะนี้



"เจ็บมากหรือ" มือหนาช้อนใบหน้าสวยขึ้นมาสบ   ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงริมฝีปากอิ่มแล้วผละออกมา
"เราทนได้ท่านพี่" โดยองเช็ดน้ำตาของตนออกป้อยๆแล้วยิ้มหวานส่งให้ร่างสูง เพราะท่อนเหล็กร้อนที่แช่นิ่งอยู่จึงทำให้ร่างบางเริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว



"กอดแน่นๆ" แจฮยอนบอกพร้อมกับค่อยๆ ขยับเคลื่อนกายเข้าออกที่แรกเริ่มจากความเชื่องช้าเนิบนาบ   ร่างสูงแทบคลั่งไปกับแรงตอดรัดอยากจะกระแทกกายให้รุนแรงกว่านี้แต่เพราะยังนึกห่วงร่างบางในอ้อมกอดอยู่จึงพยายามข่มใจ


"เจ็บมากหรือไม่" แจฮยอนก้มถามด้วยความห่วงใย


"ไม่...ไม่เจ็บแล้ว...อ่า" โดยองส่ายหน้าปฏิเสธ ตอนนี้ความหวามหวิวในช่องท้องเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดเมื่อครู่จนแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว  ร่างสูงจึงขยับกายของตนให้เร็วและแรงขึ้นกว่าเดิม 



"อา...อ๊ะ...อื้อ ท่านพี่จะ..แจฮยอน" เรียวเล็บจิกลากไปตามแผ่นหลังหนาแน่นที่ตนโอบกอดเอาไว้เมื่อจังหวะการสอดใส่เริ่มรุนแรงและถี่เร็ว มือหนาเลื่อนลงมาจับแกนกายสีหวานของร่างบางบีบรูดแล้วขยับเข้าออกตามจังหวะการกระแทกท่อนกายของตน



"โด...ยอง...อ่า" เสียงแหบพร่าดังออกมาจากริมฝีปากได้รูป 



"อื้อ...อ่า"



แรงกระแทกเข้าออกทั้งรุนแรงและเร่าร้อนแข่งกับสายฝนข้างนอกที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกลงง่ายๆ   ดังเช่นพายุรักที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ ณ ตอนนี้     ที่กำลังเร่าร้อนสองร่างเปลือยเปล่าที่กอดรัดแนบชิดกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะผละออกจากกันง่ายๆ แจฮยอนสอดแขนทั้งสองข้างไปทางด้านหลังบางแล้วยกให้ขึ้นมาอยู่ในท่านั่งแล้วกอดรั้งเอาไว้ ใบหน้าคมผวาเข้าหาอกบางแล้วดูดเลียขณะที่ยังกระแทกกายเข้าอกอย่างไม่หยุดหย่อน 



"อื้อ...เราทะ..ทนไม่ไหวแล้ว" โดยองสุดจะขืนกายให้ตั้งตรงได้แม้จะกอดรัดร่างหนาไว้ก็ตาม ร่างสูงจึงโน้มกายขององค์ชายน้อยลงบนบรรจถรณ์ดังเดิมแล้วเพิ่มแรงกระแทกหนักขึ้น เพียงไม่กี่ครั้งทั้งสองร่างก็ปลดปล่อยออกมาราวกับผีเสื้อที่โผล่บินในสวนดอกไม้



            “เรารักเจ้านะโดยอง   รักแบบที่ไม่เคยคิดจะรักผู้ใดมาก่อนในชีวิตนี้” แจฮยอนเอ่ยบอกแล้วค่อยๆ ถอนกายออกมาจากร่างบาง  มือหนายกศีรษะได้รูปขององค์รานีให้หนุนกับต้นแขนตนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายทั้งคู่เอาไว้  โดยองที่เรี่ยวแรงหายหมดซุกตัวเข้าหาร่างสูงพร้อมกอดเอาไว้  ดวงตาเรียวสวยปรือลงจนแทบจะปิดอยู่แล้ว




            “เจ้าจะไม่บอกรักเสียสักนิดหรือองค์รานีโดยอง”



            “...รัก...” เสียงหวานงึมงำเบาๆ พร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าร่างบางได้หลับไปแล้ว   
 แจฮยอนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น




            “เราจะกอดเจ้าเช่นนี้ตลอดไปองค์รานีแห่งทงเย”




+++++++++tbc++++++
อ่านจบแล้วอย่าลืมกลับไปเม้นที่เด็กดีด้วยนะคะ  จิ้มๆๆๆๆ 


 

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

SF : Chaos Of Love ,One more… [TaeTen Ft. JaeDo ]



SF : Chaos  Of  Love ,One more… [TaeTen  Ft.  JaeDo  ]
By winata





            คนเรามักจะรู้สึกว่ามันสายไป ...ก็ต่อเมื่อสิ่งที่เคยมีหรือสิ่งที่เคยเป็นของเรามันหลุดลอยหายไปต่อหน้าต่อตา  แต่พอจะคว้ากลับมาคืนก็ปรากฏว่า...สิ่งนั้นมีเจ้าของใหม่คอยดูแลอยู่แล้ว




            ความรักก็เช่นกัน  มันมักจะมาหาคนที่คอยมองหาแม้จะไม่ถูกที่...ถูกเวลา หรืออาจจะแค่ถูกใจผูกสมัครสานสัมพันธ์ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่อาจตัดขาดออกไปได้อย่าง...รักแรก...แฟนคนแรกหรือแม้กระทั่งแฟนเก่าคนแรก




            วินาทีที่ได้สบตาในงานเลี้ยงฉลองปิดกล้องการถ่ายทำเอ็มวีของนักร้องไอดอล   
ซิงเกิ้ลแรกที่ลีแทยงเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับนักร้องหน้าใหม่ของค่ายอย่างเต็มตัวเมื่อปีที่แล้วก่อนคริสมาสต์    และนั่นทำให้เขาได้เจอกับเตนล์  คนเขียนบทเอ็มวีที่คลาดกันตลอด  จนมีโอกาสได้มาเจอหน้ากันตัวเป็นๆ   มันคล้ายเหมือนโลกหยุดหมุนและเหวี่ยงคนที่ใช่   คนที่ประทับใจ  คนที่เป็นคนแรกในทุกๆ สิ่งของกันและกันให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง





            “สบายดีไหม/สบายดีไหม”




            “...”




            ไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นอีกระหว่างอยู่ในงานเลี้ยงทั้งที่ต่างกันต่างลอบมองกันและกัน  เมื่อต่างรู้ดีว่าตอนนี้ต่างมีคนข้างกายข้างใจ   ในเมื่อทีมงานต่างแซวโปรดิวเซอร์ที่เริ่มมีชื่อเสียงที่ต้องโทรรายงานตัวกับว่าที่คุณหมอฟันทายาทโรงพยาบาลชื่อดังอยู่เป็นระยะ   พอๆ กับเตนล์ที่ต้องตอบข้อความแฟนหนุ่มช่างภาพที่ไปออกกองถ่ายแบบให้นิตยสารหัวนอกที่มิลาน






            “ถ้าพี่จะไปเรียนต่อเมกา  เราเลิกกันเถอะ”




            “ทำไมละน้องเตนล์”




            “ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างนี้   จะไม่มีใครเปลี่ยนไป  สู้เลิกกันเลยดีกว่า” เตนล์บอกอย่างหนักแน่น



            “แล้วถ้าพี่มีใครคนใหม่ละ  เราจะว่ายังไง”





            “ผมก็จะยินดีกับพี่ด้วย   และถ้าในอนาคตพี่กลับมา  ถ้าผมยังรักพี่อยู่ต่อให้พี่มีใครผมก็จะไปแย่งกลับคืนมา  แฟร์ๆไม่โกง  ถ้าพี่จะแย่งผมจากแฟนใหม่ก็ไม่ว่ากันฮะพี่แทยง”




            “เจ้าเด็กนี่!










            มือบางกวักน้ำเย็นขึ้นมาล้างหน้าเพราะตอนนี้ตัวเองเริ่มมึนกับปริมาณเครื่องดื่มมึนเมาหลากหลายชนิดที่ดื่มเข้าไปแบบไม่มียั้ง    ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมองกระจกภายในห้องน้ำของคลับหรูที่ใช้จัดงานเลี้ยงก็เจอชายหนุ่มร่างสูงใบหน้านิ่งเฉยออกจะเย็นชา  แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหล่อจนเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนอะนิเมชั่น






            “พี่คิดถึงน้องเตนล์” 


          ร่างบางหลับตาลงเมื่อถูกแทยงดึงเข้าไปกอด  น้ำเสียงทุ้มคุ้นหู  ความอบอุ่นของอ้อมแขนที่เคยโอบกอดเตนล์เอาในวันที่อ่อนแอเมื่อหลายปีก่อน   มันทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหวเหมือนเช่นเคย  ใบหน้าหวานเงยสบตาดวงตาคมที่มองมาแม้จะไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรต่างคนต่างรับรู้ความรู้สึกของกันและกัน   สองมือที่จับประสานกันไว้แม้ว่านิ้วนางของทั้งคู่ต่างสวมแหวนเอาไว้ก็ตามแต่จะให้ปฏิเสธความต้องการของหัวใจบอกเลยว่าไม่มีทาง






            ต่อให้ข้างหน้าจะมีอุปสรรค  หรือความยากลำบากขนาดไหนลีแทยงก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากเตนล์อีกแล้ว  แม้รู้ว่าตัวเองก็มีใครอีกคนในหัวใจ   ก็เหมือนกับเตนล์ที่ไม่อาจปฏิเสธความต้องการที่มีต่อแทยงได้ทั้งที่ตอนนี้ข้างกายก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
















            ดวงตาคมกวาดสายตามองหาร่างบางหลังจากที่เปิดประตูห้องน้ำของห้องสวีทโรงแรมสุดหรูกลางย่านชิบูย่าออกมา   แล้วต้องอมยิ้มกับเสียงคุยโทรศัพท์มือถือง้องแง้งแล้วเสียงหัวเราะที่เขาอยากจะหัวเราะตามทุกครั้งที่ได้ยิน   





แทยงเดินเข้าไปกอดร่างบางที่สวมเพียงแค่เสื้อคลุมปาจามาของโรงแรมเพียงตัวเดียวพร้อมกับหอมแก้มเนียนใสนั้นแรงๆ อย่างไม่เกรงกลัวว่าคนในปลายสายของเตนล์จะได้ยินเลยสักนิด





“แค่นี้นะโดยอง  งื้อ  ถ้าพรุ่งนี้ไม่มารับเราที่กิมโปนะนายจะโดนเราบิดเนื้อเขียวแล้วให้นอนโซฟาไปสามเดือนเลย...รักนายเหมือนกันคิมโด”  เตนล์ยังไม่ทันได้กดวางสายจากแฟนหนุ่ม  ผู้ชายเอาแต่ใจที่นัวเนียตัวเองอยู่ก็ถือวิสาสะดึงโทรศัพท์เครื่องหรูจากแบรนด์ผลไม้ดังที่เพิ่งวางขายเมื่อวีคก่อนมากดปิดเครื่องแล้วโยนส่งๆ ไปที่โซฟากลางห้อง




“พี่แทยง!





“คิดถึงน้องเตนล์  ใจจะขาดแล้วนะ” ว่าแล้วก็จับมือเล็กขึ้นมากดจูบทีละนิ้ว   แม้ว่านานครั้งที่จะมีโอกาสได้มาเที่ยวไกลๆ เพียงลำพังเพราะงานประจำที่เริ่มมากขึ้น  แต่ทั้งเตนล์และแทยงต่างปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเค้าทั้งคู่ต่างโหยหากันอยู่เสมอ   แม้ว่าจะไม่เคยมีความคิดที่จะกลับมาคบกันอีกครั้งหลังจากที่เคยเลิกรากันไปตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล  ก่อนที่แทยงจะไปเรียนต่อที่อเมริกา  พอๆกับที่พวกเค้ารู้ดีกว่าไม่อาจเลิกกับแฟนคนปัจจุบันของตัวเองได้





“อีก 8 ชั่วโมง ก่อนกลับเกาหลี...”




“พี่จะให้เรารู้ว่าพี่คิดถึงเราแค่ไหนน้องเตนล์” แทยงยิ้มกระชากใจก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากจากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมอยู่ออกและโยนลงข้างเตียง แผงอกแกร่งและกล้ามหน้าท้องเป็นลูกสวยที่ตรึงความรู้สึกของเตนล์ไว้ได้นานปีตอนนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ผิวขาวที่ตอนนี้ครามแดดจนเป็นสีแทนสวยเพราะเจ้าตัวเพิ่งไปทำผิวสีแทนมาถูกโลมเลียด้วยสายตาร้อนฉ่าของร่างบาง  จากหน้าผากไปจรดขอบกางเกงบ๊อกเซอร์ไล่กลับไปกลับมาอยู่แบบนั้น 





ลมหายใจร้อนผ่าวถูกปล่อยออกจากตัวถี่ขึ้นเมื่อแทยงคร่อมร่างบางเอาด้วยสองแขนพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาใกล้    ริมฝีปากบางราวกับวาดเอานั้นแนบทับลงมาบนกลีบปากอุ่นร้อน 






จูบนิ่มนวลอ่อนหวานและ หยอกเหย้าที่แทยงมักใช้มันเปิดทางเสมอกำลังทำหน้าที่อยู่อย่างไม่รีบร้อน บดริมฝีปากย้ำไปย้ำมาอยู่เรื่อยพอให้เตนล์ได้ใจกระตุกเล่น   จากนั้นลิ้นหนาอุ่นชื้นก็จัดการแทรกสอดเข้าไปในโพรงปากเล็กหวานฉ่ำ กวาดเก็บทุกอณูความหวานที่เจ้าตัวขยันสร้างรสหวานฉ่ำบาดใจออกมาได้มากมายเสียเหลือเกิน 





อ่า.. พี่ฮะร่างสูงตัดสินใจไม่ผิดที่ถอนจูบออกมาเพราะเสียงครางแผ่วหวานของเตนล์ดังขึ้นแทบจะทันที ไม่รู้ว่าเหนื่อยหรือเสียดาย แต่ท่าทางตัวอ่อนบวกกับตาเยิ้มที่มองเขาราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวแบบนี้แทยงขออนุมานเอาว่าร่างบางกำลังเสียดายสัมผัสของเขาก็แล้วกัน   มือหนาล้วงลึกเข้าไปในเสื้อคลุมปาจามาสีขาวนวลที่เตนล์สวมอยู่  ลากไล้ไปตามลำตัวบอบบาง







อะ..อ๊าเพียงแค่สะกิดยอดอกสีอ่อนเบาๆ ก็เรียกเสียงครางของเตนล์ได้ทันที  นิ้วกลางไล้เวียนและหมุนวนอยู่ที่ยอดอกสองข้างพลางทำหน้าที่อย่างแข็งขัน  ร่างบางหน้าแดงจัดพลางบิดตัวไปมาเพราะความซ่านเสียวที่แล่นขึ้นมาจุกอก แทยงแย้มยิ้มตรงมุมปากแล้วก็ดึงเสื้อคลุมของร่างบางออกก่อนจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า  ก้มหน้าลงไปชิมรสหวานจากยอดอกสีสวย ดูดดึงรัดรึงและใช้ลิ้นไล้เลียจนเตนล์แอ่นอกให้อย่างลืมตัว   ใบหน้าหวานส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่าน




อา..พี่เปลือกตาปรือเปิดคล้ายจะร้องขอความเห็นใจแต่มันไม่ได้ทำให้แทยงลดเลเวลการกระทำของตัวเองลงแม้แต่น้อย มีแต่จะลงลิ้นหนักกว่าเดิมเสียอีก ส่วนข้างที่ว่างมือหนาก็ขยำอกนิ่มแบบไร้ความปราณีด้วยซ้ำไป





อือ..เจ็บเตนล์เอ่ยด้วยถ้อยคำที่สั้นและไร้ประโยชน์สิ้นดีในเวลาที่อารมณ์ดิบของแทยงถูกปลุกกระตุ้นแบบนี้  เสียงลมหายใจที่ถูกพ่นออกมาจากปลายจมูกโด่งของคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกบางของตัวเองมันบ่งบอกอารมณ์ของร่างสูงได้เป็นอย่างดีว่าอีกไม่นานคงหมดความอดทนที่จะเล่นสนุกแล้ว 





เตนล์ทอดกายลงนอนบนเตียงหนานุ่มอีกครั้งตามแต่แทยงจะขยับบังคับร่างกายของเขาให้เป็นแบบไหน  สะดุ้งอีกทีก็ตอนที่แทยงลากลิ้นลงมาถึงหน้าท้องและครอบครองแกนกายที่แข็งขืนไปด้วยแรงอารมณ์ของตนด้วยโพรงปากอุ่นเสียแล้ว






อา.. พี่แทยง อือออร่างบางถูกรุกล้ำด้วยความเสียวจนสุดจะบรรยายแถมปรนเปรอด้วยปากเสียวจนแทบขาดใจ รูดอมจนสุดความยาวพร้อมลิ้นหนาด้านในที่ทำงานได้ดีไม่มีขาดตก ตวัดเลียและกลืนกินรสหวานคาวจากน้ำหล่อลื่นที่ผุดออกมาจากแกนกายของเตนล์ไปเรื่อยคล้ายจะอร่อยเสียเหลือเกิน 





กลีบปากบางหยักที่รูดอมและขยับขึ้นลงนั้นมันทำให้คนมองอย่างเตนล์เสียวแทบขาดใจตาย เสียงร้องอื้ออึงของตัวเองคล้ายจะกำหนดจังหวะของการกระทำนั้นให้เข้าที่มากขึ้น กระทั่งแทยงใช้มือข้างหนึ่งเข้ามาช่วยในการ กินเตนล์ก็รู้สึกว่าตัวเบาจนแทบจะปลิวขึ้นจากที่นอน กายบางแอ่นบิดพร้อมกับสะโพกที่เด้งรับการกระทำของแทยง    




ร่างบางหายใจหอบถี่ด้วยใกล้ถึงจุดมุ่งหมายเต็มที แทยงเองก็ยิ่งกว่ารู้งาน เพราะพอคนใต้ตัวเด้งกายใส่เขาถี่เท่าไหร่แทยงก็ยิ่งตวัดลิ้นและขยับมือให้เร็วยิ่งขึ้น กระทั่งเตนล์หยุดขยับกายและพ่นน้ำใส่ปากของเขาแล้วนั้นล่ะร่างสูงจึงได้หยุดทั้งมือและปากก่อนจะกลืนกินน้ำข้นรสคาวลงคอไปโดยปราศจากอาการรังเกียจ





เตนล์นอนอ้าปากโกยอากาศเข้าปอดด้วยความรู้สึกว่างเปล่าขาวโพลนไปทั้งสมอง ไม่ปฏิเสธและปฏิเสธไม่เคยได้เลยว่ามีหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขารวมกันยังสู้แทยงคนเดียวไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป เปลือกตาบางเปิดขึ้นมองว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่ก็หน้าแดงอีกรอบเพราะเห็นว่าแทยงกำลังถอดบ๊อกเซอร์ของตนเองอย่างไม่เร่งรีบ   





ร่างบางกำลังจะเบนสายตาไปทางอื่นแต่ก็ไม่ทันดวงคมที่ตวัดมองมาราวกับจะทำให้เขาหลอมละลาย เตนล์เม้มปากแน่นพลางมองตรงกลางตัวของแทยงด้วยความรู้สึกโหยหา เห็นว่าสิ่งนั้นแข็งตัวขึ้นมาก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว ต้องการอย่างล้นเหลือที่จะให้แทยงเข้ามาในตัวของตัวเองตอนนี้และไม่รอช้าเตนล์รวบรวมแรงของตัวเองพลิกร่างให้นอนคว่ำและโก่งสะโพกขึ้นล่อสายตาแทยง ขาขาวแยกออกเผยให้เห็นกลีบเนื้อสีสดที่เต้นระริกยั่วให้แทยงรีบสอดใส่ความเป็นชายมาเสียเดี๋ยวนั้น 





เสี้ยวหน้าใบหวานที่เอี้ยวกลับมามองแทยงดูเซ็กซี่และยั่วยวนมากขึ้นทุกทีจนร่างสูงอดไม่ไหวรีบไปจ่อตัวตรงช่องทางเร้นลับซึ่งเคยได้ไปสัมผัสมาแล้วแต่ไม่เคยตัดใจจากมันได้สักที พอๆกับที่เขาไม่เคยละเลยหรือตัดขาดจากเตนล์ได้เหมือนกัน   แทยงขบกรามแน่นพลางจับแกนกายที่แข็งขืนของตัวเองจ่อเข้าไปกับกลีบเนื้อด้านหน้าและค่อยๆกดหัวให้มุดเข้าไปอย่างใจเย็น





อื้ออออปราศจากการเปิดทางอย่างทุกทีจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเสียงครางของเตนล์มันถึงได้ยั่วหูคนฟังนัก  แทยงดันตัวเองเข้าไปจนสุดโคนแล้วก็หยุดนิ่งเพื่อตั้งสติ มือสองข้างยกขึ้นบีบสะโพกกลมกลึงนั้นด้วยแรงเสน่หาจนเป็นรอยแดงช้ำเป็นปื้นไปหมด จากนั้นสะโพกหนาก็เริ่มต้นทำงานด้วยความตั้งใจ ขยับช้าๆเพื่อให้เตนล์ได้ปรับตัว   กระทั่งอีกคนสูดปากด้วยความเสียวเต็มขั้นแล้วท่อนเนื้อที่ผลุบโผล่เข้าออกภายในตัวร่างบางจึงถูกเร่งความเร็วขึ้น






อา..อือ พี่..แทยง อ่า..ร่างบางครางด้วยความเสียวแทบขาดใจ แทยงปรนเปรอและให้เขาได้เต็มที่จริงๆ เตนล์ห่อปากและระบายลมร้อนจากในตัวออกมาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ เสียวจนแข้งขาอ่อนไปหมดแต่ที่ยังคงอยู่ในท่าหมอบได้ก็เพราะมือหนาที่ยึดสะโพกเขาไว้แน่น ก้นขาวจัดแนบติดกับผิวเนื้อด้านหน้าของแทยง    




เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั้งห้องราวกับจะกระตุ้นให้คนที่เสียวอยู่แล้วเสียวยิ่งขึ้นไปอีก เตนล์ส่ายหัวไปมาอย่างอดไม่ไหวพร้อมกับร่างกายที่ถูกขยับโขยกจากอีกคนที่อยู่ด้านหลัง




อา..น้องเตนล์..อืออ





ซี๊ด..พี่ฮะ เสียว อื้ออ ...มากก อึ่ก





เหมือนกัน..อา ไม่ไหว อึ่ก.. นายรัดพี่มาก...เกินไปแทยงบอกด้วยเสียงพร่าสั่นพร้อมกับสูดปากด้วยความเสียวพอกัน ไม่เคยคิดจะปิดปิดความรู้สึกใดๆ ทั้งยังแสดงออกให้รู้ด้วยการครางดังๆ พร้อมขยับสะโพกรัวเร็วจนกลีบเนื้อที่งับอมแกนกายของตัวเองนั้นให้ความรู้สึกเหมือนปุยนุ่น บางเบาแต่สัมผัสได้และทำให้รู้สึกดีเสียมากด้วยซ้ำ อดไม่ได้ที่จะฟาดมือแรงๆไปบนก้นงอนก่อนจะก้มลงไปประทับจูบเสียทั่วแผ่นหลังเนียนขาว  ทั้งที่อยากจะกัดให้เนื้อขาวนิ่มเป็นรอยฟันเสียทีสองทีแต่ก็ต้องห้ามใจไว้แล้วไปลงที่ช่องทางด้านหลังแทน




กฎของเตนล์...ที่ไหน  เมื่อไหร่ก็ได้แต่ห้ามทิ้งรอยไว้เอาไว้บนตัวของร่างบาง!




อ่ะ..อ่ะ อ๊า...




อึ่ก ร้องดังๆ ร้องอีก พี่อยากฟังเสียงน้องเตนล์ อา..




อา..พี่แทยงอ่า เสียว น้องเตนล์จะขาดใจแล้ว อ๊า...ร่างบางขึ้นเสียงสูงตรงท้ายประโยคหลังจากที่แทยงกระทั้นกายเข้ามาจนสุดแรง  เตนล์สูดปากเร่า บางทีเขาก็อยากจะขาดใจตายเสียให้ได้กับสัมผัสของร่างสูงที่มันทั้งตื่นเต้นเร้าใจแต่ก็ทำให้เสียวลืมตายได้เหมือนกัน




พี่คิดถึงเรานะน้องเตนล์




อือ..พี่แทยง อ๊า.. คิดถึงพี่เหมือนกันนะฮะ..





อา.. ไม่ไหว อึ่ก..อะ..โอ้วววไม่ได้รอให้ร่างบางได้พูดจบแทยงก็เร่งจังหวะกระแทกกายเข้าออกรัวเร็วเพราะขีดความรู้สึกกำลังจะระเบิดเต็มที แทรกกายบดเบียดหนักหน่วงจนบังเกิดเสียงน่าอายกว่าเก่าและทำเอาอีกคนหัวสั่นหัวคลอนจนแทบจะคลั่งตาย ในที่สุดแทยงก็ปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวของเตนล์พร้อมการกระแทกหน่วงหนักครั้งสุดท้ายที่รุนแรงเสียจนร่างบางขาเปลี้ยขาพับลงไปนอนกับเตียงและคายแกนกายของแทยงออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจจนน้ำขุ่นข้นนั้นไหลเยิ้มออกมาเปรอะง่ามก้นและต้นขาของคนตัวบางกว่าเต็มไปหมด   แทยงกัดปากแน่นและคว้าเสื้อคลุมปาจามาของโรงแรมมาเช็ดคราบเหล่านั้นออกจากตัวร่างบางก่อนที่จะไหลลงไปเลอะผ้าปูเตียง








ร่างสูงระบายลมหายใจออกมาแล้วก็ยิ้มกว้างให้กับคนที่นอนหมดแรงหันหลังให้ โยนเสื้อคลุมลงไปยังพื้นด้านล่างแล้วก็ล้มตัวลงนอนทับกายเปลือยของเตนล์โดยให้ด้านหน้าของตัวเองทาบทับแนบสนิทกับแผ่นหลังขาว  จมูกโด่งไซร้ซอกคอขาวและจูบเบาๆ เพื่อตีตราความเป็นเจ้าของเพราะตอนนี้...
วินาทีนี้เตนล์เป็นของแทยงเพียงคนเดียวเท่านั้น





            “ยังไม่อยากกลับเลย” เสียงใสบ่นงุ้งงิ้งแล้วพลิกตัวหันกลับมามองหน้าแทยง





            “งั้นก็อยู่เทียวกันต่อ” ร่างสูงบอกก่อนจะแกล้งร่างบางด้วยกันก้มไปงับเบาๆ ที่จมูกรั้นๆ 




            “พี่อะ...” แค่นั้นก่อนเตนล์จะหัวเราะออกมา  เพราะต่างรู้ดีกว่าจะหาเวลามาเจอกันโดยตัวแบบนี้ได้มันยากแต่ไหน   แค่ลีแทยงต้องเร่งอัดเสียงให้นักร้องใหม่ของค่ายแล้วบินตามมาญี่ปุ่นทันทีแล้วต้องรีบกลับก่อนไฟล์ทเช้าที่สุดอีก   เพราะงั้นคืนนี้ทั้งคู่ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกันโดยไม่สนใจว่าจะมีใครโทรหาหรือส่งข้อความหาตอนที่ติดต่อไม่ได้เลยสักนิด









            “ถ้าถึงโซลแล้วส่งข้อความบอกพี่นะ” แทยงเอ่ยบอกร่างบางที่กำลังทำสีหน้าเศร้า  ตอนที่เขาหยิบเป้สะพายขึ้นมาพร้อมกับดูนาฬิกาข้อมือ  เพราะควรได้เวลาที่ร่างสูงต้องเดินทางไปสนามบินเพื่อบินกลับเกาหลีแล้ว





            “อืม  ถ้าพี่ถึงแล้วก็ส่งข้อความบอกน้องนะ” เตนล์บอกเสียงอู้อี้พร้อมเดินไปกอดร่างสูงแน่นๆ






            แทยงจูบที่หน้าผากเนียนแล้วยิ้มให้ร่างบางก่อนจะปิดประตูห้องสวีท  แล้วรีบเดินทางไปสนามบินโดยเร็วที่สุดเพราะถ้าเขาตกเครื่องขึ้นมาปัญหาใหญ่มากจะตามมา   ถึงจองแจฮยอนแฟนเด็กของร่างสูงจะไม่ใช่คนขี้สงสัยก็เถอะ  แต่การที่แทยงมาญี่ปุ่นแค่ 1 วัน 1 คืน  มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอนเพราะแจฮยอนรู้ว่าเขาเกลียดการนั่งเครื่องมากแค่ไหน





            โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้รถไม่ติด   จากกิมโปมาถึงคอนโดใช้เวลาไม่นานมากเรียกได้ว่าแทยงกลับก่อนเวลาประจำเกือบชั่วโมง  แล้วคิ้วเข้มได้รูปสวยต้องเลิกขึ้นเมื่อเดินสวนกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่มีฟันกระต่ายแล้วพอเจ้าตัวยิ้มมันชวนให้นึกถึงกระต่ายขาว






            เท้าแกร่งของแทยงถึงกับหยุดชะงักก่อนจะเดินอย่างปกติเมื่อได้ยิน  อีกคนรับโทรศัพท์จากปลายสาย “เตนล์”    ร่างสูงหันไปมองอีกคนที่กำลังมุ่นคิ้วแล้วหันกลับมามองแทยงก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดต่างคนต่างยิ้มให้   ชั่วขณะที่เดินสวนกันแทยงได้กลิ่นน้ำหอม Bvlgari Aqva Pour Homme Marine Toniq จากอีกฝ่ายชัดเจน   น้ำหอมกลิ่นโปรดของจองแจฮยอน  






แทยงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ 





....คงไม่ใช่แค่เขาและเตนล์หรอกมั้งที่มีความลับส่วนตัว   พวงกุญแจหมีขาวตัวจิ๋วที่ห้อยอยู่ที่ซิปกระเป๋าสะพายนั่นที่ถึงไม่เดินเข้าไปดูใกล้ๆ แทยงก็รู้ดีว่าที่อุ้งเท้าหมีตัวนั้นปักตัวอักษรJ เอาไว้  




...ตุ๊กตาที่แจฮยอนสั่งทำพิเศษมอบให้เพื่อนคนพิเศษ...












แน่นอน  ตอนนี้ต่างคนต่างรักคนของตัวเองและต่างยังต้องการกันและกันก็ win-win กันไปส่วนเรื่องของอนาคตก็ปล่อยมันเกิดขึ้นก่อนก็แล้วกัน  ไว้ตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที!







++++++++++++++++Fin++++++++++++++++++



คิดว่าต้องมีตอนที่3 ปิดฉากความสัมพันธ์ win-win กามๆ นี้แน่ๆ55555555
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ    อ่านจบแล้วรบกวนกลับไปเม้นที่เด็กดีนะคะ ^O^ (จิ้มๆๆๆๆๆ)